ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) ในอิตาลี: สิ่งนี้คืออะไรและมีหลักการทํางานอย่างไร

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. คำอธิบายเกี่ยวกับซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)
    1. ข้อแตกต่างระหว่าง BNPL กับสินเชื่อผู้บริโภค
  3. หลักการทํางานของ BNPL
  4. ระเบียบข้อบังคับด้านการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี
    1. บทบัญญัติหลักๆ ของข้อกำหนด CCD II เกี่ยวกับการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี
    2. ข้อยกเว้นของข้อกำหนด CCD II
    3. การดำเนินการตามข้อกำหนด CCD II
  5. ข้อดีของวิธีการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี
    1. ประโยชน์สําหรับลูกค้า
    2. ประโยชน์สําหรับธุรกิจ
  6. ผู้ให้บริการชําระเงินแบบ BNPL รายหลักในอิตาลี

ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) กําลังได้รับความนิยมมากขึ้นในอิตาลี ซึ่งเป็นการพลิกโฉมโลกการชําระเงินอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านอีคอมเมิร์ซ ในปี 2023 ธุรกรรม BNPL ในอิตาลีคิดเป็น 4.6 พันล้านยูโร ซึ่งมีสัดส่วนเป็น 6.5% ของตลาดออนไลน์ในประเทศ มีชาวอิตาเลียนที่ใช้วิธีการชําระเงินนี้อยู่แล้ว 14% โดยเป็นวิธีที่นิยมใช้ซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่าวิธีการชำระเงินอื่น โดยมีอัตราความพึงพอใจสูงมากในระดับที่มีลูกค้าเพียง 2% เท่านั้นที่บอกว่าจะไม่ใช้วิธีนี้อีก

บทความนี้จะอธิบายว่า BNPL คืออะไรในอิตาลี หลักการทํางาน รวมถึงประโยชน์และระเบียบข้อบังคับ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • อธิบายเกี่ยวกับซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)
  • หลักการทํางานของ BNPL
  • ระเบียบข้อบังคับด้านการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี
  • ข้อดีของวิธีการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี
  • ผู้ให้บริการชําระเงินแบบ BNPL รายหลักในอิตาลี

คำอธิบายเกี่ยวกับซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)

ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) ทำให้เลื่อนการชำระเงินออกไปได้ในระยะสั้น ซึ่งปกติแล้วมักจะเกิดขึ้นออนไลน์แต่ก็ใช้กับร้านค้าแบบมีหน้าร้านเช่นกัน เป็นบริการที่ดำเนินการโดยบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบริการนี้ โดยมักใช้กับการซื้อสินค้าหรือบริการขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยให้ผู้ซื้อชําระเงินได้ภายหลังด้วยการผ่อนชําระไม่กี่งวดและมักไม่มีดอกเบี้ย

เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ในอิตาลี BNPL เติบโตอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นการชําระเงินแบบดิจิทัลในประเทศที่ใช้เงินสดเป็นหลักเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ สถานการณ์โรคระบาดยังทําให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทําให้คนหันมาใช้การชําระเงินแบบผ่อนชําระเพื่อจัดการกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อแตกต่างระหว่าง BNPL กับสินเชื่อผู้บริโภค

วิธีการชําระเงินแบบเลื่อนกำหนดแตกต่างจากแผนการผ่อนชำระแบบดั้งเดิม (เช่น สินเชื่อผู้บริโภค) ซึ่งให้บริการโดยธนาคารหรือบริษัทการเงินเท่านั้น และมักเป็นวงเงินก้อนใหญ่กว่าและมีดอกเบี้ย BNPL มีแนวคิดแบบเดียวกัน แต่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับลูกค้า มีเพียงผู้ให้บริการเฉพาะทางเท่านั้นที่ให้บริการนี้ ซึ่งเป็นบริการจัดหาเงินทุนที่รวดเร็วและเรียบง่าย มักไม่จําเป็นต้องใช้เอกสารสนับสนุนและออกแบบมาเพื่อการซื้อที่มีราคาปานกลาง

หลักการทํางานของ BNPL

เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ลูกค้ามักจะเห็นตัวเลือกให้ผ่อนชําระเมื่อเลือกวิธีการชําระเงิน เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ ปกติแล้วลูกค้าจะต้องชําระบางส่วนของราคาทั้งหมดก่อน แล้วแบ่งผ่อนชำระจำนวนเงินที่เหลือเป็นงวด ซึ่งมักใช้เวลา 3-6 เดือน

ในอิตาลี ผู้ให้บริการ BNPL รับความเสี่ยงของสินเชื่อและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเต็มจํานวนของคําสั่งซื้อ เพื่อให้ธุรกิจได้รับชําระเงินค่าสินค้าหรือบริการทั้งหมดทันที

บริการสินเชื่อประเภทนี้รวดเร็วและเข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องลงทะเบียนแยกต่างหากหรือใช้เวลาดำเนินการเพิ่มเติม แม้ว่าผู้ให้บริการ BNPL แต่ละรายจะมีข้อกําหนดและเงื่อนไขแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยตราบใดที่ลูกค้าชําระเงินตรงเวลา หากลูกค้าผิดนัดชำระหรือชำระเงินงวดใดงวดหนึ่งล่าช้าก็จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ระเบียบข้อบังคับด้านการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี

จนถึงขณะนี้หน่วยงานรัฐยังไม่ได้มีการกำกับดูแลบริการการชำระเงินแบบ BNPL เป็นการเฉพาะในอิตาลี เนื่องจากบริการเหล่านี้ได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบเกี่ยวกับสินเชื่อผู้บริโภคที่มีอยู่ มาตรา 2 ของข้อกำหนดว่าด้วยสินเชื่อผู้บริโภค (Directive 2008/48/EC) ไม่นับรวมถึงข้อตกลงที่มีลักษณะต่อไปนี้

  • มูลค่าต่ำกว่า 200 ยูโร

  • ไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • ชําระคืนภายใน 3 เดือน

  • มีค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย

ความนิยมใช้ตัวเลือกการชําระเงินแบบ BNPL ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอิตาลี ผนวกกับข้อกําหนดของสัญญาที่ไม่ชัดเจนจากผู้ให้บริการบางรายเนื่องจากช่องว่างทางการกํากับดูแล ทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ สหภาพยุโรปได้ประกาศใช้ข้อกำหนด 2023/2225 ซึ่งเป็นข้อกำหนดใหม่ (เรียกว่า "CCD II") เพื่อกำกับดูแลบริการ BNPL ในอิตาลีอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก เป็นการยอมรับบทบาทของบริการนี้ในสภาพแวดล้อมการชำระเงินและเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนเพื่อคุ้มครองลูกค้าและส่งเสริมนวัตกรรมไปพร้อมๆ กัน

บทบัญญัติหลักๆ ของข้อกำหนด CCD II เกี่ยวกับการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี

ต่อไปนี้คือสรุปการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่มากับ CCD II:

  • ข้อกําหนดเกี่ยวกับข้อมูลอย่างกว้างๆ
    กฎหมายใหม่ฉบับนี้เพิ่มข้อกําหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลให้กับลูกค้า ทั้งก่อนและระหว่างสัญญา เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีข้อมูลที่จําเป็นต่อการตัดสินใจ ข้อมูลจะต้องถูกต้อง ชัดเจน และไม่ทําให้เข้าใจผิด ไม่อนุญาตให้ใช้ถ้อยคําที่สร้างความคาดหวังที่ผิดเกี่ยวกับสินเชื่อที่ให้บริการ ค่าใช้จ่าย หรือยอดรวมทั้งหมด นอกจากนี้ ลูกค้าต้องให้ความยินยอมอย่างชัดเจนในการเข้าทําสัญญา โดยธุรกิจไม่สามารถถือเองว่าลูกค้าให้ความยินยอม

  • การประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิตของลูกค้าอย่างละเอียดขึ้น
    ผู้ให้กู้จะต้องดําเนินการประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิตของลูกค้าอย่างละเอียด โดยพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รายได้ ค่าใช้จ่าย และรายละเอียดทางการเงินอื่นๆ การประเมินนี้เป็นการปกป้องลูกค้าโดยป้องกันการกู้ยืมเงินอย่างขาดความรับผิดชอบและหนี้สินที่มากเกินไป

  • การเบิกเงินเกินบัญชีและเกินกำหนด
    บทที่ 7 ของข้อกำหนดมุ่งเน้นการกำกับดูแลการเบิกเงินเกินบัญชีและเกินกำหนดเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าเป็นหนี้สินจํานวนมาก

  • บริการให้คําปรึกษาด้านหนี้สิน
    หนึ่งในข้อเสนอที่ล้ำสมัยที่สุดของข้อกำหนดนี้คือการสร้างศูนย์ให้คําปรึกษาที่เป็นอิสระและเข้าถึงได้ง่าย ศูนย์เหล่านี้จะให้การสนับสนุนทางกฎหมาย การเงิน และจิตใจให้กับลูกค้าที่ประสบความยากลําบาก เพื่อให้สามารถจัดการหนี้สินและมีมาตรฐานการครองชีพในระดับที่ยอมรับได้

ข้อยกเว้นของข้อกำหนด CCD II

CCD II ครอบคลุมกรณี BNPL ทั้งหมดในอิตาลี เว้นแต่ข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในมาตราที่ 2 ข้อยกเว้นเหล่านี้มีผลกับการชําระเงินแบบเลื่อนกำหนดในกรณีต่อไปนี้

  • ซัพพลายเออร์สินค้าหรือผู้ให้บริการให้เวลาลูกค้าชําระค่าสินค้าหรือบริการที่ซื้อโดยไม่มีบุคคลที่สามเสนอให้เครดิต

  • ลูกค้าจะต้องจ่ายราคาซื้อโดยไม่มีดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเรียกเก็บอื่นๆ โดยมีค่าใข้จ่ายกรณีชำระเงินล่าช้าเล็กน้อยซึ่งกำหนดตามกฎหมายในประเทศเท่านั้น

  • ลูกค้าจะต้องชําระเงินเต็มจํานวนภายใน 50 วันหลังการจัดส่ง

บริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการขนาดย่อยหรือเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ สามารถให้บริการ BNPL ภายใต้สัญญาทางไกลได้ ซึ่งหากมีการให้บริการ ข้อยกเว้นภายใต้ข้อกำหนด CCD II จะมีผลบังคับใช้หากธุรกรรมตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  • บุคคลที่สามไม่ได้ให้สินเชื่อหรือซื้อแบบใช้จะไม่เสนอหรือซื้อแบบเงินเชื่อ

  • ลูกค้ามีกำหนดชำระเต็มจำนวนภายใน 14 วันหลังการจัดส่ง

  • ลูกค้าจะต้องจ่ายราคาซื้อโดยไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการชําระเงินล่าช้าที่กําหนดตามกฎหมายของประเทศ

การดำเนินการตามข้อกำหนด CCD II

ธุรกิจในอิตาลีจะต้องดําเนินการตามข้อกำหนดและและเผยแพร่กฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรการด้านการบริหารจัดการที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดนี้ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 บทบัญญัติเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2026 เป็นต้นไป โดยนำมาใช้แทนกฎหมายสินเชื่อผู้บริโภคเดิม

ข้อดีของวิธีการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลี

ประโยชน์สําหรับลูกค้า

ประโยชน์ของ BNPL สําหรับลูกค้าคือลูกค้าสามารถซื้อได้ทันที แม้จะเป็นการซื้อในจํานวนเงินที่มาก โดยสามารถเลื่อนการชำระเงินออกไปได้เพื่อป้องกันปัญหาด้านกระแสเงินสด

ประโยชน์สําหรับธุรกิจ

ประโยชน์สําหรับบริษัทในอิตาลีที่รับชําระเงินแบบ BNPL มีดังต่อไปนี้

  • ได้รับชําระเงินทันทีโดยไม่มีความเสี่ยงจากการไม่ชําระเงิน: ธุรกิจจะได้รับเงินเต็มจํานวนทันที ณ เวลาที่ซื้อ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงจากการไม่ชําระเงินหรือการชำระเงินล่าช้าเมื่อถึงงวดชำระเงิน ผู้ให้บริการ BNPL รับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการชําระเงินของลูกค้า

  • ฐานลูกค้าขนาดใหญ่ขึ้น: การนําเสนอตัวเลือกการชําระเงินที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะทําการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์ได้

  • อัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าที่เพิ่มขึ้น: ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อมากขึ้นถ้าสามารถผ่อนชําระได้โดยมีขั้นตอนที่ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะกับการซื้อมูลค่าสูง

  • การผสานการทํางานที่เรียบง่าย: ผู้ให้บริการ BNPL หลายรายนําเสนอโซลูชันการผสานการทํางานที่ง่าย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเพิ่มตัวเลือกการชําระเงินนี้ในขั้นตอนการชําระเงินได้โดยมีงานด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อย

การเลือกผู้ให้บริการชําระเงินที่เหมาะสมเป็นกุญแจสําคัญในการเปิดตัวและขยายธุรกิจออนไลน์ของคุณ Stripe Payments ให้คุณเข้าถึงวิธีการชําระเงินกว่า 100 วิธี ซึ่งรวมถึง BNPL ตัวเลือกแบบผ่อนชําระ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและการรักษาความปลอดภัย เพื่อปกป้องทั้งเงินของคุณและข้อมูลของลูกค้า

ผู้ให้บริการชําระเงินแบบ BNPL รายหลักในอิตาลี

ต่อไปนี้คือผู้ให้บริการ BNPL ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอิตาลี

  • Klarna
    Klarna ยักษ์ใหญ่ด้านการผ่อนชําระของสวีเดน ซึ่งให้บริการในอิตาลีด้วยทั้งแบบออนไลน์และร้านค้าแบบมีหน้าร้าน ผู้ให้บริการรายนี้ให้บริการตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่น 3 รูปแบบ ได้แก่ การชําระเงินเลยทันที, การผ่อนชําระ 3 งวดแบบปลอดดอกเบี้ย, และแบบชําระภายใน 30 วัน คุณสามารถใช้ Klarna ใน Stripe ได้เนื่องจากคุณสมบัติการผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวที่ทำให้ตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องติดตั้งแอป ไม่ต้องมีกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน หรือขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง

  • Scalapay
    Scalapay เป็นบริษัทสัญชาติอิตาลีที่มีตัวเลือกการชําระเงินแบบผ่อนชําระ 3 หรือ 4 งวดแบบปลอดดอกเบี้ย โดยให้บริการทั้งในร้านออนไลน์และหน้าร้าน และเป็นระบบที่ Stripe รองรับ ดูวิธีรับชําระเงินด้วย Scalapay ผ่าน Stripe

  • PagoDIL โดย Cofidis
    บริการนี้ช่วยให้ลูกค้าแยกยอดซื้อออกเป็นงวดได้สูงสุด 12 งวด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งในร้านออนไลน์และในร้านค้าจริง

  • PayPal
    คุณสามารถเลือกตัวเลือกแบ่งชำระยอดซื้อออกเป็น 3 งวดจากบัญชี PayPal ของคุณ

  • Amazon
    สําหรับผลิตภัณฑ์ใน Amazon ที่ร่วมรายการ คุณสามารถเลือกชําระเงินแบบผ่อนชําระรายเดือนได้แบบ 3, 5 หรือ 12 เดือน

  • HeyLight โดย Compass
    บริการนี้มีตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่นหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบออนไลน์และที่หน้าร้าน โดยสามารถแบ่งผ่อนชําระรายเดือนแบบปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 24 งวด

  • FLOA โดย BNP Paribas
    บริการชําระเงินแบบ BNPL ในอิตาลีช่วยให้คุณซื้อสินค้าโดยแบ่งชำระได้ 3 หรือ 4 งวด โดยไม่ต้องส่งเอกสารประกอบหรือเลือกตัวเลือกชําระภายหลังสําหรับการชําระเงินแบบเลื่อนเวลาจ่าย

  • Splittypay โดย Avvera
    Splittypay ช่วยให้คุณแบ่งการชําระเงินแบบปลอดดอกเบี้ยได้ 4 งวดขึ้นโดยไม่ต้องส่งเอกสารเกี่ยวกับรายรับ

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe