การค้าแบบใช้เอเจนต์กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ลูกค้าค้นพบ ตัดสินใจ และทำธุรกรรม กรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนกำลังเข้าสู่กระแสหลักอย่างรวดเร็วโดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตามอง เช่น Amazon’s Buy for Me และ Perplexity’s Buy with Pro ที่มีฟังก์ชันการทำธุรกรรมในแชท และเนื่องจาก 24% ของลูกค้า ใช้แชทบอท AI เมื่อทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ ดังนั้น ผู้ค้าปลีกที่ปรับตัวได้เร็วจะได้ส่วนแบ่งจำนวนมากจากช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ สำหรับผู้ค้าปลีก การเปลี่ยนแปลงนี้มอบโอกาสใหม่ในการมีส่วนร่วมและการเติบโต แต่ก็ยังนำมาซึ่งคำถามและข้อพิจารณาทางเทคนิคใหม่ๆ เช่นกัน คำถามคือคุณจะคงความเป็นแบรนด์ของคุณได้อย่างไร ควรให้ระบบอัตโนมัติสิ้นสุดการทำงานที่ตรงไหนและการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์เริ่มต้นที่ตรงไหน แต่ละคนย่อมต้องการคำตอบที่แตกต่างกันไป แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับสำรวจ ทดลอง และใกล้ชิดกับสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญ
การค้าแบบใช้เอเจนต์คืออะไร
การค้าแบบใช้เอเจนต์คือการทำให้เอเจนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำกิจกรรมการช็อปปิ้งให้กับลูกค้า รวมถึงการค้นหาผลิตภัณฑ์ ปรับแต่งคำแนะนำ และทำธุรกรรมโดยอัตโนมัติ ความก้าวหน้าของ AI ช่วยให้เอเจนต์ดิจิทัลเหล่านี้มอบการช็อปปิ้งที่ราบรื่นและปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า โมเดลนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนจากเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมมาใช้การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือให้คำตอบ (AEO) แทนเพื่อให้ระบบ AI มองเห็นและสนใจผลิตภัณฑ์นั้น หัวใจของกระบวนการเหล่านี้คือการผสานรวมโซลูชันการชำระเงินที่ซับซ้อนเข้าด้วยกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่ราบรื่น
การพัฒนาครั้งใหญ่ครั้งถัดไปของการค้าปลีก
หลังจากอยู่ท่ามกลางแรงกดดันด้านกำไรและการแข่งขันมาหลายปี การค้าแบบใช้เอเจนต์ได้มอบโอกาสในการเติบโตครั้งใหม่ให้กับผู้ค้าปลีก โดยผู้ค้าปลีกที่มีนวัตกรรมและปรับปรุงระบบของตนให้ทำงานเข้ากันได้กับเอเจนต์จะมีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่สำคัญในช่องทางสร้างรายได้ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ หากแนวโน้มในการเปลี่ยนจากการใช้เสิร์ชเอนจินมาใช้อินเทอร์เฟซแบบ AI ยังคงดำเนินต่อไป ลูกค้าก็อาจเลือกใช้เอเจนต์ในการจัดการการช้อปปิ้งของตน และให้ระบบเหล่านี้ช่วยเปรียบเทียบราคาและบริการจัดส่งจากหลากหลายผู้ขายอย่างเหมาะสมที่สุด
นี่คือช่วงเวลาสำคัญสำหรับผู้ริเริ่ม ซึ่งเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าการเปลี่ยนผ่านสู่มือถือหรือ SEO ในอดีต แม้ว่าจะยังมีหลายสิ่งที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการพัฒนาของการค้าแบบใช้เอเจนต์ แต่ผู้ค้าปลีกก็สามารถเริ่มปรับตัวได้ตั้งแต่ตอนนี้ เช่น ออกแบบขั้นตอนการชำระเงินให้มีความยืดหยุ่น ใช้โครงสร้างข้อมูลที่รองรับอนาคต ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ AI ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ เพื่อเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ซื้อในทั้งช่องทางตรงและช่องทางที่ใช้เอเจนต์
__ 3 วิธีที่ผู้ค้าปลีกสามารถเปิดใช้งานการค้าแบบใช้เอเจนต์:__
- ธุรกิจสู่ตัวแทน (B2A): เข้าร่วมในช่องทางการค้าแบบเอเจนต์ โดยการทำให้แพลตฟอร์ม AI ของบุคคลที่สาม เช่น Perplexity หรือ ChatGPT สามารถแค็ตตาล็อกสินค้าและขั้นตอนการชำระเงินของคุณได้ ซึ่งนี่เป็นการค้าระหว่างธุรกิจกับเอเจนต์ (B2A)
- ตัวแทนสู่ผู้บริโภค (A2C): ฝังประสบการณ์ แบบใช้เอเจนต์ในเว็บไซต์หรือแอปของคุณเองผ่านผู้ช่วยช็อปปิ้งที่มีแบรนด์ (ตัวแทนสู่ผู้บริโภคหรือ A2C) หรืออินเตอร์เฟซภาษาธรรมชาติ เช่น ตัวแทน AI ของ Saks Fifth Avenue เพื่อปรับปรุงประสบการณ์และอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ซื้อของลูกค้า
- ตัวแทนสู่ตัวแทน (A2A): เปิดใช้งานการใช้เอเจนต์ซื้อขายโดยอัตโนมัติโดยทำให้ระบบรองรับธุรกรรมที่ปลอดภัยและทริกเกอร์ด้วยซอฟต์แวร์ เช่น การสมัครใช้บริการหรือขั้นตอนการเติมของอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เอเจนต์ AI ส่วนตัวที่ดูแลการซื้อของใช้ในบ้านที่จะซื้อของจากหลากหลายร้านค้าโดยอัตโนมัติเมื่อของใกล้หมด ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสู่ยุคของการช้อปปิ้งแบบเอเจนต์ต่อเอเจนต์ (A2A)
แต่ละวิธีเหล่านี้จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางเทคนิคที่แตกต่างกัน แต่ข้อกำหนดทั่วไป ได้แก่ ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ธุรกรรมที่ปลอดภัย และกระบวนการชำระเงินที่เข้ากันได้กับเอเจนต์
ต่อไปนี้คือแนวทางเริ่มต้น
1. ทำให้เอเจนต์สามารถอ่านแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ของคุณได้
เอเจนต์ AI ต้องการข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดโครงสร้างและเข้าถึงได้เพื่อแสดงข้อเสนอของคุณในบริบทที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำรายการช็อปปิ้ง การทำวิจัยเชิงลึก หรือช่วยมอบของขวัญ
เริ่มต้นจากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
- จัดโครงสร้างข้อมูลเมตาของผลิตภัณฑ์ (เช่น คุณสมบัติ สินค้าคงคลัง ราคา ระยะเวลาจัดส่ง) ในรูปแบบที่เครื่องอ่านได้ (ผ่าน API, ฟีด, หรือการทำเครื่องหมายที่มีโครงสร้าง)
- ทำให้ชื่อและคำอธิบายผลิตภัณฑ์เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อลดความคลุมเครือ
- ทำให้เครื่องมือที่เอเจนต์ใช้งานอยู่ (เช่น API สาธารณะ) สามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ของคุณได้
Stripe ช่วยได้: การใช้ Stripe Payments หรือ Stripe Billing จะช่วยผู้ค้าปลีกจัดโครงสร้างแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ของตนในลักษณะที่เอเจนต์สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ เรากำลังพัฒนาการควบคุมการเข้าถึงที่ละเอียดขึ้น เช่น การให้สิทธิ์การเข้าถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะแก่เอเจนต์หรือการประกาศการเติมสต็อกสินค้าไปยังเอเจนต์ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ
สมมุติว่านี่คือ SEO สำหรับเอเจนต์: โครงสร้างที่ดีขึ้น = การค้นพบมากขึ้น
2. สร้างประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนโดยเอเจนต์ภายในระบบดิจิทัลของคุณเอง
คุณไม่จำเป็นต้องรอให้เอเจนต์ในแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามนำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณก็ได้ เพราะผู้ค้าปลีกสามารถใช้เอเจนต์ที่มีแบรนด์ในสภาพแวดล้อมของตนเองเพื่อปรับแต่งการค้นหา ปรับแต่งชุดผลิตภัณฑ์ และลดความยุ่งยาก
แนะนำให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
- สร้างผู้ช่วยช็อปปิ้งที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากนักในแอปหรือเว็บไซต์ของคุณ
- ให้เอเจนต์แนะนำ หรือทำการซื้อโดยอัตโนมัติ โดยอิงจากความชอบ ประวัติ หรือฤดูกาล
- ทดลองกับการขายสินค้าที่ใช้ AI ตั้งแต่ต้นทาง (เช่น เอเจนต์ "ช็อปสินค้านี้")
Stripe ช่วยได้: ชุดเครื่องมือเอเจนต์ของ Stripe ช่วยให้คุณฝังการชำระเงินและบริการทางการเงินโดยตรงในประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนโดยเอเจนต์ในไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น ใช้ Payment Links ในอินเทอร์เฟซแชทหรือ Stripe Issuing เพื่อสนับสนุนการกระทำที่ทริกเกอร์โดยเอเจนต์ เช่น การคืนสินค้า
เอเจนต์ไม่ใช่แค่ช่องทาง แต่เป็นวิธีใหม่ในการขายสินค้าและปรับแต่งประสบการณ์ส่วนบุคคล
3. ใช้งานระบบการชำระเงินที่เป็นมิตรกับเอเจนต์
เอเจนต์สามารถขับเคลื่อนและเร่งความตั้งใจในการซื้อได้ ไม่ว่าโดยการแสดงผลิตภัณฑ์ การแนะนำ หรือแม้แต่การตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร แต่หากไม่มีการชำระเงินที่ยืดหยุ่น การซื้อก็จะหยุดชะงัก
ดังนั้น เพื่อให้เอเจนต์สามารถทำธุรกรรมได้ คุณต้องดำเนินการดังนี้
- ใช้โซลูชันการชำระเงินที่ให้ความสำคัญกับ API เป็นอันดับแรก ซึ่งทำงานได้โดยไม่ต้องมีเซสชันเบราว์เซอร์ที่มองเห็นได้
- รองรับบัตรดิจิทัลในการดำเนินการชำระเงินที่ปลอดภัย
- ลดการพึ่งพากระบวนการที่ต้องใช้ขั้นตอนซึ่งต้องการการยืนยันจากมนุษย์ (เช่น การกรอกข้อมูลการจัดส่งอีกครั้ง)
- เก็บข้อมูลสำคัญ เช่น อีเมล โดยไม่ต้องกำหนดให้สร้างบัญชี วิธีนี้จะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยไม่เพิ่มความยุ่งยากในการชำระเงินที่เริ่มต้นโดยเอเจนต์
Stripe ช่วยได้: ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe และ Link ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของ Stripe ที่ช่วยร่นเวลาในการชำระเงิน มอบกระบวนการที่มีโครงสร้างและเข้ากันได้กับเอเจนต์ เมื่อเปิดใช้งาน Link ผู้ค้าปลีกจะจดจำลูกค้ารายเดิมบนช่องทาง AI ที่แตกต่างกันได้ ทำให้รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวได้ ไม่ว่าจะเลือกช้อปปิ้งด้วยวิธีใด
การชำระเงินไม่ใช่แค่หน้าเว็บอีกต่อไป มันคือปลายทาง API ที่ถูกทริกเกอร์โดยความตั้งใจ ไม่ใช่การคลิกเสมอไป
คุณไม่จำเป็นต้องสร้างสแต็กใหม่ เพียงแค่ขยายการทำงาน
ผู้ค้าปลีกระดับองค์กรหลายรายมีองค์ประกอบที่พร้อมใช้งานแล้ว เช่น แคตตาล็อกที่มีการจัดโครงสร้าง, API และเอนจินการปรับแต่งส่วนบุคคล ซึ่งการค้าแบบใช้เอเจนต์จะอาศัยการปรับระบบเหล่านั้นให้โต้ตอบกับผู้ซื้อกลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นระบบที่ทำงานโดยอิสระ ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ และเปิดตลอดเวลา
การค้าแบบใช้เอเจนต์มอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจก็จริง แต่ก็มีความซับซ้อนใหม่ด้วยเช่นกัน เอเจนต์ทำงานแตกต่างจากมนุษย์ กล่าวคือเอเจนต์ไม่ท่องเว็บ แต่จะถามคำถาม เอเจนต์ไม่คลิกบนหน้าเว็บไซต์ แต่ทำงานตามคำสั่งที่มีโครงสร้าง นั่นหมายความว่าระบบที่อยู่เบื้องหลัง เช่น แคตตาล็อก, เช็คเอาท์, และการชำระเงิน ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
การค้าแบบใช้เอเจนต์ยังเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการประมาณการว่าผู้บริโภคมากกว่าครึ่งเลือกคำแนะนำผลิตภัณฑ์จาก AI มากกว่าการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหา และเมื่อการค้นพบ การตัดสินใจ และการซื้อเปลี่ยนมาใช้เอเจนต์อัตโนมัติมากขึ้น ผู้ค้าปลีกจะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงแค่ตามทัน แต่ยังพัฒนาจนมีข้อได้เปรียบใหม่ ๆ ด้วย
Stripe กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำการค้าแบบใหม่ โดยทำให้ทุกส่วนของสแต็กสามารถตั้งโปรแกรมได้และขยายต่อยอดได้มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เชื่อมต่อกับช่องทางใหม่ ๆ และก้าวนำหน้าในยุคที่พฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์ม ตัวแทน และรูปแบบอินเทอร์เฟซต่าง ๆ
- สำหรับธุรกิจที่สร้างประสบการณ์การค้นพบผลิตภัณฑ์โดยใช้เอเจนต์ภายในแพลตฟอร์มของตน Order Intents API ของ Stripe จะนำตรรกะการค้ามาใกล้จุดตัดสินใจมากขึ้น เพื่อทำให้ช่องทางการค้นพบผลิตภัณฑ์สามารถเริ่มต้นและทำการซื้อที่ซับซ้อนได้แบบโปรแกรม
- เครือข่ายระดับโลกของ Stripe ครอบคลุมธุรกิจ ลูกค้า แพลตฟอร์ม และพันธมิตรทางการเงินหลายล้านราย และช่วยป้องกันการฉ้อโกงโดยการตรวจจับรูปแบบที่ผิดปกติ แม้ว่าผู้ซื้อจะเป็นเอเจนต์ ไม่ใช่บุคคล
ปัจจุบัน เรากำลังทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกชั้นนำและผู้อำนวยความสะดวกในการทำการค้าแบบใช้เอเจนต์ ตั้งแต่การทดลองไปจนถึงการขยายระบบ หากคุณกำลังคิดอยู่ว่าควรเริ่มต้นที่ไหน มาคุยกันได้ที่ retail@stripe.com