มินนิโซตามีอัตราภาษีขายพื้นฐานของรัฐที่ 6.875% โดยเมืองและเทศมณฑลต่างๆ สามารถกําหนดภาษีขายท้องถิ่นเพิ่มได้ ทั่วทั้งรัฐมีอัตราภาษีขายเฉลี่ย8.04%ในปี 2024

ระบบนี้ช่วยรักษาสมดุลระหว่างความจำเป็นในการจัดสรรเงินทุนทั่วทั้งรัฐกับอิสระในการจัดการระดับท้องถิ่น ภาษีขายระดับรัฐเป็นเงินทุนในการให้บริการของรัฐ เช่น ความปลอดภัยสาธารณะ การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนภาษีขายระดับท้องถิ่นเป็นเงินทุนสำหรับโครงการท้องถิ่นหรือเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนของรัฐ

ต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีเรียกเก็บภาษีกับสินค้าเสื้อผ้าในรัฐมินนิโซตาและสิ่งที่ธุรกิจที่ประกอบการในพื้นที่ควรทราบเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกําหนดอยู่เสมอ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• รัฐมินนิโซตามีภาษีขายสําหรับเสื้อผ้าหรือไม่
  
• มีภาษีขายสําหรับบริการซักอบรีดในรัฐมินนิโซตาหรือไม่
  
• การคืนภาษีขายในรัฐมินนิโซตา
  
• วิธีการเรียกเก็บภาษีขายอัตโนมัติในรัฐมินนิโซตา
  

รัฐมินนิโซตามีภาษีขายสําหรับเสื้อผ้าหรือไม่

ในมินนิโซตา เสื้อผ้าส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นภาษีขาย ต่อไปนี้คือตัวอย่างรายการเสื้อผ้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีขายในรัฐมินนิโซตา (และรายการที่ไม่ได้รับยกเว้น)

เสื้อผ้าที่ได้รับยกเว้น

เสื้อผ้าที่ได้รับยกเว้นภาษีประกอบด้วยเครื่องแต่งกายมนุษย์สําหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งประกอบด้วย

• เสื้อ

• กางเกง

• เดรส

• สูท

• เสื้อโค้ท

• ชุดชั้นใน

• รองเท้าและรองเท้าบูท

• หมวก

• ถุงมือ

• ถุงเท้าและถุงน่อง

• เครื่องแบบบังคับ (สําหรับโรงเรียนหรือที่ทํางาน)

เสื้อผ้าที่ต้องเสียภาษี

เสื้อผ้าและเครื่องประดับบางประเภทไม่ได้รับการยกเว้นภาษีขาย ประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้

• อุปกรณ์กีฬาหรือนันทนาการ: ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมทางกีฬาหรือเพื่อการสันทนาการที่ปกติจะไม่สวมใส่นอกกิจกรรมเหล่านี้ เช่น แผ่นป้องกันสำหรับกีฬาอเมริกันฟุตบอล ถุงมือเบสบอล หมวกกันน็อกปั่นจักรยาน และรองเท้าสเก็ต

• อุปกรณ์ป้องกัน: ผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ตัวอย่างเช่น หมวกนิรภัย แว่นนิรภัย และถุงมือป้องกัน

• เครื่องประดับสำหรับการแต่งกาย: ผลิตภัณฑ์ที่มักสวมเป็นอุปกรณ์เสริมหรือเครื่องประดับ เช่น กระเป๋าถือ เครื่องประดับ ร่ม แว่นกันแดดแฟชั่น นาฬิกาข้อมือ และเครื่องประดับผม

ดูรายการที่ได้รับยกเว้นภาษีหรือต้องเสียภาษีได้ในเอกสารข้อมูลของหน่วยงานสรรพากร

มีภาษีการขายสําหรับบริการซักอบรีดในรัฐมินนิโซตาหรือไม่

บริการซักอบรีดต้องเสียภาษีภายใต้กฎหมายภาษีขายของรัฐมินนิโซตา ต่อไปนี้คือภาพรวมเกี่ยวกับบริการซักอบรีดที่ต้องเสียภาษีในรัฐมินนิโซตา

• บริการซักและอบผ้า: บริการซักอบผ้าแบบบริการตัวเองและบริการซักอบเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งมีการซักและอบผ้าให้ลูกค้า บริการซักผ้าแบบบริการตนเองซึ่งลูกค้าใช้เครื่องหยอดเหรียญนั้นไม่ต้องเสียภาษี แต่สบู่และน้ำยาทําความสะอาดที่ใช้กับเครื่องเหล่านี้ต้องเสียภาษีขาย

• การซักแห้ง: บริการซักแห้งใดๆ ที่มีการทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือของใช้ในครัวเรือน เช่น ผ้าม่านด้วยตัวทําละลายทางเคมีแทนน้ำ

• การรีดผ้า: บริการที่มีการกดหรือรีดผ้าเพื่อขจัดรอยยับ ทั้งบริการรีดอย่างเดียวหรือบริการที่มีการซักและซักแห้งด้วย

• การย้อมสีเสื้อผ้าและผ้า: บริการที่รวมถึงการย้อมสีหรือเปลี่ยนสีเสื้อผ้าหรือผ้าอื่นๆ ซึ่งให้บริการโดยผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์หรือบริการซักรีดที่ให้บริการดังกล่าวด้วย

การคืนภาษีขายในรัฐมินนิโซตา

ในรัฐมินนิโซตา การขอคืนภาษีขายจะทำได้ภายใต้เงื่อนไขบางประการสําหรับผู้เสียภาษีที่ชำระภาษีขายไว้เกินหรือได้ชำระภาษีขายกับรายการที่ได้รับการยกเว้น ต่อไปนี้คือคําอธิบายเกี่ยวกับการคืนภาษีขายในรัฐมินนิโซตา

คุณสมบัติในการขอรับคืนภาษีขาย

• ชําระภาษีขายเกิน: หากคุณชำระภาษีขายไว้เกินเนื่องจากข้อผิดพลาดในการคํานวณหรือนําส่งเงิน คุณจะมีสิทธิ์ขอคืนเงินได้

• การซื้อที่ยกเว้นภาษี: การซื้อที่ควรได้รับการยกเว้นจากภาษีขาย แต่มีการเรียกเก็บภาษีเพราะข้อผิดพลาดสามารถขอคืนเงินภาษีได้ ตัวอย่างเช่น วัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตรบางอย่าง อุปกรณ์สําหรับการผลิต และสินค้าขายต่อ

• การยกเว้นสําหรับการก่อสร้าง: การซื้อที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างมีสิทธิ์ขอคืนภาษีได้ โดยเฉพาะหากสินค้าดังกล่าวตรงคุณสมบัติการได้รับยกเว้นบางอย่างหลังจากโครงการแล้วเสร็จ

วิธีขอรับภาษีคืน

• รวบรวมเอกสารสนับสนุนการขอรับคืนภาษีทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ใบแจ้งหนี้ใบเสร็จ และหลักฐานอื่นที่แสดงรายการธุรกรรมและภาษีที่ชำระ เอกสารประกอบที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้องอาจทําให้การดำเนินการคืนเงินล่าช้าหรือถูกปฏิเสธได้

• กรอกแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องจากกรมสรรพากร สําหรับการขอคืนภาษีขายทั่วไป ให้ใช้ ฟอร์ม ST11 "คําขอคืนภาษีขายและภาษีการใช้งาน" ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้ชําระภาษีโดยตรงสามารถประเมินภาระภาษีขายและภาษีการใช้งานด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนการขอคืนภาษีที่แตกต่างออกไป

• ส่งแบบฟอร์มที่กรอกแล้วและเอกสารสนับสนุนทั้งหมดไปยังกรมสรรพากร ซึ่งสามารถทําได้ทางออนไลน์หรือทางไปรษณีย์ โดยต้องยื่นคําร้องขอคืนเงินภายใน 3.5 ปีนับจากวันที่ครบกําหนดชําระหรือวันที่ชําระภาษี โดยยึดวันที่เกิดขึั้นทีหลัง

• กรมสรรพากรจะตรวจสอบคำร้องของคุณ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคําร้องและภาระงานของสรรพากร

• กรมสรรพากรจะแจ้งให้คุณทราบถึงคําตัดสินคำร้อง หากสรรพากรอนุมัติการขอคืนเงิน คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับดอกเบี้ยจากจํานวนเงินที่คืนด้วย ดอกเบี้ยจะคํานวณจาก 90 วันหลังจากยื่นคําร้องขอคืนเงินจนกว่าจะมีการคืนเงิน ในบางกรณี กรมสรรพากรอาจพิจารณาว่าสามารถขอคืนภาษีที่ชำระแล้วได้บางส่วนเท่านั้น

วิธีการเรียกเก็บภาษีขายอัตโนมัติในรัฐมินนิโซตา

Stripe Tax ทำให้การเรียกเก็บภาษีขาย การคำนวณ และการรายงานรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น โดยเป็นโซลูชันที่ปรับเปลี่ยนได้สูงสําหรับธุรกิจที่ดําเนินธุรกิจในรัฐมินนิโซตา (และในรัฐอื่นๆ) ต่อไปนี้คือวิธีเรียกเก็บภาษีการขายแบบอัตโนมัติในรัฐมินนิโซตาด้วย Stripe

ตั้งค่าบัญชี Stripe ของคุณ

• หากยังไม่ได้ดําเนินการ ให้สร้างบัญชี Stripe โดยไปที่เว็บไซต์ Stripe

• ระบุข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณโดยละเอียด รวมถึงชื่อทางกฎหมาย ที่อยู่ และหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี (TIN)

• เชื่อมโยงบัญชีธนาคารของคุณเข้ากับ Stripe เพื่ออํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมและการโอนเงิน

เปิดใช้งาน Stripe Tax

• ลงชื่อเข้าสู่บัญชี Stripe แล้วไปที่แดชบอร์ด

• ไปที่หัวข้อ "ภาษี" แล้วคลิก "เริ่มใช้งาน" ทําตามคําแนะนําเพื่อเปิดใช้บริการ

กําหนดการตั้งค่าภาษี

• ป้อนที่อยู่ของธุรกิจคุณลงใน Stripe เพื่อให้สามารถกําหนดความสัมพันธ์ด้านภาษีและอัตราภาษีที่เกี่ยวข้อง

• กําหนดว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการใดที่ต้องเสียภาษีในรัฐมินนิโซตา Stripe มีแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อช่วยจัดหมวดหมู่สินค้าอย่างถูกต้อง

ตั้งค่าอัตราภาษีสําหรับรัฐมินนิโซตา

• Stripe Tax จะกําหนดอัตราภาษีที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติตามที่ตั้งของลูกค้า สําหรับรัฐมินนิโซตา อัตราภาษีของรัฐคือ 6.875% บวกภาษีท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง

• คุณสามารถปรับอัตราภาษีหรือเพิ่มอัตราภาษีสําหรับบางเขตอํานาจศาลในรัฐมินนิโซตาได้หากจําเป็น

ผสานการทํางาน Stripe กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ

• หากคุณใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเช่น Shopify, WooCommerce หรือ BigCommerce ให้ผสานการทํางาน Stripe กับร้านค้าของคุณ แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีปลั๊กอินหรือการตั้งค่าในตัวเพื่อการผสานการทํางานที่ง่ายดาย

• สําหรับเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเอง ให้ใช้อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ของ Stripe เพื่อผสานการทํางานฟีเจอร์การประมวลผลการชําระเงินและการคํานวณภาษี Stripe มีเอกสารประกอบที่ครอบคลุมเพื่อช่วยในการดําเนินการนี้

เปิดใช้การเรียกเก็บภาษีในขั้นตอนการชําระเงิน

• ตรวจสอบว่าขั้นตอนการชําระเงินคํานวณภาษีขายตามที่อยู่จัดส่งของลูกค้าได้

• ตรวจสอบว่าภาษีที่คํานวณแสดงให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจนก่อนที่ลูกค้าจะดำเนินการซื้อเสร็จสมบูรณ์

ตรวจสอบและรายงานภาษีขาย

• ใช้แดชบอร์ด Stripe ตรวจสอบการขาย ภาษีที่เรียกเก็บ และธุรกรรม Stripe จะแสดงรายงานแบบละเอียดที่กรองข้อมูลได้ตามวันที่ ภูมิภาค และประเภทภาษี

• ดาวน์โหลดรายงานภาษีขายจาก Stripe เป็นประจํา และใช้รายงานเหล่านี้ในการยื่นภาษีขายกับกรมสรรพากรรัฐมินนิโซตา Stripe Tax ไม่ได้ยื่นภาษีให้คุณ แต่ให้ข้อมูลที่จําเป็นทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติตามข้อกําหนด