ธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ต้องการและอยากได้ทางออนไลน์เป็นจำนวนมากหรือเกือบทั้งหมด

อุตสาหกรรมค้าปลีกมีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนและไม่กี่ปีข้างหน้า แม้ว่าร้านค้าแบบดั้งเดิมหลายแห่งจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งนับตั้งแต่เกิดการระบาด แต่อินเทอร์เน็ตยังคงเป็นศูนย์กลางในชีวิตของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา การชอปปิง และอื่นๆ แนวโน้มเหล่านี้กําหนดให้ผู้ค้าปลีกต้องมอบประสบการณ์การชอปปิงแบบครบวงจรและราบรื่นในช่องทางการขายต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภค

คุณจะตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่กําลังเติบโตเพื่อประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่รวดเร็ว น่าพึงพอใจ และเป็นแบบผสานการทํางานได้อย่างไร คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการดำเนินการอีคอมเมิร์ซของคุณจะเพิ่มรายได้สูงสุดโดยไม่ต้องกดดันทรัพยากรด้านเทคนิคและด้านโลจิสติก คุณจะใช้การชําระเงินเพื่อขยายธุรกิจไปทั่วโลกและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างไร

รายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมค้าปลีกในอเมริกาฉบับนี้จะกล่าวถึงคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆ อีกมากมาย โดยครอบคลุมถึงแนวโน้มค้าปลีกที่สำคัญๆ ให้คำแนะนำ และแบ่งปันเรื่องราวของหลากหลายบริษัท รวมถึง Ford และ Bodum เกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปรับตัวและเติบโตในภูมิทัศน์ค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไป

ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาแรงบันดาลใจ คำแนะนำ สถิติใหม่ หรือเรื่องราวของผู้ค้าปลีกที่คล่องตัว คุณจะพบสิ่งที่ต้องการเพื่อปรับตัวตามขนาดได้ที่นี่

—Jeanne DeWitt Grosser หัวหน้าฝ่ายพาร์ทเนอร์ระดับโลกของ Stripe ประจำทวีปอเมริกา

Jeanne เป็นผู้รับผิดชอบในการเร่งการเติบโตของ Stripe ในอเมริกา ก่อนเข้าร่วม Stripe Jeanne เป็น CRO ที่ Dialpad และใช้ทำงานที่ Google นานกว่า 7 ปี

แนวโน้มสําคัญปี 2023 ในการค้าปลีกออนไลน์ในอเมริกา

1. การเติบโตครั้งประวัติศาสตร์ของอีคอมเมิร์ซจะคงอยู่ต่อไป
   
2. ผู้ค้าปลีกยังคงมีงานมากมายที่ต้องทําเพื่อปรับปรุงการชําระเงินออนไลน์
   
3. ผู้บริโภคต้องการตัวเลือกการชําระเงินมากขึ้นในขั้นตอนการชําระเงินออนไลน์ รวมถึงการจัดหาเงินทุน
   
4. ผู้ค้าปลีกจะต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงออนไลน์
   
5. ผู้ค้าปลีกที่ชาญฉลาดใช้การชำระเงินเพื่อกำหนดกลยุทธ์และปรับปรุงกระบวนการทำงานหลังบ้าน
   

คู่มือเพื่อการเติบโต

เศรษฐกิจค้าปลีกทั้งหมดได้ประสบกับพฤติกรรมผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลครั้งใหญ่นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แม้ว่าร้านค้าจริงหลายแห่งจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่การใช้จ่ายด้านอีคอมเมิร์ซยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้หลังการพุ่งสูงขึ้นในระดับประวัติศาสตร์จากการระบาดใหญ่ทั่วโลกก็ตาม ลูกค้าในอเมริกาเหนือกว่า 40% บอกว่าตนซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าในปี 2021 จากข้อมูลการวิจัยของ Stripe

ในอดีต ละตินอเมริกาตามหลังภูมิภาคอื่นๆ ในด้านอีคอมเมิร์ซ แต่การระบาดใหญ่ได้กระตุ้นให้เกิดการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และสิ่งนี้จะส่งผลสำคัญต่อผู้ค้าปลีกที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคนี้และผู้ที่กำลังพิจารณาการขายในตลาดดังกล่าว Statista คาดการณ์ว่ายอดขายปลีกอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าภายในปี 2025 เป็นมูลค่ารวม 160 พันล้านดอลลาร์

การขายออนไลน์และการดำเนินการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิผลและทำกำไรนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดของ McKinsey & Company พบว่า บริษัทที่มีอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างแข็งแกร่งนั้นไม่ได้หมายความว่ารายได้จะเติบโตอย่างสมดุลเสมอไป บริษัทที่พบว่าอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 มีการเติบโตของรายได้โดยรวมน้อยกว่าบริษัทที่มีการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซระดับปานกลาง ตามที่รายงานแนวโน้มการค้าปลีกระบุไว้: "การเติบโตทางดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การเติบโตทางดิจิทัลที่สร้างกำไรเท่านั้นที่จะสร้างมูลค่าได้"

คู่มือและแหล่งข้อมูลต่อไปนี้จะให้เคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและลูกค้าของคุณ

สถานะการชำระเงินออนไลน์ในอเมริกาเหนือ

หลายๆ คนอาจคิดว่าตอนนี้ร้านค้าปลีกใหญ่ๆ ส่วนใหญ่น่าจะได้พัฒนาขั้นตอนการชำระเงินให้สมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแปลงยอดขายออนไลน์ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคเกือบ 20% กล่าวว่าพวกเขาจะยกเลิกการซื้อหากใช้เวลาชำระเงินมากกว่า 1 นาที ตามรายงานของเรา สถานะการชำระเงินในอเมริกาเหนือในปี 2021

อันที่จริง การวิเคราะห์ตลาดค้าปลีกของเราซึ่งวิเคราะห์บรรดาผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซชั้นนำของอเมริกาเหนือ พบว่าเกือบทุกรายหรือร้อยละ 96 มีข้อผิดพลาดพื้นฐานอย่างน้อย 5 ครั้งในการชำระเงิน เราพบข้อบกพร่องเหล่านี้ในทุกแง่มุมของกระบวนการชำระเงินที่เราตรวจสอบ ได้แก่ การออกแบบแบบฟอร์ม การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ การแปลภาษา และความไว้วางใจและการรักษาความปลอดภัยของผู้ซื้อ

ตัวอย่างเช่น

• 51% ของธุรกิจยอดนิยมไม่รองรับการกรอกที่อยู่อัตโนมัติ
  
• 77% ไม่อนุญาตให้ลูกค้าบันทึกข้อมูลการชําระเงินเพื่อใช้ในครั้งต่อๆ ไป
  
• 18% ของการชําระเงินไม่อนุญาตให้ลูกค้าชําระเงินในฐานะลูกค้าที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชี
  

โซลูชัน คําแนะนํา และแหล่งข้อมูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การชําระเงิน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดบกพร่องที่พบบ่อยในการชำระเงินและวิธีหลีกเลี่ยง โปรดอ่านรายงานฉบับเต็ม

ในการการสัมมนาผ่านเว็บล่าสุดของเรา ในหัวข้อ "ถามผู้เชี่ยวชาญ: แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการชำระเงินของ Stripe" เรากล่าวถึงเทคนิคสําคัญๆ ที่ช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินให้สูงสุด

Stripe Checkout ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบเพื่อมอบประสบการณ์การชําระเงินที่รวดเร็วและใช้งานง่าย คุณสามารถใช้หน้าการชําระเงินที่จัดการอัตโนมัติของเรา หรือจะใช้ Stripe Elements เพื่อผสานฟังก์ชันเหล่านี้เข้ากับขั้นตอนการชําระเงินของคุณเองก็ได้

ตอบสนองความต้องการวิธีการชำระเงินแบบใหม่ๆ

การเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลไม่ได้แค่เปลี่ยนแปลงวิธีที่ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนวิธีการชําระเงินและการซื้อด้านการเงินด้วย แนวโน้มการค้าปลีกในปี 2566 แสดงให้เห็นว่านักช้อปต่างหันมาใช้ช่องทางการชำระเงินรูปแบบใหม่กันมากขึ้น โดยมี 2 ช่องทางที่โดดเด่นจากการนำมาใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้แก่ กระเป๋าเงินบนมือถือและการชำระเงินแบบผ่อนชำระ ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)

ในอเมริกาเหนือ ธุรกรรมผ่านกระเป๋าเงินบนมือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่าน Apple Pay และ Google Pay พุ่งสูงถึง 600 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 ตามข้อมูลของ Statista และคาดว่าปริมาณการซื้อผ่านกระเป๋าเงินบนมือถือจะสูงเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2025

ลูกค้าหลายรายยังเลือกใช้ BNPL อีกด้วย ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้แบ่งการชำระเงินค่าซื้อสินค้าออกเป็นหลายเดือนได้ โดยปกติการชําระเงินจะไม่มีดอกเบี้ยหากชําระตรงเวลา วิธีการชำระเงินซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในส่วนค่าใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกภายในปี 2026

โซลูชัน คําแนะนํา และแหล่งข้อมูลในการขยายวิธีการชําระเงิน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมนอกเหนือจากบัตรเครดิตและบัตรเดบิต โปรดอ่านคู่มือของ Stripe ในหัวข้อ คำแนะนำเกี่ยวกับการชำระเงินออนไลน์

นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำคู่มือเกี่ยวกับ BNPL และการสัมมนาผ่านเว็บที่ครอบคลุมสำหรับบริษัทต่างๆ ที่สนใจทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการชำระเงิน

ใช้แนวทางที่ชาญฉลาดมากขึ้นในการป้องกันการฉ้อโกง

การวิเคราะห์อุตสาหกรรมค้าปลีกแสดงให้เห็นว่าลูกค้าซื้อของออนไลน์บ่อยมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลข้างเคียงที่ไม่ดี นั่นคือ การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมฉ้อโกง คาดการณ์กันว่าการฉ้อโกงอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 14% ในปี 2021 จากปีก่อนหน้าเป็นทั้งหมด 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

มีสองวิธีหลักที่การฉ้อโกงก่อให้เกิดการสูญเสียต่ออีคอมเมิร์ซ มีการสูญเสียที่เกิดจากการไม่ป้องกันการฉ้อโกง และยังมีการสูญเสียที่มาจากการปฏิเสธที่เป็นเท็จ ซึ่งเป็นการปิดกั้นธุรกรรมที่ถูกต้องโดยไม่ได้ตั้งใจเนื่องจากการตรวจจับการฉ้อโกงที่ไม่ทันสมัย

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงที่มีแนวโน้มดีที่สุดอย่างหนึ่งคือการปรับปรุงการตรวจจับการฉ้อโกง อัลกอริทึมสามารถประเมินความเสี่ยงด้านการฉ้อโกงและดําเนินการที่เหมาะสมกับธุรกรรมทุกรายการได้จากการใช้จุดข้อมูลหลายแสนล้านจุด หากติดตั้งใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ แมชชีนเลิร์นนิงจะสามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบที่น่าสงสัยได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งแตกต่างจากระบบที่ขึ้นอยู่กับกฎคงที่ในการแจ้งธุรกรรมที่มีปัญหา

โซลูชัน คําแนะนํา และแหล่งข้อมูลเพื่อปรับปรุงการตรวจจับการฉ้อโกง

ระบบตรวจจับความเสี่ยงการฉ้อโกงที่แม่นยําเป็นหัวใจสําคัญของ Stripe Radar ซึ่งเป็นโซลูชันป้องกันการฉ้อโกงที่ผสานการทํางานของเรา Radar ใช้แมชชีนเลิร์นนิงแบบปรับตัว รวมถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับเครือข่ายบัตรและธนาคาร และมีฐานข้อมูลผู้ใช้ทั่วโลกจํานวนมาก เพื่อปกป้องธุรกิจและอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินของคุณ

การใช้การชําระเงินเพื่อการเติบโต

ในเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บริษัทต่างๆ ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการปรับตัวและตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปและสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้ค้าปลีกชั้นนำไม่เพียงแต่ถือว่าการชำระเงินเป็นสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นทรัพยากรที่จำเป็นที่สามารถช่วยให้พวกเขาปรับตัวและเติบโตได้อีกด้วย

การมีระบบการชําระเงินที่คล่องตัวจะช่วยให้คุณสร้างนวัตกรรมและพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ได้ เช่น การสมัครใช้บริการ บริการแบบส่งตรงถึงผู้บริโภค (DTC) และเพียร์ทูเพียร์ (P2P) สิ่งนี้ช่วยให้แบรนด์ใหญ่ๆ ที่เคยจำหน่ายเฉพาะผ่านช่องทางและตลาดภายนอกสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับลูกค้าและได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาด

การมีฟังก์ชันการชําระเงินที่คล่องตัวและยืดหยุ่นอาจทําให้เกิดตลาดทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ ได้ คุณสามารถวัดความต้องการและรับการชำระเงินในประเทศอื่นๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องลงทุนเงินจำนวนมากในการจัดตั้งสำนักงานในพื้นที่หรือจัดการกับปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและด้านเทคนิค

การประสบความสำเร็จในการขยายตัวไปทั่วโลกต้องอาศัยศักยภาพการชำระเงินที่สามารถปรับให้เข้ากับวิธีการชำระเงินและการตั้งค่าในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัว แม้บัตรเครดิตจะเป็นวิธีการชําระเงินออนไลน์ที่คนส่วนใหญ่ใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แต่ผู้บริโภค 40% คนอื่นๆ ก็ชอบตัวเลือกอื่นๆ มากกว่า ตัวอย่างเช่น การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเยอรมนี และลูกค้าเกือบ 1 ใน 3 ในอิตาลีต่างก็ชอบที่จะชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล

บริษัทที่มองการณ์ไกลใช้ระบบการชำระเงินเพื่อรับมุมมองที่ครบถ้วนและบูรณาการเกี่ยวกับความต้องการและรายได้ของลูกค้าผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และช่องทางแบบตัวต่อตัว

โซลูชัน คําแนะนํา และแหล่งข้อมูลเพื่อการเติบโต

เรียนรู้วิธีนำเสนอประสบการณ์ลูกค้าแบบหลายช่องทางที่ผสานการทำงานในการสัมนาผ่านเว็บของ Stripe ในหัวข้อ “การรวมการชำระเงินแบบออนไลน์และที่จุดขาย”

Stripe ได้พัฒนาโซลูชันต่างๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและผสานการทำงานได้มากขึ้น และเพื่อให้มองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น Stripe Tax ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถคำนวณและเรียกเก็บภาษีขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสินค้าและบริการโดยอัตโนมัติในทุกๆ รัฐของสหรัฐอเมริกาและในกว่า 35 ประเทศ Stripe Revenue Recognition ช่วยให้บริษัทต่างๆ มองเห็นและควบคุมการดำเนินงานทางบัญชีได้แบบเรียลไทม์ และสร้างรายงานเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตรวจสอบ การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการคาดการณ์

มุมมองของบริษัท

ผู้ค้าปลีกรู้ดีว่าความสำเร็จของพวกเขาขึ้นอยู่กับการรักษาไว้ซึ่งลูกค้าและการมีส่วนร่วมของลูกค้า ซึ่งต้องอาศัยการสร้างประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ราบรื่น หลาย ๆ คนเป็นผู้นำในการพัฒนาประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ใหม่และดีกว่า ต่อไปนี้คือมุมมองบางส่วนของพวกเขาในการตอบสนองและดำเนินการเกินความคาดหวังของลูกค้าในตลาดดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น

Ford ขับเคลื่อนโมเดลใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้า

คงไม่มีแบรนด์อเมริกันไหนที่โดดเด่นและเป็นตำนานมากไปกว่า Ford แล้ว เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้อยู่ได้ยาวนานคือความสามารถในการปรับตัวตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงวิธีที่ผู้บริโภคต้องการซื้อรถยนต์ในปัจจุบันด้วย นั่นก็คือการซื้อแบบออนไลน์ โดยสามารถปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของการสั่งซื้อได้มากมาย ตั้งแต่การจัดไฟแนนซ์ไปจนถึงฟีเจอร์ต่างๆ

ในปี 2022 Stripe ได้เริ่มความร่วมมือกับ Ford ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้ ผู้ซื้อรถยนต์จะสามารถจอง ปรับแต่ง และชำระเงินดาวน์สำหรับรถยนต์ใหม่ได้บนเว็บไซต์ Ford.com และรับรถได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ Ford มุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ราบรื่นให้กับลูกค้า รวมถึงประสบการณ์การรับการชำระเงินที่ดียิ่งขึ้นสำหรับตัวแทนจำหน่ายด้วย ด้วยการทำให้ Stripe เป็นส่วนสำคัญของเทคโนโลยีของตน

"เราทํางานร่วมกับ Stripe เพื่อปรับโฉมโครงสร้างพื้นฐานสําหรับการชําระเงินอีคอมเมิร์ซของเรา แพลตฟอร์มของ Stripe จะช่วยให้เราส่งมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ง่ายและโดดเด่นในทุกช่องทางที่ลูกค้าเลือก และสามารถขยายการปรับปรุงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” Marion Harris ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Ford Motor Credit กล่าว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe ช่วยให้ Ford เปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกซื้อรถยนต์ของลูกค้า

Dermalogica ใช้แนวทางเฉพาะเพื่อลดอัตราการฉ้อโกงลงครึ่งหนึ่งได้อย่างไร

Dermalogica เป็นผู้นําด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับมืออาชีพมานานกว่า 30 ปี เนื่องจากชื่อเสียงของ Dermalogica เติบโตขึ้นในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิว มีการขยายธุรกิจไปยัง 80 ประเทศทั่วโลกและพัฒนาฐานลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจํา

ความท้าทาย

แบรนด์เครื่องสำอางมักตกเป็นเป้าหมายของการเรียกเก็บเงินฉ้อโกง เนื่องจากมูลค่าการขายต่อของผลิตภัณฑ์อาจสูง ในการรับมือกับความท้าทายนี้ Dermalogica จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการในการปิดกั้นธุรกรรมฉ้อโกงโดยไม่ทำให้ผู้ซื้อมืออาชีพไม่พึงพอใจ ซึ่งกลุ่มหลังมีมูลค่าตลอดอายุการใช้งานสูงและอาศัยการซื้อเพื่อให้ธุรกิจของตนดำเนินต่อไปได้ ดังนั้น ผลลัพธ์บวกลวงจึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้สูญเสียลูกค้าที่ภักดีเหล่านี้ไป

โซลูชัน

Dermalogica ใช้ Radar for Fraud Teams ช่วยให้บริษัทใช้แมชชีนเลิร์นนิงแบบปรับตัวที่สร้างขึ้นใน Radar ได้ ขณะเดียวกันก็ปรับเทียบให้เหมาะกับฐานลูกค้าและลำดับความสำคัญที่เฉพาะเจาะจงของตน ด้วยการใช้บัญชีเปิดและกฎเกณฑ์ บริษัทจึงมั่นใจได้ว่าลูกค้ามืออาชีพจะมีประสบการณ์การสั่งซื้อที่ราบรื่นพร้อมทั้งให้การป้องกันพิเศษสำหรับคำสั่งซื้อที่มีความเสี่ยงสูง

ผลลัพธ์

ในช่วง 6 เดือนแรกที่ Dermalogica เริ่มใช้ Radar บริษัทมีอัตราการฉ้อโกงลดลงครึ่งจนถึงระดับที่ต่ํากว่าบริษัทด้านอีคอมเมิร์ซทั่วไป

Lightspeed รองรับอีคอมเมิร์ซระดับองค์กรให้กับธุรกิจหลายพันแห่งได้อย่างไร

Lightspeed เป็นแพลตฟอร์มการค้าขนาดใหญ่ที่รองรับบริษัทหลายพันแห่ง ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SB) ไปจนถึงผู้ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Nordstrom

ความท้าทาย

Lightspeed ต้องการขยายแพลตฟอร์มด้วยประสบการณ์การชําระเงินจากหลายช่องทางที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถปรับขนาดได้ทั่วโลก บริษัทต้องการโซลูชันการชําระเงินระดับองค์กรที่น่าเชื่อถือและสามารถขับเคลื่อนการชําระเงินแบบหลายช่องทาง แสดงมุมมองลูกค้าแบบรวม และปรับกระบวนการจ่ายเงินให้เหมาะสมสำหรับลูกค้า

โซลูชัน

Lightspeed Payments เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถให้บริการชําระเงินทั้งทางออนไลน์และที่จุดขายในระดับโลกผ่านการผสานการทํางานกับ Stripe Payments, Connect และ Terminal บริษัทยังใช้ Stripe Capital เพื่อให้ผู้ค้าปลีกสามารถเข้าถึงกระแสเงินสดได้โดยมีอุปสรรคน้อยกว่าสถาบันการเงินแบบเดิมๆ

ผลลัพธ์

ในเวลาเพียงสามเดือน Lightspeed ก็สามารถใช้โซลูชัน plug-and-play สำหรับการรับชำระเงินทั้งแบบที่จุดขายและออนไลน์ได้ การผสานการทำงานกับ Stripe Terminal ทำให้ Lightspeed สามารถนำเสนอความสามารถต่างๆ เช่น การชำระเงินแบบไร้สัมผัส การรับสินค้าที่ริมถนน และการชำระเงินที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยเครื่องอ่านที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างง่ายดาย Lightspeed ใช้ประโยชน์จาก Stripe Connect จึงสามารถรองรับกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน การกระทบยอด และการรายงานการชําระเงินทางออนไลน์และที่จุดขายได้ในที่เดียว

Bodum ขยายกิจการไปทั่วโลกโดยใช้ประโยชน์จากวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นได้อย่างไร

Bodum เป็นผู้ผลิตเครื่องครัวที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟและชาคุณภาพสูง โดยเน้นที่การออกแบบที่ใช้งานได้จริง ความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจครอบครัวรุ่นที่สาม ก่อตั้งในปี 1944 มีคติประจำใจว่า “สร้างรสนิยม ไม่ใช่ขยะ”

ความท้าทาย

Bodum พบว่ายอดขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นเมื่อโรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น เนื่องจากผู้คนทั่วโลกอยากทํากาแฟคุณภาพสูงที่บ้าน Bodum ทราบดีว่าขั้นตอนการชําระเงินมักทําให้ลูกค้ารู้สึกไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าต้องการไม่พร้อมให้บริการ นอกจากนี้ Bodum ต้องการสร้างประสบการณ์ลูกค้าออนไลน์ที่ราบรื่นสำหรับทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อผ่านทางมือถือ

โซลูชัน

Bodum เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe เพื่อสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ปรับแต่งตามความต้องการพร้อมใช้ประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงที่สร้างไว้ล่วงหน้าผ่าน Stripe Elements นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังช่วยให้ Bodum เปิดวิธีการชําระเงินในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือจากบัตรเครดิตแบบเดิมๆ โดยไม่ต้องเพิ่มเวลาในการผสานการทํางาน

"แพลตฟอร์มประมวลผลการชําระเงินอื่นๆ อัปเดตระบบและอินเทอร์เฟซได้ช้ามาก แต่ Stripe มอบประโยชน์ใหญ่ให้เราในการปรับโฉมภาระและปัญหาการชําระเงินให้ง่ายขึ้น" Peter Bodum ผู้จัดการอีคอมเมิร์ซกล่าว

ผลลัพธ์

Bodum สามารถปรับประสบการณ์การชําระเงินให้เข้ากับท้องถิ่นเพื่อขยายธุรกิจออนไลน์ไปยัง 23 ประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย การนำ Stripe Elements มาใช้จะใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนในช่วงแรก และตอนนี้ Bodum สามารถเปิดใช้งานรูปแบบการชำระเงินใหม่ๆ ที่มีให้เลือกได้โดยตรงจากแดชบอร์ด โดยไม่ต้องมีการออกแบบทางวิศวกรรมใดๆ เพิ่มเติม

Ben & Frank เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินในลาตินอเมริกา

Ben & Frank อาจถือเป็น Warby Parker ของลาตินอเมริกา บริษัทสัญชาติเม็กซิโกนี้เป็นแบรนด์แว่นตาแบบขายตรงถึงผู้บริโภคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาค

ความท้าทาย

ระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซในละตินอเมริกามีความซับซ้อนและกระจัดกระจาย และอัตราการฉ้อโกงก็ค่อนข้างสูง Ben & Frank ต้องต่อสู้กับอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า และเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้มีค่าใช้จ่ายที่น่าสงสัยและการจัดการกับการโต้แย้งการชำระเงิน

ผลลัพธ์

Ben & Frank เลือก Stripe เป็นผู้ประมวลผลการชําระเงินรายใหม่เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงด้วยแมชชีนเลิร์นนิงของ Stripe และความสัมพันธ์กับผู้ออกบัตรรายใหญ่เพื่อปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินได้อย่างมาก บริษัทมีอัตราการอนุมัติเพิ่มขึ้น 10% ในเม็กซิโกภายในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากเปลี่ยนผู้ประมวลผล การเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยให้ Ben & Frank พัฒนาเมตริกสําคัญ 3 แบบได้ ได้แก่ อัตราการยอมรับ อัตราการฉ้อโกง และคะแนนการโต้ตอบของฝ่ายบริการลูกค้า

World History Encyclopedia เรียนรู้วิธีเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินและการเข้าถึงทั่วโลก

World History Encyclopedia เผยแพร่สารานุกรมประวัติศาสตร์ที่มีผู้อ่านมากที่สุดในโลก องค์กรไม่แสวงผลกําไรนี้มีพันธกิจที่กว้างขึ้นในการดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับมรดกทางวัฒนธรรมและปรับปรุงการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ทั่วโลก

ความท้าทาย

World History Encyclopedia พยายามขยายการเข้าถึงสารานุกรมไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงต้องการสร้างหน้าชำระเงินที่รองรับการสมัครสมาชิกในสกุลเงินท้องถิ่นและวิธีการชำระเงินที่เกี่ยวข้องสำหรับแต่ละประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์นี้

โซลูชัน

ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Stripe ทำให้ World History Encyclopedia สามารถรับเงินบริจาคประจำจากผู้อ่านทั่วโลกผ่าน Stripe Checkout และ Stripe Billing ยังทำให้การผสานการทำงานกับ CMS ที่กำหนดเองของเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายอีกด้วย องค์กรไม่แสวงผลกําไรนี้จึงสามารถติดตั้งใช้งานหน้าการชําระเงินที่สมบูรณ์ซึ่งรองรับ 10 สกุลเงินและ 3 ภาษาได้ภายในเวลาเพียง 2 วัน องค์กรได้บริจาคกำไรส่วนหนึ่งเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านทาง Stripe Climate และยังเป็นอีกแรงจูงใจหนึ่งให้ผู้ใช้สมัครสมาชิก

ผลลัพธ์

ก่อนจะเปิดตัว Stripe Checkout อย่างเต็มรูปแบบ World History Encyclopedia ได้ทำการทดสอบ A/B เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงการเปลี่ยนเป็นลูกค้า โดยเทียบกับผู้ให้บริการชำระเงินปัจจุบันภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน Stripe Checkout ช่วยให้กระบวนการเปลี่ยนเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้น 5%

ข้อสรุป: การวิเคราะห์อุตสาหกรรมค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาปี 2023

แนวโน้มการค้าปลีกในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล และอีกหลายๆ ประเทศแสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในปัจจุบันกําหนดให้ผู้ค้าปลีกต้องจัดลําดับความสําคัญนวัตกรรมและความสามารถในการปรับตัว ในอดีต ผู้บริโภคซื้อสินค้าทางออนไลน์เป็นครั้งคราวและซื้อผลิตภัณฑ์บางประเภทเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตในแทบทุกแง่มุมของประสบการณ์ชอปปิง

แพลตฟอร์มการค้าแบบครบวงจรของ Stripe ช่วยให้บริษัทของคุณนำเสนอประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ราบรื่นและผสานการทำงานได้ อีกทั้งยังมอบความคล่องตัวและความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการสำรวจโอกาสใหม่ๆ

สร้างรายได้มากขึ้นด้วยการชําระเงินที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
แพลตฟอร์มการชำระเงินของ Stripe มอบประสบการณ์ของลูกค้าที่พัฒนาไปพร้อมกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ผลการศึกษาของ IDC แสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่ใช้ Stripe มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.7% ในแพลตฟอร์ม Stripe เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินด้วยฟีเจอร์ในตัว เช่น การลองซ้ําอัตโนมัติ การอัปเดตบัตรแบบซิงโครนัส และการส่งข้อความด้วยเครือข่ายอัจฉริยะ

รับมือกับการฉ้อโกงด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
เครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงแบบบูรณาการของเราอย่าง Stripe Radar จะรวบรวมข้อมูลจากทุกชั้นของระบบการเงิน รวมถึงธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต และกระแสการชำระเงิน เพื่อประเมินความเสี่ยงจากการฉ้อโกงทั่วโลก

ปรับปรุงการดําเนินงานเพื่อการประหยัดต้นทุน
Stripe มีระยะเวลาใช้งาน 99.999% ระดับผู้นําอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานและเอกสารประกอบของเราช่วยคุณประหยัดเวลาให้กับทีมวิศวกร ดังนั้นนักพัฒนาจึงมีเวลาทุ่มเทกับโครงการเร่งด่วนได้เป็นหลัก โซลูชันแบบผสานการทํางานของ Stripe ช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและปิดบัญชีได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

ช่วยให้บริษัทของคุณพร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขและกฎระเบียบต่างๆ ของตลาด
เนื่องจาก Stripe มี API ที่ใช้งานง่ายและโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น คุณจึงพัฒนาโมเดลธุรกิจและสร้างขั้นตอนการชําระเงินสําหรับตลาดใหม่ๆ ได้อย่างราบรื่น Stripe ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกําหนดในระดับสูงสุด นอกจากนี้ เรายังเปิดตัวฟีเจอร์และการปรับปรุงหลายร้อยรายการในแต่ละปีเพื่อช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับความคาดหวังของลูกค้าและข้อบังคับใหม่อยู่เสมอ

ขยายโดยการขยายสู่ท้องถิ่น
เครือข่ายการชำระเงินและการคลังระดับโลกของ Stripe ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดใหม่ๆ และตลาดที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็วด้วยการผสานการทำงานเพียงครั้งเดียว รองรับวิธีการชําระเงินยอดนิยมในท้องถิ่นได้หลายสิบวิธี (และกว่า 135 สกุลเงิน) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
Stripe ช่วยให้บริษัทต่างๆ ขยายธุรกิจและสร้างกระแสรายรับใหม่ๆ ชุดโซลูชันของเรา เช่น Stripe Connect และ Stripe Billing ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถขยายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบสแตนด์อโลนให้กลายเป็นตลาดซื้อขายสินค้าหรือรวมข้อเสนอต่างๆ ในรูปแบบการสมัครสมาชิกแบบรายเดือนได้