Instagram (บางครั้งเรียกว่า "Insta") เป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์กที่นิยมใช้กันทั่วโลก เดิมทีบริการนี้มีไว้เพียงเพื่อแชร์รูปภาพและวิดีโอ แต่ในช่วงไม่นานมานี้ Instagram ได้รับความสนใจในฐานะศูนย์กลางด้านการค้าบนโลกโซเชียล โดยธุรกิจสามารถขายสินค้าผ่านฟีเจอร์ช้อปปิ้งในตัวที่มีชื่อว่าร้านค้าบน Instagram รวมถึงลิงก์ชำระเงิน

โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น บรรดาธุรกิจที่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและบุคคลทั่วไปต่างมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะใช้ Instagram เพื่อขายสินค้า

ในบทความนี้ เราจะอธิบายวิธีการขายสินค้าบน Instagram ทั้ง 2 วิธีให้เข้าใจง่ายๆ ได้แก่ ร้านค้าบน Instagram และลิงก์ชำระเงิน และเปรียบเทียบทั้ง 2 วิธีนี้ให้ดู นอกจากนี้ เราจะพูดถึงประเด็นสำคัญต่างๆ ในการขายบน Instagram ให้ประสบความสำเร็จด้วย

เนื้อหาหลักในบทความ

• Instagram: คุณลักษณะสำคัญ
  
• วิธีขายสินค้าบน Instagram
  
• ข้อดีของร้านค้าบน Instagram
  
• ข้อเสียของร้านค้าบน Instagram
  
• วิธีใช้ร้านค้าบน Instagram
  
• ข้อดีของบริการลิงก์ชำระเงิน
  
• ข้อเสียของบริการลิงก์ชำระเงิน
  
• วิธีใช้ Stripe Payment Links
  
• ประเด็นสำคัญในการขายสินค้าบน Instagram ให้ประสบความสำเร็จ
  
• ข้อควรระวังเมื่อขายสินค้าบน Instagram
  
• เรื่องราวความสำเร็จในการขายสินค้าบน Instagram
  
• เคล็ดลับสำหรับการเริ่มต้นขายบน Instagram ให้ราบรื่น
  

Instagram: คุณลักษณะสำคัญ

Instagram คือ เว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่เน้นการแชร์รูปภาพและวิดีโอเป็นหลัก บริการนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันคำว่า "Instagrammable" ก็ใช้กันเป็นคำทั่วไป โดยนักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายรูปให้ออกมาสวยน่าสนใจโดยเฉพาะ เราเรียกรูปเหล่านี้ว่าเป็นรูปภาพที่ "เหมาะที่จะลง Instagram" (Instagrammable)

จำนวนผู้ใช้ Instagram ในญี่ปุ่นคาดว่ามีอยู่เกิน 55 ล้านรายในปีงบประมาณ 2025 และคาดว่าจะมีผู้ใช้สูงถึง 2,000 ล้านรายทั่วโลก

รายงานที่เผยแพร่ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ระบุว่า Instagram เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 30 ปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อัตราการใช้งานในบรรดาคนวัย 60 ปีก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน และอัตราของคนวัย 40 และ 50 ปีที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ก็มีจำนวนมากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงพอจะสรุปได้ว่า Instagram กำลังก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงแต่เข้าถึงกลุ่มคนวัยรุ่นเท่านั้น แต่ยังเข้าถึงช่วงวัยที่หลากหลายขึ้นด้วย

วิธีขายสินค้าบน Instagram

เมื่อเร็วๆ นี้ การค้าบนโลกโซเชียลผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram ได้กลายเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการโปรโมตสินค้า ธุรกิจสามารถขยายช่องทางการขายและทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการนำผู้ใช้จากโพสต์และสตอรี่บน Instagram ไปยังสินค้าที่ผู้ใช้สามารถซื้อได้

เจ้าของธุรกิจหลายรายยังไม่เข้าใจว่าจะขายสินค้าบน Instagram ได้อย่างไร โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ แต่ยังมีสินค้าที่จะขายอยู่ ในการขายสินค้าบน Instagram นั้น บริษัทที่มีร้านค้าออนไลน์กับบริษัทที่ไม่มีจะต้องใช้แนวทางคนละแบบกัน

หากบริษัทของคุณมีและใช้งานเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอยู่แล้ว คุณอาจต้องเชื่อมโยงบัญชี Instagram กับเว็บไซต์ของบริษัท แล้วขายโดยใช้ฟังก์ชันการช้อปปิ้งของ Instagram

หากคุณไม่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คุณสามารถใช้บริการลิงก์ชำระเงิน เช่น Stripe Payment Links เพื่อขายสินค้าบน Instagram ได้

คุณจำเป็นต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ เรามาดูสถานการณ์สมมติ 2 อย่างกันดีกว่า ได้แก่ กรณีที่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอยู่แล้วกับกรณีที่ไม่มี รวมถึงดูวิธีการขายที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์นี้

หากคุณมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ: ใช้ร้านค้าบน Instagram

ในกรณีของธุรกิจที่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify อยู่แล้ว ร้านค้าบน Instagram (ซึ่งเป็นฟังก์ชันการช้อปปิ้งในตัวของเว็บไซต์โซเชียลมีเดียนี้) ก็น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะที่สุด

ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อ Instagram กับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนได้อย่างราบรื่นด้วยการตั้งค่า "ร้านค้า" บน Instagram และใช้แท็กสินค้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น

ฟีเจอร์หลักของร้านค้าบน Instagram ได้แก่

• ร้านค้า: ผู้ใช้สามารถดูรายการสินค้าในร้านค้าออนไลน์ของธุรกิจที่แสดงบนโปรไฟล์ Instagram ได้
  
• แท็กสินค้า: คุณสามารถแท็กสินค้าในโพสต์และคลิป Reel บน Instagram ได้ และเมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ที่ใส่ไว้ ระบบก็จะนำผู้ใช้ไปยังหน้ารายละเอียดสินค้าที่เกี่ยวข้อง เมื่อถึงหน้านั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถคลิกปุ่มเพื่อให้ระบบนำไปยังเว็บไซต์ของธุรกิจโดยตรงเพื่อทำการซื้อได้
  
• คอลเลกชัน: คุณสามารถจัดกลุ่มสินค้าตามหมวดหมู่หรือธีม และจัดระเบียบเพื่อให้ดูได้ง่ายขึ้น
  
• หน้ารายละเอียดสินค้า: หน้าเหล่านี้จะแสดงชื่อ ราคา และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ของสินค้า
  
• โฆษณาที่มีแท็กสินค้า: ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงได้โดยการใส่แท็กสินค้าลงในโพสต์และโฆษณาที่ลิงก์
  

เมื่อธุรกิจใช้ฟังก์ชันการช้อปปิ้งของ Instagram ผู้ใช้ก็จะพบสินค้าของธุรกิจนั้นๆ ได้ตามปกติ และดำเนินการจาก Instagram เพื่อไปซื้อบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซได้โดยสะดวก ประสบการณ์ที่ราบรื่นนี้ส่งผลให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้ยอดขายจากผู้ใช้

หากคุณไม่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ: ใช้บริการลิงก์ชำระเงิน

ในกรณีของบริษัทที่ยังไม่มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ก็สามารถใช้บริการลิงก์ชำระเงินได้ เช่น Stripe Payment Links เพื่อขายสินค้าบน Instagram

โดยเฉพาะเวลาที่ใช้ Stripe Payment Links คุณจะตั้งค่าข้อมูลสินค้าและราคาไว้ล่วงหน้า จากนั้นคุณจะสร้าง URL สำหรับหน้าชำระเงินออนไลน์

คุณสามารถนำลูกค้าไปซื้อสินค้าบนหน้าชำระเงินได้โดยตรงด้วยการวาง URL ที่สร้างขึ้นมาลงในโปรไฟล์ Instagram ของคุณหรือใช้การใส่ลิงก์ในสตอรี่

จุดเด่นที่สำคัญของบริการลิงก์ชำระเงิน คือ คุณสามารถเริ่มขายได้เลยเพราะไม่จำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ซับซ้อน วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจแต่ละรายที่ขายสินค้าแฮนด์เมดไม่กี่ชิ้นหรือกำลังทำธุรกิจเสริมอยู่

ข้อดีของร้านค้าบน Instagram

ฟังก์ชันการช้อปปิ้งบน Instagram ช่วยให้คุณเชื่อมโยงบัญชีธุรกิจและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ รวมถึงขายสินค้าให้กับผู้ใช้ Instagram ผ่านโพสต์และสตอรี่ของคุณได้ ข้อดีหลักๆ ของการใช้ร้านค้าบน Instagram มีดังนี้

ดำเนินการตั้งแต่การค้นหาสินค้าไปจนถึงการซื้อได้อย่างราบรื่น

เมื่อใช้ฟังก์ชันการช้อปปิ้งบน Instagram ผู้ใช้สามารถแตะ 1 ครั้งที่แท็กสินค้าหรือการใส่สินค้าในโพสต์, คลิป Reel หรือสตอรี่ เพื่อดูข้อมูลสินค้าโดยละเอียด และไปที่หน้าการซื้อบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของธุรกิจได้

การดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่การค้นหาสินค้าไปจนถึงการซื้อจะราบรื่นขึ้น ซึ่งส่งผลให้เสียยอดขายน้อยลง

คุณสามารถขายสินค้าให้กับผู้ใช้ที่มีแรงจูงใจในการซื้อสูงได้

Instagram มีจุดเด่นคือการแสดงภาพที่เหนือชั้น และตอนนี้ แพลตฟอร์มนี้ก็ช่วยให้ผู้ใช้พบสินค้าและแบรนด์ใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านภาพเหล่านั้น สินค้าในกลุ่มที่ใช้รูปภาพและวิดีโอ เช่น ความสวยความงาม แฟชั่น เครื่องสำอาง เครื่องประดับ และสินค้าเบ็ดเตล็ดบางอย่าง ก็อาจได้รับลูกค้าที่มีแรงจูงใจในการซื้อสูงได้

คุณสามารถเปลี่ยน Instagram ให้เป็นแค็ตตาล็อกได้ด้วยแท็บ "ร้านค้า"

เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์การช้อปปิ้งบน Instagram ระบบจะเพิ่มแท็บ "ร้านค้า" ไปยังหน้าจอโปรไฟล์ของคุณ ซึ่งส่งผลให้ Instagram ของคุณทำหน้าที่เป็นแค็ตตาล็อกสินค้าได้

ผู้ใช้สามารถดูสินค้าต่างๆ ได้โดยเร็ว เปรียบเทียบ และบันทึกสินค้าที่ตนสนใจเอาไว้ได้ ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการซื้อซ้ำ

ข้อเสียของร้านค้าบน Instagram

แม้ว่าฟังก์ชันการช้อปปิ้งบน Instagram จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีปัญหาและข้อควรระวังบางอย่างที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจก่อนจะเริ่มใช้ฟีเจอร์นี้มีดังนี้

ขั้นตอนการตั้งค่าค่อนข้างซับซ้อน

หากต้องการใช้ร้านค้าบน Instagram คุณต้องสร้างเพจ Facebook เชื่อมโยงเพจนั้นกับตัวจัดการการค้าของ Meta และซิงค์แค็ตตาล็อกสินค้ากับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ

ขั้นตอนการตั้งค่าค่อนข้างซับซ้อน ธุรกิจที่ไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนนี้ก็อาจจะรู้สึกว่าการนำมาใช้เป็นเรื่องยุ่งยากมาก

คุณอาจไม่ผ่านขั้นตอนการคัดกรองของ Meta

หากต้องการใช้ฟีเจอร์การช้อปปิ้ง Meta จะต้องคัดกรองบัญชีและเนื้อหาสินค้าของคุณ ด้วยเหตุนี้ สินค้าบางกลุ่มจึงอาจไม่ผ่านขั้นตอนการคัดกรองนี้
อย่าลืมเผื่อเวลาให้เพียงพอในการเตรียมตัว เพราะขั้นตอนการคัดกรองอาจใช้เวลาระยะหนึ่ง และใบสมัครของคุณอาจถูกปฏิเสธทั้งหมดเลยก็ได้

ไม่สามารถชำระเงินภายใน Instagram ได้

เมื่อใช้ร้านค้าบน Instagram ข้อมูลสินค้าจะปรากฏอยู่ใน Instagram แต่ขั้นตอนการซื้อจริงๆ จะเกิดขึ้นบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซภายนอกของธุรกิจแทน ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้อาจจะเลิกซื้อได้ โดยขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของเว็บไซต์และความเร็วในการโหลดหน้าชำระเงิน

อย่าลืมออกแบบการผสานการทำงานระหว่าง Instagram กับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนจะเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับลูกค้า

วิธีใช้ร้านค้าบน Instagram

ขั้นตอนในการใช้ร้านค้าบน Instagram มีดังนี้

• สร้างบัญชีธุรกิจบน Instagram
  
• เชื่อมโยงกับเพจ Facebook
  
• สร้างแค็ตตาล็อกสินค้า โดยเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเอง
  
• ยื่นขอรับการตรวจสอบร้านค้าบน Instagram ของคุณ
  
• เพิ่มแท็กสินค้าไปยังรูปภาพสินค้าของคุณ
  

คุณอาจจะต้องรอสักพักหนึ่งกว่าจะใช้ฟีเจอร์นี้ในแบบที่ต้องการได้ แต่เมื่อคุณตั้งค่าแล้ว คุณก็จะสามารถนำเสนอสินค้าในโพสต์และสตอรี่ได้อย่างราบรื่น หากคุณมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอยู่แล้ว ร้านค้าบน Instagram ก็เป็นทางเลือกที่ควรลองใช้

ข้อดีของบริการลิงก์ชำระเงิน

เรามาดูข้อดีหลักๆ ของการใช้บริการลิงก์ชำระเงิน เช่น Stripe Payment Links เพื่อขายบน Instagram กัน

คุณสามารถเริ่มขายได้เลยโดยไม่ต้องมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ลิงก์ชำระเงินมีจุดเด่นตรงที่สามารถสร้าง URL ของหน้าชำระเงินโดยเฉพาะได้ทันที เพียงแค่ใส่ข้อมูลสินค้าและราคา

คุณสามารถให้ลูกค้าทำการซื้อให้เรียบร้อยได้ด้วยการโพสต์ลิงก์ลงในโปรไฟล์ Instagram หรือวางลงในข้อความส่วนตัว (DM) อีเมล ข้อความ LINE และอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

การนำสินค้าออกสู่ตลาดได้สะดวกรวดเร็วทำให้เป็นทางเลือกนี้เป็นที่น่าสนใจสำหรับกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวซึ่งต้องการเริ่มขายในจำนวนน้อยๆ ก่อน โดยไม่ต้องสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบให้ยุ่งยาก

ทางเลือกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและการดำเนินงาน

เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ลิงก์ชำระเงินจะโดดเด่นในเรื่องค่าใช้จ่ายแรกเริ่มและค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต่ำกว่า เมื่อใช้ Stripe Payment Links คุณสามารถเริ่มสร้างลิงก์ชำระเงินและขายสินค้าทางออนไลน์ได้ และคุณจะจ่ายเพียงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อดีอย่างมากต่อธุรกิจที่อยากจะรักษาค่าใช้จ่ายคงที่ให้ต่ำเข้าไว้และเพิ่มรายรับ

ความเข้ากันได้กับแอปโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความเป็นอย่างดี

คุณสามารถโพสต์ลิงก์ชำระเงินที่ไหนก็ได้ ไม่เพียงแค่บน Instagram เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Facebook, LINE และแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย คุณสามารถนำผู้ใช้จากโซเชียลมีเดียตรงไปที่หน้าชำระเงินได้โดยใช้ลิงก์โปรไฟล์และการใส่ลิงก์ในโพสต์ ข้อความ และสตอรี่ต่างๆ

การชำระเงินสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการแชร์ลิงก์ระหว่างการขายแบบตัวต่อตัวที่หน้าร้านหรือกิจกรรมออนไลน์โดยใช้ Zoom ซึ่งทำให้คุณขายได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรืออยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

ข้อเสียของบริการลิงก์ชำระเงิน

แม้ว่าลิงก์ชำระเงินจะเริ่มใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากสำหรับการขายทางออนไลน์ แต่ก็มีบางประเด็นที่คุณควรคำนึงถึง

ตัวเลือกนี้ไม่เหมาะหากคุณมีสินค้าจำนวนมาก

แม้คุณจะใช้ลิงก์ชำระเงินเพื่อขายสินค้าหลายรายการพร้อมกันได้ แต่หากคุณเปลี่ยนรายการสินค้าบ่อยๆ หรือคุณมีหน่วยในการจัดเก็บสินค้า (Stock Keeping Unit หรือ SKU) จำนวนมาก การจัดระเบียบและอัปเดตลิงก์ก็อาจใช้เวลานานได้

คุณต้องทำงานด้วยตนเอง

บริการนี้ไม่มีระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เหมือนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องยืนยันรายละเอียดคำสั่งซื้อ ส่งการแจ้งเตือนการส่งมอบ และตอบข้อสงสัยต่างๆ ด้วยตนเอง และเมื่อคำสั่งซื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็จะมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น หากคุณมีแผนที่จะขยายธุรกิจ เราขอแนะนำให้ใช้ขั้นตอนและระบบที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

การปรับแต่งไม่สามารถทำได้ง่ายๆ

แม้ว่าหน้าจอลิงก์ชำระเงินจะเรียบง่ายและดูสะอาดตา แต่สามารถออกแบบได้ค่อนข้างจำกัด ซึ่งส่งผลให้การสร้างแบรนด์และการใช้ประโยชน์จากความน่าสนใจของสินค้าทำได้ยากขึ้น คุณจึงจำเป็นต้องบอกเล่าความน่าสนใจของสินค้านั้นๆ ล่วงหน้าบน Instagram ก่อนที่จะนำนักช้อปไปยังหน้าจอชำระเงิน

วิธีใช้ Stripe Payment Links

วิธีเริ่มขายสินค้าโดยใช้ Stripe Payment Links โดยเฉพาะมีดังนี้

• สร้างบัญชี Stripe
  
• ลงทะเบียนสินค้าของคุณ รวมถึงข้อมูลที่จำเป็นต้องระบุตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ที่กำหนด (Specified Commercial Transactions Act หรือ SCTA) และนโยบายการคืนสินค้าของคุณ
  
• สร้างลิงก์ชำระเงิน
  
• ให้ลูกค้าชำระเงินโดยการแชร์ลิงก์ผ่านโปรไฟล์ Instagram, DM และโซเชียลมีเดียอื่นๆ
  

ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่นาน ซึ่งทำให้เริ่มใช้งานและสร้างลิงก์ได้ง่าย

ประเด็นสำคัญในการขายสินค้าบน Instagram ให้ประสบความสำเร็จ

ในการดึงดูดลูกค้าบน Instagram ธุรกิจต้องใช้เทคนิคการขายหลายๆ แบบ ไม่ใช่แค่การโพสต์สินค้าของตัวเอง

เรามาพูดถึงประเด็นสำคัญบางอย่างที่ช่วยให้การขายบน Instagram ประสบความสำเร็จกัน

โพสต์รูปภาพสินค้าให้ดูน่าสนใจ

Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพ คุณจึงต้องจำไว้เสมอว่าต้องสร้างรูปภาพและวิดีโอที่สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดีตั้งแต่แรกเห็น

นอกจากรูปภาพสินค้าแล้ว คุณควรโพสต์รูปภาพสินค้าขณะใช้ในสถานการณ์จริงด้วย เพื่อแสดงตัวเลือกไลฟ์สไตล์ต่างๆ ให้ใช้ Instagram Reels เข้ามาเสริมภาพนิ่งต่างๆ และช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเกี่ยวกับขนาดและการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

ทำในฟีดทั้งหมดของคุณดูเป็นหนึ่งเดียวกันโดยใช้สไตล์ที่เข้ากับการออกแบบของแบรนด์นั้นๆ คุณสามารถทำได้โดยใช้ฟิลเตอร์หรือการปรับสีแบบเดียวกันกับรูปภาพทั้งหมดของคุณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสีและโทนสีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

สร้างแท็กสินค้าและลิงก์ที่เข้าใจง่าย

แม้ว่าคุณจะเปิดร้านค้าบน Instagram หรือใช้ลิงก์ชำระเงินอยู่ คุณก็ไม่อาจรับประกันได้เลยว่าลูกค้าจะเข้าใจวิธีซื้อ หากผู้ใช้สับสนว่าจะซื้อสินค้าของคุณได้จากตรงไหน ก็มีโอกาสสูงมากที่ผู้ใช้จะออกจากเว็บไซต์ของคุณหรือเลิกซื้อ นอกจากโพสต์และสตอรี่แล้ว อย่าลืมดูด้วยว่าโปรไฟล์ธุรกิจของคุณได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจวิธีการซื้อได้ง่ายๆ

หากคุณกำลังใช้ฟังก์ชันการช้อปปิ้ง คุณสามารถติดแท็กสินค้าบนรูปภาพที่คุณโพสต์ได้ เพื่อให้ผู้ใช้ดูราคาและชื่อสินค้าได้เพียงแค่แตะที่รูปภาพสินค้านั้นๆ จากนั้น ผู้ใช้ก็สามารถคลิกลิงก์เพื่อไปยังหน้ารายละเอียดสินค้าที่มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสินค้า เมื่อถึงตรงนี้ ผู้ใช้จะสามารถไปที่หน้าการซื้อบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณได้โดยตรงเลย

เมื่อใส่สินค้าลงในสตอรี่บน Instagram ผู้ใช้สามารถเข้าดูรายละเอียดสินค้าของคุณได้โดยตรงในขณะที่ยังคงดูสตอรี่นั้นๆ อยู่

เมื่อใช้ลิงก์ชำระเงิน อย่าลืมคงลิงก์ไว้ที่ส่วนโปรไฟล์ของคุณเสมอ ให้ใส่ลิงก์ที่นำไปยังโปรไฟล์ของคุณในโพสต์และสตอรี่ทั้งหมด พร้อมข้อความ เช่น "หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเข้าไปที่ลิงก์ในโปรไฟล์" ให้ใส่ลิงก์เพิ่มเข้าไปในสตอรี่บน Instagram เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาที่หน้าการซื้อได้โดยแตะเพียงครั้งเดียว

การบันทึกคอนเทนต์ลงในไฮไลท์บน Instagram ด้วยแทนที่จะใส่ไว้ในสตอรี่เพียงอย่างเดียวก็เป็นวิธีที่ดี คุณสามารถบันทึกสตอรี่ที่มีลิงก์อยู่ลงในไฮไลท์ของโปรไฟล์ได้โดยตรง การจัดกลุ่มรายการเข้าด้วยกันโดยใช้หัวข้อต่างๆ เช่น "รายการสินค้า" และ "ซื้อที่นี่" จะช่วยยกระดับขั้นตอนการขาย และช่วยให้ผู้ใช้ที่เข้ามาครั้งแรกสามารถดูส่วนต่างๆ ในโปรไฟล์ของคุณได้ง่ายขึ้น

ใช้แฮชแท็กและคำอธิบายเพื่อให้หาเจอได้ง่ายขึ้น

คุณสามารถทำให้โพสต์บน Instagram หาเจอง่ายขึ้นได้โดยใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องและกลุ่มเป้าหมายของคุณน่าจะค้นหา ให้ใส่ใจเป็นพิเศษในการใช้แฮชแท็กที่ได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้ติดตามรายใหม่ๆ และเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหาสินค้า

นอกจากนี้ คุณควรใช้แท็กสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะ (เช่น #ชื่อแบรนด์อย่างเป็นทางการ [ใช้ชื่อแบรนด์ของคุณ]) คีย์เวิร์ดทั่วไป (เช่น #สกินแคร์) รวมถึงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือข้อกังวลใจ (เช่น #ของขวัญวันแม่ #การดูแลหนังศีรษะ) ร่วมกัน คุณควรเลือกแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ในโพสต์ของคุณด้วย

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ของคุณมีการเล่าเรื่องราวหรือเบื้องหลัง (เช่น วิธีพัฒนาสินค้า) ที่ช่วยให้ผู้ใช้อยากซื้อมากขึ้น และระบุวิธีการซื้อและลิงก์อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้ดำเนินการได้โดยไม่ลังเล

ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม

จำนวนผู้ติดตามของคุณบน Instagram จะส่งผลโดยตรงต่อการเข้าถึงโพสต์ แต่คุณควรพยายามเพิ่มจำนวนผู้ติดตามที่สนใจสินค้าของคุณจริงๆ แทนที่จะเพิ่มตัวเลขผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว

ดูแลบัญชีของคุณให้มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดด้วยการลงโพสต์, คลิป Reels และสตอรี่เป็นประจำ พยายามทำให้ผู้ใช้รายใหม่ๆ เจอคอนเทนต์ของคุณได้ง่ายโดยใช้แฮชแท็กและข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง นอกจากนี้ ให้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแคมเปญ การให้ของขวัญสำหรับผู้ติดตามโดยเฉพาะ และการนำโพสต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมาใช้

ข้อควรระวังเมื่อขายสินค้าบน Instagram

แม้ว่า Instagram จะช่วยให้เริ่มขายสินค้าได้ง่ายๆ แต่ก็ยังมีประเด็นสำคัญบางประการที่คุณต้องจำไว้

การปฏิบัติตามข้อกำหนดและนโยบายของ Instagram และ Meta

คุณต้องระวังอย่าละเมิดนโยบายของ Meta เมื่อใช้ร้านค้าหรือโฆษณาบน Instagram

สินค้าที่ไม่สามารถขายบน Instagram ได้มีระบุไว้อย่างชัดเจนในนโยบายเหล่านี้ ให้ระวังอย่าละเมิดกฎของบริษัทนี้

ใส่ใจกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของญี่ปุ่น

เมื่อขายเครื่องสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ และสินค้าอื่นๆ บางอย่าง โปรดปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยการรักษาคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเภสัชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ (PMD Act), กฎหมายต่อต้านการให้ของแถมที่ไม่สมเหตุสมผลและการนำเสนอที่ชวนให้เข้าใจผิด (Act Against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations) และ SCTA

ตัวอย่างเช่น เมื่อขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คำกล่าวอ้าง เช่น "เซรั่มนี้จะช่วยลบเลือนจุดด่างดำ" ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย PMD

กฎหมายต่อต้านการให้ของแถมที่ไม่สมเหตุสมผลและการนำเสนอที่ชวนให้เข้าใจผิด (Act Against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations) ห้ามการติดฉลากสินค้าที่เป็นเท็จหรือเกินจริง ให้ระวังอย่าบิดเบือนแหล่งกำเนิดของสินค้า และหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่สุดโต่ง เช่น "ดีที่สุดในญี่ปุ่น" เว้นแต่คุณจะสามารถแสดงหลักฐานข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างนั้นๆ ได้

หากคุณขายสินค้าหรือบริการประเภทใดก็ตาม คุณต้องระบุข้อมูลที่ SCTA กำหนดไว้ อย่าลืมแสดงข้อมูลนี้ไว้ในหน้าปลายทางของลิงก์และหน้าชำระเงินด้วย

การรับมือกับความรู้สึกปลอดภัยของลูกค้าชาวญี่ปุ่น

เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้นำวิธีการชำระเงินยอดนิยมในญี่ปุ่นและตัวเลือกการส่งมอบต่างๆ มาใช้ เช่น การชำระเงินใน konbini (กล่าวคือ การชำระเงินในร้านสะดวกซื้อ) และการส่งมอบแบบไม่ระบุตัวตน เพื่อสร้างระบบการช้อปปิ้งที่ปลอดภัยให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ ให้ใช้การตอบข้อสงสัยและ DM อย่างสุภาพและรอบคอบเพื่อสร้างความไว้วางใจ

เรื่องราวความสำเร็จในการขายสินค้าบน Instagram

ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนของธุรกิจในญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จโดยใช้ร้านค้าบน Instagram โดยเฉพาะ

บริษัททั้งหมดนี้ใช้ Instagram ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มในการให้ข้อมูล แต่ยังใช้เป็นทัชพอยต์ที่สำคัญในการมอบประสบการณ์ในแบบของแบรนด์ด้วย บริษัทเหล่านี้สานสัมพันธ์กับผู้ใช้อย่างแน่นแฟ้นด้วยการให้ข้อมูลสินค้า คำแนะนำเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และคอนเทนต์ตามช่วงเวลาเป็นประจำ

MUJI

MUJI เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบรนด์แรกของญี่ปุ่น ซึ่งนำเสนอดีไซน์ที่เรียบง่ายและใช้ได้จริงและสินค้าที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย และส่วนประกอบอาหาร โดย MUJI ยังมีหน้าร้านหลายแห่งนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย

บัญชี Instagram อย่างเป็นทางการของ MUJI จะแชร์โพสต์ต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการใหม่ๆ ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เมื่อมีการเพิ่มแท็กสินค้าลงในคลิป Reels บน Instagram และไฮไลท์ ผู้ใช้ก็สามารถซื้อสินค้าที่สะดุดตาได้เลย นอกจากนี้ การขอรับฟังไอเดียและการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกว่า MUJI ให้ความสำคัญต่อการพูดคุยติดต่อกับนักช้อปด้วย

Francfranc

Francfranc มุ่งมั่นในการช่วยสร้างความเพลิดเพลินและเติมเต็มชีวิตประจำวันด้วยดีไซน์ที่เหนือระดับ บริษัทนี้มุ่งเน้นไปที่เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายใน โดยวางขายบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตัวเอง

บัญชี Instagram อย่างเป็นทางการของธุรกิจนี้แชร์ภาพที่หลากหลายแบบ ซึ่งสื่อถึงความน่าสนใจของสินค้า เช่น สินค้าตามฤดูกาลและไอเดียในการแต่งห้องแบบคุมโทน ผู้ใช้สามารถดูสินค้าต่างๆ ได้ในโพสต์และสตอรี่ และเข้าไปที่ลิงก์เพื่อซื้อสินค้าที่สนใจบนเว็บไซต์ของบริษัท

BEAMS

BEAMS เปิดตัวที่ฮาราจูกุเมื่อปี 1976 โดยขายเครื่องแต่งกายในแบบที่เรียกกันว่า "Select shop" ซึ่งก็คือร้านบูติกที่มีสินค้าจากหลากหลายแบรนด์หรือผู้ผลิต ในปัจจุบัน BEAMS ไม่ได้ขายแค่เครื่องแต่งกายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการผลิตและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นสู่ตลาดโลกด้วย

บัญชี Instagram อย่างเป็นทางการของ BEAMS จะคอยแนะนำเครื่องแต่งกาย แนะนำสินค้าใหม่ๆ และให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ โพสต์ของธุรกิจนี้ใช้แท็กสินค้าอย่างชำนาญเพื่อสร้างกระบวนการขายที่คล่องตัว

เคล็ดลับสำหรับการเริ่มต้นขายบน Instagram ให้ราบรื่น

ในการขายสินค้าบน Instagram ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญก็คือ ให้ใส่ใจวิธีที่คุณนำเสนอโพสต์อย่างใกล้ชิด ออกแบบเส้นทางการซื้อ (เช่น กระบวนการขาย) อย่างถี่ถ้วน และรักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้ใช้

การทำความเข้าใจคุณลักษณะต่างๆ ของร้านค้าบน Instagram และบริการลิงก์ชำระเงิน และการเลือกวิธีขายให้เหมาะกับสินค้าและการดำเนินงานของคุณมากที่สุดก็คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ

นอกจากนี้ เมื่อขายสินค้าบน Instagram ในญี่ปุ่น สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด เช่น กฎหมาย PMD และกฎหมายต่อต้านการให้ของแถมที่ไม่สมเหตุสมผลและการนำเสนอที่ชวนให้เข้าใจผิด (Act Against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations) นอกจากนี้ อย่าลืมให้ข้อมูลโดยละเอียดและติดต่อพูดคุยอย่างให้เกียรติ โดยคำนึงถึงพฤติกรรมการซื้อที่รอบคอบของลูกค้าชาวญี่ปุ่นไว้อยู่เสมอ

ตอนเริ่มต้น เราขอแนะนำให้ใช้สินค้าและบริการที่คุ้นเคยก่อน และตั้งเป้าในการสร้างฐานแฟนคลับของธุรกิจ เพื่อให้คุณสร้างยอดขายบน Instagram ได้เป็นอย่างดี