ความท้าทาย
Oh my teeth มอบบริการตรวจวินิจฉัยและการสแกนแบบ 3 มิติให้แก่ลูกค้าที่จัดฟันภายในสำนักงานเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์จัดฟันที่ใช้ หลังจากนั้นก็ขยายมาเป็นบริการจัดส่งอุปกรณ์ไปให้ลูกค้าถึงบ้าน พร้อมขั้นตอนการใส่อุปกรณ์ชิ้นใหม่ โดยวิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาในการรักษาด้วยการจัดฟันได้หลายเดือน เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่รักษาเสร็จภายใน 3 เดือนเมื่อใช้อุปกรณ์จาก Oh my teeth
ก่อนที่จะเปิดตัวโซลูชันนี้ Oh my teeth ต้องการหาพาร์ทเนอร์ด้านการชำระเงินที่รับวิธีการชำระเงินออนไลน์จากลูกค้าได้ โดยบริษัทได้เลือกให้ Stripe ติดตั้งใช้งานระบบชำระเงินออนไลน์ก่อนเปิดตัวเทคโนโลยีของ Oh my teeth หลังจากนั้นหลายปี Stripe ก็ยังคงเป็นผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือสำหรับ Oh my teeth เสมอมา เนื่องจากสามารถสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
"ตอนแรกเราวางแผนที่จะคิดค่าบริการผ่านการชำระเงินทางธนาคารเป็นหลัก แต่ดูเหมือนว่าจะยากต่อการรับการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน หลังจากนั้นเราก็ได้รู้จักกับ Stripe ซึ่งเป็นบริการชำระเงินผ่านมือถือที่แทบไม่ต้องตั้งค่าเอง และตัดสินเริ่มใช้วิธีการนี้ก่อนเปิดตัวบริการ" Makoto Nishin ตำแหน่ง CEO และตัวแทนกรรมการบริหารของ Oh my teeth กล่าว
ในปี 2022 หลังจากทำธุรกิจมาได้เพียง 3 ปี บริษัทก็มีลูกค้ารวมแล้วกว่า 10,000 คน โดย Stripe ช่วยให้ Oh my teeth รับการชำระเงินจากลูกค้าที่จัดฟันด้วยเทคโนโลยีของตนผ่านบัตรเครดิตออนไลน์
โซลูชัน
ในฐานะธุรกิจสตาร์ทอัพ Oh my teeth จำเป็นต้องสร้างบริการชำระเงินภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งบริษัทสามารถติดตั้งใช้งาน Stripe Payments ได้ภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์
"Stripe มอบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ให้เรา ทำให้ไม่ต้องพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ แค่เพิ่มโลโก้ก็ใช้งานได้ทันที" Nishino กล่าว "เราติดตั้งใช้งาน [Stripe] ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น"
นับตั้งแต่นั้น อินเทอร์เฟซการชำระเงินของ Stripe ก็ได้รับผลตอบรับเชิงบวกจากลูกค้าของ Oh my teeth เนื่องจากช่วยให้ชำระเงินได้สะดวก จนลูกค้าบางคนเรียก Oh my teeth ว่าเป็น "บริการด้านการแพทย์ยุคใหม่ที่ไร้กังวลอย่าแท้จริง" ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทเชื่อมั่นใน Stripe ยิ่งขึ้นไปอีก
"[ลูกค้าจัดฟัน]ส่วนใหญ่เลือกการชำระเงินแบบผ่านบัตรเครดิตหรือสินเชื่อ ซึ่งเรารู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกการชำระเงินแบบไร้เงินสดอย่าง Stripe ตั้งแต่แรกเริ่ม" Nishino กล่าว
Oh my teeth ได้เชื่อมต่อระบบกับ Stripe Billing ผ่านการสนับสนุนของ Stripe เพื่อนำเสนอบริการฟอกสีฟันผ่านการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลเพิ่มเติมจากบริการจัดฟันที่มีอยู่
ผลลัพธ์
Oh my teeth มียอดขายเพิ่มขึ้น 10 เท่าในช่วง 3 ปีแรกที่เริ่มทำธุรกิจ ซึ่ง Stripe มอบแพลตฟอร์มที่เสถียรและใช้งานง่ายในทุกช่วงของการเติบโต โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มเติม และแดชบอร์ดที่เรียบง่ายของ Stripe ยังช่วยป้องกันไม่ให้ Oh my teeth มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย
"เราสามารถจัดการการขายได้โดยไม่ต้องทำงานเพิ่ม และรอบการมัดจำที่สั้นเพียง 1 สัปดาห์ก็มีประโยชน์มากๆ เนื่องจากช่วยให้ไม่เกิดการจ่าย[เงินมัดจำ]ล่าช้า ต้องขอบคุณ Stripe ที่ช่วยให้เรารักษาสภาพคล่องทางการเงินที่ดีไว้ได้" Nishino กล่าว
ในอนาคต Oh my teeth วางแผนที่จะขยายบริการผ่านธุรกิจแฟรนไชส์และปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการปรับประสบการณ์การชำระเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์และบริการของ Stripe จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้แนวคิดนี้ประสบความสำเร็จได้
"เมื่อขยายธุรกิจผ่านแฟรนไชส์ เราก็ต้องมีการจัดการด้านการเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น บริการตัวแทนเรียกเก็บเงิน ดังนั้นเราจะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพเป็นอันดับแรกผ่านโซลูชันของ Stripe เหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในแง่ของการพัฒนานวัตกรรมด้านประสบการณ์ลูกค้า" Nishino กล่าว
เราติดตั้งกระบวนการ PDCA ในส่วนธุรกิจอย่างรวดเร็วผ่านการสร้างระบบที่มีการกำหนดค่าโดยการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย เรารู้สึกว่า Stripe เป็นโซลูชันการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับธุรกิจ