ความท้าทาย

CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง François de Kerret รู้สึกหงุดหงิดกับความลำบากในการสนับสนุนองค์กรไม่แสวงผลกำไร การบริจาคให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไรมักจะเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากและไม่โปร่งใส ซึ่งแตกต่างจากการจอง Airbnb หรือการสั่งอาหารด้วยการแตะ 2-3 ครั้งในแอป หลายองค์กรมีระบบการชำระเงินที่วุ่นวายและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริจาคสงสัยว่าเงินบริจาค 100 ดอลลาร์ของตนจะช่วยสนับสนุนองค์กร เช่น ธนาคารอาหารในท้องถิ่น ได้มากเพียงใด

ในอีกด้านของระบบนิเวศผู้บริจาค องค์กรไม่แสวงผลกำไรต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านงบประมาณอย่างมาก เพราะผู้บริจาคต้องการให้เงินบริจาคส่งตรงไปยังเป้าหมาย 100% แต่แพลตฟอร์มการระดมทุนแบบเดิมๆ นั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากองค์กรไม่แสวงผลกำไรราว 2%–8% สิ่งนี้บังคับให้องค์กรต้องเลือกระหว่างประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริจาค

ในปี 2018 de Kerret ได้ร่วมก่อตั้ง Zeffy เพื่อเสนอแพลตฟอร์มฟรีโดยสิ้นเชิงให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไร ซึ่งได้รับทุนจากการบริจาคที่เป็นทางเลือกจากผู้บริจาค ในฐานะที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่ขาดการสนับสนุน Zeffy ต้องการเปิดตัวอย่างรวดเร็ว ผู้ก่อตั้งกำหนดเป้าหมายให้ตัวเองเพียง 2 สัปดาห์ในการเริ่มต้นและดำเนินการ Zeffy ต้องการพันธมิตรด้านการชำระเงินที่สามารถจัดการธุรกรรมที่ซับซ้อนหลายฝ่ายและยังสนับสนุนวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมเพื่อเพิ่มอัตราการแปลงของผู้บริจาค เนื่องจาก Zeffy ครอบคลุมค่าธรรมเนียมทั้งหมดสำหรับองค์กรไม่แสวงผลกำไร ความสามารถเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความยั่งยืนของ Zeffy

เมื่อองค์กรเริ่มเติบโต Zeffy ยังต้องการพาร์ทเนอร์ที่สามารถช่วยแก้ไขช่องว่างที่สำคัญ ซึ่งก็คือ องค์กรไม่แสวงผลกำไรหลายแห่งติดอยู่กับบัญชีธนาคารธรรมดาๆ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนเมื่อมียอดในบัญชีต่ำเกินไป องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์เช่นการเคลื่อนย้ายเงินที่รวดเร็ว การยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือเครื่องมือทางการเงินขั้นสูงที่ธุรกิจขนาดใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ Zeffy ยังต้องการระบบป้องกันการฉ้อโกงที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้ององค์กรไม่แสวงผลกำไรและผู้บริจาคจากธุรกรรมที่ฉ้อโกงและข้อพิพาทการชำระเงิน สุดท้าย ในฐานะบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน Zeffy ต้องการเครื่องมือที่จะช่วยให้บริษัทขยายตัวในระดับสากลได้รวดเร็วเพื่อแสดงความสามารถในตลาดให้กับนักลงทุน

โซลูชัน

Zeffy เลือก Stripe ตั้งแต่วันแรกเพื่อประมวลผลการบริจาคให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไร โดยเริ่มต้นจากการใช้ Stripe Payments เพื่อเปิดใช้งานแพลตฟอร์มการระดมทุน เมื่อเวลาผ่านไป Zeffy ได้ปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อเพิ่มอัตราการสร้างผู้บริจาคให้สูงสุดผ่านฟีเจอร์เช่นโทเค็นเครือข่ายและ Adaptive Acceptance ที่ช่วยให้แน่ใจว่าการชำระเงินสำเร็จด้วยดี ซึ่งรวมถึงการเปิดใช้งาน Apple Pay และ Google Pay เพื่อการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น และเสนอการชำระเงิน ACH เพื่อลดต้นทุนในการบริจาคจำนวนมาก เพื่อทำให้การตรวจสอบการชำระเงิน ACH ราบรื่น Zeffy จึงนำ Stripe Financial Connections มาใช้ ซึ่งอนุญาตให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรสามารถตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้บริจาคได้ทันที

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว Zeffy ตั้งเป้าที่จะเป็น "ธุรกิจสำเร็จรูป" ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะรวมถึงบริการธนาคาร การจัดการค่าใช้จ่าย และเครื่องมือทางการเงินสำหรับองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์นี้ Zeffy ต้องการให้กระบวนการเริ่มต้นใช้งานการชำระเงินถูกฝังอยู่ในแพลตฟอร์มอย่างสมบูรณ์ แทนที่จะส่งผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม แทนที่จะเป็นเช่นนั้น Zeffy ใช้ Stripe Connect เพื่อช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรลงทะเบียน ยืนยันข้อมูลของตน และเริ่มรับบริจาคได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดภายในแพลตฟอร์มของ Zeffy เอง ในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย สิ่งนี้ทำให้ทีมงานของ Zeffy สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างฟีเจอร์ที่ปรับให้เข้ากับองค์กรไม่แสวงผลกำไร แทนที่จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนด

เมื่อแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น Zeffy ก็ปรับปรุงการผสานการทำงานของ Connect โดยการเปิดตัวกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่มีแบรนด์ร่วมซึ่งผสมผสานกระบวนการ KYC ของ Stripe กับอินเทอร์เฟซของ Zeffy โดยรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ราบรื่นในขณะที่ใช้ประโยชน์จากการเริ่มต้นใช้งานที่โฮสต์โดย Stripe

ความสำเร็จในเบื้องต้นทำให้ Zeffy ขยายข้อเสนอเพื่อช่วยให้องค์กรจัดการการดำเนินงานทางการเงินมากขึ้นในที่เดียว บริษัทได้เพิ่ม Stripe Treasury ซึ่งช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรสามารถรับรางวัลจากยอดบริจาคและเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงเช่นการถอนเงิน

Stripe Radar ให้การป้องกันการฉ้อโกงที่สำคัญเมื่อ Zeffy เติบโต โดยใช้ AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลทั่วโลกหลายล้านบริษัทเพื่อคาดการณ์และปิดกั้นการฉ้อโกง Zeffy ใช้ Radar เพื่อระบุองค์กรที่แสดงรูปแบบของกิจกรรมที่น่าสงสัย รวมถึงองค์กรที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ Zeffy รวมถึงองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ถูกโจมตีโดยกิจกรรมฉ้อโกง เช่น การทดสอบบัตร และเมื่อ Zeffy ต้องการจัดตั้งการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็วในระหว่างการระดมทุน Series A บริษัทก็ใช้ Stripe Atlas เพื่อจัดตั้งในเดลาแวร์ได้อย่างง่ายดายและได้รับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในสหรัฐอเมริกาเพียงได้ง่ายๆ ผ่านการประมวลผลที่เร่งด่วนในวันถัดไป

ผลลัพธ์

Zeffy เปิดตัวการประมวลผลบริจาคใน 2 สัปดาห์ด้วย Payments

Zeffy ใช้กระบวนการผสานการทำงานที่ง่ายของ Payments เพื่อเปิดตัวเวอร์ชันแรกของฟีเจอร์การประมวลผลบริจาคไม่นานหลังจากการก่อตั้งบริษัท กระบวนการที่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพราะมี API ที่เป็นมิตรกับนักพัฒนาของ Stripe และเอกสารประกอบที่ครอบคลุม ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ขาดการสนับสนุนทางการเงินประสบความสำเร็จในการเปิดตัวฟีเจอร์การประมวลผลบริจาคครั้งแรกภายในกำหนดเวลาที่กระชั้นชิด: “เราต้องทำให้เร็วมาก” de Kerret กล่าว “จริงๆ แล้วเราทำเวอร์ชันการบริจาคแรกได้ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น”

การประมวลผลการชำระเงินมากกว่า 1 ล้านรายการผ่านวิธีการชำระเงินหลายวิธีผ่าน Payments

การนำเสนอวิธีการชำระเงินหลายวิธีของ Zeffy รวมถึง Apple Pay และ Google Pay สำหรับการชำระเงินที่รวดเร็ว รวมถึง ACH ช่วยให้มีการประมวลผลการชำระเงินมากกว่า 1 ล้านรายการบน Stripe การที่แพลตฟอร์มมีอัตราการยอมรับสูงในวิธีการชำระเงินที่หลากหลายเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างผู้บริจาค

ปริมาณการบริจาคเพิ่มขึ้น 30 เท่าเป็นมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ใน 3 ปีเมื่อใช้ Connect

ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2025 Zeffy ได้เพิ่มปริมาณการบริจาคขึ้น 30 เท่า โดยมีมูลค่าบริจาคทั้งหมดที่ประมวลผลมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ การเติบโตแบบทวีคูณนี้เกิดจากความสามารถของ Connect ที่ช่วยให้ Zeffy ขยายฐานองค์กรไม่แสวงผลกำไรได้เร็วขึ้น ดำเนินการชำระเงินและการเบิกจ่ายได้อย่างเชื่อถือได้ และขยายพอร์ตโฟลิโอวิธีการชำระเงินเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริจาค

Zeffy ใช้นักพัฒนาเพียงคนเดียวในการนำ Stripe ไปใช้

Zeffy สนับสนุนองค์กรไม่แสวงผลกำไรได้มากกว่า 50,000 แห่งด้วย Connect โดยดำเนินการบริจาคหลายร้อยล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน เมื่อ Zeffy นำ Connect ไปใช้ครั้งแรก ขั้นตอนนั้นก็ราบรื่น

“ในเวลาเพียง 5 ปีครึ่ง เราเติบโตจากศูนย์ไปถึง 100 ล้านดอลลาร์ในยอดการเบิกจ่ายรายเดือนกับ Stripe” de Kerret กล่าว “ในช่วงเวลานั้น นักพัฒนาคนเดียวก็เพียงพอที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐานของ Stripe”

Zeffy ขยายตัวอย่างรวดเร็วในระดับนานาชาติด้วย Atlas

Zeffy ขยายจากแคนาดาไปยังสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้สำเร็จโดยใช้ Atlas ทำให้เสร็จสิ้นกระบวนการภายใน “ไม่กี่ชั่วโมง” ตามที่ de Kerret กล่าว การทำงานได้รวดเร็วขนาดนี้ทำให้ Zeffy แสดงศักยภาพในตลาดสหรัฐอเมริกาให้นักลงทุนเห็นในระยะเวลาที่จำกัด