Stripe เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขับเคลื่อนสเตเบิลคอยน์และการค้าแบบใช้เอเจนต์ให้กลายเป็นกระแสหลัก

- Open Issuance ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ของตัวเองได้ภายในไม่กี่วัน
- เครื่องมือใหม่ของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมสำหรับการค้าแบบใช้เอเจนต์และสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ AI ได้ดียิ่งขึ้น
- การเปิดตัวผลิตภัณฑ์กว่า 40 รายการของ Stripe ในงานจัดแสดงประจำปีที่นิวยอร์กทำให้มีการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จาก OpenAI, Phantom, Shopify และอื่นๆ อีกมากมาย
นิวยอร์ก - วันนี้ Stripe บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินแบบตั้งโปรแกรมได้ ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์จาก AI และสเตเบิลคอยน์เพื่อเพิ่มรายได้ การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Stripe Tour New York ซึ่งเป็นงานแสดงผลิตภัณฑ์ประจำปีของบริษัทในมหานครนิวยอร์ก โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่กว่า 40 รายการ
สิ่งที่ประกาศในครั้งนี้ประกอบด้วย Open Issuance ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดตัวและจัดการสเตเบิลคอยน์ของตนเองได้ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด และโซลูชันใหม่ๆ สำหรับการค้าแบบใช้เอเจนต์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ และลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครื่องมือและเอเจนต์ AI
Will Gaybrick ประธานฝ่ายเทคโนโลยีและธุรกิจของ Stripe กล่าวว่า “บทบาทของ Stripe ในด้านสเตเบิลคอยน์และ AI คือการดึงเทคโนโลยีล้ำสมัยจากการทดลองมาสู่กระแสหลัก โดยการถือกำเนิดของสเตเบิลคอยน์และ AI ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจออนไลน์รูปแบบใหม่ และเรามุ่งมั่นอย่างไม่ลดละที่จะนำโอกาสต่างๆ มากมายมาใช้เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราเติบโต”
วิธีที่ดีกว่าสำหรับธุรกิจในการสร้างด้วยสเตเบิลคอยน์
ธุรกิจต่างๆ กำลังนำสเตเบิลคอยน์มาใช้อย่างรวดเร็ว โดยมีปริมาณอุปทานโดยรวมเพิ่มขึ้น 57% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ด้วยการสร้างสเตเบิลคอยน์จากผู้ให้บริการภายนอก พวกเขากลับไม่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพทั้งหมดได้ ตัวอย่างเช่น Neobank ที่มีสเตเบิลคอยน์ดอลลาร์จำนวนมากฝากไว้ จะไม่สามารถรักษาผลตอบแทนไว้ได้ เมื่อลูกค้าต้องการแลกสเตเบิลคอยน์เป็นเงินสด ลูกค้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิร์น
อีกทางเลือกหนึ่งคือให้ธุรกิจเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง แต่วิธีนี้จะทำให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ การจัดการการกันวงเงิน การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการสร้างสภาพคล่อง
Stripe กำลังแก้ไขปัญหานี้ด้วย Open Issuance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ให้บริการโดย Bridge ซึ่งเป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานสเตเบิลคอยน์ชั้นแนวหน้าที่ Stripe เข้าซื้อกิจการเมื่อต้นปีนี้ โดย Open Issuance ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดตัวและจัดการสเตเบิลคอยน์ของตนเองได้ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด
ธุรกิจต่างๆ สามารถมินท์และเบิร์นเหรียญได้อย่างอิสระ พร้อมปรับแต่งการกันวงเงินเพื่อจัดการอัตราส่วนระหว่างเงินสดและพันธบัตรรัฐบาล และเลือกพาร์ทเนอร์ที่ต้องการได้ โดยมี BlackRock, Fidelity Investments และ Superstate เป็นผู้บริหารพันธบัตรรัฐบาล ส่วนเงินสดจะได้รับการถือครองโดย Lead Bank เพื่อเสริมสภาพคล่องตามความจำเป็น
เพื่อสร้างสภาพคล่อง เหรียญใหม่ทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์กับเหรียญอื่นๆ ที่ออกผ่าน Open Issuance และ API ของ Bridge ช่วยให้สามารถแปลงเป็นสเตเบิลคอยน์อื่นๆ ได้แทบทุกชนิดด้วยต้นทุนที่ต่ำ ที่สำคัญ ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการสร้างสเตเบิลคอยน์บนแพลตฟอร์มของตนได้ และนำรายได้จากรางวัลเหล่านี้ไปใช้เพื่อจูงใจลูกค้า
Zach Abrams ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Bridge กล่าวว่า “หากการเคลื่อนย้ายเงินเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ คุณควรสร้างด้วยสเตเบิลคอยน์ แต่ห้ามสร้างบนเหรียญของคนอื่นเด็ดขาด โดย Open Issuance ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างบนสเตเบิลคอยน์ที่พวกเขาปรับแต่งและควบคุมได้ เพื่อให้ผู้คนและธุรกิจที่ใช้นั้นได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีสำคัญนี้โดยตรง”
CASH เป็นสเตเบิลคอยน์แบบเปิดที่ Phantom สร้างขึ้น โดยเป็นสเตเบิลคอยน์ตัวแรกที่ออกผ่าน Open Issuance ในขณะที่สเตเบิลคอยน์ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้อย่าง mUSD สำหรับ Metamask และ USDH ซึ่งสร้างโดย Native Markets สำหรับ Hyperliquid ก็จะออกบนแพลตฟอร์มนี้ด้วยเช่นกัน
นอกจาก Open Issuance แล้ว Stripe ก็ยังประกาศอัปเดตชุดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับใช้งานสเตเบิลคอยน์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย
- ขณะนี้ธุรกิจต่างๆ สามารถยอมรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์แบบประจำได้แล้ว และชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe ก็ยอมรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ตามค่าเริ่มต้นแล้ว
- ธุรกิจในสหรัฐฯ ที่มีบัญชีทางการเงินสามารถถือยอดคงเหลือของสเตเบิลคอยน์ แปลงค่าสกุลเงินตรา ใช้ยอดคงเหลือของสเตเบิลคอยน์ด้วยบัตรที่ออกในประเทศ และส่งสเตเบิลคอยน์ไปยังกระเป๋าเงินคริปโตข้ามประเทศได้แล้ว
โครงสร้างพื้นฐานสำหรับเศรษฐกิจ AI
เมื่อเครื่องมือ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ผู้คนไม่ได้แค่ค้นหาภายในเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังค้นพบสินค้าและบริการด้วย ขั้นตอนต่อไปคือการทำธุรกรรมภายในเครื่องมือเหล่านี้ โดยเอเจนต์จะเป็นผู้สั่งซื้อแทนผู้ซื้อ
เมื่อวานนี้ Stripe และ OpenAI ได้เปิดตัว Agentic Commerce Protocol (ACP) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ขับเคลื่อนระบบชำระเงินทันทีแบบใหม่ใน ChatGPT โดย ACP จะสร้างภาษาที่ร้านค้าและเอเจนต์ AI ใช้ร่วมกัน ร้านค้าสามารถขายสินค้าผ่านเอเจนต์ AI ได้ด้วยการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว โดยยังคงควบคุมแบรนด์ แค็ตตาล็อก การจัดส่ง และความสัมพันธ์กับลูกค้าไปด้วยกันได้ ซึ่ง ACP นั้นเป็นมาตรฐานแบบเปิด ใช้งานได้กับเอเจนต์ AI และธุรกิจต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ถึงแม้จะไม่ได้ชำระเงินผ่าน Stripe ก็ตาม
วันนี้ Stripe ได้ประกาศว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายแรกๆ ได้แก่ Microsoft Copilot, Anthropic, Perplexity, Vercel, Lovable, Replit และ Manus เพื่อทดสอบโซลูชันในสถานการณ์จริงเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมสำหรับการค้าแบบใช้เอเจนต์
นอกเหนือจาก ACP แล้ว Stripe ยังได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยให้บริษัท AI สร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ของตน โดยที่ตอนนี้ Stripe Billing ช่วยให้การใช้รูปแบบรายได้แบบไฮบริดที่ผสานรวมการชำระเงินตามรอบบิลเข้ากับการกำหนดราคาตามการใช้งานเป็นเรื่องที่สะดวก ขณะที่ API ใหม่จะช่วยให้บริษัทต่างๆ เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ LLM และติดตามการเปลี่ยนแปลงต้นทุนการอนุมานได้แบบเรียลไทม์
Stripe Radar กำลังขยายขอบเขตเพื่อสกัดกั้นการฉ้อโกงแบบ “Friendly Fraud” เช่น การใช้ช่วงทดลองใช้ฟรีในทางที่ผิด โดยบริษัท AI ต่างๆ กำลังประสบปัญหานี้อยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ไม่หวังดีมักผูกช่วงทดลองใช้ฟรีไว้ด้วยกันหลายครั้ง และสร้างภาระค่าใช้จ่ายด้านการประมวลผลมหาศาลโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการใดๆ เลย ปัจจุบัน Stripe Radar สามารถสกัดกั้นการฉ้อโกงแบบทดลองใช้ที่ต้นตอได้มากถึง 62% ซึ่งช่วยปกป้องอัตรากำไรโดยไม่เพิ่มภาระให้กับผู้ใช้จริง
เปิดตัวเพิ่มอีกกว่า 40 รายการในชุดผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบของ Stripe
Stripe ประกาศเปิดตัวบริการใหม่กว่า 40 รายการในวันนี้ โดยมีทั้งระบบชำระเงิน รายได้ และเครื่องมือทางการเงินที่ฝังไว้ภายในระบบ นอกจากนี้ยังมีการประกาศอื่นๆ ดังต่อไปนี้:
- ขั้นตอนการชำระเงินผ่านแอปสู่เว็บแบบใหม่ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถนำลูกค้าจากแอป iOS ไปยังหน้าชำระเงินบนมือถือที่ทำงานด้วย Stripe Checkout ได้อย่างราบรื่น ธุรกิจต่างๆ เช่น Superwall, Voodoo และ Replit ประหยัดต้นทุนการชำระเงินได้สูงถึง 90% ด้วยขั้นตอนการชำระเงินแบบใหม่นี้
- ตอนนี้ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินของ Stripe เพื่อการชำระเงินที่รวดเร็วยิ่งขึ้น มีการรองรับการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) กับ Klarna แล้ว
- ตอนนี้ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ Stripe Managed Payments ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินแบบ Merchant-of-Record สำหรับการชำระเงินครั้งเดียว โดย Stripe ช่วยจัดการภาษีทั่วโลก ป้องกันการฉ้อโกง จัดการข้อโต้แย้ง จัดการคำสั่งซื้อ และอื่นๆ ในนามของธุรกิจ
- สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าที่จับต้องได้ Stripe Tax จะสนับสนุนการจัดเก็บภาษีใน 102 ประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 40 ประเทศเมื่อปีที่แล้ว
- Stripe Reader S710 เป็นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดของ Stripe ที่มีให้บริการทั่วโลกแล้ว โดยรองรับการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถประมวลผลการชำระเงินได้แม้จะไม่มี WiFi
- แพลตฟอร์ม AI อย่าง Vercel และ Replit สามารถฝังแซนด์บ็อกซ์ของ Stripe ลงในสภาพแวดล้อมได้โดยตรง ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเปิดตัวและจัดการการชำระเงินและบริการทางการเงินได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม
- ตอนนี้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ใช้ Stripe Connect สามารถให้บริการ Adaptive Pricing กับลูกค้าได้แล้ว ซึ่งจะช่วยกำหนดราคาการชำระเงินสำหรับ 150 ประเทศได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม Stripe เพิ่มเติม นอกจากนี้ Stripe ยังได้ประกาศการผสานการทำงานใหม่สำหรับ Stripe Capital ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มต่างๆ สามารถเปิดตัวโปรแกรมทางการเงินสำหรับลูกค้าได้ภายในไม่กี่นาที และ Stripe Verified สำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมการดำเนินการด้านความเสี่ยงให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดประกาศฉบับเต็มบนบล็อกของ Stripe