ความท้าทาย
แผนกการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงจะคอยสนับสนุนส่วนงานต่างๆ ทั่วทั้งองค์กร โดยมีหน้าที่ต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละแผนกบรรลุเป้าหมายหลักมากน้อยแค่ไหน มองหาว่าสิ่งใดบ้างเป็นไปด้วยดีและสิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง รวมทั้งดำเนินการแก้ไขที่จำเป็น ซึ่งนั่นหมายความว่าความสำเร็จของแผนกการเงินขึ้นอยู่กับการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องแม่นยำไว้ในระบบส่วนกลาง และใช้ข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงประสิทธิภาพในการตัดสินใจของแต่ละแผนก
“หากไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน คุณจะพลาดโอกาสมากมายเลยครับ” Praveer Melwani หัวหน้าฝ่ายการเงินและการปฏิบัติการทางธุรกิจของ Figma กล่าว “หากอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าโตช้าและคุณไม่เข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับยอดขายและข้อมูลในกระบวนการ ก็จะมองไม่เห็นตัวชี้วัดแต่เนิ่นๆ และไม่รู้ว่าต้องตอบสนองอย่างไร ดังนั้น การทำให้ระบบบันทึกข้อมูลทั้งหมด [Salesforce, Marketo, ข้อมูลนำเสนอสำหรับผู้บริหาร ฯลฯ] สอดคล้องกันจะช่วยให้การตัดสินใจดำเนินไปอย่างรวดเร็วในขณะที่เราทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายนอกและภายในองค์กร"
ในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของทีม Figma ที่มีสมาชิกเพียงไม่กี่คน โดยที่ข้อมูลยังคงมีคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือ Praveer จำเป็นต้องทำให้กระบวนการทางการเงินทั้งหลายกลายเป็นขั้นตอนอัตโนมัติและเลือกโซลูชันการชำระเงินที่มีลักษณะดังนี้
- ยอมรับการชำระเงินตามรอบบิลและเสนอบริการออกใบแจ้งหนี้ สำหรับลูกค้าแบบบริการตัวเองและองค์กร ตามลำดับ
- มีฟังก์ชันรายงานข้อมูลการชำระเงินเกือบจะแบบเรียลไทม์ และ
- มีฟังก์ชันรายงานข้อมูลที่ยืดหยุ่นและใช้พารามิเตอร์ข้อมูลเมตา เพื่อจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมที่มีการจัดโครงสร้าง และทำให้ข้อมูลในระบบบันทึกข้อมูลทั้งหมดมีความสอดคล้องกัน
โซลูชัน
ตอนแรก Figma มองหาวิธีเชื่อมต่อโซลูชันแบบแยกเดี่ยวของเดิมเพื่อให้สามารถใช้งานฟังก์ชันยอมรับการชำระเงิน การชำระเงินตามรอบบิล และการออกใบแจ้งหนี้ได้ แต่ก็กังวลเกี่ยวกับทรัพยากรที่ต้องใช้ในการผสานการทำงานและการดูแลระบบต่างๆ ให้สอดคล้องกันเพื่อให้ข้อมูลมีคุณภาพสูงและอัปเดตแบบเรียลไทม์ตลอดเวลา
Figma เลือก Stripe เพราะเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบครบวงจรที่ให้ลูกค้าชำระเงินตามรอบบิลและชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ด้วยบัตร, ACH หรือการโอนเงินผ่านธนาคารได้ นอกจากนี้ การใช้แดชบอร์ด Stripe ยังช่วยให้ทีมงานของ Praveer สามารถติดแท็กในข้อมูลการชำระเงินด้วยพารามิเตอร์ข้อมูลเมตา แล้วส่งไปยัง Snowflake เป็นรายชั่วโมงผ่านทาง Segment จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ติดแท็กมาจัดรูปแบบใน Snowflake เพื่อให้นำไปใช้งานได้ง่ายขึ้นในแอปพลิเคชันทางธุรกิจและการสร้างแบบจำลองภายในองค์กร และหลังจากจัดรูปแบบใหม่เสร็จแล้ว จะมีการเผยแพร่ข้อมูลการชำระเงินผ่าน Census ไปยังแอปพลิเคชันทางธุรกิจต่างๆ เพื่อมอบบริบทที่ครบถ้วนกว่าเดิม ได้แก่
- Salesforce: Figma ใช้ Stripe มาช่วยเสริมบัญชีและโอกาสในการขายของ Salesforce ด้วยข้อมูลการชำระเงินและกิจกรรม ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การคำนวณค่าคอมมิชชันและการหาลูกค้า เป็นต้น
- Marketo, กลุ่มเป้าหมายบน Facebook และ Google Ads: Figma เสริมข้อมูล Stripe ให้กับผู้ใช้ ทีม และองค์กรเพื่อนำไปใช้ปรับข้อความการตลาดให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
- ข้อมูลนำเสนอผู้บริหาร: Figma นำฟังก์ชันการรายงานและการวิเคราะห์ของ Stripe มายกระดับข้อมูลนำเสนอผู้บริหารได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำทันทีหลังจากปิดรอบ โดยจัดทำรายงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลแยกตามภูมิภาค อัตราการรักษาลูกค้าสุทธิ แผนภูมิรายรับตามรอบประจำปีแยกตามประเภทธุรกรรม
- _ตัวชี้วัดของบริษัทและการคาดการณ์อนาคต _: Figma ใช้ข้อมูลการชำระเงินและการออกใบแจ้งหนี้ของ Stripe มาสร้างแดชบอร์ดมูลค่าตลอดอายุการใช้งานแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์อัตราการรักษาลูกค้าและการเลิกใช้บริการ รวมทั้งอธิบายรูปแบบการขยายธุรกิจ
- การปิดบัญชีตอนสิ้นเดือน: Figma ใช้ข้อมูลการชำระเงินและการออกใบแจ้งหนี้ของ Stripe เป็นข้อมูลอินพุตในโมเดลการรับรู้รายได้ ภาษี และยอดรายรับที่เลื่อนเวลาการตัดบัญชี ผ่าน SuiteSync
“ทีมเล็กๆ ของเรานำความสามารถของ Stripe มาทำให้กระบวนการต่างๆ ดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ เช่น การเรียกเก็บเงินและการออกใบแจ้งหนี้ เราจึงมีเวลาไปทุ่มเทกับงานที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า” Praveer กล่าวเสริม “นอกจากนี้แล้ว เรายังขับเคลื่อนแอปพลิเคชันทางธุรกิจต่างๆ โดยใช้ข้อมูลจาก Stripe ซึ่งช่วยให้เราเพิ่มผลิตภัณฑ์ บทบาท และประเภทแผนงานได้อย่างรวดเร็วและทำซ้ำได้เรื่อยๆ รวมทั้งทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราพัฒนายิ่งขึ้น”
ผลลัพธ์
การผสานการทำงานกับแพลตฟอร์มการชำระเงินที่เหมาะสมเข้ากับชุดเทคโนโลยีของบริษัท ทำให้ Praveer สามารถดูแลให้แอปพลิเคชันธุรกิจทั้งหมดภายในองค์กรขับเคลื่อนด้วยข้อมูลธุรกรรมของลูกค้าที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และรวดเร็วเกือบเรียลไทม์ ผลลัพธ์ก็คือ Praveer เพิ่มมูลค่าของ Figma เป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยทีมการเงินที่มีเพียงไม่กี่คนโดยการปรับระบบต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติ และสร้างข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจที่มีความสำคัญในธุรกิจ
Praveer กล่าวว่า “ความเรียบง่ายและความลึกของผลิตภัณฑ์ Stripe เป็นรากฐานที่ช่วยให้เราขยายการดำเนินการโดยใช้ทีมงานเพียงไม่กี่คน หากไม่ได้ผสานการทำงานกับ Stripe ผมบอกได้เลยว่าเราคงต้องหาคนเพิ่มอีก 5 คนเป็นอย่างน้อยถึงจะรับมือกับกระบวนต่างๆ ที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเองได้ เช่น การจัดการขั้นตอนการปิดบัญชี การกระทบยอดธุรกรรมระหว่างระบบ การตรวจสอบบัญชีลูกหนี้การค้า และแก้ไขปัญหาชุดข้อมูลไม่ถูกต้อง”
Stripe ช่วยให้ทีมงานของ Praveer ทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้สำเร็จ
- พยากรณ์ตัวชี้วัดทางธุรกิจได้อย่างน่าเชื่อถือ: “คุณต้องมีโซลูชันที่ยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้คุณแบ่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในหลายๆ วิธี เราใส่ตรรกะทางธุรกิจเข้าไปในระบบโดยใช้ข้อมูล Stripe เป็นแหล่งข้อมูล ผลก็คือเรามีข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่บอกว่ามีการตัดสินใจซื้ออย่างไรและรูปแบบเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างเมื่อเวลาผ่านไป” Praveer กล่าว
- _สร้างความน่าเชื่อถือภายในองค์กรด้วยข้อมูลที่เชื่อถือได้ _: “ผมสร้างชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและความน่าไว้วางใจกับคนทั้งองค์กรและผู้ถือหุ้น โดยมั่นใจว่าชุดข้อมูลอ้างอิงและระบบของเราถูกต้องและแม่นยำ” Praveer กล่าว
- _เปิดโอกาสให้ฝ่ายการเงินไปทำงานที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า _: “ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการชำระเงิน การออกใบแจ้งหนี้ การกระทบยอด ฯลฯ ทีมจึงสามารถใช้ความคิดและดำเนินการในเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับธุรกิจในอนาคตได้” Praveer กล่าว
การใช้งานที่ง่ายดายและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ Stripe คือรากฐานในการขยายธุรกิจของเราโดยใช้พนักงานเพียงไม่กี่คน หากไม่มีการผสานการทำงานกับ Stripe ผมมั่นใจว่าเราคงต้องใช้คนเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 คนเพื่อดูแลกระบวนการต่างๆ เอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเพื่อปิดงาน การกระทบยอดธุรกรรมของหลายระบบ การควบคุมยอดหนี้การค้า และการแก้ปัญหาเกี่ยวกับชุดข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง