ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาษีทางอ้อมที่บวกเพิ่มไปยังสินค้าและบริการส่วนใหญ่ ภาษีมูลค่าเพิ่มคือภาษีการบริโภคซึ่งลูกค้าชําระเป็นส่วนหนึ่งของราคาซื้อ ซึ่งแตกต่างจากภาษีเงินได้ที่จะมีผลต่อผลกำไรโดยตรง ภาษีมูลค่าเพิ่มคือแหล่งรายรับที่สําคัญของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยรายรับจากภาษีมูลค่าเพิ่มมีมูลค่ารวมทั้งหมด 1.60 แสนล้านปอนด์ในปีงบประมาณ 2022-2023 นอกจากนี้ยังมีผลต่อพฤติกรรมของลูกค้า ตัวอย่างเช่น สินค้าบางรายการได้รับการยกเว้นหรือเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่ต่ำลงเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น
สําหรับธุรกิจ การจัดการกับภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องเรียกเก็บภาษีจากการขายและขอคืนภาษีสำหรับการซื้อสินค้า/บริการจากสำนักงานสรรพากรและศุลกากรของสหราชอาณาจักร (HMRC) ธุรกิจจึงต้องหาความรู้เกี่ยวกับวิธีจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อให้มั่นใจว่าตนปฏิบัติตามข้อกําหนด หลีกเลี่ยงบทลงโทษ และปรับกระแสเงินสดและกลยุทธ์การกําหนดราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดที่มีคู่แข่งจำนวนมาก
ในบทความนี้ เราจะอธิบายอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน วิธีการคํานวณและปรับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักร และการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของอัตราภาษีดังกล่าว
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักรปัจจุบัน
- วิธีคํานวณและปรับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในสหราชอาณาจักร
- การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงแก้ไขภาษีมูลค่าเพิ่มในสหราชอาณาจักรที่ผ่านมา
อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักรปัจจุบัน
ในสหราชอาณาจักร มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มหลักๆ ที่ใช้กับสินค้าและบริการอยู่ 3 อัตรา และตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา อัตราเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้
อัตรามาตรฐาน (20%): นี่คืออัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้บ่อยที่สุดและใช้กับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อาหารที่ไม่ใช่อาหารพื้นฐาน (เช่น ของว่าง เครื่องดื่มประเภทน้ำหวาน) เสื้อผ้าสําหรับผู้ใหญ่ และบริการต่างๆ เช่น บริการให้คําปรึกษาและการตลาด
อัตราลดหย่อน (5%): อัตรานี้ใช้กับสินค้าและบริการที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนหรือพิจารณาว่ามีความจำเป็นต่อประชาชน เช่น ระบบแก๊สและไฟฟ้าสําหรับใช้ภายในครัวเรือน ที่นั่งเด็ก และการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงาน
อัตรา 0%: ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% ได้แก่ อาหารพื้นฐาน (เช่น ขนมปัง นม ผัก) เสื้อผ้า หนังสือและหนังสือพิมพ์ และบริการขนส่งสาธารณะบางรายการ แม้ว่าลูกค้าจะไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ธุรกิจที่จัดจำหน่ายสินค้าที่เรียกเก็บภาษีในอัตรา 0% ก็ยังคงขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องของธุรกิจได้
วิธีคํานวณและปรับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในสหราชอาณาจักร
ภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับใช้เมื่อมีการขายสินค้าหรือบริการในห่วงโซ่อุปทาน โดยจะเกี่ยวข้องกับแต่ละฝ่ายดังรายละเอียดต่อไปนี้
ผู้ผลิต: เมื่อผู้ผลิตขายสินค้าให้กับผู้ขายส่ง ผู้ผลิตจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่เกี่ยวข้องไปยังราคาขาย ตัวอย่างเช่น หากราคาสินค้าคือ 100 ปอนด์ และอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานคือ 20% ผู้ผลิตจะเรียกเก็บค่าสินค้าในราคา 120 ปอนด์ (100 ปอนด์ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 20 ปอนด์)
ผู้ค้าส่ง: เมื่อขายสินค้าให้กับผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่งจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ากับราคาขาย หากราคาขายส่งคือ 150 ปอนด์ ผู้ค้าส่งจะเรียกเก็บเงิน 180 ปอนด์ (150 ปอนด์ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 30 ปอนด์) แต่ผู้ค้าส่งสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 20 ปอนด์ที่จ่ายให้กับผู้ผลิตได้จาก HMRC ซึ่งเป็นหน่วยงานภาษีของสหราชอาณาจักร
ผู้ค้าปลีก: ผู้ค้าปลีกขายสินค้าให้แก่ลูกค้าขั้นสุดท้ายในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หากราคาขายปลีกคือ 200 ปอนด์ ลูกค้าชําระเงิน 240 ปอนด์ (200 ปอนด์ + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 40 ปอนด์) ผู้ค้าปลีกสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายให้กับผู้ค้าส่งจาก HMRC ได้ 30 ปอนด์
ลูกค้า: ลูกค้าปลายทางจะซื้อสินค้าหรือบริการในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้
การเรียกเก็บและการชําระเงินภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจ
ธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในนามของ HMRC และต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหากผลประกอบการที่ต้องเสียภาษีเกิน 90,000 ปอนด์ในรอบ 12 เดือน หากผลประกอบการต่ำกว่าเกณฑ์นี้ ธุรกิจจะจดทะเบียนหรือไม่ก็ได้ แต่การจดทะเบียนอาจเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อ
ประเภทของภาษีมูลค่าเพิ่ม
ต่อไปนี้คือตัวอย่างธุรกิจภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทต่างๆ ที่ต้องเรียกเก็บ ชําระ และคํานวณ
ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขาย: นี่คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ธุรกิจเรียกเก็บเมื่อขายสินค้าหรือบริการ (ภาษีขาย) ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจขายสินค้าในราคา 200 ปอนด์ที่มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 20% ธุรกิจจะเรียกเก็บเงิน 240 ปอนด์ โดย 40 ปอนด์ เป็นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขาย
ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อ: นี่คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ธุรกิจจะต้องชำระเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการ (ภาษีซื้อ) ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจซื้อวัตถุดิบ 100 ปอนด์ และซัพพลายเออร์เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 20% ธุรกิจจะต้องชำระค่าวัตถุดิบ 120 ปอนด์ โดย 20 ปอนด์ เป็นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อ
ภาษีมูลค่าเพิ่มสุทธิที่ต้องชําระ: เมื่อธุรกิจยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจจะต้องคํานวณส่วนต่างระหว่างภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายกับภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อ หากภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสูงกว่า ธุรกิจจะชำระส่วนต่างให้กับ HMRC แต่หากภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อสูงกว่า ธุรกิจจะสามารถขอคืนส่วนต่างได้
การแสดงราคา
ธุรกิจต้องตัดสินใจว่าจะแสดงราคาแบบรวมหรือไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยทั่วไปบริษัทแบบธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) จะแสดงราคาแบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากลูกค้าคาดหวังว่าจะเห็นราคารวมที่จะต้องชําระ ส่วนบริษัทแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) มักไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มในราคาที่แสดง เนื่องจากธุรกิจทราบว่าสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อได้
การรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม
ธุรกิจจะต้องรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มของตนผ่านแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นประจํา (โดยปกติแล้วคือทุกไตรมาส) รายละเอียดในแบบแสดงรายการ ได้แก่ รายการขาย รายการซื้อ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บ และภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขอคืนได้ โดยธุรกิจต้องจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้องไว้เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษและตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำบัญชีภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างถูกต้อง การเรียกเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติตามกฎภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจทําให้ธุรกิจชําระภาษีมูลค่าเพิ่มขาดหรือชําระเกิน ต้องเสียค่าปรับ ดอกเบี้ย หรือแม้แต่ถูกตรวจสอบ
การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
สินค้าและบริการบางอย่างได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจะเรียกเก็บหรือขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าและบริการเหล่านี้ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ประกันภัย บริการด้านการศึกษาบางรายการ และการสมัครใช้บริการจากองค์กรที่มีบริการสมัครสมาชิก ธุรกรรมอื่นๆ อยู่นอกขอบข่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น สินค้าหรือบริการที่ซื้อและใช้งานนอกสหราชอาณาจักรและค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย (เช่น ค่าธรรมเนียมรถติด) ซึ่งธุรกิจจะไม่สามารถเรียกเก็บหรือขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกรรมประเภทเหล่านี้ได้
การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงแก้ไขภาษีมูลค่าเพิ่มในสหราชอาณาจักรที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงแก้ไขระบบภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักรที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจ เงื่อนไขหลังเบร็กซิต และสนับสนุนภาคธุรกิจบางประเภท การเปลี่ยนแปลงที่สําคัญๆ เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มของสหราชอาณาจักรและนโยบายที่เกี่ยวข้องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มในโครงการ Making Tax Digital (MTD)
โครงการ Making Tax Digital (MTD) เป็นความพยายามที่จะปรับระบบภาษีให้เป็นระบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง กฎของ MTD กําหนดให้ธุรกิจต้องเก็บบันทึกข้อมูลแบบดิจิทัลและใช้ซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มของตน
- 1 เมษายน 2022: ธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดต้องปฏิบัติตามกฎ MTD ไม่ว่าจะมีผลประกอบการเท่าใดก็ตาม ก่อนหน้านี้ MTD ใช้เฉพาะกับธุรกิจที่ผลประกอบการสูงกว่าเกณฑ์ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 90,000 ปอนด์
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าเพื่อสุขอนามัยของสตรี
สหราชอาณาจักรยกเลิกภาษีสําหรับสินค้าเพื่อสุขอนามัยของสตรี
- 1 มกราคม 2021: ระบบอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 0%มีผลบังคับใช้
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มหลังเบร็กซิต
หลังจากที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับสินค้าและบริการระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปอย่างมาก (ไอร์แลนด์เหนือมีระเบียบการเป็นของตัวเอง)
1 มกราคม 2021: สินค้าที่นําเข้าจากสหภาพยุโรปได้รับการดําเนินการแบบเดียวกันกับประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรป ธุรกิจในสหราชอาณาจักรต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มในการนําเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป และขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อได้ในแบบแสดงรายการภาษี
1 มกราคม 2564: ธุรกิจส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักรจะใช้ระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรปเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในสหภาพยุโรปไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องใช้กระบวนการของคําสั่งที่ 13 แทน
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มจากสถานการณ์โควิด-19
รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวสําหรับวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการต้อนรับ โรงแรม และที่พักในวันหยุด และการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สวนสนุกและโรงภาพยนตร์ เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
15 กรกฎาคม 2020 - 30 กันยายน 2564: อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจเหล่านี้่ลดลงชั่วคราวมาอยู่ที่ 5%
1 ตุลาคม 2021 - 31 มีนาคม 2022: อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่เคยลดลงปรับเพิ่มขึ้นเป็น 12.5%
1 เมษายน 2022: กลับมาใช้อัตราภาษีมาตรฐาน 20%
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
รัฐบาลได้ประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวสำหรับการติดตั้งวัสดุเพื่อการประหยัดพลังงาน เช่น ฉนวน แผงโซลาร์เซลล์ และปั๊มความร้อนในสถานที่พำนักอาศัย เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานและสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินของเจ้าของบ้านที่ต้องการลงทุนปรับปรุงบ้านให้ประหยัดพลังงานและสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมโดยรวมของสหราชอาณาจักร
1 เมษายน 2022: ภาษีมูลค่าเพิ่ม 0% มีผลบังคับ
1 เมษายน 2027: อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับอุปกรณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนกลับไปเป็น 5%
การเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับอาคารและการก่อสร้าง
สหราชอาณาจักรประกาศใช้การปรับปรุงเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มในภาคธุรกิจการก่อสร้างเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการใช้กลไกความรับผิดทางภาษีย้อนกลับ กล่าวคือกําหนดให้ลูกค้าคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่ซัพพลายเออร์
- 1 มีนาคม 2021: บริการก่อสร้างบางประเภท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกรรม B2B ภายในแผนอุตสาหกรรมก่อสร้าง ต้องใช้กลไกความรับผิดทางภาษีย้อนกลับ
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ