การจดทะเบียนภาษีสินค้าและบริการ (GST) เป็นข้อกําหนดทางกฎหมายสําหรับธุรกิจในนิวซีแลนด์เมื่อรายรับต่อปีเกิน 60,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) แต่ก่อนหน้านั้น การจดทะเบียนอาจมอบประโยชน์ในการปรับปรุงกระแสเงินสดและทำให้ธุรกิจของคุณดูมั่นคงยิ่งขึ้น เจ้าของธุรกิจจําเป็นต้องรู้ว่าเมื่อใดที่ควรจดทะเบียน วิธีการจดทะเบียน และสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อคุณอยู่ในระบบ ด้านล่างนี้เราจะอธิบายวิธีการจดทะเบียน GST ด้วยความชัดเจนและความมั่นใจ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียน GST
  
• วิธีการทํางานของการจดทะเบียน GST
  
• จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณจดทะเบียน
  
• ประโยชน์ของการจดทะเบียน GST มีอะไรบ้าง
  

ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียน GST

นิวซีแลนด์ใช้ GST ในอัตรา 15% กับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ ธุรกิจบางแห่งอาจไม่จําเป็นต้องจดทะเบียนทันที แต่จะมีเกณฑ์ที่ชัดเจน หากรายรับรวมสุทธิของคุณ (ไม่ใช่กำไร) เกิน 60,000 NZD ในช่วง 12 เดือนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาหรือคาดการณ์ไว้ในช่วงถัดไป คุณจะต้องจดทะเบียนภาษี GST กับกรมสรรพากร (IRD) ตามกฎหมาย ในทางปฏิบัติหมายความว่า:

• หากคุณมีผลกําไรมากกว่า 60,000 NZD ในปีที่ผ่านมา คุณต้องจดทะเบียนทันที

• หากคุณลงนามในสัญญาที่รับประกันรายรับมากกว่า 60,000 NZD ใน 12 เดือนข้างหน้านี้ คุณต้องจดทะเบียนโดยเร็วที่สุดเมื่อคาดว่าจะถึงเกณฑ์

หากคุณไม่จดทะเบียนเมื่อจำเป็น IRD สามารถบังคับใช้ภาระผูกพัน GST ของคุณย้อนหลังได้ ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องเสียภาษี GST จากยอดขายที่ผ่านมา แม้ว่าคุณจะไม่ได้เรียกเก็บเงินจากลูกค้าก็ตาม ติดตามรายได้ของคุณอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบางครั้งธุรกิจอาจผ่านเกณฑ์ได้เร็วกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องมาจากความต้องการตามฤดูกาลหรือสัญญาครั้งเดียวจำนวนมาก ตั้งระบบเพื่อติดตามรายได้เป็นช่วง 12 เดือนต่อเนื่องกัน แทนที่จะเป็นเพียงปีปฏิทิน และอย่ารอจนถึงนาทีสุดท้ายจึงค่อยจดทะเบียน

การจดทะเบียน GST โดยสมัครใจ

หากรายได้ของคุณต่ำกว่าเกณฑ์ 60,000 NZD คุณยังสามารถเลือกจดทะเบียน GST ได้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ แต่ก็สามารถเพิ่มงานด้านงานธุรการได้เช่นกัน คุณอาจจดทะเบียนสมัครใช้ GST โดยสมัครใจหากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

• คุณต้องการขอรับเงินคืน GST จากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ หากคุณได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากในอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ หรือสินค้าคงคลัง การจดทะเบียน GST จะช่วยชดเชยต้นทุนบางส่วนที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้

• คุณจําหน่ายสินค้าให้กับธุรกิจอื่นๆ ที่จดทะเบียน GST เป็นส่วนใหญ่ หากลูกค้าของคุณสามารถเรียกร้อง GST คืนได้ คุณจะไม่ต้องกังวลมากนักว่าการปรับราคา GST จะส่งผลกระทบต่อความต้องการ

คุณอาจไม่ต้องการจดทะเบียน GST หากเป็นไปตามกรณีต่อไปนี้:

• คุณขายให้กับลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ การจดทะเบียนหมายความว่าคุณต้องเพิ่มภาษี GST ไปยังราคา ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมีขีดความสามารถในการแข่งขันน้อยลง

• คุณมีค่าใช้จ่ายทางธุรกิจต่ํา การไม่มียอดซื้อจำนวนมากหมายความว่าไม่มีการเรียกร้อง GST คืน ซึ่งจะทำให้สิทธิประโยชน์ของการจดทะเบียนลดลง

• คุณต้องการให้งานธุรการเป็นเรื่องง่าย การจดทะเบียน GST มาพร้อมกับภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามข้อกําหนด เช่น การยื่นแบบแสดงรายการภาษี การออกใบกํากับภาษี และการติดตาม GST

วิธีการทํางานของการจดทะเบียน GST

คุณสามารถจดทะเบียนสําหรับ GST ออนไลน์ได้ผ่าน myIR ซึ่งเป็นพอร์ทัลภาษีของ IRD หากคุณจําเป็นต้องจดทะเบียน (หรือเลือกจดทะเบียนโดยสมัครใจ) ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องทํา

เตรียมข้อมูลของคุณให้พร้อม

ก่อนที่คุณจะเริ่มกรอกใบสมัคร โปรดเตรียมรายละเอียดเหล่านี้ไว้ให้พร้อม:

• หมายเลข IRD ของคุณ: นี่คือหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีสําหรับธุรกิจของคุณ (คุณจะมีหมายเลข IRD ส่วนบุคคลหากคุณเป็นผู้ค้าแต่เพียงผู้เดียว)

• บัญชีธนาคารของธุรกิจ: หากคุณมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน GST ทาง IRD จะจ่ายเงินเข้าบัญชีนี้

• รายรับโดยประมาณของคุณ: คุณจะต้องระบุผลประกอบการในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาและยอดประมาณสําหรับ 12 เดือนข้างหน้า

• รหัสการจําแนกประเภทอุตสาหกรรมของธุรกิจ (BIC): นี่คือรหัสที่จัดหมวดหมู่อุตสาหกรรมของคุณ หากไม่ทราบ คุณสามารถค้นหาได้ด้วยเครื่องมือออนไลน์นี้

• ความถี่ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี GST: ตัวเลือกมาตรฐานคือทุกๆ 2 เดือน ทุกๆ 6 เดือน (ตัวเลือกสําหรับธุรกิจที่มีรายรับต่ํากว่า 500,000 NZD) หรือรายเดือน (จําเป็นหากรายรับของคุณมากกว่า 24 ล้าน NZD)

• วิธีการทําบัญชี GST ที่คุณต้องการ: ส่วนนี้จะกําหนดว่าคุณต้องชําระเงิน GST เมื่อใด หากรายได้ของคุณคือ 2 ล้าน NZD หรือน้อยกว่า คุณสามารถใช้วิธีการชำระเงิน (เงินสด) และชำระ GST เมื่อคุณได้รับการชำระเงินจากลูกค้าเท่านั้น หากรายได้ของคุณเกิน 2 ล้าน NZD คุณต้องใช้ระบบใบแจ้งหนี้ (บัญชีค้างจ่าย) และชำระ GST ทันทีที่ส่งใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าลูกค้าจะชำระเงินหรือไม่ก็ตาม

กรอกใบสมัครให้เสร็จสิ้น

เข้าสู่ระบบ myIR หากคุณไม่มีบัญชี คุณจะต้องสร้างบัญชีบนเว็บไซต์ของ IRD ในแดชบอร์ด ให้ค้นหาส่วนสําหรับการจดทะเบียนบัญชีภาษีใหม่ เลือกหมายเลข IRD สําหรับธุรกิจของคุณ แล้วเลือก "Goods and services tax (GST)" (ภาษีสินค้าและบริการ (GST)) ป้อนข้อมูลธุรกิจของคุณและกรอกข้อมูลในช่องที่จําเป็นทั้งหมดในส่วน "GST registration" (การจดทะเบียน GST) ตรวจสอบและส่งใบสมัคร

รอการอนุมัติ

โดยปกติคุณจะได้รับการยืนยันทันทีใน myIR ว่าระบบได้รับใบสมัครของคุณแล้ว IRD ประมวลผลการจดทะเบียนภายใน 10 วันทําการ แต่อาจติดต่อคุณเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อคุณได้รับอนุมัติแล้ว IRD จะส่งการยืนยันการจดทะเบียน GST ให้คุณ ซึ่งรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

• หมายเลข GST ของคุณ: ต้องระบุในใบแจ้งหนี้ที่มีการเรียกเก็บเงิน GST

• วันที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการของคุณ: นี่คือวันที่ที่กฎหมายกําหนดให้คุณต้องเรียกเก็บค่า GST จากการขาย

ข้อผิดพลาดในการจดทะเบียนที่ควรหลีกเลี่ยง

ธุรกิจควรระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทั่วไปเหล่านี้

• รอจดทะเบียนนานเกินไป: เมื่อรายรับของคุณถึงเกณฑ์ 60,000 NZD แล้ว คุณจะต้องจดทะเบียนทันที หากคุณล่าช้า IRD สามารถบังคับใช้ภาระผูกพัน GST ของคุณย้อนหลังได้

• การจดทะเบียนเร็วเกินไป: หากธุรกิจของคุณไม่มีค่าใช้จ่ายหลักๆ และมีรายได้ต่ำกว่า 60,000 NZD การจดทะเบียนโดยสมัครใจสามารถสร้างงานพิเศษให้กับคุณได้ และบังคับให้ขึ้นราคาโดยไม่ให้ผลประโยชน์ที่สำคัญ

• การเลือกวิธีการทําบัญชีที่ไม่ถูกต้อง: การชำระเงินแบบเงินสดเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่ง เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้จะชำระภาษี GST เฉพาะเงินที่ได้รับเท่านั้น ใบแจ้งหนี้ (รายการคงค้าง) หมายความว่าคุณต้องชำระ GST ทันทีที่ออกใบแจ้งหนี้ แม้ว่าลูกค้าจะยังไม่ได้ชำระเงินก็ตาม ซึ่งอาจทําให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดได้หากลูกค้าไม่ชําระเงินตรงเวลา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้ระบบใบแจ้งหนี้

• เลือกความถี่ในการยื่นที่ไม่ถูกต้อง: การยื่นภาษีทุกๆ สองเดือนช่วยให้สามารถจัดการกระแสเงินสดและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายด้านภาษีก้อนใหญ่ได้ การยื่นภาษีทุกๆ 6 เดือนฟังดูง่ายกว่า แต่ก็อาจมีความเสี่ยง การชําระเงินที่ล่าช้าเป็นเวลานานหมายความว่าคุณอาจได้รับใบเรียกเก็บเงิน GST จํานวนมากในคราวเดียว ธุรกิจที่มีรายได้รวมมากกว่า 24 ล้าน NZD จะต้องยื่นภาษีเป็นรายเดือน

• การป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง: ข้อผิดพลาดในหมายเลข IRD, รายละเอียดธนาคาร หรือรหัส BIC อาจทําให้การอนุมัติล่าช้า ตรวจสอบรายการของคุณอีกครั้งก่อนส่ง

• การเรียกเก็บเงิน GST ก่อนที่คุณจะจดทะเบียน: อย่าเพิ่ม GST ลงในใบแจ้งหนี้จนกว่าการจดทะเบียนของคุณจะได้รับการยืนยัน หากคุณเรียกเก็บเงินจาก GST โดยไม่ได้ตั้งใจก่อนที่คุณจะจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ IRD อาจกําหนดให้คุณคืนเงินให้กับลูกค้าหรือปรับวันที่จดทะเบียนของคุณ

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณจดทะเบียน

เมื่อคุณจดทะเบียน GST แล้ว วิธีการจัดการราคา การออกใบแจ้งหนี้ และการยื่นภาษีก็จะเปลี่ยนไป ตอนนี้ IRD คาดหวังให้คุณรวบรวม รายงาน และนําส่ง GST อย่างถูกต้อง

การเรียกเก็บและการเก็บ GST

คุณจะต้องเพิ่ม GST ในอัตรา 15% ในการขายที่ต้องเสียภาษีทั้งหมด คุณต้องอัปเดตค่าบริการและการออกใบแจ้งหนี้ดังต่อไปนี้

• ใบแจ้งหนี้ต้องแสดงจํานวนเงินที่เป็นยอด GST อย่างชัดเจน และมีหมายเลข GST และคําว่า "ใบกํากับภาษี" ระบุไว้ด้วย

• คุณอาจต้องออก "ใบกํากับภาษี" สําหรับการขาย B2B หากลูกค้าของคุณก็จดทะเบียนด้วย พวกเขาอาจขอเอกสารนี้เพื่อขอคืน GST

หากคุณใช้ราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (GST) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (GST) อย่างถูกต้องด้วยสูตรนี้:

ราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม = ราคาที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม × 1.15

การยื่นแบบแสดงรายการ GST และการชําระ GST

เมื่อจดทะเบียนแล้ว คุณต้องยื่นแบบแสดงรายการ GST ตามกําหนดการที่คุณเลือก ในแบบแสดงรายการภาษีแต่ละฉบับ ให้รายงาน GST ที่จัดเก็บจากการขายและภาษี GST ที่จ่ายจากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ

หากคุณเรียกเก็บ GST มากกว่าที่ชําระไปแล้ว คุณจะต้องชําระยอดคงเหลือให้กับ IRD หากภาษี GST ที่คุณชำระสำหรับค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเกินกว่าที่คุณเก็บจากการขายในช่วงเวลาหนึ่ง คุณควรได้รับเงินคืนภาษี GST

โดยปกติการชําระเงิน GST จะครบกําหนดชําระภายในวันที่ 28 ของเดือนถัดจากรอบภาษีของคุณ ตัวอย่างเช่น หากรอบภาษีของคุณสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคม การคืนภาษีและการชําระเงินของคุณจะครบกําหนดภายในวันที่ 28 กันยายน การพลาดกําหนดอาจทําให้เกิดบทลงโทษจากการชําระเงินล่าช้าและต้องเสียดอกเบี้ย

การปฏิบัติตามข้อกําหนดของ GST โดยอัตโนมัติด้วย Stripe

Stripe ช่วยให้การติดตาม GST และการปฏิบัติตามข้อกําหนดเป็นเรื่องง่ายสําหรับธุรกิจของคุณ ระบบสามารถติดตามยอดขายและแจ้งเตือนคุณเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์ 60,000 NZD ดังนั้นคุณจึงไม่พลาดข้อกําหนดการจดทะเบียน

เมื่อจดทะเบียนแล้ว คุณจะป้อนหมายเลข GST ลงใน Stripe ได้ และระบบก็จะเริ่มเก็บ GST จากธุรกรรมที่มีสิทธิ์ Stripe Tax สามารถคํานวณและใช้ GST ที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติในขั้นตอนการชําระเงิน และติดตามจํานวนเงินที่คุณต้องชําระ

ประโยชน์ของการจดทะเบียน GST มีอะไรบ้าง

การจดทะเบียน GST อาจเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ แม้จะหมายถึงการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเป็นประจํา แต่ก็ช่วยเพิ่มความคล่องตัวของกระแสเงินสด เพิ่มความน่าเชื่อถือ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตในอนาคตได้ วิธีการมีดังนี้

ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ

เมื่อจดทะเบียนแล้ว คุณจะสามารถขอคืนภาษี GST ที่จ่ายไปจากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเงินได้มากในระยะยาว หากคุณซื้อแล็ปท็อปสำหรับทำงานในราคา 1,150 NZD (รวม GST จำนวน 150 NZD) คุณสามารถขอรับเงินคืน 150 NZD จาก IRD ได้ หากไม่มีการจดทะเบียน GST จำนวน 150 NZD นั้นก็จะเป็นเพียงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การทำเช่นนี้สามารถสร้างความแตกต่างที่มีความหมายให้กับธุรกิจที่มีค่าใช้จ่ายบ่อยครั้ง เช่น อุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ และสินค้าคงคลัง หากคุณใช้จ่ายเกินกว่าที่คุณได้รับในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณอาจได้รับคืนภาษี GST จาก IRD อีกด้วย

ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

การมีหมายเลข GST แสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณมีรายได้อย่างน้อย 60,000 NZD ต่อปี หรือได้สมัครใจเข้าสู่ระบบภาษี สิ่งนี้สามารถทําให้คุณดูมั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ลูกค้าและซัพพลายเออร์คาดหวังว่าธุรกิจจะจดทะเบียนกับ GST

บริษัทขนาดใหญ่และหน่วยงานของรัฐบางแห่งจะเลือกทํางานกับธุรกิจที่จดทะเบียน GST เท่านั้น หากคุณให้บริการ B2B ลูกค้าหลายรายคาดหวังว่าจะเห็น GST ในใบแจ้งหนี้เพื่อให้สามารถขอคืนภาษีได้ หากคุณไม่ได้จดทะเบียน ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอาจคิดว่าธุรกิจของคุณมีขนาดเล็กเกินไปหรือยังไม่มั่นคง

การเติบโตของธุรกิจ

หลายๆ ธุรกิจรอจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องจดทะเบียน GST จริงๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาได้หากรายได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด หากจดทะเบียนตั้งแต่เนิ่นๆ คุณจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการชำระภาษี GST จากรายได้ที่ผ่านมา และจะมั่นใจได้ว่ากระบวนการกำหนดราคาและการออกใบแจ้งหนี้ของคุณได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งนี้จะช่วยให้การเติบโตง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่มีความผันผวนตามฤดูกาลหรือการเติบโตที่คาดเดาได้ยาก

หากคุณจดทะเบียน การจัดระเบียบเป็นสิ่งสําคัญ ติดตามใบแจ้งหนี้ ตั้งการแจ้งเตือนสำหรับการยื่นกำหนดเวลา และพิจารณาใช้ซอฟต์แวร์การบัญชี เพื่อลดความซับซ้อนในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับภาระหน้าที่ด้าน GST ทรัพยากรของ IRD หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีสามารถให้คําแนะนําได้