การปฏิบัติตาม "หลักเกณฑ์ว่าด้วยการกำกับดูแลผู้รวบรวมการชำระเงินและเกตเวย์การชำระเงิน" และ "ทิศทางหลักเกี่ยวกับ KYC ปี 2016" ของ RBI

คู่มือสำหรับผู้ใช้ Stripe ในอินเดีย

Radar
Radar

ต้านการฉ้อโกงด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของเครือข่าย Stripe

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ผลที่ตามมาสำหรับผู้ใช้ Stripe
    1. การยืนยันบัญชีธนาคาร
    2. หลักฐานการประกอบธุรกิจสำหรับบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียวที่ไม่ได้จดทะเบียน
    3. ข้อกำหนดอื่นๆ
  3. บทสรุป
  4. แหล่งข้อมูล

ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้ออก "หลักเกณฑ์ว่าด้วยการกำกับดูแลผู้รวบรวมการชำระเงินและเกตเวย์การชำระเงิน" เมื่อเดือนมีนาคม 2020 และเริ่มใช้มาตรการต่างๆ เกี่ยวกับผู้รวบรวมการชำระเงินที่ดำเนินงานในอินเดีย เช่น ข้อกำหนดสำหรับการออกใบอนุญาต การกำกับดูแล การรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) และกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน ตลอดจนมาตรการเกี่ยวกับการชำระเงินและการควบคุมจัดการบัญชีดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา และอื่นๆ

ด้วยเหตุนี้ Stripe India Private Limited ซึ่งมีฐานะเป็นผู้รวบรวมการชำระเงินจึงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ KYC ของ RBI ซึ่งกำหนดมาตรการ KYC ต่างๆ ไว้ เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลและการยืนยันเอกสารระบุตัวตน

ผลที่ตามมาสำหรับผู้ใช้ Stripe

เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และทิศทาง KYC ของ RBI ทำให้ Stripe India ดำเนินการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในกระบวนการเริ่มต้นใช้งานสำหรับผู้ใช้ ซึ่งมีผลกับทั้งผู้ใช้ใหม่และผู้ใช้ปัจจุบัน และได้นำมาตรการต่างๆ มาใช้ ได้แก่

  • การยืนยันบัญชีธนาคาร
  • หลักฐานการประกอบธุรกิจสำหรับบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียวที่ไม่ได้จดทะเบียน

การยืนยันบัญชีธนาคาร

เพื่อมอบประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งานที่สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับ เราจึงกำหนดว่าผู้ใช้ของเราต้องแจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารสำหรับการเบิกจ่ายที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของและใช้เพื่อจุดประสงค์ในการชำระเงินเมื่อทำธุรกรรม

คุณจึงต้องแจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารสำหรับการเบิกจ่ายที่เป็นชื่อของนิติบุคคลเดียวกันกับที่แสดงในบัญชี Stripe ของคุณ หรือหากธุรกิจของคุณเป็นบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียวและไม่มีบัญชีธนาคารในนามธุรกิจ ให้ใช้บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของเจ้าของกิจการแทน ซึ่ง Stripe จะตรวจสอบยืนยันข้อมูลนี้ตามขั้นตอนในกระบวนการ KYC

หลักฐานการประกอบธุรกิจสำหรับบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียวที่ไม่ได้จดทะเบียน

ปัจจุบัน เรากำหนดว่าต้องแสดงหลักฐานการประกอบธุรกิจสำหรับบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียวที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งหลักฐานการประกอบธุรกิจอาจเป็นข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

  • หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสินค้าและบริการ (GSTIN) หรือรหัสผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออก (IEC) ที่ใช้กับธุรกิจ (ถ้ามี)
  • เอกสารที่เป็นหลักฐานการประกอบธุรกิจ เช่น
    • เอกสารการจดทะเบียน (จดทะเบียนกับหน่วยงานท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่คล้ายคลึงกัน)
    • เอกสารแบบแสดงรายการภาษี
    • ใบรับรองหรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ)
    • ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภค

หากต้องการทราบรายการเอกสารที่ยอมรับทั้งหมด โปรดดูที่นี่

ข้อกำหนดอื่นๆ

นอกจากนี้ เรายังเก็บรวบรวมรายละเอียด KYC เพิ่มเติมจากผู้ใช้ของเราด้วย ได้แก่

  • หมายเลขบัญชีแบบถาวร (PAN): ปัจจุบันผู้ใช้ของเรา (ยกเว้นบริษัทที่เป็นกิจการแบบเจ้าของคนเดียว) จำเป็นต้องระบุ PAN เพื่อเป็นการระบุตัวตนรูปแบบหนึ่งสำหรับบุคคลแต่ละประเภทต่อไปนี้ อันได้แก่ นิติบุคคล บุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลดังกล่าวในฐานะเจ้าของธุรกิจ และตัวแทนที่ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชี
  • หมายเลขโทรศัพท์ (สำหรับนิติบุคคลและผู้เปิดบัญชี)
  • อีเมลและชื่อธุรกิจของผู้เปิดบัญชี
  • URL ใดๆ ที่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการที่มีให้ รวมถึงลำดับเวลาในการคืนเงินและคืนสินค้า

บทสรุป

แพลตฟอร์มของ Stripe ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ของเราปรับตัวทันต่อฟีเจอร์ใหม่ๆ หรือระเบียบข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงไป เราหวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อกำหนดของ RBI ที่มีผลบังคับใช้กับ Stripe อยู่ในปัจจุบัน และวิธีที่ผู้ใช้ Stripe สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในลิงก์แหล่งข้อมูลด้านล่าง

โปรดแจ้งให้เราทราบหากมีข้อสงสัยใดๆ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Radar

Radar

ต้านการฉ้อโกงด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของเครือข่าย Stripe

Stripe Docs เกี่ยวกับ Radar

ใช้ Stripe Radar เพื่อปกป้องธุรกิจจากการฉ้อโกง