ธุรกิจที่ต้องการขยายกิจกรรมในฝรั่งเศสจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างของระเบียบข้อบังคับด้านภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ระหว่างฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่กับจังหวัดและดินแดนโพ้นทะเลของประเทศแห่งนี้หรือที่เรียกว่า DOM-TOM ความแตกต่างมีความสําคัญอย่างยิ่งในการทําความเข้าใจการค้าระหว่างดินแดนเหล่านี้ บทความนี้อธิบายถึงองค์ประกอบสำคัญของกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งธุรกิจที่ต้องการวางรากฐานในตลาดต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับฝรั่งเศสควรทราบ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM
  
• ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบจากภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM
  
• อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่บังคับใช้มีอะไรบ้าง
  
• การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM มีอะไรบ้าง
  
• จะออกใบกํากับภาษีใน DOM-TOM ได้อย่างไร
  

ภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM

จ้งหวัดโพ้นทะเล (DOM) เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐฝรั่งเศสเนื่องจากมีตัวแทนในรัฐสภาฝรั่งเศสและต้องทำตามกฎหมายของฝรั่งเศส 5 จังหวัด ได้แก่ มาร์ตินีก กัวเดอลูป และเรอูนียง ซึ่งอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานอยู่ที่ 8.5% โดยอัตราลดอยู่ที่ 2.1% ส่วนมายอตต์และเกียนา ไม่มีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม

ดินแดนโพ้นทะเล (TOM) อยู่ภายใต้อธิปไตยของฝรั่งเศส แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐ ได้แก่เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกแลนด์ส

DOM-TOM ทั้งหมดถือว่าได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากสหภาพยุโรป (EU)

ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบจากภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM

ภาษีมูลค่าเพิ่มมีภาระผูกพันบางประการให้ธุรกิจในฝรั่งเศสที่ดําเนินงานใน DOM-TOM ต้องทำตาม

การขายสินค้า

การขายสินค้าให้กับ DOM-TOM และธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในดินแดนเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยทั่วไปกิจกรรมอย่างแรกจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ธุรกรรมอย่างหลังจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม DOM-TOM

ตัวอย่างเช่น บริษัทในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ที่ขายสินค้าในมาร์ตินีกจะไม่ออกใบแจ้งหนี้ที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม ในทางตรงกันข้าม บริษัทที่จัดตั้งขึ้นในมาร์ตินีกซึ่งทําการขายภายในอาณาเขตของตนเองมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในมาร์ตินีก

การขายบริการแบบธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C)

เมื่อผู้ให้บริการแบบ B2C ในฝรั่งเศสออกใบแจ้งหนี้ให้บุคคลทั่วไปในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่หรือ DOM จะมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่เป็นไปตามสถานที่ตั้งของผู้ให้บริการ ตัวอย่างเช่น บริษัทในกัวเดอลูปที่ออกใบแจ้งหนี้ให้บุคคลในปารีสจะใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของกัวเดอลูป

บริการเฉพาะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์บางอย่างที่ให้บริการแก่บุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษี จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่เป็นไปตามสถานที่ตั้งของบุคคลนั้นๆ บริการเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบริการขนส่งและบริการเช่าการเดินทาง

การขายบริการแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B)

เมื่อเกิดการขายบริการระหว่างธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (เช่น ธุรกรรม B2B) ภาษีมูลค่าเพิ่มจะอิงตามถิ่นพํานักอาศัยของลูกค้า ตามกฎทั่วไปแล้ว จะใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศของลูกค้า

ตัวอย่างเช่นนักพัฒนาเว็บในมาร์ตินีกที่ออกใบกำกับภาษีให้บริษัทในมาร์เซยส์จะใช้อัตราของแผ่นดินใหญ่ เช่นเดียวกับการค้าแบบ B2C บริการบางอย่าง เช่น การเช่ายานพาหนะหรือการขนส่งผู้โดยสารจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามสถานที่ที่ให้บริการ เว็บไซต์บริการสาธารณะของฝรั่งเศส มีรายการข้อยกเว้นให้ไว้อย่างละเอียด

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่บังคับใช้ระหว่าง DOM-TOM และฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่บังคับใช้มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเลือกใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแบบใดก็ตาม ธุรกิจก็ยังคงต้องทราบเกี่ยวกับอัตราภาษีที่ใช้ใน DOM-TOM ซึ่งแตกต่างจากที่ใช้ในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานใน DOM

อัตรามาตรฐานของตลาด DOM คือ 8.5% สําหรับสินค้าและบริการ เว้นแต่จะมีการระบุเป็นอย่างอื่น ดังนั้นธุรกิจที่ทําธุรกรรมระหว่างมาร์ตินีกกับกัวเดอลูปจึงอยู่ภายใต้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 8.5% ในทางกลับกัน ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่มีอัตรามาตรฐานอยู่ที่ 20%

ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราลดใน DOM

อัตราลดที่ 2.1% ของ DOM ใช้กับสินค้าบางรายการ เช่น ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย รายการผลิตภัณฑ์และการดําเนินงานที่อยู่ภายใต้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ในกัวเดอลูป เฟรนช์เกียนา และ DOM อื่นๆ มีอยู่ในเว็บไซต์ BOI

อัตราเฉพาะ

มีภาษีอัตราเฉพาะใน DOM ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบางแห่ง ตัวอย่างเช่น การขายสัตว์ที่มีจุดประสงค์เพื่อร้านขายเนื้อหรือร้านขายอาหารพร้อมทานให้บุคคลทั่วไปจะเสียภาษีมูลค่าในอัตราลดที่ 1.75% สําหรับการแสดงและสิ่งตีพิมพ์ การแสดงหรือสิ่งตีพิมพ์จำนวนหนึ่งจะได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลงเหลือ 1.05% (เช่น การแสดง 140 รอบแรก)

Stripe Tax ช่วยให้ธุรกิจทำตามระเบียบข้อบังคับด้านภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะในกัวเดอลูป เกียนา และจังหวัดโพ้นทะเลอื่นๆ ธุรกิจในฝรั่งเศสสามารถผสานการทํางานกับเครื่องมือต่างๆ กับเว็บไซต์ของตนเองได้โดยตรงเพื่อการปฏิบัติตามาตรฐานภาษี

การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มใน DOM-TOM มีอะไรบ้าง

ตามกฎทั่วไปภาษีมูลค่าเพิ่มไม่มีผลบังคับใช้กับดินแดนเกียนาและมายอตต์ นอกจากนี้เรอูนียง มายอตต์ และเกียนา ยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษดังนั้นเขตแดนเหล่านี้จึงได้รับการยกเว้นจากภาษีมูลค่าเพิ่มของ DOM-TOM

นอกจากนี้ การจัดส่งสินค้าจากแผ่นดินใหญ่ไปยัง DOM-TOM ซึ่งได้แก่ กัวเดอลูป มาร์ตินีก เรอูนียง มายอตต์ และกียนายังได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย การยกเว้นนี้อิงตามหลักการที่ว่า DOM-TOM ถือเป็นดินแดนส่งออกตามข้อ 2 (1) ของมาตรา 294 ของประมวลกฎหมายภาษีทั่วไป

จะออกใบกํากับภาษีใน DOM-TOM ได้อย่างไร

การขายสินค้าหรือบริการระหว่าง DOM-TOM กับประเทศที่สาม (กล่าวคือประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรป) มักจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมบางอย่างในสหภาพยุโรปหรือระหว่าง DOM-TOM ต้องมีการจัดการเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของ DOM-TOM เป็นพิเศษ โดยการยกเว้นเหล่านี้จะต้องระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ของลูกค้า

สําหรับการขายบริการให้แก่บุคคลทั่วไป (B2C) จะมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่ตั้งสถานประกอบการของผู้ให้บริการ สําหรับธุรกรรมระหว่างธุรกิจ (B2B) ภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ให้บริการจริง

ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ไปยัง DOM-TOM

การขายสินค้า

สําหรับการขายสินค้าใดๆ จากฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ไปยัง DOM-TOM จะต้องระบุการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในใบแจ้งหนี้เป็นการเฉพาะ โดยควรมีลักษณะดังนี้: "การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 294 ของประมวลกฎหมายภาษีทั่วไป"

การขายบริการ

สําหรับบริการที่มอบให้กับบุคคลทั่วไป (B2C) อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่บังคับใช้คืออัตราที่ใช้ในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ไม่ว่าสถานประกอบการของผู้ให้บริการจะตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม สําหรับบริการ B2B ต้องใช้อัตราภาษีของดินแดน DOM-TOM ที่เกี่ยวข้อง

DOM-TOM ไปฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่

การขายสินค้า

ตามกฎทั่วไปแล้ว การขายสินค้าแบบ B2C และ B2B จาก DOM-TOM ไปยังอิตาลีนั้นได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเนื่องจากจะถือว่าเป็นการส่งออก ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องออกใบกํากับภาษีให้แก่ลูกค้าแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนําให้ระบุในใบแจ้งหนี้ดังนี้: "การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 294 ของประมวลกฎหมายภาษีทั่วไป"

การขายบริการ

สําหรับการขายบริการแบบ B2C โดยบริษัท DOM-TOM ไปยังบุคคลทั่วไปในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ จะใช้อัตราภาษีของ DOM ในใบกำกับภาษี สําหรับบริการ B2B จะต้องใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่

DOM-TOM ไปยังสหภาพยุโรป

การขายสินค้า

สําหรับการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไป (B2C) ภายในสหภาพยุโรป ต้องระบุว่า "การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 294 ของประมวลกฎหมายภาษีทั่วไป" ในใบกำกับภาษี ใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศปลายทาง แต่โดยปกติแล้วลูกค้าจะรับผิดชอบในการชําระภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อนําเข้าหรือมีการเรียกเก็บเงินย้อนกลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อกําหนดของประเทศ

อย่างไรก็ตาม การขายให้แก่ธุรกิจ (B2B) จะใช้กลไกการเรียกเก็บเงินย้อนกลับ โดยบริษัทของลูกค้ามีหน้าที่ต้องรายงานและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศของตน โดยผู้ขายจะต้องระบุข้อความ "การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรา 294 ของประมวลกฎหมายภาษีทั่วไป" ในใบแจ้งหนี้

การขายบริการ

เมื่อบริษัทให้บริการแบบ B2C อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะนํามาใช้คืออัตราที่ใช้ในจังหวัดที่จัดตั้งบริษัท

ระหว่างจังหวัดต่างๆ ในดินแดนโพ้นทะเลฝรั่งเศส

โดยทั่วไปแล้วธุรกรรมระหว่าง 5 DOM จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีข้อยกเว้นหลักคือการค้าระหว่างกัวเดอลูปและมาร์ตินีก หมู่เกาะทั้งสองนี้เป็นคู่พิเศษในทางภาษี ทำให้การขายระหว่างทั้งสองแห่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มในกัวเดอลูปและมาร์ตินีก

กัวเดอลูปและมาร์ตินีก นับเป็นตลาดเดียวที่ต้องใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ระหว่างสองเกาะเหล่านี้ ธุรกรรมส่วนใหญ่ (ไม่ว่าจะแบบ B2B หรือ B2C) สินค้าหรือบริการจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรามาตรฐาน 8.5% หรือในอัตราลดที่ 2.1%

ภาษีมูลค่าเพิ่มในเรอูนียง เฟรนช์เกียนา และมายอตต์

เรอูนียง เฟรนช์เกียนาและมายอตต์ถือเป็นดินแดนส่งออก ดังนั้นการขายที่เกี่ยวข้องกับดินแดนเหล่านี้จึงได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น บริษัทในมาร์ตินีกจะไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายให้แก่เฟรนช์เกียนา รวมทั้งในทางกลับกัน ใบแจ้งหนี้ในกรณีเหล่านี้จะแสดงด้วยว่าไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม

ฉันจะชําระภาษีมูลค่าเพิ่มในจังหวัดและดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสได้อย่างไร

การสำแดงภาษีของฝรั่งเศส (ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่หรือ DOM-TOM)

ในสำแดงและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มในฝรั่งเศส ไม่ว่าจะในฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่หรือ DOM-TOM คุณต้องใช้พอร์ทัลออนไลน์ของรัฐบาล โปรดทราบว่าจังหวัดโพ้นทะเลทั้ง 5 แห่งเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส ดังนั้นธุรกิจใดก็ตาม ไม่ว่าจะจดทะเบียนในมาร์ตินีกหรือได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในเฟรนช์เกียนาจะต้องใช้พอร์ทัลภาษีนี้

การสำแดงภาษีสำหรับการขายในสหภาพยุโรป

บริษัท DOM-TOM จะถือว่าอยู่นอกสหภาพยุโรปในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นจึงสามารถเลือกใช้ Import One Stop Shop (IOSS) สําหรับการขายทางไกลไปยังรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปได้ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

• ขายสินค้าออนไลน์ให้กับบุคคลทั่วไปในสหภาพยุโรปเพื่อขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปในสหภาพยุโรปแบบฝากขาย
  
• สินค้าที่ขายได้มีมูลค่าไม่เกิน 150 ยูโร
  
• สินค้าถูกจัดเก็บในคลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป