ธุรกรรมแบบหักบัญชีทันทีคือการชําระเงินแบบเรียลไทม์ ซึ่งถอนเงินจากบัญชีหนึ่งเพื่อโอนไปยังอีกบัญชีธนาคารหนึ่ง หรือไปยังบัญชีบัตรเดบิตอีกบัญชีเกือบจะในทันที การหักบัญชีทันทีเป็นธุรกรรมที่มีการอนุม้ติและเคลื่อนย้ายเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากธุรกรรมหักบัญชีทั่วไปซึ่งอาจใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันหรือมากกว่าเพื่อชําระรายการ เนื่องจากบริษัทต่างๆ รับการชําระเงินแบบเรียลไทม์กันมากขึ้น คาดว่าธุรกรรมแบบชําระเงินทันทีทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028

ด้านล่างนี้เราจะอธิบายว่าการชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีมีผลต่อกระแสเงินสดของธุรกิจอย่างไร มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันโดยทั่วไปมีอะไรบ้าง และวิธีที่ธุรกิจจะนำการชําระเงินประเภทนี้มาใช้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีแตกต่างจากธุรกรรมการหักบัญชีโดยทั่วไปอย่างไร
  
• การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีส่งผลต่อกระแสเงินสดของธุรกิจอย่างไร
  
• มาตรการรักษาความปลอดภัยสําหรับธุรกรรมแบบหักบัญชีทันทีมีอะไรบ้าง
  
• วิธีที่ธุรกิจจะเข้าถึงและส่งเงินได้ทันที
  

การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีแตกต่างจากธุรกรรมการหักบัญชีโดยทั่วไปอย่างไร

ทั้งการชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีและธุรกรรมแบบหักบัญชีทั่วไปจะดึงเงินจากบัญชีธนาคารโดยตรง แต่จะทํางานบนคนละเครือข่ายกันและใช้เวลาในการประมวลผลแตกต่างกัน การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีจะดําเนินการในเครือข่ายการชําระเงินแบบเรียลไทม์ที่ใหม่กว่า เช่น FedNow ในสหรัฐอเมริกาและบริการ Faster Payments Service (FPS) ในสหราชอาณาจักร และโดยทั่วไปจะชําระภายในไม่กี่นาที ในขณะที่ธุรกรรมแบบหักบัญชีทั่วไปต้องพึ่งพาระบบเดิมอย่างสํานักหักบัญชีอัตโนมัติ (ACH) ในสหรัฐอเมริกาหรือ Bacs ในสหราชอาณาจักร และอาจใช้เวลา 2-3 วันในการชําระเงิน

การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีส่งผลต่อกระแสเงินสดของธุรกิจอย่างไร

การชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีส่งผลกระทบโดยตรงและวัดผลได้ต่อกระแสเงินสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่พึ่งพาปริมาณธุรกรรมจํานวนมาก การหมุนเวียนเงินที่เร็ว และการจ่ายเงินที่ต้องทันต่อเวลา ประโยชน์บางประการของการชําระเงินแบบเรียลไทม์มีดังนี้ประโยชน์

• ได้สภาพคล่องสำหรับการดําเนินงานประจําวันทันที: เมื่อธุรกิจร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และธุรกิจอีคอมเมิร์ซเข้าถึงเงินทุนได้ทันที ธุรกิจเหล่านี้จะสามารถจัดการหลายค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าหลายรายการ เช่น การซื้อสินค้าเข้าคลัง เงินเดือน หรือการชําระเงินซัพพลายเออร์โดยไม่ต้องรอการชำระเงิน ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับบริษัทที่มีส่วนต่างน้อยหรือมีค่าใช้จ่ายรายวันสูง

• แพลตฟอร์มและบริการต่างๆ สามารถจ่ายเงินได้ง่ายขึ้น: แพลตฟอร์มที่จ่ายเงินให้กับผู้ทํางานอิสระ ผู้ขับ หรือผู้ขาย เช่น แอปเรียกรถโดยสารหรือมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ สามารถโอนรายรับให้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ล่าช้าเหมือนระบบธนาคารแบบเดิมๆ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มการรักษาผู้ปฏิบัติงานและลดคอขวดกระแสเงินสดให้แพลตฟอร์มได้ ในทํานองเดียวกัน บริการแบบสมัครสมาชิก บริษัทที่ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS) และแพลตฟอร์มเนื้อหาดิจิทัลที่จัดการการชําระเงินนับพันรายการต่อวันสามารถหลีกเลี่ยงคิวการเบิกจ่ายที่รอดําเนินการซึ่งเกิดจากวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้

• สถานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้นสําหรับธุรกรรมแบบ B2B: ธุรกิจที่ดําเนินงานซัพพลายเชนแบบทันเวลา (JIT) หรือธุรกิจที่จําเป็นต้องจ่ายเงินให้กับผู้ให้บริการอย่างรวดเร็วสามารถรับส่งเงินได้เร็วขึ้น ความเร็วนี้ช่วยเพิ่มอํานาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์และช่วยป้องกันการลงโทษเนื่องจากชำระเงินล่าช้า

มาตรการรักษาความปลอดภัยสําหรับธุรกรรมแบบหักบัญชีทันทีมีอะไรบ้าง

ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ธุรกิจจะได้ประโยชน์จากธุรกรรมแบบหักบัญชีทันทีไปพร้อมๆ กับป้องกันการฉ้อโกง ธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และการชําระเงินที่ไม่สําเร็จ วิธีการมีดังนี้

• การตรวจสอบสิทธิ์ระดับธนาคาร: โดยปกติการชําระเงินแบบหักบัญชีทันทีจะใช้อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชันของธนาคาร (API) ที่ปลอดภัยซึ่งต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) ซึ่งหมายความว่าเจ้าของบัญชีจะต้องพิสูจน์ตัวตนอย่างน้อยสองวิธี

• การตรวจจับการฉ้อโกงขณะใช้งาน: เนื่องจากการชำระเงินเกิดขึ้นเกือบจะในทันที เครือข่ายการชําระเงินจึงต้องวิเคราะห์การฉ้อโกงแบบเรียลไทม์โดยใช้แมชชีนเลิร์นนิงและประวัติธุรกรรมเพื่อแจ้งเตือนกิจกรรมที่น่าสงสัยก่อนจะดําเนินการเรียกเก็บเงิน

• การควบคุมความเสี่ยงสําหรับการชําระเงินปริมาณมาก: ระบบการชําระเงินแบบเรียลไทม์จะติดตามอัตราความเร่ง (จํานวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน) และรูปแบบที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังยืนยันด้วยว่ามียอดเงินที่ใช้ได้หรือไม่เพื่อลดจํานวนธุรกรรมที่ดําเนินการไม่สําเร็จ

• การคุ้มครองการโต้แย้งการชําระเงินและการย้อนกลับรายการ: โดยปกติการชําระเงินผ่านการหักบัญชีทันทีมักจะเป็นที่สิ้นสุดหลังจากประมวลผลแล้ว ซึ่งแตกต่างจากการดึงเงินคืนจากบัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม ธนาคารบางแห่งมีการใช้มาตรการคุ้มครองความรับผิดกรณีฉ้อโกงสําหรับธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต

วิธีที่ธุรกิจเข้าถึงและส่งเงินทุนได้ทันที

หากคุณกําลังใช้ Stripe และต้องการประโยชน์จากการชําระเงินแบบหักบัญชีทันที คุณสามารถทําได้หลายวิธี

ถอนเงินได้ทันที

คุณสมบัติการเบิกจ่ายทันทีของ Stripeในกรณีที่ถอนเงิน คุณจะสามารถถอนเงินและชําระเงินไปยังบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงไว้หรือบัตรเดบิต Visa หรือ Mastercard ได้ภายในไม่กี่นาที แทนที่จะใช้เวลา 2-3 วันทําการตามปกติ

รวดเร็ว มีการรองรับอย่างกว้างขวาง และตั้งค่าได้ง่าย:

• ตรวจสอบว่าบัญชี Stripe ของคุณเข้าคุณสมบัติหรือไม่ (คุณสมบัติจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประวัติธุรกรรมและความเสี่ยง)

• เชื่อมโยงบัตรเดบิตหรือบัญชีธนาคารที่คุณต้องการส่งเงิน

• สามารถกำหนดการเบิกจ่ายได้ผ่านแดชบอร์ด Stripe หรือ API ในแดชบอร์ด ให้ไปที่แท็บ "การเบิกจ่าย" แล้วคลิก "เบิกจ่ายเงินทันที"

• เงินทุนจะปรากฏภายใน 30 นาที

การเบิกจ่ายทันทีด้วย Stripe Connect

Stripe Connect ช่วยให้คุณส่งเงินให้กับผู้ขาย ผู้ทํางานอิสระ หรือธุรกิจบนแพลตฟอร์มหรือมาร์เก็ตเพลสของคุณทั่วโลกได้ คุณสามารถเปิดตัวเลือกให้ผู้ใช้เหล่านี้เข้าถึงเงินทุนได้รวดเร็วขึ้นผ่าน Instant Payouts วิธีเริ่มใช้งานมีดังนี้

• ขั้นแรก ให้ตรวจสอบว่าบัญชีของผู้ใช้เข้าคุณสมบัติ Instant Payouts ให้บริการกับบัญชีที่เชื่อมโยงอยู่ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเดียวกันกับแพลตฟอร์มเท่านั้น และคุณต้องใช้สกุลเงินท้องถิ่นด้วย

• คุณสามารถเริ่ม Instant Payouts ด้วยตนเองหรือใช้ API Stripe เพื่อให้ผู้ใช้ดําเนินการด้วยตัวเองได้ หากต้องการดําเนินการด้วยตัวเองจากแดชบอร์ด ให้ไปที่บัญชีที่เชื่อมโยงที่ต้องการ แล้วคลิก "เบิกจ่ายยอดคงเหลือในบัญชี" จากนั้นให้ป้อนจํานวนเงินที่ต้องการ แล้วคลิกที่ "Instant"