ความท้าทาย
เมื่อ OfficeRnD เปิดตัวแพลตฟอร์มการจัดการพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space) และพื้นที่จัดกิจกรรมอิสระ (Flex Space) ในปี 2015 บริษัทที่ดำเนินกิจการในบอสตันแห่งนี้พบคำตอบอย่างรวดเร็วว่าพื้นที่ทำงานร่วมกันมีความท้าทายในด้านการเรียกเก็บเงินและการชำระเงินที่เฉพาะตัว ซึ่งสถานที่ทำงานทั่วไปไม่มี สมาชิกมักจะใช้บริการแพ็กเกจที่สมัครแบบเดือนต่อเดือนอย่างยืดหยุ่นในราคาที่ไม่ซ้ำกันตามขนาดสำนักงานและบริการที่ใช้ ดังนั้นพื้นที่ทำงานร่วมกันจึงต้องรับชำระเงินเป็นรายเดือน ให้บริการแบบชั่วคราวเป็นรายครั้ง และรับจองสถานที่ผ่านทางออนไลน์
ภายหลังการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ตลาดพื้นที่ทำงานร่วมกันที่ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งก็ทำให้ OfficeRnD มีความมั่นใจมากพอที่จะเดินหน้ากลยุทธ์ขยายธุรกิจสู่ระดับโลก หลังจากที่พึ่งพาระบบการชำระเงินหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึง Stripe มาหลายปี OfficeRnD ก็ตระหนักว่าบริษัทจำเป็นต้องยกระดับประสบการณ์การชำระเงินสำหรับผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกัน ระบบชำระเงินเดิมของบริษัทยังรองรับได้เพียงบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น ซึ่งจำกัดความสามารถของพื้นที่ทำงานร่วมกันในการรองรับวิธีการชำระเงินท้องถิ่น กระเป๋าเงินดิจิทัล และ ACH
ในอีกด้านหนึ่ง OfficeRnD ยังมุ่งหวังที่จะช่วยให้พื้นที่ทำงานร่วมกันมอบประสบการณ์การใช้งานแบบอีคอมเมิร์ซที่ราบรื่นแก่สมาชิก ซึ่งต้องการจองห้องประชุม ซื้อบัตรใช้งานรายวัน (Day Pass) หรือสั่งซื้อบริการเสริมต่างๆ ผ่านพอร์ทัลลูกค้าได้ เดิมทีผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันต้องพึ่งพากระบวนการลงทะเบียนและระบบปฏิทินสาธารณะที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดความยืดหยุ่น และไม่สามารถปรับแต่งได้มากนัก เมื่อรวมกับโครงการผสานการทำงานกับระบบการชำระเงินที่จุดขายแล้ว การพัฒนาครั้งนี้จึงทำให้ OfficeRnD สามารถมอบแพลตฟอร์มการจัดการพื้นที่ทำงานร่วมกันที่เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริงให้กับผู้ใช้งานได้
โซลูชัน
OfficeRnD เปิดตัวในปี 2015 โดยใช้ Stripe เป็นโซลูชันการชำระเงินแรกของบริษัท โดยอาศัย Stripe Connect เพื่อฝังระบบการชำระเงินเข้าไปในแพลตฟอร์ม และ Stripe Payments เพื่อรับชำระเงินจากสมาชิก โดย Connect ช่วยให้ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันสามารถเริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็ว รับชำระเงินจากสมาชิก และจัดการธุรกรรมทั้งหมดผ่านโซลูชันของ OfficeRnD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปี 2024 OfficeRnD ได้เปิดตัวโครงการที่เรียกว่า “Stripe 2.0” โดยใช้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe เพื่อทำให้ประสบการณ์การชำระเงินที่ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันมอบแก่สมาชิกมีความสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น เมื่อ OfficeRnD นำ Stripe Checkout มาใช้ ก็สามารถมอบแบบฟอร์มการชำระเงินแบบโฮสต์เต็มรูปแบบให้แก่ผู้ให้บริการ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากสำหรับสมาชิก ขณะเดียวกันก็สามารถแสดงราคาในสกุลเงินท้องถิ่นแบบไดนามิก และใช้โมเดล AI เพื่อแสดงวิธีการชำระเงินที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตและบัตรเดบิต, Apple Pay, Google Pay, SEPA, BACS, iDEAL, PAD, Cash App Pay และ ACH นอกจากนี้ OfficeRnD ยังได้ใช้งาน Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่พัฒนาโดย Stripe ซึ่งสามารถบันทึกและกรอกข้อมูลการชำระเงินของสมาชิกโดยอัตโนมัติ เพื่อทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ความต้องการในการยืนยัน ACH แบบด่วนจากพื้นที่ทำงานร่วมกันสำหรับลูกค้าองค์กรทำให้ OfficeRnD เลือกใช้ Stripe Financial Connections การผสานระบบนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถยืนยันบัญชีธนาคารได้ทันที เพียงให้สมาชิกล็อกอินเข้าสู่ระบบธนาคารของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้การโอนเงินจำนวนเล็กน้อยเพื่อยืนยันอีกต่อไป ทั้งยังช่วยลดอัตราการยกเลิกการทำรายการกลางคันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
นอกจากโครงการ Stripe 2.0 แล้ว OfficeRnD ยังได้นำ Stripe Terminal มาใช้เพื่อผสานระบบการชำระเงินที่จุดขายเข้าไว้ในแพลตฟอร์มของตน เดิมที OfficeRnD ไม่ได้รองรับการชำระเงินที่จุดขาย ทำให้ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันต้องกระทบยอดระหว่างการชำระเงินออนไลน์ที่ทำผ่านแพลตฟอร์มของ OfficeRnD กับการชำระเงินที่จุดขายที่ทำผ่านผู้ให้บริการภายนอกด้วยตนเอง
บริการ Terminal ทำให้ OfficeRnD สามารถช่วยผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรปรับชำระเงินที่จุดขายได้สำหรับสินค้าต่างๆ เช่น บัตรใช้งานรายวันและอาหารว่าง ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท โดยใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ เช่น Stripe Reader S700 หรือ BBPOS WisePOS E
ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ Stripe 2.0 นี้ OfficeRnD ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อ Growth Hub ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Payments โดยผลิตภัณฑ์นี้เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2025 และช่วยให้ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ที่สมาชิกสามารถใช้จองบริการ จองพื้นที่ และใช้บริการเสริมต่างๆ ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของพื้นที่ทำงานร่วมกันนั้น นอกจากนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องและช่วยเพิ่มอัตราการชำระเงินให้เสร็จสมบูรณ์ Growth Hub จึงใช้ Stripe เพียงเจ้าเดียวในการขับเคลื่อนกระบวนการชำระเงิน โดยไม่ผสานกับผู้ให้บริการชำระเงินอื่นใด
ผลลัพธ์
Connect ขับเคลื่อนการชำระเงินของผู้ใช้ OfficeRnD ได้ถึง 64%
แม้ว่า OfficeRnD จะรองรับผู้ให้บริการชำระเงินทั้งหมด 14 ราย แต่ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันกว่า 900 รายจากทั้งหมด 1,500 ราย หรือคิดเป็น 64% เลือกใช้ Stripe นอกจากนี้ OfficeRnD ยังใช้ Connect เพื่อสร้างรายได้จากการชำระเงินมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่บริษัทดำเนินการผ่าน Stripe ในแต่ละปี นับเป็นการช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้จากการสมัครสมาชิกด้วย
"Stripe คือแพลตฟอร์มการชำระเงินเพียงรายเดียวที่เราแนะนำ และเป็นแพลตฟอร์มที่ผสานเข้ากับแพลตฟอร์มของเรามากกว่าตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ถึง 10 เท่า สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Growth Hub เราจึงเลือกสร้างบน Stripe เพียงอย่างเดียว" Miro Miroslavov ผู้ร่วมก่อตั้ง OfficeRnD กล่าว
OfficeRnD ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วยวิธีการชำระเงินท้องถิ่น
OfficeRnD ให้การสนับสนุนผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันในกว่า 60 ประเทศทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย ด้วยการปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินใหม่โดยใช้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้ OfficeRnD สามารถยกระดับประสบการณ์การชำระเงิน พร้อมทั้งรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลายตามความนิยมในแต่ละท้องถิ่นได้
"UX ของ Stripe แข็งแกร่งและถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงมากกว่าระบบที่เราสร้างขึ้นเอง" Miroslavov กล่าว "เรามีลูกค้าหลายรายบอกกับเราว่าประสบการณ์ใช้งานใหม่ดีขึ้นมาก และเราก็ไม่ต้องรับผิดชอบในการดูแลส่วนอินเทอร์เฟซผู้ใช้อีกต่อไป"
OfficeRnD ดำเนินการชำระเงิน 20% ของรายการทั้งหมดผ่าน ACH แบบด่วน
การนำ Financial Connections มาใช้ช่วยให้ OfficeRnD แก้ปัญหาหลักได้สำเร็จ นั่นคือกระบวนการยืนยัน ACH ที่ช้าและต้องทำด้วยตนเองผ่านการโอนเงินจำนวนเล็กน้อย แต่เมื่อใช้งานการยืนยันบัญชีธนาคารแบบด่วนผ่าน Financial Connections นั่นก็ทำให้ OfficeRnD สามารถตอบโจทย์หลักข้อหนึ่งของผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันในสหรัฐอเมริกาได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าแบบองค์กรที่เช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยหลังจากเพิ่มฟีเจอร์นี้ การชำระเงินแบบ ACH ก็เติบโตจนมีสัดส่วนถึง 20% ของปริมาณการชำระเงินทั้งหมด
"ACH แบบด่วนคือเหตุผลทั้งหมดที่เราเริ่มต้นโครงการริเริ่ม Stripe 2.0 สิ่งนี้ช่วยลูกค้าของเราประหยัดเงินได้มหาศาล" Miroslavov กล่าว
OfficeRnD เพิ่มการชำระเงินที่จุดขาย โดยมีปริมาณการใช้งานเติบโตถึง 3 เท่าใน 3 เดือนแรก
ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันสามารถเก็บเงินค่าบริการที่จุดขายได้อย่างสะดวกโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มของ OfficeRnD โดย Terminal ช่วยให้ผู้ให้บริการเห็นรายได้ทั้งหมดในที่เดียวโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม หลังจากเปิดตัว Terminal ในเดือนเมษายน 2025 ได้เพียง 3 เดือน OfficeRnD สามารถเพิ่มปริมาณการชำระเงินที่ได้ถึง 300% และขยายส่วนแบ่งรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการชำระเงินที่จุดขายแยกต่างหาก
"เรารู้ว่านี่คือปัญหาใหญ่สำหรับลูกค้าของเรา เพราะไม่มีวิธีง่ายๆ ในการกระทบยอดการชำระเงินที่จุดขายกับการจองผ่านแพลตฟอร์ม" Miroslavov กล่าว
OfficeRnD สร้างช่องทางอีคอมเมิร์ซที่ใช้ Stripe เพียงรายเดียวเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกันขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้
การเปิดตัว Growth Hub ครั้งนี้ทำให้ OfficeRnD สามารถเอื้อให้พื้นที่ทำงานร่วมกันสร้างร้านค้าออนไลน์ที่มีการผสานการทำงานเต็มรูปแบบได้ ซึ่งสมาชิกก็จะสามารถจองบริการ จองพื้นที่ และใช้บริการเสริมต่างๆ ได้ บริษัทเลือกใช้ Stripe เพียงรายเดียวในการขับเคลื่อน Growth Hub เนื่องจากประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีและความครอบคลุมในระดับโลก แม้ว่า Growth Hub จะเป็นโซลูชันเสริมที่นำเสนอควบคู่ไปกับเครื่องมือการลงทะเบียนสาธารณะและปฏิทินเดิมของ OfficeRnD บริษัทก็มีแผนที่จะย้ายกิจกรรมอีคอมเมิร์ซทั้งหมดไปยัง Growth Hub ในอนาคตด้วยเช่นกัน
Stripe ช่วยให้เราสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้กับลูกค้า และมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ดียิ่งขึ้นแก่สมาชิก ประสบการณ์การชำระเงินที่เรานำเสนอถือเป็นจุดเด่นที่แท้จริง ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการเติบโตของเรา