คาดว่าการทยอยนำหมายเลขประจําตัวของธุรกิจมาใช้ในเยอรมนีจะแล้วเสร็จภายในปี 2026 หมายเลขประจําตัวแบบใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความซับซ้อนและเร่งกระบวนการปัจจุบัน

บทความนี้ให้ภาพรวมอย่างละเอียดว่าหมายเลขประจําตัวธุรกิจแบบใหม่คืออะไร เหตุใดจึงเริ่มนํามาใช้ และผู้ที่จะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีการมอบหมายเลขประจําตัวธุรกิจ ตลอดจนผลทางกฎหมายต่อธุรกิจในเยอรมนี

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• หมายเลขประจําตัวธุรกิจคืออะไร
  
• เหตุใดจึงมีการนําหมายเลขประจําตัวธุรกิจมาใช้
  
• ใครบ้างที่จะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• ตัวอย่างหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• วิธีขอหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• วิธีจัดสรรหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• หมายเลขประจําตัวธุรกิจในเยอรมนีจะมีผลทางกฎหมายต่อธุรกิจในเยอรมนีอย่างไร
  

หมายเลขประจําตัวธุรกิจคืออะไร

หมายเลขประจําตัวธุรกิจ (ID) หรือที่เรียกว่า Wirtschafts-ID หรือ W-IdNr ในภาษาเยอรมัน เป็นรหัสระบุเฉพาะสําหรับผู้เสียภาษีในเยอรมนีที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจ ตามมาตรา 139a และ 139c ของประมวลกฎหมายภาษีเยอรมัน(AO) หมายเลขประจําตัวธุรกิจมีวัตถุประสงค์ที่คล้ายคลึงกันกับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี (หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี) นั่นคือให้ข้อมูลประจําตัวที่ไม่ซ้ำกัน

แม้ว่าสํานักงานภาษีจะใช้หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีในเรื่องที่เกี่ยวกับภาษีเป็นหลัก แต่หมายเลขประจําตัวธุรกิจจะใช้สําหรับการระบุธุรกิจโดยทั่วไปในธุรกรรมทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในอนาคต หมายเลขประจําตัวธุรกิจจะเข้ามาแทนที่หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษียังคงใช้ได้ในขณะนี้

หมายเลขประจําตัวธุรกิจยังแตกต่างจากหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) (USt-ID) เพราะหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มใช้สําหรับการค้าภายในชุมชนภายในสหภาพยุโรป (EU) โดยเฉพาะ ดังนั้น หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจึงมีความสําคัญสําหรับธุรกิจที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศภายในสหภาพยุโรป ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่ทําธุรกรรมภายในประเทศเท่านั้นไม่จําเป็นต้องมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดในเยอรมนีต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจ

เหตุใดจึงมีการนําหมายเลขประจําตัวธุรกิจมาใช้

มีการนําหมายเลขประจําตัวธุรกิจมาใช้เพื่อปรับระบบให้ทันสมัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารภาษีสําหรับธุรกิจในเยอรมนี จากข้อมูลของสํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลาง หมายเลขประจําตัวธุรกิจคือ "รากฐานที่สําคัญสําหรับการเปลี่ยนเป็นดิจิทัล" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานและธุรกิจต่างๆ ทั่วเยอรมนี

หมายเลขประจําตัวธุรกิจจะยังคงใช้ได้ตราบเท่าที่ธุรกิจยังคงดําเนินงานอยู่ โดยจะไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะมีการอัปเดตข้อมูลสําคัญ เช่น ชื่อเจ้าของธุรกิจ สถานภาพการสมรส ที่อยู่พํานักอาศัย หรือสถานที่จัดการ ดังนั้นจึงทําหน้าที่คล้ายกับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี กล่าวคือหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีสําหรับผู้เสียภาษีรายบุคคล หมายเลขประจําตัวธุรกิจมีไว้สําหรับธุรกิจและเจ้าของธุรกิจ

ในระยะยาว หมายเลขประจําตัวธุรกิจควรทําให้กระบวนการด้านภาษีและการบริหารในเยอรมนีง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ ระบบจะทยอยนำหมายเลขประจำตัวธุรกิจไปใช้ในแบบฟอร์มและใบสมัครจากหน่วยงานภาษี ในที่สุด หมายเลขประจําตัวธุรกิจจะเป็นข้อมูลประจำตัวหลักในการระบุธุรกิจเพื่อใช้ในการสื่อสารกับหน่วยงานราชการ ตามหลักการแล้ว ธุรกิจไม่จําเป็นต้องส่งข้อมูลของตนไปยังหน่วยงานต่างๆ อีกต่อไปในอนาคต และจะระบุหมายเลขประจําตัวธุรกิจแทน วิธีนี้จะช่วยลดภาระในการดูแลระบบได้อย่างมากสําหรับทั้งธุรกิจและหน่วยงานภาษี ความโปร่งใสด้านภาษีน่าจะดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งช่วยให้หน่วยงานตรวจสอบติดตามและควบคุมได้ดีขึ้น

หากคุณต้องการลดความซับซ้อนของกระบวนการภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรดพิจารณาใช้ Stripe Tax Tax ช่วยให้คุณคํานวณ เรียกเก็บ และรายงานภาษีสําหรับการชําระเงินระหว่างประเทศได้ เทคโนโลยีของ Stripe จะคํานวณจํานวนภาษีที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ ทําให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ Tax ยังให้คุณเข้าถึงเอกสารภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และช่วยให้คุณยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอีกด้วย

ใครบ้างที่จะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจ

ระบบจะออกหมายเลขประจําตัวธุรกิจให้กับบุคคลทั่วไปและนิติบุคคลทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจในเยอรมนี ซึ่งรวมถึง

• ผู้ทํางานอิสระและผู้ประกอบอาชีพอิสระ: ผู้ทํางานอิสระต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจ เช่นเดียวกับบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมเชิงพาณิชย์
  
• ผู้ประกอบการ: บริษัทต่างๆ เช่น บริษัทจํากัด (GmbHs) หรือบริษัทหุ้น ห้างหุ้นส่วน เช่น GmbH &; Co. KGs และกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการค้าที่ต้องเสียภาษี จะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• พนักงานภาคเอกชน: พนักงานที่ได้รับเงินเดือนซึ่งมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการค้าด้วย เช่น ธุรกิจเสริมหรือการทํางานอิสระ จะต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• เกษตรกร: ทุกคนที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีจากกิจกรรมการเกษตรจะต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจ
  
• สมาคมและมูลนิธิ: องค์กรที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์แต่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น สมาคม จะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจด้วยหากสร้างรายได้ที่ต้องเสียภาษี
  

แต่ไม่ใช่ว่าบุคคลทั่วไปและนิติบุคคลทั้งหมดที่สร้างรายได้หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจโดยอัตโนมัติ ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อยกเว้น

• บุคคลทั่วไปที่มีรายได้จากการเช่า: บุคคลที่มีรายได้จากการเช่าเท่านั้นจะไม่ถือว่ามีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ของหมายเลขประจําตัวธุรกิจ รายได้ค่าเช่าปกติจัดเป็นรายได้ส่วนบุคคล ไม่ใช่รายได้จากกิจกรรมทางธุรกิจ
  
• การจัดการสินทรัพย์ส่วนตัว: บุคคลที่จัดการสินทรัพย์แบบส่วนตัวโดยไม่มีเจตนาทางการค้าหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงานอิสระ จะไม่ได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆ
  
• องค์กรที่ไม่ต้องเสียภาษี: องค์กรไม่แสวงผลกําไรหรือองค์กรที่ได้รับการยกเว้นภาษีซึ่งไม่ได้ดําเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์ก็ไม่จําเป็นต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจ และไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับด้านภาษีที่บังคับใช้กับนิติบุคคลเชิงพาณิชย์
  

ตัวอย่างหมายเลขประจําตัวธุรกิจ

สํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลาง (BZSt) ใช้รูปแบบที่เรียบง่ายในการออกหมายเลขประจําตัวธุรกิจ โดยจะประกอบด้วยตัวอักษรนําหน้า "DE" ตามด้วยตัวเลข 9 หลักที่ไม่ซ้ำกัน เช่นเดียวกับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีการขาย

ตัวอย่าง: DE123456789

หมายเลขประจําตัวธุรกิจจะมีรหัสระบุสำหรับจำแนกอีก 5 หลัก ซึ่งต่างจากหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีการขาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ และสถานประกอบการถาวรแต่ละประเภทจะได้รับการกําหนดหมายเลขตามลําดับ โดยเริ่มต้นด้วย "00001"

• ตัวอย่างสําหรับกิจกรรมแรก: DE123456789-00001
  
• ตัวอย่างสําหรับกิจกรรมที่ 2: DE123456789-00002
  
• ตัวอย่างสําหรับกิจกรรมที่ 3: DE123456789-00003
  

โปรดทราบว่าหมายเลขประจําตัวธุรกิจไม่รวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลการดําเนินงาน ซึ่งหมายความว่าไม่รวมรายละเอียด เช่น สํานักงานภาษีที่รับผิดชอบหรือลักษณะของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รหัสระบุทั้งหมดจะเชื่อมโยงกับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี ซึ่งจดทะเบียนธุรกิจหรือสถานประกอบการถาวรกับสํานักงานสรรพากร

วิธีขอหมายเลขประจําตัวธุรกิจ

สํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลางออกหมายเลขประจําตัวธุรกิจโดยอัตโนมัติ จึงไม่จําเป็นต้องสมัคร และมีผลกับธุรกิจสตาร์ทอัพด้วย โดยระบบจะกําหนดหมายเลขให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจดทะเบียนภาษีโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการนําหมายเลขประจําตัวธุรกิจมาใช้นั้นมีความท้าทายทางเทคนิคและด้านการบริหารอย่างมากสําหรับสํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลาง หน่วยงานจึงใช้วิธีทยอยออกหมายเลขดังกล่าว บุคคลทั่วไปและนิติบุคคลทั้งหมดที่ต้องมีหมายเลขประจําตัวธุรกิจจะได้รับแจ้งล่วงหน้า บุคคลใดก็ตามที่กฎหมายกําหนดให้ต้องระบุหมายเลขประจําตัวธุรกิจในประกาศหรือรายงานจะต้องดำเนินการดังกล่าวหลังจากได้รับหมายเลขแล้วเท่านั้น

วิธีจัดสรรหมายเลขประจําตัวธุรกิจ

สํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลางออกหมายเลขประจําตัวธุรกิจเป็นระยะๆ มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2024

ในระยะแรก นิติบุคคลเชิงพาณิชย์จะได้รับหมายเลขพร้อมรหัสระบุหากจําเป็นต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มประจําปีหรือดําเนินธุรกิจขนาดเล็กภายใต้มาตรา 19 ของกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มของเยอรมนี (UStG)

นิติบุคคลเชิงพาณิชย์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกําหนดเหล่านี้จะได้รับหมายเลขประจําตัวธุรกิจในระยะที่ 2 โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2025

ในระยะที่ 3 สํานักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลางจะออกรหัสระบุเพิ่มเติมให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายรายการ โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2026 อย่างเร็วที่สุด

หมายเลขประจําตัวธุรกิจในเยอรมนีจะมีผลทางกฎหมายต่อธุรกิจในเยอรมนีอย่างไร

ธุรกิจในเยอรมนีจําเป็นต้องใช้หมายเลขประจําตัวธุรกิจตามกฎหมายหากต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับภาษี ตัวอย่างเช่น ธุรกิจจะต้องระบุหมายเลขนี้เมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือสื่อสารกับหน่วยงานภาษี หากไม่มีหมายเลขประจําตัวธุรกิจหรือใช้อย่างไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าหรือปัญหาในการจัดการเมื่อประมวลผลแบบแสดงรายการภาษี

ธุรกิจที่มีเว็บไซต์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยประกาศทางกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับนี้เกิดขึ้นจากมาตรา 5 วรรค 1 ข้อ 6 ของกฎหมายว่าด้วยบริการดิจิทัลของเยอรมนี (DDG) โดยระบุว่าหากธุรกิจในเยอรมนีมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องระบุหมายเลขนี้หรือหมายเลขประจําตัวธุรกิจในประกาศทางกฎหมายด้วย กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องระบุทั้งสองหมายเลข อย่างไรก็ตาม หากธุรกิจเลือกที่จะไม่ระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจจะต้องระบุหมายเลขประจําตัวธุรกิจในประกาศทางกฎหมายด้วย