การชำระเงินในขั้นตอนเดียว: คืออะไร ทำงานอย่างไร และใช้เมื่อใด

Checkout
Checkout

Stripe Checkout เป็นแบบฟอร์มการชำระเงินสำเร็จรูปที่คุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้คุณยังผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การชำระเงินในขั้นตอนเดียวคืออะไร
  3. การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับกระบวนการชำระเงินแบบหลายขั้นตอน
    1. ความเร็ว
    2. ความชัดเจนต่อผู้ใช้
    3. ความแน่นในแบบฟอร์มและปริมาณในพื้นที่
    4. การจัดการกับข้อผิดพลาด
    5. การมองเห็นข้อมูล
    6. ความยืดหยุ่นของการชำระเงิน
    7. การตรวจสอบและการยืนยันคำสั่งซื้อ
  4. การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในสถานการณ์ใดบ้าง
    1. เมื่อปัญหาคอขวดของการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินอยู่ที่ระยะเวลาไปสู่การชำระเงิน
    2. เมื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นช่องทางหลัก
    3. เมื่อคุณมีลูกค้าประจำ
    4. เมื่อผลิตภัณฑ์มีความเรียบง่ายและมีการซื้อที่รวดเร็ว
  5. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการออกแบบการชำระเงินในขั้นตอนเดียว
    1. จัดเค้าโครงให้ดูสะอาดตาและมุ่งเน้นถูกจุด
    2. จัดวางปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการให้โดดเด่น
    3. เสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
    4. จัดการข้อผิดพลาดทันที
    5. ตั้งค่าเริ่มต้นให้รองรับการชำระเงินของผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบ
    6. จัดโครงสร้างให้เกิดความชัดเจน
    7. แสดงข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อให้ครบถ้วน
    8. เสริมสร้างความไว้วางใจในช่วงเวลาที่สำคัญ
    9. ลดการพิมพ์ทุกส่วนที่ทำได้
    10. ออกแบบสำหรับพฤติกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก
    11. ให้ลูกค้าเข้าถึงความช่วยเหลือได้โดยไม่หยุดชะงัก
    12. ใช้เครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อเหมาะสม

สำหรับการออกแบบกระบวนการชำระเงินแล้ว การตัดสินใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ส่งผลกระทบได้อย่างใหญ่หลวง แค่เพียงมีช่องเกินมาช่องเดียว หน้าโหลดช้าลง หรือมีข้อความแจ้งให้เข้าสู่ระบบโดยไม่คาดคิด ก็อาจเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ซื้อถอดใจไปอย่างเงียบๆ จึงเป็นเหตุผลที่โครงสร้างของขั้นตอนการชำระเงินมีความสำคัญมาก

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับวิธีการสร้างสมดุลระหว่างความเร็ว ความชัดเจน และการควบคุมในช่วงโค้งสุดท้ายบนเส้นทางของลูกค้า เราจะอธิบายต่อไปด้านล่างว่าการชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใด แตกต่างกับกระบวนการแบบหลายขั้นตอนอย่างไร และต้องออกแบบอย่างไรเพื่อให้ได้เวอร์ชันที่สร้างผู้ใช้แบบชำระเงินได้จริง

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • การชำระเงินในขั้นตอนเดียวคืออะไร
  • การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับกระบวนการชำระเงินแบบหลายขั้นตอน
  • การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในสถานการณ์ใดบ้าง
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการออกแบบการชำระเงินในขั้นตอนเดียว

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวคืออะไร

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะรวบรวมขั้นตอนการซื้อทั้งหมดมาไว้ในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่ง, การเรียกเก็บเงิน, การชำระเงิน หรือการตรวจสอบคำสั่งซื้อ บางครั้งจึงเรียกว่าการชำระเงินในขั้นเดียวหรือหน้าเดียว แทนที่ลูกค้าของคุณจะต้องคอยคลิกปุ่ม "ถัดไป" แล้วรอโหลดหน้าใหม่ ลูกค้าจะเห็นทุกอย่างอยู่ตรงหน้าในคราวเดียว ทั้งช่องกรอกที่อยู่ วิธีการชำระเงิน และข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อ

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวไม่เหมือนกับการชำระเงินในคลิกเดียว โดยการชำระเงินในคลิกเดียวจะทำให้ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซื้อสินค้าได้ทันทีโดยใช้รายละเอียดที่บันทึกไว้ ส่วนการชำระเงินในขั้นตอนเดียวยังคงกำหนดให้ลูกค้าต้องป้อนข้อมูล แต่จะทำให้การซื้อครั้งแรกนี้เสร็จเร็วขึ้น หากออกแบบระบบได้ดี การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะปูทางไปสู่การชำระเงินในคลิกเดียว กล่าวคือ ลูกค้าจะสั่งซื้อครั้งแรกได้อย่างรวดเร็วและบันทึกรายละเอียดของตัวเอง ทำให้สั่งซื้อครั้งต่อๆ ไปได้เร็วขึ้น

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับกระบวนการชำระเงินแบบหลายขั้นตอน

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวและกระบวนการแบบหลายขั้นตอนคือสองวิธีที่แตกต่างกันในการนำลูกค้าจากรถเข็นไปสู่การยืนยัน แนวทางที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการขาย ฐานผู้ใช้ และระดับการควบคุมประสบการณ์การชำระเงินที่คุณต้องการ

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวแตกต่างกับกระบวนการชำระเงินแบบหลายขั้นตอน ดังนี้

ความเร็ว

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นตัวเลือกที่เร็วกว่า โดยไม่ต้องโหลดหน้าและคลิกไปคลิกมา ทำให้ลูกค้าไม่ต้องตั้งใจทำใหม่หลายครั้ง ความแตกต่างนี้จะสั่งสมจนเห็นได้ชัดสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือในสถานการณ์ที่เร่งรีบ เช่น ช่วงแฟลชเซลหรือขายสินค้าจำนวนจำกัด

ความชัดเจนต่อผู้ใช้

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะแสดงทุกอย่างในหน้าเดียว ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนขึ้น ลูกค้าจะเข้าใจว่าระบบต้องการให้ทำอะไรและยังเหลืออีกมากน้อยเพียงใดจึงจะทำเสร็จ ไม่มีหน้าจอที่ไม่คาดคิดหรือปุ่ม "ถัดไป" ที่ทำให้เกิดข้อสงสัย แต่การชำระเงินในขั้นตอนเดียวก็อาจทำให้รู้สึกท่วมท้นได้เช่นกัน การชำระเงินในหน้าเดียวที่จัดโครงสร้างไม่ดีอาจดูเหมือนแบบฟอร์มที่ยืดยาวอ่านไม่จบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนหน้าจอขนาดเล็ก

การชำระเงินแบบหลายขั้นตอนจะแบ่งการชำระเงินออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ และแต่ละขั้นมุ่งเน้นการดำเนินการเฉพาะอย่าง ซึ่งจะทำให้แต่ละหน้าจอรู้สึกจัดการได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเก็บข้อมูลจำนวนมากหรือเสนอตัวเลือกการดำเนินการตามคำสั่งซื้อหรือตัวเลือกการชำระเงินหลายตัวเลือก หากใส่ข้อความบ่งชี้ขั้นตอน ("ขั้นตอนที่ 2 จาก 3") จะช่วยแสดงความคืบหน้าและลดความคลุมเครือลงได้

ความแน่นในแบบฟอร์มและปริมาณในพื้นที่

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวกำหนดให้ธุรกิจสอบถามเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งหากจัดทำได้ดี เงื่อนไขนี้จะเป็นประโยชน์ได้ แต่หากธุรกิจเก็บข้อมูลจำนวนมากหรือพยายามใส่ข้อมูลปริมาณมากเกินไปลงในหน้าเดียว เค้าโครงของหน้าอาจเริ่มอัดแน่น ซึ่งอาจกลายเป็นม้วนคัมภีร์ที่ยืดยาวท่วมท้นหรือดูรกไม่เป็นระเบียบได้ง่ายๆ

ในทางตรงกันข้าม การชำระเงินแบบหลายขั้นตอนรองรับได้ดีกว่ามาก คุณจะสามารถกระจายข้อมูลและตัวเลือกไปอยู่ในหน้าจอต่างๆ ได้ ทำให้ง่ายต่อการใส่ช่องกรอกข้อมูลเพิ่มเติม ตัวเลือกรับข้อมูลทางการตลาด หรือการขายต่อยอด โดยไม่ทำให้อินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ดูแออัด

การจัดการกับข้อผิดพลาด

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวต้องจัดการกับการตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดในแบบอินไลน์และเรียลไทม์ ข้อผิดพลาดต้องชัดเจน คำนึงถึงบริบท และไม่ทำให้เกิดการบล็อก หากจัดการได้ดี เงื่อนไขนี้จะช่วยให้กระบวนการราบรื่นขึ้น ผู้ใช้จะแก้ไขปัญหาได้ในที่เดิมโดยไม่ต้องย้อนกลับไปขั้นตอนก่อนหน้า แต่การจัดการให้ดีต้องอาศัยการออกแบบที่ดีเยี่ยมและตรรกะของแบบฟอร์มที่ถี่ถ้วนเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน

กระบวนการแบบหลายขั้นตอนโดยทั่วไปแล้วจะตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละหน้าจอขณะที่ลูกค้าดำเนินการ หากพบปัญหากับที่อยู่สำหรับจัดส่ง ลูกค้าก็จะทราบก่อนที่จะไปยังหน้าจอการชำระเงิน การจัดลำดับเช่นนี้ทําให้แก้ไขปัญหาง่ายขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่มีความลังเล

การมองเห็นข้อมูล

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวให้ข้อมูลรายละเอียดน้อยกว่า หากมีคนดำเนินการมาครึ่งทางแล้วออกจากหน้าไป ข้อมูลเดียวที่คุณจะได้รับรู้คือบุคคลนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน คุณจะต้องใช้การติดตามการเลื่อนดู การตรวจสอบที่ระดับช่อง หรือการบันทึกเซสชันจึงจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หากพูดถึงการวิเคราะห์ การชำระเงินแบบหลายขั้นตอนจะให้มุมมองที่ชัดเจนกว่าว่าผู้ใช้ละทิ้งรถเข็นที่ตำแหน่งใด หากผู้ใช้ 20% ละทิ้งไประหว่างขั้นตอนการจัดส่งและการชำระเงิน คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้พิจารณาการดำเนินการได้ และคุณจะมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพให้หน้าจอนั้นได้

ความยืดหยุ่นของการชำระเงิน

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวไม่เปิดโอกาสให้แวะทำการดำเนินการอื่น แม้คุณจะใส่องค์ประกอบเสริมได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในหน้าเดียวกัน คุณจึงต้องรักษาสมดุลระหว่างความอัดแน่นของข้อมูลกับความสามารถในการใช้งาน ซึ่งมักจะนําไปสู่กระบวนการที่มุ่งเน้นเป้าหมาย ไม่เติมแต่งด้วยการดำเนินการอื่น

กระบวนการแบบหลายขั้นตอนเปิดโอกาสให้ปรับแต่งเส้นทางของลูกค้าได้มากกว่า คุณสามารถเพิ่มขั้นตอนการให้ข้อมูลได้ เช่น การแนะนำส่วนเสริมหรือการบันทึกค่ากำหนดด้านการตลาด โดยไม่ทำให้หน้าจอหนึ่งๆ มีข้อมูลท่วมท้น คุณทำได้แม้กระทั่งโหลดคุณค่าที่นำเสนอหรือค่าประมาณการจัดส่งให้เห็นเพื่อลดข้อสงสัยก่อนการชำระเงิน

การตรวจสอบและการยืนยันคำสั่งซื้อ

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวโดยทั่วไปแล้วจะข้ามหน้าจอการยืนยันเพิ่มเติม โดยใช้ข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อแบบอินไลน์และปุ่มส่งปุ่มเดียวแทน ซึ่งหมายความว่าคุณต้องทำให้แน่ใจว่าข้อมูลสรุปเรียบเรียงไว้ให้อ่านง่าย ปรากฏชัดเจน และอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงในช่วงสุดท้าย เช่น รหัสโปรโมชันหรือตัวเลือกการจัดส่ง

กระบวนการแบบหลายขั้นตอนมักจะปิดท้ายด้วยหน้าตรวจทานแทบทุกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายให้ลูกค้าได้ตรวจสอบคำสั่งซื้ออีกครั้งก่อนที่จะคลิก "สั่งซื้อ" จึงช่วยตรวจจับข้อผิดพลาดและลดความกังวลหลังสั่งซื้อ

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในสถานการณ์ใดบ้าง

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในบางบริบท โดยสามารถสร้างผลกระทบได้มากที่สุดและเพิ่มการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้ในสถานการณ์ต่างๆ ดังนี้

เมื่อปัญหาคอขวดของการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินอยู่ที่ระยะเวลาไปสู่การชำระเงิน

หากข้อมูลของคุณแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ออกกลางคันระหว่างอยู่ในกระบวนการชำระเงินแบบหลายขั้นตอน คุณอาจควรลองใช้โมเดลแบบหน้าเดียว

การลดความซับซ้อนของขั้นตอนให้กลายเป็นทำเสร็จในหน้าเดียวจะทำให้ไม่ต้องโหลดหน้าเพิ่มเติมและไม่ต้องคลิกผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่ทยอยตามมา การเปลี่ยนแปลงเพียงเท่านี้ก็ขยับตัวเลขในเมตริกการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เร่งรีบ เช่น ช่วงแฟลชเซล การให้ของขวัญในนาทีสุดท้าย และการขายสินค้าจำนวนจำกัด เส้นทางการชำระเงินที่สั้นกว่าอาจเป็นตัวตัดสินว่าผลสุดท้ายจะเป็นการขายที่เสร็จสมบูรณ์หรือรถเข็นที่ถูกละทิ้ง

เมื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นช่องทางหลัก

ผู้ใช้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่จะมีพฤติกรรมที่ต่างออกไป โดยจะให้ความสนใจสั้นลง พิมพ์ยากขึ้น และแต่ละครั้งที่ต้องโหลดหน้าจอหรือแตะบางสิ่งก็อาจทำให้เลิกดำเนินการได้ทั้งสิ้น

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้โดยรวบรวมขั้นตอนทั้งหมดมาอยู่ในการเลื่อนดูเพียงครั้งเดียว แทนที่จะต้องคลิกผ่านหน้าต่างๆ ไม่ขาดสายซึ่งแต่ละหน้าต้องใช้เวลาโหลดและมีโอกาสแตะผิดพลาด ผู้ใช้จะได้เลื่อนดูแบบฟอร์มที่ต่อเนื่องแบบฟอร์มเดียว ซึ่งในอุปกรณ์เคลื่อนที่ กระบวนการนี้จะตรงกับวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาอยู่แล้ว

เมื่อคุณมีลูกค้าประจำ

หากธุรกิจมีลูกค้าที่ภักดีสูงจากการชำระเงินตามรอบบิลหรือการสั่งซื้อใหม่เป็นประจำ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพยายามเสนอขายกับลูกค้าประจำซ้ำอีก ลูกค้าไว้วางใจผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่แล้ว และเพียงต้องการให้ทำธุรกรรมได้ง่ายๆ

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวตอบโจทย์ความต้องการนี้ ด้วยที่อยู่ที่บันทึกไว้ วิธีการชำระเงินที่จัดเก็บไว้ และการผสานการทำงานกระเป๋าเงินดิจิทัล การชำระเงินจะกลายเป็นเพียงขั้นตอนการยืนยัน อีกทั้ง Link ซึ่งเป็นการชำระเงินที่เร็วยิ่งขึ้นของ Stripe ยังทำได้แม้กระทั่งกรอกข้อมูลการชำระเงินจากลูกค้าประจำโดยอัตโนมัติ

เมื่อผลิตภัณฑ์มีความเรียบง่ายและมีการซื้อที่รวดเร็ว

การซื้อสินค้าบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีกระบวนการซื้อหลายขั้นตอน หากผลิตภัณฑ์มีลักษณะที่ตรงไปตรงมา เช่น ไม่มีการปรับแต่ง ไม่จัดชุด และไม่มีกฎการจัดส่งที่ซับซ้อน การยืดกระบวนการออกไปจะเพิ่มขั้นตอนมากกว่าเพิ่มคุณค่า

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวได้ผลดีสำหรับสิ่งเหล่านี้

  • ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล

  • รายการสินค้าราคาถูก

  • ร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์รายการเดียวหรือหมวดหมู่เดียว

  • รายการสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็นด้วยความเร่งรีบหรือไม่วางแผน

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการออกแบบการชำระเงินในขั้นตอนเดียว

การรวบรวมขั้นตอนการชำระเงินทั้งหมดมาอยู่ในหน้าเดียวไม่ได้ทำให้ขั้นตอนดีขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่เป็นเพียงการรวบรวมความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะละทิ้งรถเข็นเท่านั้น

การชำระเงินในขั้นตอนเดียวที่ใช้ได้ผลจริงมีวิธีการออกแบบ ดังนี้

จัดเค้าโครงให้ดูสะอาดตาและมุ่งเน้นถูกจุด

ให้ความสำคัญกับความชัดเจน ใช้เฉพาะช่องและข้อมูลที่จำเป็นต่อการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ จัดกลุ่มช่องที่เกี่ยวข้องให้อยู่ด้วยกัน (เช่น ข้อมูลการจัดส่ง การชำระเงิน การตรวจสอบ) และจัดวางให้แต่ละส่วนอ่านได้

ส่วนที่กดยุบได้ช่วยให้ดูหน้าได้สะดวกขึ้นในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ยุบส่วนข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อไว้ แต่จัดวางให้ผู้ใช้ขยายดูได้ง่าย

อย่าเพิ่งใส่แบนเนอร์การตลาด เมนูการนำทาง หรือโมดูล "คุณอาจชอบสิ่งนี้" เพราะในขั้นตอนนี้ สิ่งใดก็ตามที่ไม่ได้ช่วยให้ลูกค้าชำระเงินเสร็จจะทำให้ลูกค้ายิ่งดำเนินการช้าลง

จัดวางปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการให้โดดเด่น

ปุ่มส่งขั้นสุดท้ายไม่ว่าจะเป็น "สั่งซื้อ" "ดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น" หรือข้อความใดก็ตามที่คุณเลือก ควรดึงดูดสายตาและมองหาได้ง่าย อย่านำไปซ่อนไว้ด้านล่างให้ผู้ใช้ต้องเลื่อนไปจนสุด

คุณอาจจัดวางปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการให้แสดงค้างไว้บนหน้าจอของอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือแสดงไว้ทั้งที่ด้านบนและด้านล่างของหน้าหากแบบฟอร์มค่อนข้างยาว โดยแสดงควบคู่กับยอดรวมคำสั่งซื้อที่อัปเดตตามจริงเพื่อให้ลูกค้ารู้เสมอว่าตนเองกำลังจะสั่งซื้อรวมเท่าใด

เสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย

ให้ทางเลือกแก่ผู้ใช้ แต่อย่าใส่จนล้นเกิน UI การชำระเงิน แสดงวิธีการชำระเงินที่พบบ่อยที่สุดในภูมิภาคของลูกค้า และแสดงช่องเฉพาะตามการเลือกของลูกค้า

ใช้ป้ายกำกับ โลโก้ที่คนจำได้ (เช่น Visa, Mastercard, Apple Pay, Google Pay) และค่าเริ่มต้นอัจฉริยะตามอุปกรณ์หรือสถานที่

จัดการข้อผิดพลาดทันที

ควรแสดงข้อผิดพลาดของแบบฟอร์มทุกข้อแบบเรียลไทม์โดยแสดงในช่องที่เกิดปัญหาหรือข้างช่องดังกล่าว หากรูปแบบอีเมลไม่ถูกต้องหรือขาดรหัสไปรษณีย์ ให้แจ้งเตือนทันที ไม่ใช่หลังจากที่ลูกค้ากด "ส่ง" ไปแล้ว และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เช่น "โปรดป้อนหมายเลขบัตรที่ถูกต้อง" จะดีกว่า "ข้อมูลในช่องไม่ถูกต้อง"

รายงานปัญหาให้เห็น ระบุวิธีแก้ไขที่ชัดเจน และเก็บรักษาข้อมูลที่ลูกค้าป้อนไปแล้ว

ตั้งค่าเริ่มต้นให้รองรับการชำระเงินของผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบ

อย่าบังคับให้ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนก่อนชำระเงิน ออกแบบขั้นตอนมาตรฐานของแบบฟอร์มให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบชำระเงินได้ ไม่ใช่จัดเป็นตัวเลือกที่สองที่ค้นหายาก

คุณยังคงเสนอการสร้างบัญชีได้ผ่านช่องป้อนรหัสผ่านที่ไม่บังคับหรือข้อความแจ้งหลังการซื้อ แต่ขอให้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องทุ่มเท

จัดโครงสร้างให้เกิดความชัดเจน

แม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ในหน้าเดียว แต่แบบฟอร์มการชำระเงินของคุณไม่ควรให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคลื่นถาโถมที่เต็มไปด้วยช่องแบบฟอร์ม ใช้หัวเรื่องกำกับส่วน ตัวแบ่งส่วน และการเรียงลำดับภาพเพื่อนำทางผู้ใช้จากบนลงล่าง

ใส่ข้อความกำกับส่วนหลักแต่ละส่วน ตัวอย่างเช่น

  • ที่อยู่สำหรับจัดส่ง

  • วิธีการจัดส่ง

  • การชำระเงิน

  • ข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อ

วิธีนี้จะทำให้แบบฟอร์มการชำระเงินมีจังหวะที่เป็นธรรมชาติและเลียนแบบโครงสร้างของกระบวนการแบบหลายขั้นตอนโดยไม่ต้องมีหน้าจอเพิ่มเติม

แสดงข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อให้ครบถ้วน

ใส่ข้อมูลสรุปที่มองเห็นได้เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ใช้กำลังซื้อ รวมถึงรายการสินค้า, ปริมาณ, ยอดรวม, ค่าจัดส่ง, ภาษี และยอดสุทธิ ควรทำให้ข้อมูลนี้อัปเดตแบบเรียลไทม์ตามที่ผู้ใช้ป้อนรหัสโปรโมชันหรือเปลี่ยนตัวเลือกการจัดส่ง และจัดช่องทางให้ผู้ใช้แก้ไขรถเข็นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องออกจากหน้า ซึ่งอาจหมายถึงตัวเลือกปริมาณแบบอินไลน์หรือลิงก์ "แก้ไข" ที่เปิดหน้าต่างป๊อปอัป

ความโปร่งใสที่ส่วนนี้จะช่วยลดความลังเลและสามารถป้องกันการเลิกทำในนาทีสุดท้ายได้

เสริมสร้างความไว้วางใจในช่วงเวลาที่สำคัญ

การชำระเงินคือขั้นตอนที่ผู้คนส่งมอบข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เสริมสร้างความปลอดภัยด้วยองค์ประกอบที่กลมกลืน เช่น ไอคอนแม่กุญแจ, โลโก้เครือข่ายบัตร, ข้อความ "การชำระเงินที่ปลอดภัยที่ขับเคลื่อนโดย Stripe" หรือประโยคสั้นๆ เช่น "การชำระเงินของคุณได้รับการเข้ารหัส"

อย่าทำมากเกินไป สัญญาณความไว้วางใจจะได้ผลดีที่สุดเมื่อมีให้เห็นแต่ไม่สะดุดตา

ลดการพิมพ์ทุกส่วนที่ทำได้

ใช้เครื่องมือกรอกอัตโนมัติและเครื่องมือค้นหาที่อยู่เพื่อให้ป้อนข้อมูลได้เร็วขึ้น เปิดให้ผู้ใช้คัดลอกที่อยู่สำหรับจัดส่งลงในส่วนการเรียกเก็บเงินได้ในคลิกเดียว เปิดแป้นตัวเลขสำหรับช่องบัตรเครดิตบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การปรับแต่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้สร้างความแตกต่างได้อย่างมาก

ออกแบบสำหรับพฤติกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก

ทดสอบทุกอย่างบนหน้าจอขนาดเล็ก การชำระเงินของคุณควรอ่านง่าย แตะสัมผัสได้สะดวก และแม้จะนิ้วใหญ่ก็ใช้ได้สบาย ช่องในแบบฟอร์มควรมีขนาดใหญ่และอยู่ห่างกัน ควรแตะปุ่มได้ง่าย และเค้าโครงควรยุบลงอย่างเหมาะสม

เวลาโหลดที่รวดเร็วมีความสำคัญในส่วนนี้ การชำระเงินในหน้าเดียวที่โหลดช้าบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ย่อมไม่มีประโยชน์ ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความเรียบง่าย

ให้ลูกค้าเข้าถึงความช่วยเหลือได้โดยไม่หยุดชะงัก

แม้จะมีการออกแบบที่เรียบร้อย แต่ผู้ใช้ก็อาจมีข้อสงสัยได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่องทางง่ายๆ ให้ผู้ใช้ขอรับการสนับสนุนได้โดยไม่ต้องออกจากหน้า อาจเป็นปุ่มแชทสด ไอคอนความช่วยเหลือ หรือแค่แสดงให้เห็นวิธีการติดต่อ

หากลูกค้าลังเลเพราะไม่พบคำตอบ เท่ากับคุณสูญเสียการขายไปแล้วในวินาทีสุดท้าย อย่าให้ลูกค้าต้องเลือกระหว่างการสั่งซื้อให้เสร็จกับการขอความช่วยเหลือ

ใช้เครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อเหมาะสม

คุณไม่จำเป็นต้องสร้างทุกส่วนของการชำระเงินด้วยตัวเอง ตัวอย่างเช่น Stripe Checkout ให้บริการกระบวนการหน้าเดียวแบบสำเร็จรูปที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้หลายข้อและใช้งานได้ทันที ตัวเลือกนี้ปรับมาให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผสานการทำงานกับกระเป๋าเงินดิจิทัลไว้ล่วงหน้าแล้ว และมาพร้อมกับมาตรการป้องกันการฉ้อโกงอัตโนมัติ

หากคุณต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม Stripe Elements จะทำให้คุณควบคุมได้ละเอียดมากขึ้นในขณะที่ยังคงจัดการตรรกะการชำระเงินและการผสานการทำงานกับวิธีการชำระเงิน ในขณะที่ Link ของ Stripe ช่วยให้ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็วด้วยรายละเอียดที่บันทึกไว้ ช่วยเพิ่มความเร็วอีกชั้นหนึ่งเพิ่มเติมจากการออกแบบชำระเงินในขั้นตอนเดียว

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Checkout

Checkout

ผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe เพื่อให้รับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Checkout

สร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยและผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณหรือโฮสต์ไว้ในระบบของ Stripe