เป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจจะทำเรื่องผิดพลาดเกี่ยวกับภาษีสินค้าและบริการ (GST) แม้ว่าจะพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้องแล้วก็ตาม กฎต่างๆ อาจมีการปรับเปลี่ยน การยกเว้นภาษีอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาผ่านไป ข้อผิดพลาดเหล่านั้นอาจทำให้ธุรกิจชำระเงินให้กับสำนักงานภาษีออสเตรเลีย (ATO) มากเกินไปหรือชำระเงินน้อยเกินไป และอาจถูกปรับ

ข่าวดีก็คือข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ GST ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงได้เมื่อคุณรู้ว่าเกิดขึ้นที่ไหนและทำการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ด้านล่างนี้ เราจะพูดถึงข้อผิดพลาดทั่วไปที่ธุรกิจมักทำในการรายงานภาษี GST, ข้อผิดพลาดเหล่านี้ส่งผลให้ชำระเงินเกินหรือไม่เพียงพอได้อย่างไร และคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับ GST คืออะไร
  
• ธุรกิจจ่าย GST มากเกินไปหรือน้อยเกินไปได้อย่างไร
  
• จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณรายงาน GST ไม่ถูกต้อง
  
• ธุรกิจต่างๆ จะปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกําหนดของ GST ได้อย่างไร
  

ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับ GST คืออะไร

ข้อผิดพลาด GST มักจะจัดอยู่ในสองหมวดหมู่ นั่นคือ การรายงาน GST เมื่อไม่จําเป็นและการไม่รายงานทั้งๆ ที่ควรกระทำ ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจึงอ้างสิทธิ์เครดิตที่ไม่มีสิทธิ์หรือชำระเงินไม่ครบตามจำนวน ซึ่งทั้งสองกรณีอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อ ATO ได้

ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดทั่วไปที่ธุรกิจมักกระทำ

การขอคืนภาษี GST จากค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รวมภาษีนี้

ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับธุรกิจบางรายการอาจไม่รวม GST การซื้อต่อไปนี้จะไม่มี GST:

• ค่าธรรมเนียมธนาคารและการชําระเงินกู้

• ผลิตภัณฑ์อาหารพื้นฐานและเวชภัณฑ์ส่วนใหญ่

• น้ํา น้ําเสีย และระบบระบายน้ํา

• บริการขนส่งและไปรษณีย์ระหว่างประเทศ

หากคุณอ้างสิทธิ์เครดิต GST ในสิ่งเหล่านี้ ก็หมายความว่าคุณกำลังพยายามขอคืนภาษีที่ไม่เคยชำระ การอ้างสิทธิ์เกินอาจทำให้เกิดการแก้ไขหรือบทลงโทษของ ATO ดังนั้น โปรดตรวจสอบว่าใบแจ้งหนี้ของซัพพลายเออร์รวม GST อยู่หรือไม่ก่อนที่คุณจะขอรับเครดิต

ลืมที่จะเรียกเก็บ GST จากยอดขายที่ต้องเสียภาษี

ธุรกิจบางแห่งจัดประเภทยอดขายที่ต้องเสียภาษีว่าเป็นปลอดภาษี GST อย่างไม่ถูกต้อง และบ่อยครั้งก็กระทำไปโดยที่ไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

• ร้านอาหารที่ถือว่าอาหารซื้อกลับบ้านเป็นอาหารปลอดภาษี GST อย่างไม่ถูกต้อง

• ผู้ให้บริการที่เข้าใจผิดว่าใบแจ้งหนี้บางรายการไม่มี GST

• ผู้ขายออนไลน์ที่เข้าใจข้อกําหนดเกี่ยวกับ GST สําหรับสินค้าดิจิทัลผิด

หากคุณพลาดการคิด GST จากการขาย ATO จะยังคงคาดหวังให้คุณชำระภาษีนี้

GST ที่คิดซ้ำซ้อน

การรายงานรายรับหรือค่าใช้จ่ายเดียวกันสองครั้งเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ต่อไปนี้เป็นบางสถานการณ์ที่เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้น

• การซื้อที่ไฟแนนซ์: ธุรกิจซื้อสินทรัพย์ (เช่น ยานพาหนะ) ขอรับเครดิต GST เต็มจำนวนล่วงหน้า จากนั้นจึงขอรับ GST ส่วนหนึ่งจากการชำระเงินแต่ละครั้ง

• รายการขายที่ซ้ำซ้อน: ธุรกิจบันทึกการขายรายการเดียวกันไว้ 2 ครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ และชําระ GST ที่เรียกเก็บเป็นจำนวน 2 เท่า

ข้อผิดพลาดเหล่านี้ระบุยอด GST ของคุณเกินจริงและสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นโดยการส่งเงินไปที่ ATO มากกว่าที่คุณต้องจ่ายหรืออ้างสิทธิ์เงินคืนมากกว่าที่คุณควรได้รับ

การใช้รหัสภาษีหรือวิธีการทําบัญชีที่ไม่ถูกต้อง

ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ GST จํานวนมากเป็นผลมาจากการใช้รหัสภาษี หรือวิธีการทําบัญชีที่ไม่ถูกต้อง:

• รหัสภาษี: หากการขายที่ปลอดภาษี GST ถูกระบุให้ต้องเสียภาษีในระบบบัญชีของคุณ คุณจะต้องเสียภาษี GST โดยไม่จำเป็น หากการขายที่ต้องเสียภาษีใช้รหัสว่าปลอดภาษี GST คุณจะชำระภาษีต่ำกว่าที่กำหนด

• วิธีการทําบัญชี: ธุรกิจที่ใช้ระบบบัญชีเงินสดจะรายงาน GST เมื่อได้รับการชำระเงิน ในขณะที่ธุรกิจที่ใช้ระบบบัญชีไม่ใช่เงินสดจะรายงาน GST เมื่อมีการออกใบแจ้งหนี้ เฉพาะธุรกิจที่มีผลประกอบการต่ํากว่า 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เท่านั้นที่ใช้วิธีแบบเงินสดได้ การใช้วิธีที่ผิดอาจทำให้ตัวเลขของคุณผิดพลาดเมื่อคุณยื่นรายงานกิจกรรมทางธุรกิจ (BAS)

การนำค่าใช้จ่ายทางธุรกิจและค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลมาปะปนกัน

เส้นแบ่งระหว่างการใช้จ่ายส่วนบุคคลและธุรกิจที่พร่าเลือนนั้นเพิ่มความเสี่ยงของการอ้างสิทธิ์มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ธุรกิจขนาดเล็กมีความเสี่ยงเป็นพิเศษกับข้อผิดพลาดเหล่านี้ ปัญหาทั่วไปมีดังนี้

• การอ้างสิทธิ์ GST จากการซื้อส่วนบุคคล: เครดิต GST มีผลเฉพาะกับค่าใช้จ่ายทางธุรกิจเท่านั้น

• การไม่แบ่งการใช้งานทางธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคล: หากคุณซื้อแล็ปท็อปและใช้สำหรับงาน 50% และสำหรับกิจกรรมส่วนตัว 50% คุณสามารถอ้างสิทธิ์ได้เพียงครึ่งหนึ่งของ GST

ไม่สนใจธุรกรรมเงินสดหรือยอดขายขนาดเล็ก

นับการขายทุกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเงินสดก็ตาม ธุรกิจบางแห่งรายงานยอดขายเงินสดต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือเพราะหลงลืม ATO มีเครื่องมือจับคู่ข้อมูลที่ซับซ้อนซึ่งตรวจจับรายได้ที่ไม่ได้แจ้ง การไม่บันทึกรายการธุรกรรมเงินสดแม้เป็นจำนวนเล็กน้อยก็เท่ากับว่าคุณชำระ GST ต่ำกว่ามาตรฐาน และหาก ATO จับได้ว่าทำผิดพลาด ก็จะเรียกเก็บค่าปรับจากคุณ

การรายงานการขายสินทรัพย์หรือการซื้อทุนอย่างไม่ถูกต้อง

หากคุณขายสินทรัพย์ธุรกิจ ธุรกรรมดังกล่าวมักมี GST การไม่ได้รายงานจะหมายความว่าคุณยังชําระไม่ครบ ต่อไปนี้เป็นข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย

• ลืมที่จะรายงาน GST ในการขายสินทรัพย์: หากคุณขายรถบริษัทแต่ไม่รายงานส่วนภาษี GST ใน BAS คุณจะชำระภาษีให้กับ ATO ต่ำกว่าที่ควร

• การจัดประเภทการซื้อทุนไม่ถูกต้อง: การซื้อสินทรัพย์ เช่น เครื่องจักรและทรัพย์สิน ควรจะรายงานเป็นการซื้อทุน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางธุรกิจปกติควรจัดประเภทเป็นการซื้อที่ไม่ใช่ทุน ความผิดพลาดนี้อาจทําให้การรายงาน GST ของคุณเกิดความผิดพลาด

ธุรกิจจ่าย GST มากเกินไปหรือน้อยเกินไปได้อย่างไร

ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ GST โดยทั่วไปนําไปสู่หนึ่งในสองผลลัพธ์ นั่นคือ การจ่ายเงินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์แต่ละรายการ

ข้อผิดพลาดด้านเครดิต

ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเครดิตเกิดขึ้นเมื่อคุณชําระเงินเกินเนื่องจากรายงาน GST สูงเกินไป ซึ่งหมายถึงการส่งเงินที่ไม่จำเป็นต้องส่งให้ ATO

กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อ:

• คุณบันทึกการขาย 2 ครั้งหรือเรียกเก็บ GST อย่างไม่ถูกต้องสําหรับสินค้าที่ปลอด GST

• คุณระบุ GST เกินจริงเนื่องจากข้อผิดพลาดในระบบบัญชีของคุณ

• คุณไม่สามารถอ้างสิทธิ์เครดิต GST จากค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่ถูกกฎหมายเนื่องจากธุรกรรมที่มีการจัดประเภทไม่ถูกต้อง

ข้อผิดพลาดในการหักบัญชี

ข้อผิดพลาดในการหักบัญชีเกิดขึ้นเมื่อคุณชำระเงินน้อยไปเนื่องจากคุณรายงาน GST ต่ำกว่าปกติ ซึ่งมักเกิดจากยอดขายตกหล่นหรือการอ้างสิทธิ์เครดิตเกิน

กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อ:

• ลืมใส่ยอดขายที่ต้องเสียภาษีไว้ใน BAS ของคุณ

• คุณรับเครดิต GST ในการซื้อสินค้าหรือบริการส่วนบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์

• คุณปฏิบัติต่อรายรับที่ต้องเสียภาษีอย่างไม่ถูกต้อง โดยดำเนินการเหมือนว่าปลอดภาษี GST

หาก ATO ตรวจพบความคลาดเคลื่อนซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการหักบัญชี คุณอาจต้องชำระเงินย้อนหลัง รวมทั้งจ่ายดอกเบี้ย และค่าปรับ

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณรายงาน GST ไม่ถูกต้อง

ข้อผิดพลาดด้าน GST จะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนทันที แต่คุณจำเป็นต้องแก้ไข ATO มีกระบวนการที่ชัดเจนสําหรับการแก้ไขข้อผิดพลาด และผลที่ตามมาขึ้นอยู่กับว่าความผิดพลาดร้ายแรงเพียงใดและคุณแก้ไขเร็วเพียงใด

หากคุณพบข้อผิดพลาดใน BAS ที่ยื่นแล้ว ATO มักจะให้คุณแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นใน BAS ครั้งต่อไปได้ หากมีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ใน BAS ครั้งต่อไป คุณจำเป็นต้องยื่นเรื่องขอแก้ไข ในกรณีเหล่านี้ คุณอาจต้องติดต่อ ATO โดยตรง ไม่ว่าข้อผิดพลาดจะใหญ่หรือเล็ก ให้บันทึกสิ่งที่ผิดพลาดและวิธีที่คุณแก้ไข เผื่อไว้ในกรณีที่มีคำถามในอนาคต

หากชำระ GST มากเกินไป คุณสามารถเรียกคืนส่วนที่เกินเป็นเครดิตใน BAS ครั้งต่อไปหรือขอคืนเงินได้ หากชำระ GST ไม่เพียงพอ คุณจะต้องชำระส่วนที่ขาด ซึ่งโดยปกติจะมีดอกเบี้ยที่คำนวณจากวันครบกำหนดชำระเดิม

ธุรกิจหลายแห่งสามารถชำระเงินที่เป็นหนี้อยู่และดำเนินงานต่อไปได้ แต่ความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอาจนำไปสู่การตรวจสอบของ ATO ได้ ทั้งนี้ การรายงานต่ำกว่าความเป็นจริงโดยเจตนา (เช่น การละเว้นการขายโดยเจตนา การเพิ่มเครดิตภาษี GST) อาจส่งผลให้ต้องได้รับโทษเป็นจำนวนมากและต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม

หากคุณทำผิดพลาด โปรดแก้ไขโดยเร็วที่สุด ชำระภาษี GST ที่ค้างชำระ (รวมดอกเบี้ย) และแจ้งให้ ATO ทราบ หากจำเป็น โดยทั่วไป ATO จะยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อธุรกิจเปิดเผยข้อผิดพลาดโดยสมัครใจแทนที่จะรอการตรวจสอบจึงจะค้นพบ

ธุรกิจต่างๆ จะปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกําหนดของ GST ได้อย่างไร

ไม่มีใครอยากจ่ายเงินให้ ATO มากเกินไปหรือได้รับใบเรียกเก็บภาษีที่ไม่คาดคิด ต่อไปนี้คือวิธีที่ธุรกิจใช้ปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกําหนดเกี่ยวกับ GST

ใช้ระบบการทําบัญชีที่เชื่อถือได้และตั้งค่าอย่างถูกต้อง

ซอฟต์แวร์การทําบัญชีของคุณควรได้รับการกําหนดค่าสําหรับ GST อย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งค่ารหัสภาษีที่ถูกต้องสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ และประเภทค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์สะท้อนวิธีการรายงาน GST ที่ถูกต้องที่คุณลงทะเบียนกับ ATO และใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลด้วยตนเอง

ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันข้อผิดพลาดได้ แต่ระบบที่มีการกำหนดค่าอย่างดีสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดได้มากมายก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่มีค่าใช้จ่ายสูง

เก็บบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด (และใบกํากับภาษี)

หากต้องการรับเครดิต GST คุณต้องใช้ใบกํากับภาษีที่ใช้งานได้สําหรับการซื้อของธุรกิจทุกรายการ สร้างนิสัยที่จะรวบรวมใบแจ้งหนี้ทั้งหมดและจัดให้เป็นระเบียบ หากไม่มีเอกสารประกอบที่เหมาะสม คุณอาจมีความเสี่ยงในการอ้างสิทธิ์จำนวนเงินที่ไม่ถูกต้อง พลาดการขอเครดิต และประสบปัญหาหาก ATO ตรวจสอบ BAS ของคุณ

แยกการเงินทางธุรกิจและการเงินส่วนบุคคล

ที่มาของความผิดพลาดด้าน GST ประการหนึ่งคือ การรวมค่าใช้จ่ายทางธุรกิจและส่วนตัวเข้าด้วยกัน แนวทางปฏิบัติที่เรียบง่ายเพียงไม่กี่แบบสามารถขจัดความเสี่ยงนี้ได้:

• ใช้บัญชีธนาคารและบัตรเครดิตแยกกันสำหรับธุรกรรมทางธุรกิจ

• แยกยอดซื้อส่วนบุคคลทั้งหมดออกจากบันทึกของธุรกิจ

• ด้วยค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกัน (เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ) ให้อ้างสิทธิ์เฉพาะส่วน GST ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานทางธุรกิจ

การปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยนี้จะช่วยประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และทําให้การกระทบยอดง่ายขึ้น

กระทบยอดบัญชี GST เป็นประจํา

เปรียบเทียบ GST ที่เก็บและ GST ที่จ่ายในระบบบัญชีของคุณกับสิ่งที่คุณรายงานไปยัง ATO หากตัวเลขไม่ตรงกัน ให้ตรวจหาใบแจ้งหนี้ที่ขาดหายไป รายการซ้ํา และรหัสภาษีไม่ถูกต้อง การกระทบยอดเป็นประจําจะช่วยให้คุณตรวจจับข้อผิดพลาดได้ก่อนที่ปัญหาจะใหญ่ขึ้น (และทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า) ในภายหลัง

คอยอัปเดตกฎ GST อยู่เสมอ

กฎระเบียบ GST มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การคอยติดตามข้อมูลข่าวสารสามารถป้องกันความผิดพลาดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ ตรวจสอบการอัปเดตเพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยไม่ได้ตั้งใจ สมัครรับข้อมูลอัปเดตของ ATO เข้าร่วมการสัมมนาผ่านเว็บฟรีของ ATO และตรวจสอบหลักเกณฑ์ GST เฉพาะอุตสาหกรรมเป็นระยะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจของคุณมีภาระผูกพันด้านภาษีที่ซับซ้อน

รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อจําเป็น

หากคุณรู้สึกว่าการปฏิบัติตามภาษี GST เป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือมีคำถามเพิ่มเติม โปรดพิจารณาการทำงานร่วมกับตัวแทนด้านภาษีหรือ BAS ที่จดทะเบียน พวกเขาสามารถตรวจสอบ BAS ของคุณก่อนการยื่นเพื่อตรวจหาข้อผิดพลาด ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ GST ที่ยุ่งยาก เช่น การขายระหว่างประเทศและการกำจัดสินทรัพย์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้การปรับ GST ที่ถูกต้องเมื่อจำเป็น