Bodum ก่อตั้งเมื่อปี 1944 และเป็นธุรกิจครอบครัวที่สืบต่อกันมาถึง 3 รุ่น บริษัทผลิตของใช้ภายในครัวเรือนและเครื่องครัว โดยมีสโลแกนคือ "สร้างรสชาติที่คุณดื่มด่ำ ไม่ใช่เททิ้ง" Bodum ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าราคาย่อมเยาและความยั่งยืน โดยไม่เคยลดทอนคุณภาพลงเลย

ยั่งยืน ใช้งานได้จริง ส่งตรงถึงผู้บริโภค

Bodum เติบโตเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกและสั่งสมฐานลูกค้าผู้ภักดีจากการใช้แนวทางที่ไม่เหมือนใครในการออกแบบสินค้าที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด บริษัทก็พบกับความท้าทายครั้งใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

Bodum มีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งและประกอบด้วยร้านค้าปลีกหลายพันแห่ง แต่ภายในข้ามคืน ศูนย์การค้าทั่วโลกเปลี่ยนเป็นเงียบเหงาและผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น เมื่อต้องติดอยู่แต่ในบ้านอย่างไม่มีกำหนด หลายคนจึงเริ่มหาซื้อของใช้ใหม่ๆ เนื่องจากจำเป็นต้องเข้าครัวทำอาหารรับประทานเองในช่วงล็อกดาวน์ โดยมีรายงานว่าการทำอาหารรับประทานเองและการดื่มกาแฟเพิ่มขึ้นจนทำลายสถิติ ซึ่ง Bodum เองก็มองเห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้เข้าชมเว็บไซต์เช่นกัน ดังนั้น อีคอมเมิร์ซจึงกลายมาเป็นช่องทางจัดจำหน่ายหลักของบริษัทอย่างรวดเร็ว

_ขั้นตอนการชำระเงินที่คำนึงถึงทุกรายละเอียด _

ปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์จากอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยตรง Bodum จึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมมาช่วยสร้างประสบการณ์บนโลกออนไลน์ที่ราบรื่นให้กับผู้บริโภค

"บางครั้งคนเราก็คิดว่าการขายสินค้าทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย แต่การชำระเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับลูกค้าหลายคนครับ" Peter Bodum ผู้จัดการฝ่ายอีคอมเมิร์ซ กล่าว “คนเราคาดหวังว่าขั้นตอนการชำระเงินจะต้องเรียบง่าย ถ้าหากยุ่งยากกับการคลิกหลายครั้งเกินไป หรือชำระเงินไม่สำเร็จ เราจะเสียโอกาสในการขายไปทันที”

ลูกค้าทางออนไลน์ของ Bodum มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับการช็อปปิ้งทางออนไลน์ โดยมีอายุระหว่าง 21-35 ปีและต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์เรียบง่ายสะอาดตาและโฉบเฉี่ยว เนื่องจากการออกแบบที่สวยงามไร้ที่ติคือหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Bodum ดังนั้น บริษัทจึงต้องการความสมบูรณ์แบบในระดับเดียวกันกับขั้นตอนการชำระเงินด้วย

Bodum ร่วมมือกับ Stripe มอบประสบการณ์อันน่ารื่นรมย์ให้กับลูกค้าทั้งบนเดสก์ท็อปและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งการผสานการทำงานกับ Stripe Elements ที่มอบขั้นตอนการชำระเงินในแบบที่ธุรกิจต่างๆ ต้องการด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด ช่วยให้ Bodum รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทันที รวมทั้งเสนอวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าออกแบบเองได้ทั้งในเบลเยียม (Bancontact) และเนเธอร์แลนด์ (iDEAL)

การผสานการทำงานที่ง่ายดายช่วยสนับสนุนการเติบโตทั่วโลก

Bodum เป็นธุรกิจครอบครัวที่มีเป้าหมายในระดับโลก ระหว่างเกิดโรคระบาด บริษัทสามารถขยายธุรกิจออนไลน์แบบทำการตลาดกับผู้บริโภคโดยตรงไปยัง 23 ประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชีย

“Stripe ช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนในช่วงที่เกิดโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการทางออนไลน์และเตรียมระบบโดยใช้เวลาภายในไม่ถึงเดือน เป็นเพราะ Stripe เราจึงเปิดตัวธุรกิจในประเทศใหม่ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการจำหน่ายสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น และยกระดับแนวทางส่งเสริมความยั่งยืนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้นักพัฒนามากขึ้นหรือต้องอัปเดตระบบเลย”

สำหรับอนาคตของบริษัท Peter กล่าวว่า “เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราจะยังคงขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศทั้งทางออนไลน์ รวมถึงทางออฟไลน์ผ่านร้านค้าปลีกของเราด้วย สิ่งสำคัญก็คือความยืดหยุ่นครับ ธุรกิจขายปลีกทั่วโลกจะเปลี่ยนไปจากเดิม และเราจำเป็นต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อให้ทันกับอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด อย่างที่เราทำในช่วงที่เกิดโรคระบาด ซึ่ง Stripe ช่วยให้เราสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆ ได้มากขึ้นอย่างมากเลยครับ”