ระบบอัตโนมัติมีประโยชน์เมื่อช่วยให้คุณทำงานต่างๆ ที่ไม่เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจได้สะดวกคล่องตัวขึ้น ซึ่งการดำเนินการส่งผ่านในการจัดการภาษีทางอ้อมก็เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ เนื่องจากการดำเนินการนี้ไม่สร้างประโยชน์ต่อการเติบโตหรือผลกำไรของธุรกิจ แต่เป็นข้อกำหนดที่เร่งด่วนและมีความเสี่ยงอยู่ตลอด ระบบอัตโนมัติพร้อมเทคโนโลยีจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงดังกล่าวและช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นอย่างดี
นี่คือคู่มือผู้ซื้อเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติ รวมถึงฟีเจอร์หลักที่ควรมองหาในโซลูชันและวิธีที่ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ
เนื้อหาหลักในบทความ
- ซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติคืออะไร
- การประเมินซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติ
ซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติคืออะไร
ธุรกรรมทั้งหมดที่ลูกค้าทำบนเว็บไซต์ของคุณต้องมีการคำนวณภาษี โดยตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้า ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ซื้อ สถานที่ต้นทางและปลายทางในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ มูลค่าทางการเงินของการซื้อ รวมถึงอัตราและกฎเกณฑ์ด้านภาษีที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งอาจส่งผลต่อความรับผิดชอบด้านภาษีได้ ซึ่งเมื่อคุณเก็บภาษีแล้ว คุณก็ยังต้องรายงาน ยื่น และนำส่งภายในวันครบกำหนดที่ตั้งไว้ด้วย
การมอบหมายกระบวนการจัดการภาษีของคุณให้บริษัทภายนอก โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการระบบภาษีอัตโนมัติที่จัดการการคำนวณ การรายงาน การยื่น และการตรวจสอบเกณฑ์ภาษีช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินงานหลายๆ รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การทำให้ธุรกิจเติบโต อีกทั้งซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติยังสามารถลดข้อผิดพลาดของมนุษย์และช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการยื่นที่ไม่ถูกต้องได้
การประเมินซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติ
การตัดสินใจเลือกซอฟต์แวร์ใหม่เป็นงานสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อหลายแผนกและพนักงานหลายคน ธุรกิจที่ซื้อซอฟต์แวร์ที่ไม่ถูกต้องหรือนำซอฟต์แวร์ที่ใช่มาใช้อย่างไม่เหมาะสมก็อาจประสบปัญหาในภายหลังได้ เราได้สรุปข้อควรพิจารณาบางประการเอาไว้ให้แล้ว เพื่อช่วยให้คุณมีพื้นฐานข้อมูลที่ดีในการค้นคว้าเกี่ยวกับเครื่องมือระบบอัตโนมัติด้านภาษีที่อาจเลือกใช้ ดังนี้
ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์กับตลาด
การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีของแต่ละธุรกิจนั้นต่างกัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์และบริการมีการเก็บภาษีแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่ตั้งและรหัสภาษีสินค้าที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้ไม่มีแนวทางเดียวที่เหมาะกับทุกธุรกิจ และต่อไปนี้คือคำถามที่จะช่วยคุณพิจารณาว่าผู้ให้บริการรายใดตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของคุณ
- คุณมีประสบการณ์กับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ บริการ และขนาดธุรกิจที่เหมือนๆ กันกับฉันหรือไม่ ถ้าใช่ คุณจะให้กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องหรือการอ้างอิงจากลูกค้าได้หรือไม่
- คุณรู้เกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในอุตสาหกรรมของฉันมากน้อยแค่ไหน
- คุณจะให้ความรู้/แหล่งข้อมูลประเภทใดได้บ้างเพื่อช่วยให้ทีมของฉันมีความรู้ความเข้าใจที่ครบถ้วน
ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ
ความแม่นยำของอัตรา ประสิทธิภาพของระบบ และความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซอฟต์แวร์ระบบภาษีอัตโนมัติ นอกจากนี้ ทีมวิจัยด้านภาษีที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ก็จะให้เนื้อหาเกี่ยวกับรหัสภาษีของผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยคุณทราบการเสียภาษีของผลิตภัณฑ์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังเรียกเก็บภาษีในอัตราที่ถูกต้องในระหว่างการชำระเงิน ในการประเมินความถูกต้องและประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ ให้เริ่มต้นด้วยคำถามเหล่านี้
- กลไกของคุณกำหนดวิธีการคำนวณภาษีอย่างไร
- คุณใช้รหัสไปรษณีย์หรือที่อยู่แบบเต็มหรือไม่
- คุณทำการตรวจสอบที่อยู่หรือไม่
- ทีมของคุณอัปเดตอัตราภาษีและรหัสภาษีของผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูลอย่างไร
- ระยะเวลาให้บริการเฉลี่ยและระยะเวลาตอบสนองโดยเฉลี่ยของ API ของคุณอยู่ที่เท่าไร
ค่าบริการ
โซลูชันซอฟต์แวร์ภาษีที่ถูกต้องควรมีค่าบริการที่โปร่งใส ซึ่งปรับให้เข้ากับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจคุณ โดยไม่ปกปิดค่าธรรมเนียมและมีการเรียกเก็บเงินที่ไม่จำเป็น ให้พูดคุยเกี่ยวกับค่าบริการกับผู้เสนอบริการโดยเริ่มจากคำถามเหล่านี้
- โมเดลค่าบริการของคุณมีโครงสร้างอย่างไร
- จากปริมาณธุรกรรมโดยประมาณ ถ้าชำระเป็นรายเดือนหรือรายปี เราน่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่
การติดตั้งใช้งานและการสนับสนุน
การติดตั้งใช้งานโซลูชันการจัดการภาษีไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่กระบวนการเริ่มต้นใช้งานทางเทคนิคโดยเฉพาะ ช่องทางการสนับสนุนหลายช่องทาง และการเรียนรู้ด้วยตนเองก็จะช่วยให้เป็นเรื่องง่ายได้ ให้มองหาโซลูชันด้านภาษีที่มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า ไม่ว่าคุณจะต้องการหาคำตอบด้วยตัวเองหรือเจาะลึกรายละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้บริการภาษีของคุณควรเสนอตัวเลือก เช่น เอกสารประกอบที่ชัดเจน การเรียนรู้ออนไลน์ และการสนับสนุนทางอีเมลหรือโทรศัพท์ให้แก่คุณ คำถามที่ควรถาม 2-3 ข้อมีดังนี้
- ขอทราบข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) เกี่ยวกับการตอบคำถามเพื่อขอรับการสนับสนุนได้ไหม
- คุณช่วยแชร์รีวิวหรือคำรับรองจากลูกค้าเกี่ยวกับคุณภาพของทีมบริการลูกค้าของคุณกับเราได้ไหม
ไม่ว่าคุณจะค้นหาโซลูชันซอฟต์แวร์ภาษีใหม่หรือเปลี่ยนจากของเดิม การรู้ว่าควรมองหาอะไรล่วงหน้าจะช่วยให้คุณคัดเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุดได้ การค้นหาข้อมูลตอนนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนผู้ให้บริการหลังจากที่เลือกผิดไปได้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ