การตรวจสอบเพื่อป้องกันการฟอกเงิน (AML): คืออะไร เหตุใดจึงสำคัญ และปฏิบัติให้ถูกต้องได้อย่างไร

Radar
Radar

ต้านการฉ้อโกงด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของเครือข่าย Stripe

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การตรวจสอบ AML คืออะไร
  3. เหตุใดจึงต้องตรวจสอบ AML
  4. ขั้นตอน AML ทำงานอย่างไร และมีขั้นตอนโดยละเอียดอย่างไรบ้าง
    1. ยืนยันตัวตน
    2. ประเมินความเสี่ยงของลูกค้า
    3. เจาะลึกข้อมูลเพื่อหาโปรไฟล์ความเสี่ยงสูง
    4. ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง
    5. รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย
  5. ข้อกำหนดหลักของ AML สำหรับธุรกิจมีอะไรบ้าง
    1. แต่งตั้งบุคคลที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินงาน AML
    2. ฝึกอบรมทีม
    3. ตรวจสอบและอัปเดตเป็นประจำ
  6. ความเสี่ยงด้านการป้องกันการฟอกเงินที่ร้ายแรงที่สุดในการชำระเงินดิจิทัลมีอะไรบ้าง
    1. การชำระเงินแบบเรียลไทม์ไม่เหลือพื้นที่ให้เกิดข้อผิดพลาด
    2. การซ้อนทับระหว่างการฉ้อโกงกับการฟอกเงิน
    3. ธุรกรรมแบบจัดโครงสร้างที่สังเกตเห็นได้ยากในภาพรวม
    4. การกระจายตัวทางระเบียบข้อบังคับทำให้เกิดจุดอ่อน
    5. คริปโตเพิ่มความซับซ้อนอีกขั้น
    6. การละเมิดการคว่ำบาตรอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันสังเกต
    7. ความเสี่ยงดูไม่เหมือนความเสี่ยงเสมอไป
  7. Stripe Financial Connections ช่วยอะไรได้บ้าง

การฟอกเงินอาจปรากฏให้เห็นในกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน ระบบการเบิกจ่าย และบันทึกธุรกรรม โดยซ่อนอยู่เบื้องหลังบริษัทบังหน้า ชื่อตำแหน่งงานที่คลุมเครือ และรูปแบบการชำระเงินที่ดูสับสน การตรวจสอบเพื่อป้องกันการฟอกเงิน (AML) เป็นวิธีป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์ของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการประเภทนี้ ด้านล่างนี้เราจะอธิบายว่าการตรวจสอบ AML มีอะไรบ้าง ใช้หาความเสี่ยงใด และจะสร้างระบบที่ปรับขนาดได้อย่างไร

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • การตรวจสอบ AML คืออะไร
  • เหตุใดจึงต้องตรวจสอบ AML
  • ขั้นตอน AML ทำงานอย่างไร และมีขั้นตอนโดยละเอียดอย่างไรบ้าง
  • ข้อกำหนดหลักของ AML สำหรับธุรกิจมีอะไรบ้าง
  • ความเสี่ยงด้านการป้องกันการฟอกเงินที่ร้ายแรงที่สุดในการชำระเงินดิจิทัลมีอะไรบ้าง
  • Stripe Financial Connections ช่วยอะไรได้บ้าง

การตรวจสอบ AML คืออะไร

การตรวจสอบ AML เป็นขั้นตอนที่ธุรกิจใช้เพื่อยืนยันตัวตนของลูกค้า และเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าไม่ได้เคลื่อนย้ายเงินทุนผิดกฎหมาย โดยทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันแรกในระบบการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ครอบคลุมกว้างขึ้น ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตรวจจับและป้องกันการฟอกเงิน การเงินเพื่อสนับสนุนการก่อการร้าย และการฉ้อโกงทางการเงิน

อย่างน้อยก็ต้องมีการเก็บรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของบุคคลทั่วไป (เช่น ชื่อ วันเกิด ที่อยู่ บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล) และธุรกิจ (เช่น การจดทะเบียนนิติบุคคล โครงสร้างกรรมสิทธิ์ ตัวแทนที่ได้รับอนุญาต)

นอกจากนี้ ยังมีการคัดกรองลูกค้าเพื่อให้ทราบข้อมูลต่อไปนี้

  • การมีชื่ออยู่ในรายชื่อการคว่ำบาตรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติของสหรัฐอเมริกา (OFAC) และสหประชาชาติ
  • การจำแนกประเภทว่าเป็นบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEP)
  • สื่อเชิงลบหรือที่เรียกว่า "ข่าวเสีย" หรือตำแหน่งที่ตั้งที่มีความเสี่ยงสูง

คุณต้องทำความเข้าใจว่าเงินของลูกค้ามาจากที่ใดและเพื่อจุดประสงค์ใดโดยพิจารณาตามความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อนหรือผู้ซื้อที่ดำเนินธุรกิจในภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง

เหตุใดจึงต้องตรวจสอบ AML

การตรวจสอบ AML เป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากป้องกันการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนเพื่อการสนับสนุนการก่อการร้าย ธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด AML จะต้องเผชิญผลตามมาที่ร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายสูง

รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกได้สร้างระบบ AML ที่เข้มงวดเพื่อให้ระบบการเงินปลอดเงินทุนสนับสนุนอาชญากรรม เขตอำนาจศาลมากกว่า 200 แห่งทุ่มเทปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศที่กำหนดโดยคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF) ซึ่งหากธุรกิจเคลื่อนย้ายเงิน ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ มิฉะนั้นจะต้องเสียค่าปรับ เข้ารับการตรวจสอบ และอาจต้องรับผิดทางอาญา

หน่วยงานกำกับดูแลให้ความสนใจฟินเทค แพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซี ผู้ให้บริการชำระเงิน และธุรกิจการพนันเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 บริษัทพนันในออสเตรเลียถูกปรับเงิน 450 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เนื่องจากละเมิดกฎหมาย AML

การตรวจสอบ AML ยังปกป้องสิ่งต่อไปนี้ด้วย

  • ธุรกิจ: กระบวนการเริ่มต้นใช้งานและการตรวจสอบธุรกรรมอย่างเข้มข้นจะหยุดการฉ้อโกงตั้งแต่เนิ่นๆ และป้องกันไม่ให้ถูกมิจฉาชีพแสวงหาประโยชน์
  • พาร์ทเนอร์: ธนาคารและผู้ประมวลผลการชำระเงินสามารถหยุดให้บริการได้หากคุณไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามข้อกำหนด
  • ผลิตภัณฑ์: หากเป็นที่ทราบกันว่าแพลตฟอร์มกลายเป็นจุดอ่อน คุณอาจสูญเสียความเชื่อมั่นของลูกค้า
  • ระบบโดยรวม: การฟอกเงินเป็นแหล่งทุนให้การค้าผิดกฎหมาย การก่อการร้าย การทุจริต และองค์กรอาชญากรรม การปฏิบัติตามข้อกำหนด AML จะขัดขวางกระแสเงินทุนตั้งแต่ต้นทาง
  • ชื่อเสียง: ไม่มีลูกค้าหรือนักลงทุนรายใดต้องการเห็นชื่อบริษัทของคุณในประโยคเดียวกันกับคำว่า "ฟอกเงิน" หรือ "หลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร"

ขั้นตอน AML ทำงานอย่างไร และมีขั้นตอนโดยละเอียดอย่างไรบ้าง

AML เป็นชุดการตรวจสอบแบบมีโครงสร้างที่ธุรกิจใช้เพื่อตรวจจับความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ และคอยเฝ้าระวังตลอดเวลา วิธีการทำงานตามแนวปฏิบัติมีดังนี้

ยืนยันตัวตน

รวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบุคคลทั่วไปหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบ "รู้จักลูกค้าของคุณ" (KYC) ให้คัดกรองหาการคว่ำบาตรและสถานะ PEP หากมีผู้ที่อยู่ในรายชื่อต้องห้าม หรือเชื่อมโยงกับสถานะทางการเมืองหรือข่าวเสีย ระบบจะรายงานบุคคลดังกล่าว

หากบุคคลทั่วไปหรือธุรกิจไม่ผ่านการคัดกรอง ให้คุณหยุดที่ขั้นตอนนั้นและไม่ต้องดำเนินการขายต่อ หากผ่านการคัดกรอง ให้คุณดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไป

ประเมินความเสี่ยงของลูกค้า

จากนั้น ให้ดูว่าบุคคลทั่วไปหรือธุรกิจมีความเสี่ยงแค่ไหน ซึ่งเรียกว่า "การตรวจสอบข้อมูลลูกค้า" (CDD)

คุณจะพบข้อมูลต่อไปนี้

  • ประเภทธุรกิจ
  • สถานที่ตั้ง
  • วิธีที่จะใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
  • แหล่งที่มาของเงิน

เจาะลึกข้อมูลเพื่อหาโปรไฟล์ความเสี่ยงสูง

หากมีการรายงานว่าลูกค้ามีความเสี่ยงโดยพิจารณาจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ อุตสาหกรรม ความซับซ้อนของกรรมสิทธิ์ หรือพฤติกรรม ให้คุณดำเนินการตรวจสอบข้อมูลแบบเข้มข้น (EDD)

ซึ่งอาจประกอบด้วยการดำเนินการต่อไปนี้

  • การยืนยันแหล่งที่มาของเงินทุนหรือทรัพย์สิน
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลอ้างอิงหรืองบการเงิน
  • การตรวจสอบข่าวเสีย
  • การขอรับอนุมัติจากผู้บริหารระดับอาวุโสก่อนดำเนินการต่อ

ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง

การติดตามตรวจสอบไม่สิ้นสุดลงเมื่อลูกค้าเริ่มต้นใช้งาน ระบบที่อาศัยกฎเป็นหลัก และโมเดล AI จะรายงานการเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นในธุรกรรม ส่วนทีมการปฏิบัติตามข้อกำหนดจะตรวจสอบการแจ้งเตือนและส่งเรื่องต่อเมื่อพบสิ่งที่น่าสงสัย

คอยจับตาดูสิ่งต่อไปนี้

  • ปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นกะทันหัน
  • รูปแบบการกำหนดเส้นทางที่ผิดปกติ
  • การโอนไปยังเขตอำนาจศาลที่มีความเสี่ยงสูง
  • การจัดโครงสร้าง (เช่น การแยกย่อยธุรกรรมขนาดใหญ่เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจพบ)

รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย

หากเกิดความผิดปกติที่ไม่สามารถอธิบายได้ คุณควรรายงานโดยไม่เปิดเผยให้ลูกค้าทราบ และต้องเก็บบันทึกข้อมูลไว้ ซึ่งโดยปกติจะเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี

แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขึ้นอยู่กับประเทศที่ธุรกิจของคุณดำเนินงานอยู่

  • สหรัฐอเมริกา: เครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน (FinCEN)
  • สหราชอาณาจักร: หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA)
  • สหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ: หน่วยข่าวกรองทางการเงินในท้องถิ่น

ข้อกำหนดหลักของ AML สำหรับธุรกิจมีอะไรบ้าง

หากคุณเคลื่อนย้ายเงิน คุณต้องมีโปรแกรม AML หากคุณเป็นธนาคาร มาร์เก็ตเพลส แพลตฟอร์มคริปโต หรือธุรกิจสตาร์ทอัพที่จัดการการชำระเงิน คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ ข้อกำหนดเจาะจงดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลมักจะให้ปฏิบัติตามมาตรฐานหลักเดียวกัน

นอกเหนือจากงานที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบ AML เช่น การทราบว่าคุณทำงานร่วมกับใคร การวัดความเสี่ยง การติดตามลูกค้าหลังจากกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน และการเก็บบันทึกข้อมูลที่เข้าถึงได้แล้ว สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็มีอีกไม่กี่อย่าง

แต่งตั้งบุคคลที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินงาน AML

คุณต้องแต่งตั้งบุคคลที่จะรับผิดชอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด AML ซึ่งมักเรียกว่าเจ้าหน้าที่รายงานการฟอกเงิน (MLRO) บุคคลนี้ควรมีอำนาจเพียงพอที่จะยกระดับปัญหาและตัดสินใจ

ฝึกอบรมทีม

พนักงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน การสนับสนุน การดำเนินงาน หรือผลิตภัณฑ์ควรทราบวิธีสังเกตพฤติกรรมที่น่าสงสัยและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการหลังจากนั้น การฝึกอบรมนี้ควรบันทึกไว้เป็นเอกสารและมีผลกับทั้งพนักงานใหม่และพนักงานที่ทำงานมานานแล้ว

ตรวจสอบและอัปเดตเป็นประจำ

หน่วยงานกำกับดูแลคาดหวังว่าคุณต้องตรวจสอบโปรแกรม AML ทุกปี รวมทั้งตรวจสอบและอัปเดตโปรแกรมเมื่อผลิตภัณฑ์ ตลาด หรือความเสี่ยงเปลี่ยนแปลงไป

ที่กล่าวไปนั้นเป็นข้อมูลเบื้องต้น คุณสามารถต่อยอดจากข้อมูลดังกล่าวโดยพิจารณาตามโมเดลธุรกิจ ตลาด และพาร์ทเนอร์ของคุณ แต่หากดำเนินการตามนี้ไม่ครบถ้วน คุณจะเผชิญความเสี่ยงด้านกฎหมาย การเงิน และการดำเนินธุรกิจประจำวัน

ความเสี่ยงด้านการป้องกันการฟอกเงินที่ร้ายแรงที่สุดในการชำระเงินดิจิทัลมีอะไรบ้าง

ยิ่งการชำระเงินรวดเร็วและครอบคลุมทั่วโลกเท่าใด ก็ยิ่งดึงดูดมิจฉาชีพที่พยายามฟอกเงิน จุดที่มีความเสี่ยง AML มากที่สุดในระบบที่เน้นช่องทางดิจิทัลเป็นหลักและสิ่งที่ทำให้จับได้ยากกว่าเดิมมีดังนี้

การชำระเงินแบบเรียลไทม์ไม่เหลือพื้นที่ให้เกิดข้อผิดพลาด

เงินมีการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ในบางระบบจะเคลื่อนย้ายในทันที ซึ่งดีต่อผู้ใช้ แต่เป็นอุปสรรคสำหรับทีมการปฏิบัติตามข้อกำหนด เพราะเมื่อเงินทุนออกจากระบบไปแล้วจะไม่สามารถนำกลับคืนได้ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องตรวจสอบล่วงหน้าหรือแบบเรียลไทม์

การซ้อนทับระหว่างการฉ้อโกงกับการฟอกเงิน

การฉ้อโกงบางอย่างไม่โจ่งแจ้งเท่าการขโมยแบบตรงๆ รวมถึงการวางหรือการแบ่งระดับเงินทุน ซึ่งเป็นพฤติกรรมการฟอกเงินทั่วไป การฉ้อโกงนี้อาจแสดงให้เห็นในรูปแบบการเข้าควบคุมบัญชีที่ใช้เพื่อเปลี่ยนเส้นทางเงินสด หรือข้อมูลระบุตัวตนแบบสังเคราะห์ที่ใช้ในการเปิดบัญชีหลายสิบบัญชี ทีมต่อต้านการฉ้อโกงอาจสังเกตเห็นการพยายามฉ้อโกงได้ก่อน แต่หากคุณไม่ได้มองหาความผิดปกติทางพฤติกรรมโดยคำนึงถึงการฟอกเงิน คุณอาจไม่ทันสังเกตเห็นรูปแบบในภาพรวม

ธุรกรรมแบบจัดโครงสร้างที่สังเกตเห็นได้ยากในภาพรวม

แพลตฟอร์มดิจิทัลประมวลผลธุรกรรมขนาดเล็กหลายพันหรือหลายล้านรายการต่อวัน ปริมาณนี้เป็นที่กำบังให้ผู้ฟอกเงินแยกย่อยการโอนเงินจำนวนมากออกเป็นธุรกรรมเล็กๆ เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจพบ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่าการจัดโครงสร้าง หากไม่มีเกณฑ์การแจ้งเตือนอัจฉริยะและการตรวจจับรูปแบบต่างๆ ธุรกรรมเหล่านี้อาจหลุดรอดสายตาไปได้

การกระจายตัวทางระเบียบข้อบังคับทำให้เกิดจุดอ่อน

บริษัทด้านการชำระเงินดิจิทัลมักจะดำเนินงานในหลายประเทศ ซึ่งกฎ AML ในแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป และมิจฉาชีพจะทราบว่าที่ใดมีการบังคับใช้อ่อนแอที่สุด หากการควบคุมแตกต่างกันไปตามตลาดหรือพาร์ทเนอร์ มิจฉาชีพก็จะพบช่องโหว่นี้ เพราะฉะนั้นบริษัทจำนวนมากที่ใช้ระบบดิจิทัลเป็นหลักจึงเลือกปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดที่สุดในทุกภาคส่วน แทนที่จะปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานต่ำสุดในแต่ละท้องถิ่น

คริปโตเพิ่มความซับซ้อนอีกขั้น

แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ชำระเงินด้วยคริปโตโดยตรง แต่ผู้ใช้ก็อาจโต้ตอบกับคริปโตได้จากที่อื่นในระบบของคุณ การโอนบล็อกเชนสามารถทำข้ามเขตแดนได้รวดเร็ว และเริ่มลงมือได้โดยใช้ชื่อปลอม คุณจะต้องทราบวิธีรายงานที่อยู่กระเป๋าเงินที่มีความเสี่ยงสูง ติดตามต้นทางของสินทรัพย์ และตอบสนองอย่างรวดเร็วหากเงินทุนเข้าสู่ระบบจากแหล่งที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย

การละเมิดการคว่ำบาตรอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันสังเกต

หากระบบของคุณอนุญาตให้ผู้ใช้ส่งหรือรับเงินทุนจากประเทศหรือหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร แม้คุณจะไม่รู้ตัว แต่ก็อาจต้องรับผิด ด้วยเหตุนี้ การคัดกรองผู้จ่ายและผู้รับเงินจึงสำคัญ

ความเสี่ยงดูไม่เหมือนความเสี่ยงเสมอไป

บางครั้ง การฟอกเงินดูเหมือนกับผู้ใช้ปกติที่ชำระเงินค่าเช่าทุกเดือน หรือบัญชีส่วนตัวที่อยู่ๆ ถูกใช้เหมือนกับเป็นบัญชีธนาคาร ความท้าทายในการชำระเงินดิจิทัลก็คือว่า พฤติกรรมนี้มักจะผ่านการตรวจสอบในระดับตื้นๆ คุณจึงต้องใช้ระบบที่สามารถตรวจจับรูปแบบในเวลา บัญชี และธุรกรรมต่างๆ รวมถึงลึกลงไปในระบบเหล่านั้นด้วย

Stripe Financial Connections ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Financial Connections คือชุดอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารของลูกค้าและดึงข้อมูลทางการเงินของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย จึงช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

Financial Connections สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้

  • ทำให้กระบวนการเริ่มต้นใช้งานเป็นเรื่องง่าย: นำเสนอขั้นตอนการยืนยันตัวตนบัญชีธนาคารที่ราบรื่นและทันทีที่ไม่ต้องยืนยันตัวตนและบัญชีด้วยตัวเอง
  • เข้าถึงข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน: ดึงข้อมูลบัญชีธนาคารของลูกค้าที่ครอบคลุม รวมถึงยอดคงเหลือ ธุรกรรม และรายละเอียดบัญชี
  • สร้างขั้นตอนการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ: ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมโยงบัญชีธนาคารสำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการชำระเงินสำเร็จ
  • ยกระดับการจัดการความเสี่ยง: วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของลูกค้าเพื่อทำการตัดสินใจเกี่ยวกับสินเชื่อ การให้กู้ยืม และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
  • __ ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ:__ ปฏิบัติตามข้อกำหนด KYC และ AML
  • สร้างนวัตกรรมด้วยความมั่นใจ: สร้างผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ บนโครงสร้างพื้นฐาน Financial Connections ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Financial Connections หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Radar

Radar

ต้านการฉ้อโกงด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของเครือข่าย Stripe

Stripe Docs เกี่ยวกับ Radar

ใช้ Stripe Radar เพื่อปกป้องธุรกิจจากการฉ้อโกง