ความท้าทาย
Jobber มีพันธกิจในการช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กประสบความสำเร็จ ซึ่งในที่นี้หมายถึงการช่วยผู้ให้บริการดูแลบ้านมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นบริการทำความสะอาดไปจนถึงช่างระบบปรับอากาศ บริหารจัดการวงจรการใช้งานของลูกค้าทั้งหมด ตั้งแต่การสร้างใบเสนอราคา ไปจนถึงการจัดทำกำหนดเวลาให้กับลูกทีม การให้บริการแก่เจ้าของบ้านพักอาศัย การออกใบแจ้งหนี้หลังจากงานเสร็จ และยอมรับการชำระเงินผ่าน Jobber Payments ที่ให้บริการโดย Stripe
Jobber Payments เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการหลายรายที่ยังคงรับชำระเงินผ่านเช็คกระดาษหรือเงินสดเปลี่ยนธุรกิจให้เป็นระบบดิจิทัล รวมทั้งบริหารจัดการและตรวจสอบการเงินของตัวเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นี่ยังเป็นแหล่งรายได้ของ Jobber และเป็นเหตุผลว่าทำไมแพลตฟอร์มจึงอยากทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายของระบบการชำระเงินให้ถ่องแท้มากขึ้น
การวิเคราะห์ KPI ระดับสูงเกี่ยวกับต้นทุนค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่อุปสรรคที่แท้จริงคือ การไม่สามารถทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่าย หรือค่าธรรมเนียมการผ่านเครือข่ายการเงินโดย Stripe ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมได้ นอกจากนี้ ฝ่ายการเงินยังต้องการทราบแนวโน้มสำคัญๆ (เช่น การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร การดาวน์เกรด หรือการเพิ่มค่าธรรมเนียมของบัตรแบรนด์ต่างๆ) ที่อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
เมื่อก่อน ค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายถูกมองว่าเป็นเรื่องยากมาตลอด ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้ทีมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การชำระเงินได้ไม่เต็มที่ “เราไม่มีรายละเอียดในระดับที่ต้องการ ทำให้รู้สึกว่าการวิเคราะห์เป็นเหมือนการทำงานศิลปะ ไม่ใช่ขั้นตอนที่อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์” Nikhil Gandhi ผู้จัดการฝ่ายการเงินของ Jobber กล่าว “เรามีภาพรวมระดับสูงและบอกได้ว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นหรือลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่รู้เลยว่าปัจจัยอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น”
โซลูชัน
ก่อนหน้านี้ Jobber อาศัยแดชบอร์ด Stripe ในการตรวจสอบเมตริกประสิทธิภาพของผู้ใช้ รวมถึงอัตราการเติบโตรายเดือนและรายปี ตลอดจนเมตริกอย่างปริมาณการชำระเงินขั้นต้น ปริมาณธุรกรรมโดยเฉลี่ย และอัตราการหาลูกค้า “หากตัวเลขเหล่านี้ออกมาดี นั่นแสดงว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ถ้าไม่ Stripe จะช่วยให้มีการพูดคุยเกี่ยวกับกลยุทธ์มากขึ้นในกระบวนการตัดสินใจระหว่างที่เราพูดคุยกับทีมผู้นำ” Gandhi กล่าว
รายงานแบบใหม่ที่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายช่วยให้ Jobber ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการตัดสินใจ ทั้งสำหรับบริษัทเองและลูกค้า การติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอดีตเกี่ยวกับคาใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายทำให้ Jobber ประเมินได้ว่า การเปลี่ยนแปลงในส่วนของค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง และหาวิธีใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนี่ทำให้บริษัทมองเห็นภาพค่าใช้จ่ายของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียมผู้ค้าที่เกี่ยวกับบัตรองค์กรและบัตรสำหรับธุรกิจของลูกค้า
“รายงานนี้ทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในธุรกิจการชำระเงินของเรา การมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้จำเป็นมากสำหรับผมครับ เพราะนั่นหมายความว่า ทีมงานของเราจะให้คำแนะนำแก่ผู้นำระดับสูงได้ดีขึ้น เช่น ความสามารถในการสร้างกำไรแยกตามบัตรแต่ละประเภท” Gandhi เสริม “ตอนนี้เราวางใจในด้านการเติบโตได้มากกว่าเดิม เพราะมีข้อมูลมากขึ้นครับ”
ผลลัพธ์
ลดต้นทุนส่วนเกินได้กว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลค่าใช้จ่าย
เมื่อเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากขึ้นได้สะดวกง่ายดายกว่าเดิมผ่านรายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่าย ทีมจึงมองเห็นแพทเทิร์นภายในจุดข้อมูลค่าใช้จ่ายที่สำคัญๆ ได้ดีขึ้น เช่น ปริมาณธุรกรรมโดยเฉลี่ย การคืนเงิน และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร
“หากผมนำค่าใช้จ่ายรายเดือนมาเปรียบเทียบกัน และเจอสิ่งที่ผิดแผกไปจากปกติ ผมสามารถกลับไปหาฝ่ายธุรกิจหรือฝ่ายวิศวกรรมเพื่อดูว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวขึ้นมา” Gandhi กล่าวว่า “มีอยู่เดือนหนึ่ง เรามีต้นทุนส่วนเกินมากกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายทำให้เราวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติเดียวกันนี้ขึ้นอีกครั้งในอนาคต”
รายงานที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นช่วยให้ Jobber สามารถปรับปรุงส่วนอื่นๆ ของธุรกิจเต็มที่โดยไม่ต้องเสียเวลาคัดกรองข้อมูลค่าใช้จ่ายอีกต่อไป
ช่วยทีมงานหลายๆ ฝ่ายประหยัดเวลาได้กว่า 36 ชั่วโมงต่อไตรมาสด้วยเครื่องมือจัดทำรายงานที่มุ่งเน้นผู้ใช้เป็นหลัก
ฝ่ายการเงินของ Jobber ประหยัดเวลาได้หลายชั่วโมง เนื่องจากดึงรายงานและแยกย่อยข้อมูลของตัวเองได้โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากวิศวกร
“เมื่อก่อน ถ้าผมต้องการดาวน์โหลดข้อมูลธุรกรรมก่อนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่าย ผมต้องเรียนภาษาเขียนโปรแกรมภาษาใหม่หรือไม่ก็ขอให้ใครสักคนที่รู้ภาษาดังกล่าวสร้างข้อมูลให้ หลังจากนั้น ผมถึงจะเริ่มทำการวิเคราะห์ที่ตั้งใจไว้ได้” Gandhi อธิบาย
แต่ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายช่วยกำจัดอุปสรรคข้อนี้ให้กับพนักงานที่ไม่มีความรู้ทางเทคนิค งานที่ต้องใช้เวลาทำมากกว่า 4 วันต่อไตรมาสและต้องอาศัยการทำงานของหลายๆ ทีม กลับทำเสร็จภายในไม่กี่คลิกเท่านั้น
นอกจากนี้ ฝ่ายการเงินยังส่งออกข้อมูลนี้เป็นไฟล์ CSV แล้วแยกย่อยรายการไปตรวจสอบด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งการส่งออกและจัดการข้อมูลในลักษณะนี้ช่วยให้ Jobber นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ตามความต้องการในการจัดทำรายงาน การประชุม หรือการทำโปรเจ็กต์
ตัดสินใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยมีข้อมูลประกอบมากขึ้น
การมีข้อมูลแนวโน้มที่แม่นยำกว่าเดิมทำให้ Jobber เตรียมพร้อมสำหรับแผนงานทางการเงินในสเกลใหญ่ขึ้นและรายงานแผนงานดังกล่าวแก่ทีมผู้นำได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น “ทุกวันนี้ ผมเข้าประชุมกับผู้บริการ นำเสนอข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในอนาคต และแบ่งปันข้อมูลประกอบข้อสันนิษฐานเหล่านั้นได้เลย” คุณ Gandhi อธิบาย
แทนที่จะบอกแค่ว่าการดาวน์เกรดสูงกว่าหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทีมจะสามารถชี้แจงเทรนด์การดาวน์เกรดในอดีตที่ผ่านมาเพื่อใช้ประกอบการอธิบายเกี่ยวกับแนวโน้ม และวางแผนสำหรับอนาคตได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
รายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายมีการพัฒนาอยู่ตลอด ผมนึกไม่ออกแล้วว่าเมื่อก่อนเราทำงานกันยังไงตอนที่ไม่มีขั้นตอนง่ายๆ ที่ใช้การคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง