ในปี 2024 สเตเบิลคอยน์ได้รับการประมวลผลในการชำระเงินมูลค่าหลักล้านล้านทั่วโลก การใช้สเตเบิลคอยน์ช่วยให้ธุรกิจสามารถโอนเงิน ชำระเงิน และเข้าถึงลูกค้าในสถานที่ที่อาจเข้าถึงระบบธนาคารแบบดั้งเดิมได้น้อยลงได้
คุณจะได้เรียนรู้ว่าสเตเบิลคอยน์ประเภทต่างๆ ส่งผลต่อการบริหารความเสี่ยงอย่างไร รวมถึงเข้าใจด้วยว่ากฎระเบียบและความโปร่งใสของการกันวงเงินช่วยกำหนดทิศทางการนำไปใช้อย่างไร และสิ่งที่ต้องทำในการผสานการทำงานของสเตเบิลคอยน์อย่างมีความรับผิดชอบมีอะไรบ้างด้านล่างนี้
เนื้อหาหลักในบทความ
- เหตุใดจึงต้องใช้สเตเบิลคอยน์ในธุรกิจของคุณ
- สเตเบิลคอยน์ประเภทต่างๆ ส่งผลต่อการบริหารความเสี่ยงอย่างไร
- กฎระเบียบและความโปร่งใสส่งผลต่อการเลือกของคุณอย่างไร
- คุณจะเริ่มต้นและขยายกลยุทธ์สเตเบิลคอยน์ของคุณอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
- ธุรกิจจะปฏิบัติตามข้อกำหนดเมื่อใช้สเตเบิลคอยน์ได้อย่างไร
- Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
เหตุใดจึงต้องใช้สเตเบิลคอยน์ในธุรกิจของคุณ
สเตเบิลคอยน์พัฒนาขึ้นบนบล็อกเชน แต่ผูกไว้กับสกุลเงินที่คุ้นเคยกันดี เช่น ดอลลาร์สหรัฐ จึงผสมผสานทั้งความมั่นคงของระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับความเร็วและการเข้าถึงของเงินดิจิทัล โดยสเตเบิลคอยน์นี้กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วในด้านการเงินระดับโลก
ประโยชน์ของการผสานสเตเบิลคอยน์เข้ากับกลยุทธ์ของคุณมีดังนี้
การเข้าถึงในวงกว้าง: สเตเบิลคอยน์สามารถทำให้การขายเป็นเรื่องง่ายขึ้นในตลาดที่การธนาคารแบบดั้งเดิมเข้าไม่ถึง ในบรรดาธุรกิจที่ทำงานร่วมกับ Stripe ลูกค้าที่ชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์มีสัดส่วนผู้ซื้อหน้าใหม่มากกว่าธุรกิจที่ใช้วิธีการชำระเงินอื่นๆ ถึงสองเท่า
การชำระเงินข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายน้อย: การโอนเงินระหว่างประเทศแบบดั้งเดิมอาจใช้เวลาหลายวันและเป็นผลให้มีอัตรากำไรน้อยเนื่องจากต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) สูง แต่สเตเบิลคอยน์ดำเนินการได้ในไม่กี่นาทีและมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่จัดการปริมาณธุรกรรมทั่วโลกเป็นจำนวนมาก บริษัทที่ประมวลผลยอดเงินมากกว่า 1 ล้านเหรียญในแต่ละเดือนมีแนวโน้มจะใช้สเตเบิลคอยน์มากกว่าธุรกิจต่างๆ ที่เล็กกว่านั้นถึง 92 เปอร์เซ็นต์
การเข้าถึงและการรวม: สเตเบิลคอยน์เปิดให้ทุกคนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสามารถรับหรือส่งเงินได้ทันที ฟรีแลนซ์และครีเอเตอร์ในประเทศที่มีสกุลเงินผันผวนสามารถชำระเงินเป็นโทเค็นที่ผูกไว้กับดอลลาร์ได้ แทนที่จะต้องรอโอนเงินเป็นเวลาหลายสัปดาห์ผ่านธนาคารในสกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่าลงเรื่อยๆ ธุรกิจก็จะสามารถดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถไว้ได้หากพวกเขาให้ค่าตอบแทนที่รวดเร็วและมั่นคง
แม้ว่าสัดส่วนของการชำระเงินโดยรวมที่ใช้สเตเบิลคอยน์จะยังมีไม่มาก แต่สเตเบิลคอยน์ก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตลอดช่วงเวลา 18 เดือนในปี 2024 จนถึงปี 2025 การหมุนเวียนของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การเติบโตนี้บ่งชี้ว่าสเตเบิลคอยน์กำลังก้าวไปสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
สเตเบิลคอยน์ประเภทต่างๆ ส่งผลต่อการบริหารความเสี่ยงอย่างไร
สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าสเตเบิลคอยน์แต่ละประเภทคงการผูกมูลค่าเอาไว้อย่างไร โดยในปัจจุบัน มีโมเดลสเตเบิลคอยน์หลักอยู่ 3 แบบ ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์แต่ละประเภทมีดังนี้
สเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับเงินตรา
สเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับเงินตรานี้มักจะผูกในอัตรา 1:1 กับสกุลเงินตราหรือหลักทรัพย์ภาครัฐระยะสั้นที่กันไว้เป็นเงินสำรอง เมื่อคุณถือสเตเบิลคอยน์ประเภทนี้ เท่ากับคุณกำลังถือสิทธิ์รับเงินดอลลาร์ในรูปแบบดิจิทัลในบัญชีธนาคารหรือกองทุนคลังของรัฐ สเตเบิลคอยน์ประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาให้มีเสถียรภาพและใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นต่อผู้ออกเหรียญเป็นสำคัญ
ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับสเตเบิลคอยน์ที่เผยแพร่รายงานการกันวงเงินที่ผ่านการตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการเงินเป็นอย่างดี ในทางปฏิบัติ ฝ่ายการเงินของหลายบริษัทมักเลือกใช้สเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับเงินตรา เนื่องจากมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับเงินสดมากกว่า
สเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับสินค้าโภคภัณฑ์
สเตเบิลคอยน์บางประเภทมีการผูกมูลค่ากับสินค้าโภคภัณฑ์ที่จับต้องได้ เช่น น้ำมันและทองคำ ตัวอย่างเช่น PAX Gold ที่มีการผูกมูลค่ากับทองคำหนึ่งออนซ์ต่อหนึ่งโทเค็น สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับสินค้าโภคภัณฑ์จะเป็นไปตามราคาของสินทรัพย์ แต่โดยทั่วไปจะไม่ค่อยขึ้นลงฉับพลัน จึงให้ความผันผวนในระดับต่ำ แม้จะไม่สามารถรับประกันการตรึงราคาที่ตายตัวได้ก็ตาม
สเตเบิลคอยน์ที่มีคริปโตเป็นหลักประกัน
สเตเบิลคอยน์ประเภทนี้ใช้คริปโตสกุลอื่น เช่น Ether เป็นสินทรัพย์ผูกมูลค่า โดยผู้ใช้จะนำคริปโตไปล็อกไว้ในสัญญาอัจฉริยะเพื่อสร้างสเตเบิลคอยน์ใหม่ ซึ่งมักต้องมีการค้ำประกันเกินมูลค่า เช่น การใช้ Ether มูลค่า 150 ดอลลาร์เพื่อออกสเตเบิลคอยน์มูลค่า 100 ดอลลาร์ เพื่อรองรับความผันผวนของราคา โมเดลนี้มีความโปร่งใสและกระจายศูนย์ แต่มีความซับซ้อนและผันผวนมากกว่า หากมูลค่าหลักประกันลดลงต่ำเกินไป ระบบจะดำเนินการชำระบัญชีโดยอัตโนมัติ
สเตเบิลคอยน์ตามอัลกอริทึม
สเตเบิลคอยน์ประเภทนี้พยายามรักษาการผูกมูลค่าด้วยกลไกของโค้ดเพียงอย่างเดียว โดยจะขยายหรือลดอุปทานตามความต้องการของตลาด แม้จะใช้เงินทุนไม่มากและยังอยู่ในระยะทดลอง แต่เหตุการณ์การล่มสลายของ TerraUSD ในปี 2022 ก็แสดงให้เห็นว่าโมเดลเชิงอัลกอริทึมสามารถพังทลายได้อย่างรวดเร็วเพียงใดเมื่อความเชื่อมั่นของตลาดหายไป ด้วยเหตุนี้ สเตเบิลคอยน์ที่อาศัยอัลกอริทึมล้วนๆ จึงมักถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าสเตเบิลคอยน์ที่ผูกมูลค่ากับเงินตรา
กฎระเบียบและความโปร่งใสส่งผลต่อการเลือกของคุณอย่างไร
ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า กฎระเบียบใหม่ การตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านความโปร่งใสอาจปรับรูปแบบกลยุทธ์การชำระเงินของคุณ สิ่งสำคัญคือการติดตามข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
สิ่งที่ต้องตรวจสอบในแง่ของกฎระเบียบและความโปร่งใสในการกันวงเงินมีดังนี้
กฎที่ชัดเจนขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ในสหรัฐอเมริกากฎหมาย GENIUS Act ได้กำหนดกรอบการทำงานในระดับรัฐบาลกลางสำหรับสเตเบิลคอยน์ที่ใช้เพื่อการชำระเงินเอาไว้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2027 กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ผู้ออกเหรียญต้องถือเงินสำรองเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอื่นๆ ในอัตรา 100 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้โครงสร้างที่ได้รับการคุ้มครองในกรณีล้มละลาย และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และมาตรการควบคุมการคว่ำบาตรอย่างครบถ้วน เป้าหมายคือเพื่อให้สเตเบิลคอยน์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลมีความปลอดภัยมากขึ้นกฎระเบียบ Markets in Crypto-Assets (MiCA) ของสหภาพยุโรปมีแนวทางที่คล้ายคลึงกัน และประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักรก็กำลังดำเนินการกำหนดมาตรฐานในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
คุณภาพในการกันวงเงินเป็นสัญญาณความน่าเชื่อถือ
แม้จะมีกฎหมายใหม่ออกมากำกับดูแล แต่สเตเบิลคอยน์แต่ละประเภทก็ยังมีความแตกต่างกัน ผู้ออกเหรียญบางรายเปิดเผยรายงานการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอิสระอย่างละเอียด ขณะที่บางรายให้ข้อมูลรับรองที่คลุมเครือหรือผูกมูลค่าด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เช่น น้ำมันหรือคริปโต ธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับเงินสำรองที่โปร่งใสและมีคุณภาพสูง พร้อมทั้งตรวจสอบรายงานการตรวจสอบเป็นประจำ
ความสอดคล้องและชื่อเสียงด้านกฎระเบียบ
สัญญาณที่บ่งชี้ว่าสเตเบิลคอยน์ได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันคือการได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ธนาคารต่างๆ เริ่มรองรับบัญชี USDC แล้ว และผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่ เช่น Stripe ก็ได้ผสานการทำงานกับสเตเบิลคอยน์เช่นกัน หากคุณเลือกใช้เหรียญที่ได้รับการยืนยันจากอุตสาหกรรม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจและความเสี่ยงด้านกฎหมายได้
ความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนด
หน่วยงานกำกับดูแลยังได้ระบุอย่างชัดเจนว่าสเตเบิลคอยน์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และมาตรการคว่ำบาตร เช่นเดียวกับช่องทางการชำระเงินอื่นๆ โดยทั่วไป ผู้ออกเหรียญต้องติดตามกิจกรรมบนเครือข่าย บล็อกที่อยู่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ธุรกิจเองก็ควรเสริมเครื่องมือด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดของตนเอง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน การยืนยันตัวตนลูกค้า (KYC) และการคัดกรองธุรกรรม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบ
คุณจะเริ่มต้นและขยายกลยุทธ์สเตเบิลคอยน์ของคุณอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
การนำสเตเบิลคอยน์มาใช้งานจะได้ผลดีที่สุดเมื่อดำเนินการให้เหมือนกับการปรับปรุงด้านการเงินอื่นๆ โดยเริ่มจากขนาดเล็ก ทดสอบสมมติฐาน และขยายการใช้งานเมื่อระบบพร้อมแล้ว
วิธีเริ่มต้นและพัฒนาการใช้งานสเตเบิลคอยน์ของคุณโดยมีความเสี่ยงต่ำและให้ผลลัพธ์สูงสุดมีดังนี้
เริ่มต้นด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน: เลือกปัญหาทางธุรกิจเพียงหนึ่งข้อที่สเตเบิลคอยน์สามารถแก้ได้ เช่น การเร่งความเร็วในการเบิกจ่ายข้ามพรมแดน การลดต้นทุน FX และการเพิ่มตัวเลือกการชำระเงิน กำหนดเกณฑ์ความสำเร็จในรูปแบบที่วัดได้ เช่น ระยะเวลาการชำระเงินที่สั้นลงหรือค่าธรรมเนียมการโอนที่ลดลง เพื่อให้คุณประเมินได้ว่าการทดลองใช้งานให้ผลตามที่คาดหวังหรือไม่
ให้ความรู้และประสานงานกับทีมต่างๆ: ฝ่ายการเงิน ฝ่ายปฏิบัติตามข้อกำหนด และฝ่ายปฏิบัติการล้วนต้องเข้าใจว่าสเตเบิลคอยน์ทำงานอย่างไรและมีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้าง คุณจึงควรจัดการอบรมสั้นๆ ในหัวข้อต่างๆ เช่น ความปลอดภัยในการดูแลสินทรัพย์ การติดตามธุรกรรม และการบันทึกบัญชี
ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้: ร่วมมือกับผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลซึ่งรองรับการรับหรือส่งสเตเบิลคอยน์อยู่แล้ว รวมถึงผู้ดูแลสินทรัพย์สำหรับการดำเนินงานด้านการเงินขององค์กร วิธีนี้ช่วยให้คุณทดสอบประโยชน์ที่ได้รับโดยไม่ต้องปรับปรุงระบบหลักใหม่ทั้งหมดหรือจัดการคีย์ส่วนตัวด้วยตนเอง
ดำเนินโครงการนำร่องในกลุ่มเล็กๆ: ทดลองประมวลผลธุรกรรมจำนวนเล็กน้อย บันทึกทุกขั้นตอน และสังเกตว่ามีส่วนใดได้ผลหรือมีปัญหา ประเมินค่าธรรมเนียมเครือข่าย ประสบการณ์ของลูกค้าหรือผู้ให้บริการ และความสะดวกในการกระทบยอดการชำระเงินในซอฟต์แวร์บัญชีของคุณ
ปรับแต่งและขยาย: เมื่อคุณพิสูจน์แล้วว่ากรณีใช้งานมีคุณค่าทางธุรกิจ ก็สามารถขยายการใช้งานเป็นขั้นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใหม่ พันธมิตรเพิ่มขึ้น หรือกรณีใช้งานอื่นๆ เช่น การโอนเงินของฝ่ายการเงินหรือการจ่ายเงินเดือน ทั้งนี้ ควรปรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการควบคุมความเสี่ยงให้สอดคล้องกับขนาดการใช้งาน และอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบหรือมาตรฐานของผู้ออกเหรียญ
รักษาความยืดหยุ่นเอาไว้: เก็บช่องทางสำรองสำหรับการแปลงกลับเป็นเงินตราไว้เสมอ และรองรับผู้ออกสเตเบิลคอยน์หลายรายเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาเจ้าใดเจ้าหนึ่งมากเกินไป กลยุทธ์สเตเบิลคอยน์ที่ดีควรเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถสลับเครือข่ายหรือพันธมิตรได้ รวมถึงหยุดการใช้งานชั่วคราวได้หากเงื่อนไขเปลี่ยนไป
ธุรกิจจะปฏิบัติตามข้อกำหนดเมื่อใช้สเตเบิลคอยน์ได้อย่างไร
การผสานสเตเบิลคอยน์เข้ากับการดำเนินงานด้านการเงินในแต่ละวันจะเปลี่ยนวิธีที่บริษัทบริหารเงินสด จัดทำรายงาน และรักษาการปฏิบัติตามข้อกำหนด กรอบการทำงานที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและอยู่ภายใต้การควบคุม
วิธีที่คุณสามารถรักษาความรับผิดชอบและความโปร่งใสเมื่อใช้สเตเบิลคอยน์มีดังนี้
ใช้การกำกับดูแลแบบเดียวกับที่คุณทำกับเงินสด
ตัดสินใจว่าจะถือสเตเบิลคอยน์เมื่อใดและนานเท่าใด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อรองรับการแปลงกลับเป็นเงินตราแบบดั้งเดิม หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในตลาดที่มีความผันผวน ฝ่ายการเงินอาจแปลงสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับเข้ามาให้เป็นเงินตราได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่บางองค์กรอาจเลือกถือไว้โดยตั้งใจเพื่อเป็นเงินสำรองที่มีมูลค่าอ้างอิงตามดอลลาร์สหรัฐ ให้ใช้กระเป๋าเงินแบบลงนามหลายบุคคล หรือผู้ดูแลสินทรัพย์สำหรับสถาบัน กำหนดวงเงินการใช้จ่าย และกำหนดกระบวนการกระทบยอดให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมของธนาคารที่คุณใช้อยู่
วางแผนเพื่อสภาพคล่องและการแปลง
การเข้าถึงสภาพคล่องที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งจำเป็น ให้สร้างความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการซื้อขายนอกตลาด (OTC) ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน หรือธนาคารที่สามารถแปลงสเตเบิลคอยน์เป็นเงินตราได้ตามต้องการ พิจารณาด้วยว่าหากจำเป็น คุณสามารถแปลงยอดเงินจำนวนมากกลับเป็นเงินสดได้รวดเร็วเพียงใด บางบริษัทเลือกกระจายการถือครองไปยังสเตเบิลคอยน์หลายประเภทเพื่อหลีกเลี่ยงการผูกติดกับผู้ออกเหรียญหรือเครือข่ายเพียงรายเดียวในกรณีที่เกิดปัญหา
ดูแลการจัดทำรายงานที่โปร่งใส
ในหลายเขตอำนาจศาล สเตเบิลคอยน์ถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ให้หารือกับผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อกำหนดนโยบายที่สม่ำเสมอในการบันทึกและประเมินมูลค่าการถือครอง โดยทั่วไปจะประเมินตามมูลค่าตลาด ณ เวลาที่ทำธุรกรรมแต่ละครั้ง ควรจัดเก็บบันทึกรายการแปลงค่าอย่างละเอียด และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ที่คุณถืออยู่พร้อมกับการจัดประเภท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในระหว่างการตรวจสอบ
จัดการกระแสเงินที่เป็นสเตเบิลคอยน์อย่างเข้มงวดไม่ต่างจากการโอนเงินผ่านธนาคาร
ดำเนินนโยบาย KYC และ AML สำหรับคู่ทำธุรกรรม และใช้เครื่องมือวิเคราะห์บล็อกเชนเพื่อคัดกรองที่อยู่กระเป๋าเงิน หากคุณเริ่มถือเงินแทนผู้อื่น ก็ควรตรวจสอบด้วยว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายข้อกำหนดด้านใบอนุญาตผู้ให้บริการรับโอนเงินหรือใบอนุญาตเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเขตอำนาจศาลของคุณหรือไม่ ในด้านความปลอดภัย ควรกำหนดการยืนยันตัวตนหลายปัจจัย การจัดเก็บแบบออฟไลน์ (cold storage) และการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงกระเป๋าเงินตามบทบาท เพื่อลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์
จัดทำแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
แม้ผู้ออกเหรียญจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแล แต่สเตเบิลคอยน์ก็ยังอาจประสบปัญหาด้านเทคนิคหรือข้อกฎหมายได้ ดังนั้นจึงควรกำหนดกระบวนการสำรองไว้ล่วงหน้า เช่น การแปลงกลับเป็นเงินตราภายใน 24 ชั่วโมง หากเกิดกรณีที่การผูกมูลค่าเสียความเสถียรหรือผู้ออกเหรียญถูกดำเนินการด้านกฎระเบียบ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบการเปิดเผยข้อมูลเงินสำรองและความคืบหน้าด้านกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินทั่วโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลก สามารถรับชำระเงินออนไลน์ หน้า และที่ใดก็ได้ทั่วโลก ธุรกิจต่างๆ สามารถรับชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ได้ทั่วโลก โดยชำระเป็นสกุลเงินตราในยอดคงเหลือ Stripe ของตน
Stripe Payments ช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาในการทำงานวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้แล้ว และสิทธิ์เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 125 วิธี รวมถึงสเตเบิลคอยน์และคริปโต
ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและกว่า 135 สกุลเงิน
รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบให้ตรงกลุ่ม ตอบแทนความภักดี และเพิ่มรายได้
ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและฟังก์ชันขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีประวัติระยะเวลาให้บริการ 99.999% โดยแทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือสูงเป็นระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Payments สามารถขับเคลื่อนการชำระเงินออนไลน์และที่จุดขายได้ หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ