ตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนกําลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นหนทางขยายฐานลูกค้าของธุรกิจ เจ้าของธุรกิจในญี่ปุ่นหันมาใช้โมเดลนี้กันมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
ในฐานะเจ้าของธุรกิจ คุณอาจสนใจที่จะใช้อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย แต่ก็อาจไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นตรงไหน ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีเริ่มต้นทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน นอกจากนี้เราจะพิจารณาสถานการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน โอกาสในอนาคต และปัจจัยสู่ความสำเร็จ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- สถานะปัจจุบันและอนาคตของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
- การเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
- ข้อควรพิจารณาสําหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
- ปัจจัยความสำเร็จข้อสำคัญสําหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
- การเตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมสําหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
สถานะปัจจุบันและอนาคตของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวันของเรา อีกทั้งการใช้งานสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยังเติบโตขึ้น ทำให้คนสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์จากประเทศอื่นได้ง่ายกว่าที่เคย ความสนใจในสินค้าต่างประเทศของผู้บริโภคที่มากขึ้นก็ขับเคลื่อนให้อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเติบโตขึ้นอีกด้วย
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทําให้อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเติบโตแบบปีต่อปี สาเหตุเป็นเพราะคนอยู่บ้านกัน ทำให้มีการจับจ่ายออนไลน์มากกว่าปกติ แม้แต่ลูกค้าที่ชอบซื้อของที่หน้าร้านในช่วงก่อนโรคระบาดก็ยังเริ่มเพลิดเพลินที่สามารถซื้อของได้จากที่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสะดวกในการซื้อผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศทำให้ความต้องการใช้บริการอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้น แม้ว่าข้อจำกัดต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดจะไม่มีแล้ว แต่ความสนใจสินค้าต่างประเทศของผู้บริโภคก็ยังคงสูงอยู่ โดยจำนวนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2024 กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นได้เปิดเผยรายงานสถานะตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกซึ่งแสดงอันดับสัดส่วนตลาดแบบธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C) ในปี 2023 แบ่งตามประเทศดังนี้
- อันดับที่หนึ่ง: จีน (51.3%)
- อันดับที่ 2: สหรัฐอเมริกา (19.5%)
- อันดับที่ 3: สหราชอาณาจักร (3.6%)
- อันดับที่ 4: ญี่ปุ่น (3.4%)
- อันดับที่ 5: เกาหลีใต้ (2.1%)
นอกจากนี้ รายงานยังคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนโลกจะมีขนาดถึง 7.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030
การเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนกําลังเติบโต แต่คุณจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร ต่อไปนี้เราจะสํารวจโมเดลธุรกิจแบบต่างๆ ที่ช่วยคุณเริ่มต้นธุรกิจได้
สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบ B2C ในแบบของคุณเองในญี่ปุ่นที่ลูกค้าต่างประเทศเข้าถึงได้
หากต้องการจัดตั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในญี่ปุ่น คุณสามารถสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซใหม่หรือทําเว็บไซต์ปัจจุบันของคุณให้มีหลายภาษา ซึ่งจะเป็นการเปิดเว็บไซต์ของคุณสู่ลูกค้าต่างประเทศที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น
คุณสามารถสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในแบบของคุณเองได้ 2 วิธี ได้แก่การพัฒนาเว็บไซต์เองโดยไม่ใช้เทมเพลตที่มีอยู่ หรือใช้บริการภายนอกที่รองรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
เปิดร้านค้าในห้างสรรพสินค้าอีคอมเมิร์ซแบบ B2C ในญี่ปุ่นที่รองรับลูกค้าต่างประเทศ
โมเดลธุรกิจอีกแบบหนึ่งก็คือการเปิดร้านค้าในห้างสรรพสินค้าอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่นที่รองรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน โมเดลธุรกิจนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่แนะนำในบทความนี้ และเหมาะสําหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นหาลูกค้าจากต่างประเทศ
ธุรกิจที่มีร้านค้าออนไลน์สำหรับลูกค้าในญี่ปุ่นอยู่แล้วสามารถสร้างหน้าเว็บเฉพาะเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าต่างประเทศได้ โดยไม่มีขั้นตอนอะไรที่ซับซ้อน ธุรกิจสามารถเปิดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้โดยการใช้ฟังก์ชัน "การขายระหว่างประเทศ" ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าอีคอมเมิร์ซที่ตนมีร้านค้าอยู่แล้ว
ห้างอีคอมเมิร์ซบางแห่งมีฟังก์ชันที่สร้างหน้าผลิตภัณฑ์เวอร์ชันแปลโดยเครื่องอัตโนมัติเพื่อบริการลูกค้าในต่างประเทศ ในบางกรณีห้างอีคอมเมิร์ซอาจให้ธุรกิจเปิดร้านค้าในเว็บไซต์ต่างประเทศที่ห้างเป็นเจ้าของได้ ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสขายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น
เปิดร้านค้าในห้างแบบผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) หรือห้างอีคอมเมิร์ซแบบ B2C ในประเทศเป้าหมาย
อีกทางเลือกหนึ่งคือการเปิดร้านค้าหรือแสดงผลิตภัณฑ์ในห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศที่คุณต้องการขยายธุรกิจ (ซึ่งก็คือประเทศเป้าหมายของคุณ) อุปสรรคในการเข้าตลาดอาจอยู่ในระดับสูง เนื่องจากคุณจะต้องสื่อสารกับเจ้าของห้างอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่นและทําข้อตกลงทางกฎหมายก่อนจึงจะเปิดร้านค้าหรือวางจำหน่ายสินค้าได้ หากคุณไม่คุ้นเคยกับการร่วมงานกับธุรกิจในต่างประเทศ การใช้ตัวแทนจะช่วยคุณได้
เปิดร้านค้าในห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศเป้าหมายของคุณโดยใช้คลังสินค้าทัณฑ์บน
เปิดร้านค้าในห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศเป้าหมายของคุณโดยใช้คลังสินค้าทัณฑ์บน
คลังสินค้าทัณฑ์บนคือคลังสินค้าที่ใช้จัดเก็บสินค้าที่มีพันธะทางศุลกากร ซึ่งเป็นสัญญาทางกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าผู้นำเข้าจะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับทางศุลกากรของประเทศเป้าหมายเป็นการชั่วคราว โดยปกติแล้ว สินค้าที่นําเข้าจากต่างประเทศจะต้องเสียภาษีศุลกากร (เช่น ภาษีนําเข้า) แต่ในกรณีที่ใช้คลังสินค้าทัณฑ์บน สินค้าจะพักรออยู่ในคลังโดยเจ้าหน้าที่จะระงับการเก็บภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะการผ่านพิธีการศุลกากรจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้พื้นที่ที่กําหนดเป็น "เขตพื้นที่พันธะ" ซึ่งมีคลังสินค้าทัณฑ์บนอยู่ มักจะอยู่ใกล้ท่าเรือและสนามบิน
สำหรับโมเดลธุรกิจนี้ เจ้าของธุรกิจจะส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าทัณฑ์บนในประเทศเป้าหมายและจัดเก็บสินค้าไว้ที่นั่น เมื่อธุรกิจได้รับคําสั่งซื้อจากลูกค้าที่อยู่ในประเทศเป้าหมาย ธุรกิจจะส่งสินค้าดังกล่าวจากคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยตรง วิธีนี้ต่างจากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนตรงที่ธุรกิจไม่ได้จัดส่งสินค้าจากญี่ปุ่นโดยตรง แต่จัดส่งสินค้าจากประเทศของลูกค้า ซึ่งช่วยลดค่าขนส่งให้ลูกค้าและลดระยะเวลาตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งซื้อไปจนถึงการจัดส่ง
เปิดร้านค้าในห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศเป้าหมายของคุณโดยทำการค้าตามปกติ
สำหรับโมเดลธุรกิจนี้ คุณจะทําธุรกิจโดยใช้ผู้ส่งออกในญี่ปุ่นและผู้นําเข้าในประเทศเป้าหมาย และขายผลิตภัณฑ์ของคุณในห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศเป้าหมายนั้น การขายสินค้าดำเนินการโดยใช้ขั้นตอนการค้าตามปกติ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าทั่วไป (ไม่ใช่คลังสินค้าทัณฑ์บน) ผ่านห้างอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่น
สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบ B2C ในแบบของคุณเองในประเทศเป้าหมาย
โมเดลธุรกิจนี้ทำได้โดยที่คุณสร้างเว็บไซต์ของคุณเองในประเทศที่คุณขยายธุรกิจ ตัวเลือกนี้ทำได้ง่ายหากผลิตภัณฑ์ของบริษัทของคุณเป็นที่รู้จักกันดีในระดับสากลอยู่แล้ว คุณสามารถสร้างและบริหารจัดการเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซได้ และมีคนที่พัฒนาธุรกิจของคุณในต่างประเทศได้ดี อย่างไรก็ตาม การสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้นและบริหารจัดการเว็บไซต์ในต่างประเทศต้องลงทุนมาก คุณต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและพนักงานที่พูดได้หลายภาษา ซึ่งทําให้โมเดลนี้เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีทรัพยากรทางการเงินเพียงพอ
นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศต่างๆ มีกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านอีคอมเมิร์ซเป็นของตนเอง และยังต้องทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ในภาพรวมจึงนับว่าโมเดลนี้เป็นหนึ่งในโมเดลอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่ยากที่สุด
ข้อควรพิจารณาสําหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
มาดูกันว่าคุณต้องทําอะไรบ้างเพื่อเตรียมเปิดตัวธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
เลือกผลิตภัณฑ์และศึกษาตลาดต่างประเทศ
ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในญี่ปุ่นอาจไม่ได้เป็นที่นิยมในต่างประเทศ รสนิยมและขนบธรรมเนียมแต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน ความต้องการของลูกค้าจึงแตกต่างกันด้วย โปรดคํานึงถึงเรื่องนี้เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะจําหน่าย และศึกษาตลาดในประเทศเป้าหมายของคุณเพื่อหาว่าอะไรที่ขายดี
การพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนให้ประสบความสําเร็จในประเทศที่มีตลาดอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ เช่น จีนหรือสหรัฐอเมริกา เพิ่มโอกาสในการสร้างผลกําไรได้สูงกว่าในประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คุณควรทําความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในสถานที่ที่คุณวางแผนจะขยายธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อตลาดนั้นเป็นตลาดขนาดใหญ่
คุณควรทราบด้วยว่าวัตถุดิบบางอย่างอาจเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศเป้าหมายของคุณ และผลิตภัณฑ์บางอย่างก็ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย ศึกษาค้นคว้าล่วงหน้าเพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับในภายหลัง
ทำความเข้าใจกฎระเบียบเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและการจัดส่งสินค้าไปยังต่างประเทศให้ดี
ความแตกต่างที่สําคัญระหว่างอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนกับห้างอีคอมเมิร์ซในประเทศและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คือ อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนมีเรื่องภาษีศุลกากร การจัดส่งไปยังต่างประเทศ และกฎระเบียบทางกฎหมายของประเทศเป้าหมายเกี่ยวข้องด้วย
สิ่งของต้องห้ามส่วนใหญ่จะนำเข้าไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบระบบการนําเข้าและส่งออกพื้นฐานของ JETRO เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับการนําเข้าและส่งออกไปยังประเทศเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้พยายามนําเข้าสินค้าต้องห้าม
หากต้องการดูตัวเลือกการจัดส่งไปยังต่างประเทศ สามารถดูรายการ "สิ่งของที่ไม่สามารถส่งไปรษณีย์ต่างประเทศ" ของ Japan Post
นอกจากนี้ คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีศุลกากรสําหรับการจัดส่งไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น คุณสามารถตรวจดูอัตราภาษีสําหรับสิ่งของที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นที่สนใจของผู้นําเข้าแต่ละรายได้ในเอกสารคำแนะนำเกี่ยวกับอัตราภาษีผลิตภัณฑ์ของศุลกากรของญี่ปุ่น
ปัจจัยความสำเร็จข้อสำคัญสําหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
ต่อไปนี้คือปัจจัยความสำเร็จข้อสำคัญและคำถามที่เกี่ยวข้องที่คุณควรถามตัวเองหากต้องการประสบความสำเร็จในการทําธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
กลยุทธ์และโมเดลธุรกิจ
กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์:
- คุณต้องการขายผลิตภัณฑ์และบริการโดยอ้างอิงตลาดและความต้องการของลูกค้า หรือต้องการเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรากฐานจากวิสัยทัศน์และปรัชญาของบริษัท
- คุณต้องการขายผลิตภัณฑ์และบริการโดยอ้างอิงตลาดและความต้องการของลูกค้า หรือต้องการเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรากฐานจากวิสัยทัศน์และปรัชญาของบริษัท
กลยุทธ์ช่องทาง (กลยุทธ์การจัดจําหน่าย):
- คุณได้กำหนดวิธีการซื้อและวิธีการส่งผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าหรือยัง
- คุณได้กำหนดวิธีการซื้อและวิธีการส่งผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าหรือยัง
กลยุทธ์การตลาด:
- คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและพัฒนาการในตลาดอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ รวมถึงสิ่งที่คู่แข่งของคุณกำลังทำอยู่หรือไม่
- คุณได้กําหนดมาตรการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ และระบุปัจจัยการเพิ่มยอดขายหรือยัง
- คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและพัฒนาการในตลาดอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ รวมถึงสิ่งที่คู่แข่งของคุณกำลังทำอยู่หรือไม่
ระบบที่มั่นคง:
- ก่อนจะเข้าสู่ตลาดในประเทศเป้าหมาย คุณจัดให้มีการวางระบบภายในของบริษัทอย่างครบถ้วนหรือยัง หากคุณจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถจากภายนอก (เช่น วิศวกรหรือนักพัฒนา) คุณได้สร้างความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์ของคุณเรียบร้อยหรือยัง
- ก่อนจะเข้าสู่ตลาดในประเทศเป้าหมาย คุณจัดให้มีการวางระบบภายในของบริษัทอย่างครบถ้วนหรือยัง หากคุณจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถจากภายนอก (เช่น วิศวกรหรือนักพัฒนา) คุณได้สร้างความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์ของคุณเรียบร้อยหรือยัง
การจัดการรายรับและรายจ่าย:
- คุณมีวิธีการระดมทุนเตรียมไว้หรือยัง
- คุณจัดการกระแสเงินสดของคุณอยู่หรือไม่
- คุณมีวิธีการระดมทุนเตรียมไว้หรือยัง
กลยุทธ์ด้านราคา:
- คุณจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณราคาเดียวกัน หรือขายในราคาที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและแนวโน้มตลาดในประเทศเป้าหมายของคุณ
- คุณจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณราคาเดียวกัน หรือขายในราคาที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและแนวโน้มตลาดในประเทศเป้าหมายของคุณ
ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน:
- คุณพร้อมรับมือกับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนสูงเนื่องจากเหตุการณ์และการเมืองโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือไม่
- คุณพร้อมรับมือกับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนสูงเนื่องจากเหตุการณ์และการเมืองโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือไม่
ระบบกฎหมาย ภาษา ขนบธรรมเนียม และคุณค่าทางวัฒนธรรม
การจัดหาใบรับรองต่างๆ:
- คุณมีใบรับรองและใบอนุญาตที่จําเป็นสําหรับการขายผลิตภัณฑ์ในประเทศเป้าหมายของคุณหรือไม่
- คุณติดป้ายแจ้งส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสมหรือไม่ สินค้าของคุณติดป้ายแจ้งประเภทที่มาของสินค้าหรือไม่
- คุณมีใบรับรองและใบอนุญาตที่จําเป็นสําหรับการขายผลิตภัณฑ์ในประเทศเป้าหมายของคุณหรือไม่
การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ:
- คุณพร้อมรับมือกับระบบกฎหมายท้องถิ่นในประเทศเป้าหมายของคุณอย่างเต็มที่หรือไม่
- กฎหมายท้องถิ่นหรือกฎหมายของประเทศเป้าหมายจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ ประเด็นทางกฎหมายจะอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของประเทศใด
- คุณพร้อมรับมือกับระบบกฎหมายท้องถิ่นในประเทศเป้าหมายของคุณอย่างเต็มที่หรือไม่
การรองรับหลายภาษา:
- คุณสามารถให้บริการในภาษาที่ลูกค้าในประเทศเป้าหมายเข้าใจได้หรือไม่
- คุณสามารถให้บริการในภาษาที่ลูกค้าในประเทศเป้าหมายเข้าใจได้หรือไม่
การตอบสนองต่อหลักปฏิบัติทางธุรกิจและคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน:
- คุณเข้าใจหรือไม่ว่าหลักปฏิบัติทางธุรกิจและภูมิหลังทางวัฒนธรรมในประเทศเป้าหมายอาจแตกต่างจากญี่ปุ่น และสามารถตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่
- คุณเข้าใจหรือไม่ว่าหลักปฏิบัติทางธุรกิจและภูมิหลังทางวัฒนธรรมในประเทศเป้าหมายอาจแตกต่างจากญี่ปุ่น และสามารถตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่
โลจิสติกส์และการสนับสนุนลูกค้า
โมเดลธุรกิจ:
- คุณเลือกโมเดลธุรกิจที่เหมาะกับบริษัทและได้คำนึงถึงโลจิสติกส์หรือไม่
- คุณจะจัดการสินค้าคงคลังในประเทศเป้าหมายหรือจัดส่งโดยตรงจากญี่ปุ่น
- คุณเลือกโมเดลธุรกิจที่เหมาะกับบริษัทและได้คำนึงถึงโลจิสติกส์หรือไม่
การควบคุมคุณภาพ:
- ศูนย์กระจายสินค้าที่คุณวางแผนจะใช้มีระบบปรับอากาศ แนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัย และการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
- ศูนย์กระจายสินค้าที่คุณวางแผนจะใช้มีระบบปรับอากาศ แนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัย และการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
ความเข้าใจเกี่ยวกับค่าขนส่ง:
- คุณรู้เรื่องค่าขนส่ง และเข้าใจถึงความสมดุลระหว่างบริการกับค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ของคุณหรือไม่
- คุณรู้เรื่องค่าขนส่ง และเข้าใจถึงความสมดุลระหว่างบริการกับค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ของคุณหรือไม่
จํานวนวันในการจัดส่ง:
- คุณสามารถลดเวลาการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้หรือไม่
- คุณสามารถลดเวลาการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้หรือไม่
การจัดการการคืนและเปลี่ยนสินค้า:
- คุณสามารถรับมือกับการยกเลิกคําสั่งซื้อ การส่งคืนและเปลี่ยนสินค้าได้หรือไม่
- คุณสามารถรับมือกับการยกเลิกคําสั่งซื้อ การส่งคืนและเปลี่ยนสินค้าได้หรือไม่
การสนับสนุนลูกค้า:
- คุณมีคู่มือธุรกิจและมาตรการสนับสนุนลูกค้าหรือไม่
- คุณมีคู่มือธุรกิจและมาตรการสนับสนุนลูกค้าหรือไม่
ศุลกากร
สิ่งของต้องห้าม:
- คุณได้ตรวจสอบรายการต้องห้ามนำเข้าในประเทศเป้าหมายของคุณหรือยัง
- คุณได้ตรวจสอบรายการต้องห้ามนำเข้าในประเทศเป้าหมายของคุณหรือยัง
ข้อติดขัดในขั้นตอนศุลกากร:
- พิธีการศุลกากรมีข้อติดขัดใดหรือไม่ หากมี บริษัทของคุณสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าได้หรือไม่
- พิธีการศุลกากรมีข้อติดขัดใดหรือไม่ หากมี บริษัทของคุณสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าได้หรือไม่
มาตรการป้องกันการฉ้อโกง:
- หากซัพพลายเออร์ระบุราคาในใบแจ้งหนี้ต่ำกว่าราคาจริงที่จ่ายไปเพราะอยากช่วยคุณประหยัดค่าภาษีศุลกากร สินค้าอาจมีการประเมินราคาต่ำกว่าจริงที่ศุลกากร ทำให้บริษัทของคุณจ่ายภาษีต่ำกว่าที่ควร คุณพร้อมที่จะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวจากซัพพลายเออร์หรือไม่
- หากซัพพลายเออร์ระบุราคาในใบแจ้งหนี้ต่ำกว่าราคาจริงที่จ่ายไปเพราะอยากช่วยคุณประหยัดค่าภาษีศุลกากร สินค้าอาจมีการประเมินราคาต่ำกว่าจริงที่ศุลกากร ทำให้บริษัทของคุณจ่ายภาษีต่ำกว่าที่ควร คุณพร้อมที่จะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวจากซัพพลายเออร์หรือไม่
โปรดทราบว่าการประเมินมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงเป็นแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ผิดกฎหมาย โดยธุรกิจจะสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าราคาจริงต่อศุลกากรเพื่อลดภาษีศุลกากรที่ต้องจ่าย
สภาพแวดล้อมการชําระเงิน
วิธีการชําระเงิน:
- คุณเสนอวิธีการชําระเงินที่หลากหลายหรือไม่
- คุณเสนอวิธีการชําระเงินที่หลากหลายหรือไม่
มาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการชําระเงิน:
- คุณมีมาตรการป้องกันการฉ้อโกงบัตรเครดิตหรือไม่
- คุณมีมาตรการป้องกันการฉ้อโกงบัตรเครดิตหรือไม่
สกุลเงิน:
- คุณจะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงเงินเยนเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้หรือไม่ และรองรับสกุลเงินของประเทศเป้าหมายหรือไม่
- คุณจะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงเงินเยนเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้หรือไม่ และรองรับสกุลเงินของประเทศเป้าหมายหรือไม่
Stripe Connect ทําให้การจัดการการชําระเงินกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจหลายรายเป็นเรื่องง่าย และยังมีฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงการขาย การจัดจําหน่าย การเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ และรองรับธุรกรรมระหว่างประเทศ หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพฟังก์ชันการชําระเงิน และลดความซับซ้อนของขั้นตอนการชําระเงินในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเองหรือมาร์เก็ตเพลสที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย เช่น ร้านค้าและลูกค้า คุณจะขยายธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้ Stripe Connect
การเตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมสําหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
ในบทความนี้เราได้อธิบายวิธีเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน รวมถึงโมเดลธุรกิจและปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จ อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนขยายธุรกิจของคุณไปไกลกว่าตลาดในประเทศโดยนำไปสู่ตลาดต่างประเทศ ธุรกิจในญี่ปุ่นควรทราบด้วยว่าตลาดขาเข้า (เช่น นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวญี่ปุ่น) กําลังขยายตัว การหลั่งไหลเข้ามาของลูกค้าจากต่างประเทศเปิดโอกาสให้ธุรกิจในญี่ปุ่นได้นําเสนอแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครของตนให้โลกได้รู้จัก
ธุรกิจที่ขยายกิจการไปยังต่างประเทศจะต้องมีพนักงานที่ถูกต้องและทักษะทางภาษาที่เหมาะสมในการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น นี่อาจเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ยากจะเอาชนะ ดังนั้นผู้มาใหม่จึงมักเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายกว่าถ้าจะเริ่มต้นด้วยการใช้ห้างอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่นที่ดําเนินงานในต่างประเทศและให้ความสำคัญกับแนวโน้มการขายในต่างประเทศ
ผู้ที่กําลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ควรทําความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีบทบาทต่อความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน คุณจําเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนในเรื่องต่างๆ เช่น โลจิสติกส์ การสนับสนุนลูกค้า ภาษีศุลกากร และระบบการชําระเงิน
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ