ASP ในการขาย: วิธีคำนวณราคาขายเฉลี่ยและความสำคัญ

Sigma
Sigma

ข้อมูลทางธุรกิจที่เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ASP มีความสำคัญอย่างไรต่อการขาย
  3. เหตุใด ASP จึงมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ
    1. ข้อมูลเรียลไทม์สำหรับผลลัพธ์ในการกำหนดราคา
    2. วิธีระบุกลุ่มลูกค้าที่มีค่าที่สุดของคุณ
    3. มุมมองสำหรับการคาดการณ์ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น
    4. พิจารณาข้อดีข้อเสียตามความเป็นจริง
  4. คุณคำนวณ ASP ในการขายอย่างไร
    1. เลือกกรอบเวลาที่สอดคล้องกับจังหวะในการขายของคุณ
    2. เลือกใช้รายรับและหน่วยให้เหมาะสม
    3. นิยาม ’หน่วย’
    4. ตัดสินใจว่าจะจัดการส่วนลดและการคืนเงินอย่างไร
    5. รู้ความแตกต่างระหว่าง ASP และ AOV
    6. เมื่อคุณได้ตัวเลขแล้ว ก็ให้ติดตามแนวโน้ม
  5. Stripe Sigma จะช่วยคุณได้อย่างไร
    1. การคำนวณ ASP ที่ยืดหยุ่นและรวดเร็ว
    2. เทมเพลตในตัวและความช่วยเหลือจาก AI
    3. ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    4. ผลลัพธ์ที่ใช้งานได้ในระดับสูง
    5. ขยายตัวได้
    6. ปลอดภัย รวมศูนย์ และตรวจสอบได้

คุณอาจทราบรายรับสูงสุดและมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย (AOV) ของคุณอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณไม่ได้ดูราคาขายเฉลี่ย (ASP) คุณก็อาจจะภาพรวมส่วนใหญ่ไป นั่นเป็นเพราะ ASP แสดงให้คุณเห็นว่าการกำหนดราคา การจัดชุดผลิตภัณฑ์ การลดราคา และพฤติกรรมลูกค้าให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรแบบเรียลไทม์ หากคุณติดตาม ASP ข้อมูลนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เฉียบคมที่สุดในกลยุทธ์การเติบโตของคุณ เราจะอธิบายความหมายของ ASP ในการขาย วิธีคำนวณ และวิธีติดตามโดยอัตโนมัติโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Stripe Sigma

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ASP มีความสำคัญอย่างไรต่อการขาย
  • เหตุใด ASP จึงมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ
  • คุณคำนวณ ASP ในการขายอย่างไร
  • Stripe Sigma จะช่วยคุณได้อย่างไร

ASP มีความสำคัญอย่างไรต่อการขาย

ASP ย่อมาจาก "ราคาขายเฉลี่ย" ซึ่งเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยที่ลูกค้าจ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น หากคุณทำรายได้ 50,000 ดอลลาร์จากยอดขายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ 500 รายการ ASP ของคุณจะเท่ากับ 100 ดอลลาร์

ASP ไม่ใช่เกณฑ์ชี้วัดผลกำไรและไม่ได้คำนวณต้นทุน แต่จะบอกคุณว่ายอดเงินเฉลี่ยที่การขายแต่ละรายการนำมาให้นั้นเป็นเท่าไร ASP สามารถช่วยให้คุณเข้าใจมูลค่าของการขายของคุณในระดับธุรกรรม และทำหน้าที่เป็นจุดอ้างอิงที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจเรื่องการกำหนดราคา การคาดการณ์ และการขยับขยาย

ธุรกิจอาจใช้คำว่า "ราคายอดขายเฉลี่ย" หรือ "ราคาขายเฉลี่ย" สลับกันไปมา ซึ่งสามารถเรียกได้ทั้งสองแบบ ขอเพียงคุณตั้งเป้าที่หนักแน่นว่าคุณกำลังวัดผลอะไรอยู่ โดย ASP สามารถวัดยอดขายของผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะ หรือยอดขายของผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดที่คุณนำเสนอได้

เหตุใด ASP จึงมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ

ASP จะบอกคุณว่าลูกค้าของคุณจ่ายเงินไปเท่าไรในทุกธุรกรรม และตัวเลขนั้นก็จะช่วยบ่งบอกผลลัพธ์จากกลยุทธ์ของคุณในการทดลองการกำหนดราคา การลดราคา การแบ่งกลุ่ม การรวมกลุ่ม การอัปเกรด และการเสนอสินค้าที่มีราคาถูกกว่า ข้อมูลนี้เปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงินของโมเดลรายรับทั้งหมดของคุณ

นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับจาก ASP

ข้อมูลเรียลไทม์สำหรับผลลัพธ์ในการกำหนดราคา

หาก ASP เพิ่มขึ้น มักจะหมายความว่าลูกค้ากำลังเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจหรือผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้นด้วยตัวเอง หรือทีมขายของคุณ (หรือหน้าการกำหนดราคา หรือกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน) ให้ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในการกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่าย หาก ASP ลดลง คุณก็อาจต้องพิจารณาว่าเป็นเพราะลูกค้าส่วนต่างมุ่งเน้นที่ตัวเลือกระดับพื้นฐาน มีการใช้ส่วนลดมากขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกค้าที่คุณคาดไม่ถึง

ASP สามารถตรวจจับแนวโน้มเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วก่อนสิ้นไตรมาสเสียอีก ซึ่งคุณก็จะได้ทราบว่าคุณบรรลุเป้าหมายการขายแล้วก็จริง แต่เสียโอกาสทำรายรับไปมากเช่นกัน

วิธีระบุกลุ่มลูกค้าที่มีค่าที่สุดของคุณ

ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่จะซื้อของชิ้นเดียวกัน ซึ่ง ASP ก็สามารถช่วยให้คุณเห็นว่าใครใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง คุณอาจพบว่าลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น ผู้ใช้ในสัญญารายปีในบางภูมิภาคมี ASP ที่สูงกว่าลูกค้าที่เหลือถึงสองเท่า ด้วยข้อมูลเชิงลึกดังกล่าว คุณจึงรู้แล้วว่าควรมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จุดไหน ใช้งบประมาณโฆษณาไปกับส่วนใด และทีมขายของคุณควรมุ่งเน้นการสื่อสารในเรื่องใด

มุมมองสำหรับการคาดการณ์ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น

การสร้างแบบจำลองการเติบโตนั้นเป็นเรื่องดี แต่หากจะใช้เพียงสูตร "จำนวนลูกค้าใหม่ × ราคา" คุณก็ต้องรู้ว่าลูกค้าของคุณมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับอะไร หากคุณคาดการณ์จากเพียงราคาบนรายการสินค้าหรือจากสถานการณ์ที่ดีที่สุด คุณก็อาจประเมินมูลค่าสูงเกินไปได้ แต่ถ้าคุณใช้ ASP คุณก็จะสามารถสร้างแผนได้อย่างสอดคล้องกับทิศทางของรายรับของคุณ

พิจารณาข้อดีข้อเสียตามความเป็นจริง

ยอดขายที่คุณเห็นอาจทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นดีใจได้ง่าย แต่ถ้าปริมาณยอดขายสูงขึ้นแต่ ASP กลับลดลงอาจบ่งชี้ว่าคุณกำลังทำลายระบบการกำหนดราคาของคุณเอง หรือทำให้ทีมของคุณหมดไฟด้วยการไล่ตามยอดขายจากข้อเสนอที่มีมูลค่าต่ำ ในทางกลับกัน หากปริมาณคงที่ แต่มี ASP เพิ่มขึ้น ก็อาจบ่งชี้ว่าคุณมีรายรับมากขึ้นจากจำนวนลูกค้าที่น้อยลง หมายความว่าก็สามารถขยายการเติบโตได้อีกในอนาคต ข้อมูล ASP นี้จะช่วยให้คุณเห็นต้นทุนและมูลค่าของตัวเลือกที่ดีและไม่ดีของคุณได้ในทันทีที่มีความเคลื่อนไหว

คุณคำนวณ ASP ในการขายอย่างไร

ในการคำนวณ ASP ให้ใช้สมการนี้:

ASP = รายได้รวม ÷ จำนวนหน่วยที่ขายได้ทั้งหมด

การคำนวณจะมีประโยชน์ตามบริบทที่นำมาใช้ประกอบการคำนวณเท่านั้น ปัจจัยที่สำคัญเมื่อทำการวัด ASP มีดังต่อไปนี้

เลือกกรอบเวลาที่สอดคล้องกับจังหวะในการขายของคุณ

ASP มีกรอบเวลากำหนด การดูข้อมูลเป็นรายเดือนจะให้แนวโน้มระยะสั้น เช่น ผลลัพธ์จากโปรโมชันใหม่หรือการอัปเดตราคา ส่วน ASP รายไตรมาสหรือรายปีจะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เจาะลึกยิ่งขึ้นในพฤติกรรมของลูกค้าหรือชุดผลิตภัณฑ์

เลือกใช้รายรับและหน่วยให้เหมาะสม

หากคุณกำลังคำนวณ ASP สำหรับแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของคุณ ให้ใช้รายรับรวมและหน่วยทั้งหมดในทุกผลิตภัณฑ์ แต่หากคุณกำลังวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์หรือบริการเดี่ยวๆ ให้ลดจำนวนทั้งรายได้และหน่วยลงให้สอดคล้องกัน

นิยาม "หน่วย"

ในบางธุรกิจ "หน่วย" หนึ่งหมายถึงสินค้ารายการเดียว แต่ในบางกรณีก็อาจหมายถึงการเปิดใช้งานการสมัครสมาชิกหนึ่งครั้ง หากลูกค้าซื้อสินค้าเป็นชุด 3 ชิ้น คุณต้องเลือกว่าจะนับชุดสินค้าเป็น 1 หน่วยหรือหน่วยเดียว คุณเลือกใช้วิธีใดก็ได้ แต่ต้องแยกความแตกต่างให้ชัดเจน และใช้วิธีที่สอดคล้องกับวิธีที่ธุรกิจของคุณพิจารณามูลค่าต่อการขาย

ตัดสินใจว่าจะจัดการส่วนลดและการคืนเงินอย่างไร

หากคุณต้องการมุมมองที่ชัดเจนถึงจำนวนเงินที่ลูกค้าชำระเข้ามา ให้ใช้รายรับสุทธิ (หลังส่วนลดและหลังคืนสินค้า) หากคุณใช้รายรับรวม คุณจะได้ ASP ที่สูงกว่าความเป็นจริงและตัวเลขก็จะทำให้คุณเข้าใจภาพรวมผิด สำหรับหน่วยที่คืนเงินก็เช่นกัน อย่ารวมเงินคืนไปกับรายรับและจำนวนหน่วย ให้ติดตามยอดแยกต่างหากเพื่อไม่ให้ข้อมูลปะปนกัน

รู้ความแตกต่างระหว่าง ASP และ AOV

ASP และ AOV มีความคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปแล้วราคาขายเฉลี่ย (ASP) จะคิดต่อรายการสินค้า ส่วนมูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ย (AOV) จะคิดต่อธุรกรรม หากลูกค้าซื้อ 4 ชิ้นที่มีราคาต่อชิ้น 25 ดอลลาร์รวมอยู่ใน 1 คำสั่งซื้อ ASP ของคุณจะเท่ากับ 25 ดอลลาร์แต่ AOV ของคุณจะเป็น 100 ดอลลาร์ ทั้งสองอย่างเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่คุณต้องเข้าใจความแตกต่างให้ดี

เมื่อคุณได้ตัวเลขแล้ว ก็ให้ติดตามแนวโน้ม

ASP เป็นตัวชี้วัดสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นั่นหมายความว่าราคาขายเฉลี่ยของคุณอาจเพิ่มขึ้น หดตัวลง หรือทรงตัวในขณะที่ต้นทุนของคุณเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณา ASP ควบคู่กับปริมาณแล้ว คุณก็จะได้รับมุมมองที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนรายรับของคุณอย่างแท้จริงกันแน่

Stripe Sigma จะช่วยคุณได้อย่างไร

หากคุณใช้ Stripe สำหรับการชำระเงินอยู่แล้ว คุณจะมีข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นในการคำนวณ ASP และ Stripe Sigma จะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้โดยตรง

วิธีการนำข้อมูลเหล่านั้นว่าใช้สำหรับงานในแต่ละวัน

การคำนวณ ASP ที่ยืดหยุ่นและรวดเร็ว

Sigma สามารถให้คุณเข้าถึงข้อมูลการชำระเงินของคุณได้อย่างเต็มที่ในระดับที่ละเอียด หากคุณต้องการทราบจำนวนการขายเฉลี่ยสำหรับผู้ใช้ครั้งแรกที่ซื้อภายใน 14 วันนับจากวันที่สมัครและใช้รหัสโปรโมชั่น คุณจะได้รับข้อมูลนั้น หรือหากคุณต้องการเปรียบเทียบ ASP ใน 2 ผลิตภัณฑ์ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา คุณสามารถทำได้เช่นกัน

คุณสามารถเรียกใช้การสืบค้นที่จะดึงข้อมูล ASP ในภาพรวมให้คุณ หรือจะแบ่งย่อยดังนี้ก็ได้

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์
  • พื้นที่ทางภูมิศาสตร์
  • กลุ่มลูกค้า
  • ระยะเวลา
  • สกุลเงิน

เทมเพลตในตัวและความช่วยเหลือจาก AI

หากคุณไม่คุ้นเคยกับภาษาการสืบค้นแบบมีโครงสร้าง (SQL) นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะ Sigma มาพร้อมกับเทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับเกณฑ์ชี้วัดทั่วไป รวมถึงมีผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถเปลี่ยนคำถามในภาษาอังกฤษให้เป็นการสืบค้น SQL แบบกำหนดเองได้

ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

Stripe ช่วยให้คุณกำหนดเวลาให้เรียกใช้รายงานโดยอัตโนมัติและส่งผลลัพธ์ทางอีเมลได้ ดังนั้นหากคุณต้องการให้ระบบส่งการวิเคราะห์ ASP รายสัปดาห์เข้าสู่กล่องจดหมายของคุณทุกเช้าวันจันทร์หรือสรุปรายเดือนไปยังทีมของคุณ คุณสามารถตั้งค่าเหล่านั้นได้ในไม่กี่คลิก

ผลลัพธ์ที่ใช้งานได้ในระดับสูง

การวิเคราะห์ของคุณจะอยู่ใน Stripe ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องสลับใช้งานหลายๆ เครื่องมือไปมา ข้อมูลก็จะไม่กระจัดกระจายไม่เป็นที่เช่นกัน

เมื่อคุณได้รับข้อมูลแล้ว คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • แสดงผลแนวโน้มตลอดช่วงเวลาต่างๆ ให้เห็นภาพผ่านแผนภูมิแบบในตัว
  • จัดกลุ่ม ASP ตามสัปดาห์ เดือน ฯลฯ
  • กำหนดเวลาเรียกใช้รายงานโดยอัตโนมัติ
  • แบ่งปันผลลัพธ์กับเพื่อนร่วมทีม

ขยายตัวได้

ทุกคนที่มีสิทธิ์ใช้งาน Sigma จะสามารถใช้การสืบค้นเดียวกันซึ่งบันทึกเอาไว้ได้ นั่นหมายความว่า ทีมการตลาดของคุณจะดู ASP ที่แบ่งตามช่องทางการหาลูกค้าได้ ฝ่ายขายก็จะตรวจสอบขนาดข้อตกลงเฉลี่ยที่แบ่งตามประเภทลูกค้าได้ และทีมการเงินก็จะกำหนดเวลาเรียกใช้รายงานเป็นรายเดือนได้

Sigma นั้นออกแบบมาเพื่อการทำงานร่วมกัน และการสืบค้นก็จะสอดคล้องกันตลอดทั้งทีม

ปลอดภัย รวมศูนย์ และตรวจสอบได้

คุณไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลไฟล์ CSV หรือพึ่งพาสเปรดชีตที่อยู่บนเดสก์ท็อปของผู้อื่น สิทธิ์การอนุญาตต่างๆ จะจัดการได้ใน Stripe และข้อมูลจะยังคงอยู่ในที่ที่เหมาะสม หากมีใครสักคนต้องการที่มาของตัวเลขสักรายการหนึ่ง คุณก็พร้อมสืบค้นข้อมูลมาให้คำตอบได้เลย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sigma หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Sigma

Sigma

Stripe Sigma ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูล Stripe ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว และเปิดโอกาสให้ทีมงานได้รับข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Stripe Docs เกี่ยวกับ Sigma

สืบค้นข้อมูลในบัญชีขององค์กร