ธุรกิจที่ให้บริการในต่างประเทศจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างใกล้ชิด เรียนรู้ว่าบริการระหว่างประเทศสมาชิกคืออะไรและต้องเสียภาษีที่ไหน นอกจากนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนที่เป็นพื้นฐาน และใบสรุปยอดที่ต้องยื่นตามข้อบังคับด้วย นอกจากนี้ คุณจะได้เห็นภาพรวมว่าใบแจ้งหนี้ควรมีรายละเอียดใดบ้างในกรณีของบริการระหว่างประเทศสมาชิก ท้ายบทความนี้ คุณจะพบแผนผังการตัดสินใจที่จะช่วยให้คุณระบุได้ว่าธุรกิจของคุณมีบริการระหว่างประเทศสมาชิกหรือไม่
เนื้อหาหลักในบทความ
- บริการระหว่างประเทศสมาชิกคืออะไร
- บริการระหว่างประเทศสมาชิกต้องเสียภาษีที่ไหน
- ขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนคืออะไร
- ข้อมูลบังคับใดบ้างที่ต้องอยู่ในใบแจ้งหนี้สําหรับบริการระหว่างประเทศสมาชิก
- ใบสรุปยอดคืออะไร
- ธุรกิจจะให้บริการระหว่างประเทศสมาชิกเมื่อใด
บริการระหว่างประเทศสมาชิกคืออะไร
บริการระหว่างประเทศสมาชิกคือบริการที่ธุรกิจมอบให้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการต้องเป็นบริษัทที่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT ID) และบริษัทดังกล่าวยังต้องลงทะเบียนในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปอีกด้วย แต่ต้องอยู่คนละประเทศกัน บริการระหว่างประเทศสมาชิกเป็นคำที่ใช้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาษีมูลค่าเพิ่ม และแตกต่างจากการจัดหาระหว่างประเทศสมาชิก โดยอย่างหลังจะใช้ในกรณีการซื้อหรือขายสินค้า
บริการระหว่างประเทศสมาชิกได้รับการจัดอยู่ในประเภทบริการอื่นๆ โดยจะดำเนินธุรกรรมตามกฎหมายดังต่อไปนี้
- คําสั่งสภา 2006/112/EC ว่าด้วยเรื่องของระบบทั่วไปของภาษีมูลค่าเพิ่ม
- คําสั่งสภา 2010/45/EU แก้ไข คำสั่ง 2006/112/EC ว่าด้วยเรื่องของระบบทั่วไปของภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนของกฎระเบียบเกี่ยวกับการออกใบแจ้งหนี้
บริการระหว่างประเทศสมาชิกต้องเสียภาษีที่ไหน
บริการระหว่างประเทศสมาชิกสำหรับบริษัทจากประเทศสหภาพยุโรปอื่นๆ จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของเยอรมนีเมื่อให้บริการโดยบริษัทเยอรมันในเยอรมนีโดยแลกกับค่าธรรมเนียม และไม่มีการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีจะปรับใช้กับบริษัทเยอรมัน ตัวอย่างเช่น เมื่อบริษัทเหล่านั้นมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของกฎผู้ประกอบการระดับเล็กตามส่วนที่ 19 ของ UStG (กฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม) นอกจากนี้ ยังมีการปรับใช้การยกเว้นภาษีในกรณีอื่นๆ เช่นกัน โดยจะปรับใช้กับบริการทางการเงินบางประเภทหรือการขายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทางอากาศหรือทางทะเลอีกด้วย (ดูส่วนที่ 4 ของ UStG)
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บริการจะไม่ต้องเสียภาษีในเยอรมนีหากสถานที่ทำการตั้งอยู่นอกประเทศเยอรมนีในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น ในกรณีที่ให้บริการมากกว่าหนึ่งประเทศ การระบุสถานที่ทำการที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ โดยทั่วไปแล้วสถานที่นี่จะเป็นที่ตั้งสำนักงานจดที่ทะเบียนของบริษัทผู้รับ ในกรณีดังกล่าว จะมีการดำเนินการเรียกเก็บเงินปรับคืน
ขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนคืออะไร
ขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนเป็นกฎพิเศษสำหรับบริการข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรป ตัวอย่างเช่น หากบริษัทเยอรมันให้บริการในประเทศยุโรปอื่น ด้วยเหตุนี้ สถานที่ทำการจึงไม่ใช่เยอรมนี แต่เป็นประเทศในสหภาพยุโรปอีกประเทศหนึ่งที่กล่าวถึงนี้ โดยหลักการแล้วบริการดังกล่าวจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศผู้รับ บริษัทเยอรมันจึงจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสำนักงานภาษีในประเทศสหภาพยุโรปอื่นนั้น หลักๆ แล้วขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดความยุ่งยากด้านเอกสารและระเบียบราชการสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ ภาระภาษีมูลค่าเพิ่มจึงถูกสลับไปอยู่ที่อีกฝ่ายแทน กล่าวอีกนัยหนึ่ง หมายความว่าแทนที่บริษัทเยอรมันที่ออกใบแจ้งหนี้จะเป็นผู้ชำระภาษี บริษัทผู้รับจะเป็นผู้ชำระภาษีในประเทศของตนเอง
กฎระเบียบที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการบริการและสถานที่ทำการ
มีข้อยกเว้นหลายประการสำหรับขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนที่เกี่ยวข้องกับบริการหรือสถานที่ทำการ ซึ่งมีดังนี้
บริการอิเล็กทรอนิกส์: บริการอิเล็กทรอนิกส์จะต้องเสียภาษีในประเทศของผู้รับ บริการดังกล่าวประกอบด้วยบริการวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม
การให้เช่ายานพาหนะ: สถานที่ทำการจะกำหนดตามระยะเวลาการเช่ายานพาหนะ (เช่น รถยนต์หรือรถเทรลเลอร์) ในกรณีสัญญาเช่าระยะสั้นที่มีระยะเวลาสูงสุด 30 วัน สถานที่ทำการคือสถานที่ที่ส่งมอบรถยนต์ ในกรณีสัญญาเช่าระยะยาว สถานที่ทำการคือตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทผู้รับ
งานแสดงสินค้าและบริการจัดเลี้ยง: บริการที่เกี่ยวข้องกับงานแสดงสินค้าและนิทรรศการจะต้องเสียภาษีในประเทศที่จัดงาน ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันเมื่อบริษัทจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นใช้บริการดังกล่าว การให้สิทธิ์เข้าร่วมงานแสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุมสัมมนาก็จะต้องเสียภาษีเช่นกัน ส่วนบริการจัดเลี้ยงก็จะเสียภาษีในสถานที่ที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มด้วยเช่นกัน
ข้อมูลบังคับใดบ้างที่ต้องอยู่ในใบแจ้งหนี้สําหรับบริการระหว่างประเทศสมาชิก
ใบแจ้งหนี้ที่ธุรกิจออกสำหรับบริการระหว่างประเทศสมาชิกจะต้องมีข้อมูลบังคับตามที่ระบุไว้ในส่วนที่ 14(4) ของ UStG ดังต่อไปนี้
- ชื่อและที่อยู่ของบริษัทผู้ออกใบแจ้งหนี้
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ออกใบแจ้งหนี้
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ออกใบแจ้งหนี้
- ชื่อและที่อยู่ของผู้รับใบแจ้งหนี้
- วันที่ออกใบแจ้งหนี้
- เวลาและวันที่ที่ให้บริการ
- หมายเลขกำกับใบแจ้งหนี้
- ชื่อของบริการ
- ประเภทและขอบเขตของบริการ
- จำนวนเงินสุทธิ (หมายเหตุ: ไม่จำเป็นต้องมีอัตราภาษีและจำนวนขั้นต้น)
มี 3 สิ่งที่ต้องนํามาพิจารณาเมื่อออกใบแจ้งหนี้สําหรับบริการระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งมีดังนี้
- ใบแจ้งหนี้จะต้องมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจที่เป็นผู้รับเพิ่มเติมจากหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ออกใบแจ้งหนี้ด้วย ในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับหมายเลข ให้คุณขอหมายเลขดังกล่าวจากธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หากไม่มีการระบุหมายเลขนี้ไว้ในใบแจ้งหนี้ ผู้ออกใบแจ้งหนี้จะต้องรับผิดชอบภาษีมูลค่าเพิ่ม การชำระเงินในภายหลังอาจต้องชำระให้กับสำนักงานภาษีของผู้ออกใบแจ้งหนี้เอง
- หากธุรกิจมีแผนจะขอใช้การยกเว้นภาษี ธุรกิจจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่เสมอ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งผ่านพอร์ทัลของสำนักงานภาษีกลางของรัฐบาลกลาง (BZSt) หรือผ่านการใช้ระบบ VIES ของคณะกรรมาธิการยุโรป
- ใบแจ้งหนี้ต้องมีการอ้างอิงเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการยกเว้นภาษีหรือขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืนด้วย สำหรับใบแจ้งหนี้ภาษาเยอรมัน หมายเหตุที่เกี่ยวข้องคือ: “Umsatzsteuerschuldnerschaft des Leistungsempfängers”
การอ้างอิงใบแจ้งหนี้ในภาษาทางการของสหภาพยุโรป
รายการด้านล่างนี้ให้ข้อมูลอ้างอิงการยกเว้นภาษีในภาษาทางการต่างๆ ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีดังนี้
- ภาษาบัลแกเรีย: обратно начисляване
- ภาษาโครเอเชีย: prijenos porezne obveze
- ภาษาเช็ก: daň odvede zákazník
- ภาษาเดนมาร์ก: omvendt betalingspligt
- ภาษาดัตช์: btw verlegd
- ภาษาอังกฤษ: การเรียกเก็บเงินปรับคืน
- ภาษาเอสโตเนีย: pöördmaksustamine
- ภาษาฟินแลนด์: käännetty verovelvollisuus
- ภาษาฝรั่งเศส: autoliquidation
- ภาษากรีก: aντίστροφη επιβάρυνση
- ภาษาฮังการี: fordított adózás
- ภาษาอิตาลี: inversione contabile
- ภาษาลัตเวีย: nodokļa apgrieztā maksā–ana
- ภาษาลิทัวเนีย: atvirk–tinis apmokestinimas
- ภาษามอลตา: inverżjoni tal-ħlas
- ภาษาโปแลนด์: odwrotne obciążenie
- ภาษาโปรตุเกส: autoliquidação
- ภาษาโรมาเนีย: taxare inversă
- ภาษาสโลวาเกีย: prenesenie daňovej povinnosti
- ภาษาสโลวีเนีย: povratna bremenitev
- ภาษาสเปน: inversión del sujeto pasivo
- ภาษาสวีเดน: omvänd betalningsskyldighet
ธุรกิจสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการชำระเงินที่ได้รับการรับรองเพื่อมั่นใจว่าจะสามารถออกใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ นอกจากการให้บริการกระบวนการอัตโนมัติแล้ว บริษัทเหล่านี้ยังให้โปรแกรมออกใบแจ้งหนี้อัจฉริยะเพื่อลดอัตราความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งรวมถึงในกรณีของใบแจ้งหนี้สำหรับบริการระหว่างประเทศสมาชิกอีกด้วย
ใบสรุปยอดคืออะไร
ภายใต้ส่วนที่ 18 ของ UStG หน้าที่ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของธุรกิจใดๆ ก็ตามที่ให้บริการระหว่างประเทศสมาชิกคือการรายงานยอดขายที่เกี่ยวข้องให้สำนักงานภาษีทราบเป็นประจำ โดยจะดำเนินการในรูปแบบของใบสรุปยอดซึ่งแสดงรายชื่อบริการระหว่างประเทศสมาชิกทั้งหมด และต้องทำการส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (ในเยอรมนีจะทำผ่านพอร์ทัล ELSTER) ใบสรุปยอดนี้จะส่งเป็นรายไตรมาส ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากบริการระหว่างประเทศสมาชิกมีมูลค่าเกิน 50,000 ยูโรภายในระยะเวลาสามเดือน จะต้องทำการส่งเป็นรายเดือน กำหนดส่งรายงานคือวันที่ 25 ของเดือนถัดไป
แต่เหตุใดจึงต้องส่งรายงานนี้ในเมื่อบริษัทในประเทศได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเนื่องจากขั้นตอนการเรียกเก็บเงินปรับคืน คำตอบคือ กฎข้อนี้มุ่งเป้าไปที่อีกฝ่ายหนึ่ง (เช่น บริษัทผู้รับ) ซึ่งจำเป็นต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศของตนเอง สำนักงานภาษีของสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลสามารถใช้ใบสรุปยอดเพื่อตรวจสอบว่าธุรกิจได้ชำระภาษีที่ถูกต้องสำหรับธุรกรรมดังกล่าวหรือไม่
ธุรกิจจะให้บริการระหว่างประเทศสมาชิกเมื่อใด
ด้านล่างนี้เป็นแผนผังการตัดสินใจที่กำหนดเกณฑ์สำคัญสำหรับการระบุว่าธุรกิจของคุณเสนอบริการระหว่างประเทศสมาชิกหรือไม่

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกใบแจ้งหนี้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดต่อฝ่ายขายของเราเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe จะสามารถสนับสนุนขั้นตอนทางการเงินของคุณได้อีกด้วย
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ