เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2024 รัฐบาลกลางของเยอรมนีได้ประกาศแผนการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับสมาร์ทโฟน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนสามารถระบุตัวตนแบบดิจิทัลทั่วยุโรปได้ในอนาคต กระเป๋าเงินระบุตัวตนดิจิทัลของสหภาพยุโรป (EUDI) สร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานมากมายสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศเยอรมนี
ในบทความนี้เราจะดูวิธีการทํางานของกระเป๋าเงิน EUDI และวิธีการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้เรายังจะอธิบายถึงวิธีที่ธุรกิจต่างๆ สามารถรวมกระเป๋าเงินดิจิทัลเข้ากับการดำเนินงานและรับประโยชน์จากสิ่งนี้
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- กระเป๋าเงิน EUDI คืออะไรและเหตุใดจึงมีการนำมาใช้
- กระเป๋าเงิน EUDI ทํางานอย่างไร
- กระเป๋าเงิน EUDI มีประโยชน์อย่างไร
- กรณีการใช้งานสําหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
- ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้งานกระเป๋าเงิน EUDI ได้อย่างไร
กระเป๋าเงิน EUDI คืออะไร และเหตุใดจึงมีการนำมาใช้
กระเป๋าเงิน EUDI เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์และรองรับสมาร์ทโฟน โดยให้สิทธิประโยชน์ดังต่อไปนี้แก่บุคคลและธุรกิจในยุโรป:
- ข้อมูลประจําตัว: ผู้ใช้จะระบุตัวตนของตัวเองในแบบดิจิทัลได้ (เช่น แก่หน่วยงานที่มีอํานาจควบคุม) โดยไม่ต้องใช้บัตรหรือเครื่องอ่านบัตร
- การจัดเก็บและแชร์ข้อมูลสําคัญ: ข้อมูลประจำตัวและเอกสารทางการ เช่น บัตรประจำตัว ใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทางการแพทย์ และวุฒิการศึกษา สามารถจัดเก็บและแชร์ในรูปแบบดิจิทัลได้
- การลงนามเอกสาร: คุณสามารถลงนามในเอกสารได้โดยใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ (QES)
รัฐบาลกลางของเยอรมนีมอบหมายให้มีการพัฒนากระเป๋าเงินอันเป็นผลมาจากระเบียบว่าด้วยการระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบสิทธิ์ และความน่าเชื่อถือ (eIDAS) 2.0 ซึ่งนำมาใช้โดยรัฐสภายุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 กฎระเบียบดังกล่าวระบุถึงอนาคตของการระบุตัวตนทางดิจิทัลในยุโรปและมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้เครื่องมือระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์และบริการด้านความน่าเชื่อถือ สหภาพยุโรป (EU) หวังที่จะปรับปรุงความร่วมมือระหว่างประเทศและส่งเสริมความน่าเชื่อถือในธุรกรรมทางดิจิทัล eIDAS มีพื้นฐานอยู่บนการระบุตัวตนออนไลน์ที่ปลอดภัยและการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ตราประทับ และการประทับเวลา
ภายใต้ eiDAS 2.0 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมดจะต้องออกหรือรับรองกระเป๋าเงิน EUDI หนึ่งใบขึ้นไปภายในปี 2027 รัฐที่เป็นสมาชิกสามารถพัฒนาเวอร์ชันของตนเองได้ หาก:
- เป็นไปตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป
- ใช้ได้ทั่วสหภาพยุโรป
- ไม่มีค่าใช้จ่าย
- เป็นมิตรต่อผู้ใช้เป็นอย่างยิ่ง
ในประเทศเยอรมนี กระทรวงมหาดไทยและชุมชนแห่งสหพันธรัฐ (BMI), สำนักงานกลางด้านนวัตกรรมก้าวล้ำ (SPRIND) และสำนักงานกลางด้านความปลอดภัยทางข้อมูล (BSI) กำลังดำเนินการพัฒนากระเป๋าเงิน EUDI แนวคิดนี้กำลังได้รับการพัฒนาภายในกรอบงานสาธารณะและกระบวนการปรึกษาหารือ เป้าหมายคือการมีส่วนร่วมของบุคคล องค์กร และตัวแทนจากชุมชนธุรกิจและการวิจัยเพื่อรับคำติชมและบูรณาการความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ กระบวนการนี้รวมถึงการปฏิบัติในการติดต่อสื่อสาร เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการและการให้คำปรึกษาแบบเปิดทางออนไลน์ ในทางอุดมคติ ระดับความโปร่งใสนี้จะช่วยให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงิน EUDI ใช้งานง่าย และส่งเสริมการยอมรับผลลัพธ์ขั้นสุดท้าย
นอกจากนี้ รัฐบาลกลางยังอนุญาตให้ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ภาครัฐพัฒนากระเป๋าเงิน EUDI ของตัวเอง ซึ่งหมายความว่า ธุรกิจ องค์กร มูลนิธิ หรือสถาบันวิจัยสามารถรับรองและเสนอโซลูชันที่เกี่ยวข้องได้ สิ่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและอิสระในการเลือก
กระเป๋าเงิน EUDI ทํางานอย่างไร
เนื่องจากกระเป๋าเงิน EUDI ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา จึงยังไม่ทราบรายละเอียดว่ากระเป๋าเงินนี้ทำงานอย่างไร แม้ว่าขอบเขตที่แน่นอนของฟังก์ชันการทำงานและการใช้งานจะชัดเจนขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือขอบเขตของฟังก์ชันการทำงานจะค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังเปิดตัว ฟังก์ชันแรกที่จะเปิดใช้งานคือการระบุตัวตนแบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้สามารถอัปโหลด ID ออนไลน์ลงในสมาร์ทโฟนได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถระบุตัวตนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
สามารถสรุปได้ว่าการใช้กระเป๋าเงิน EUDI จะเกี่ยวข้องกับขั้นตอนต่อไปนี้
การตั้งค่า
กระเป๋าเงิน EUDI จะพร้อมให้ใช้งานเป็นแอปที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ของตน การตั้งค่าแอปและการสร้างตัวตนดิจิทัลจะต้องได้รับการตรวจยืนยันผ่านหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น สถาบันสาธารณะหรือธนาคาร การอัปโหลดเอกสารประจำตัวหรือใช้วิธีการระบุตัวตนอื่นๆ ที่มีอยู่ เช่น eID อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
การจัดเก็บข้อมูลระบุตัวตน
หลังจากตั้งค่ากระเป๋าเงินแล้ว ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มข้อมูลประจำตัวลงในแอปได้ รวมถึงบัตรประจำตัวและหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ บัตรประกันสุขภาพ หมายเลขประกันสังคม และประกาศนียบัตรมหาวิทยาลัย เมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าเงินแล้ว คุณจะเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสได้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ที่ปลอดภัยเท่านั้น
การตรวจสอบสิทธิ์และแอปพลิเคชัน
ต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์เพื่อใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถทำได้โดยอาศัยข้อมูลไบโอเมตริก เช่น ลายนิ้วมือหรือการจดจำใบหน้า, การใช้ PIN หรือโดยใช้วิธีการอื่นๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองขั้นตอน วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้ที่ถูกกฎหมายเท่านั้นจะสามารถใช้กระเป๋าเงิน EUDI ได้
หลังจากการตรวจสอบสิทธิ์ ก็จะใช้กระเป๋าเงิเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ได้ เช่น การระบุตัวตนกับหน่วยงานหรือผู้ให้บริการ หรือสำหรับการลงนามสัญญากับธุรกิจที่ต้องใช้ลายเซ็นดิจิทัล ผู้ใช้สามารถเลือกและแชร์ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงกับบุคคลที่สามได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องคัดลอกหรืออัปโหลดด้วยตนเอง การส่งข้อมูลทั้งหมดได้รับการเข้ารหัส เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงควบคุมได้
กระเป๋าเงิน EUDI มีประโยชน์อย่างไร
นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ แล้ว กระเป๋าเงิน EUDI ยังช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถระบุบุคคลและธุรกิจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การระบุตัวตนแบบดิจิทัลสามารถช่วยลดความซับซ้อนและทำให้กระบวนการบริหารจัดการเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลของตัวเองและสามารถระบุตัวตนของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารฉบับจริง กระเป๋าเงิน EUDI ช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานบริการภาครัฐและออนไลน์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ขณะที่การใช้งานข้ามพรมแดนจะส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณะและส่วนตัวทั่วทั้งสหภาพยุโรป
กระเป๋าเงินดิจิทัลยังเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในเยอรมนี โดยเฉพาะบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ต้องพึ่งพาการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน ต่อไปนี้คือประโยชน์ประการหลักๆ
ระบุตัวตนลูกค้าได้รวดเร็วและปลอดภัย
กระเป๋าเงิน EUDI ช่วยให้สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้อย่างน่าเชื่อถือและรวดเร็วโดยที่ร้านค้าปลีกออนไลน์ไม่จำเป็นต้องพึ่งกระบวนการตรวจสอบด้วยตนเองหรือมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเร่งความเร็วและลดความซับซ้อนของกระบวนการซื้อ และอาจเพิ่มอัตราการซื้อได้ด้วย กระเป๋าเงินยังช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและการขโมยข้อมูลประจำตัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่มีกฎด้านการรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) ที่เข้มงวด กระเป๋าเงิน EUDI ยังมีคุณค่าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จำเป็นต้องตรวจสอบอายุของผู้ใช้ โดยมอบกระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เชื่อถือได้ให้กับธุรกิจเหล่านี้
ลายเซ็นดิจิทัลที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
ด้วยกระเป๋าเงิน EUDI ธุรกิจและองค์กรต่างๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากลายเซ็นดิจิทัลที่มีผลผูกพันทางกฎหมายได้ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับสัญญา เอกสารทางการ และการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ แทนที่จะต้องพึ่งพาเอกสารกระดาษและลายเซ็นจริง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถลงนามทางดิจิทัลได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย กระบวนการต่างๆ จะเร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการพบหน้าหรือส่งไปรษณีย์ การใช้กระดาษยังลดลงอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแต่ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานอีกด้วย
การค้าข้ามพรมแดนที่เรียบง่าย
กระเป๋าเงิน EUDI ช่วยให้มั่นใจว่ามีการระบุตัวตนทั่วทั้งสหภาพยุโรปโดยเป็นไปตามมาตรฐาน สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนีและเสนอสินค้าและบริการในประเทศสหภาพยุโรปอื่นๆ สิ่งนี้จะช่วยลดความซับซ้อนในการทำธุรกรรมและการสื่อสารข้ามพรมแดน นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับความเชื่อมั่นในระดับสูงในด้านความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล ซึ่งสามารถสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศได้
เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
การใช้กระเป๋าเงิน EUDI เพื่อตรวจสอบธุรกรรมสามารถช่วยให้การทำงานบางอย่าง เช่น KYC และการยืนยันตัวตนของผู้ใช้เป็นแบบอัตโนมัติ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบด้วยตนเองหรือบริการของบริษัทอื่นได้
การปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย
สำหรับกระบวนการทางธุรกิจการค้าดิจิทัลจำนวนมาก การปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใต้ข้อบังคับทั่วไปเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล (GDPR) ขึ้นอยู่กับการระบุตัวตนที่สอดคล้องกับการคุ้มครองข้อมูลอย่างปลอดภัย กระเป๋าเงิน EUDI ช่วยปกป้องธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อทำการระบุตัวตนลูกค้า
ความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
ธุรกิจที่นำกระเป๋าเงิน EUDI มาใช้ตั้งแต่เริ่มต้นอาจได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมและได้เปรียบทางการแข่งขัน เครื่องมือนี้มอบโซลูชันที่ล้ําสมัยและใช้งานง่าย ซึ่งเป็นโซลูชันที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง
กรณีการใช้งานสําหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
นอกเหนือจากอีคอมเมิร์ซแล้ว กระเป๋าเงิน EUDI ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย ต่อไปนี้คือภาคธุรกิจหลักที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง
การเงิน
กระเป๋าเงิน EUDI สามารถลดความซับซ้อนและเร่งความเร็วในการตรวจสอบตัวตนของลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงินได้อย่างมาก ปัจจุบันลูกค้ามักจะต้องดําเนินการขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอหรืออัปโหลดเอกสาร กระเป๋าเงิน EUDI ทำงานโดยใช้ระบบอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถยืนยันตัวตนของลูกค้าได้โดยไม่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินดิจิทัลยังใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบสิทธิ์ในบริการธนาคารออนไลน์ได้ด้วย ลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยใช้ข้อมูลระบุตัวตนดิจิทัล และไม่ต้องป้อนรหัสผ่านหรือหมายเลขการตรวจสอบสิทธิ์ธุรกรรม (TAN) เพิ่มเติม วิธีนี้น่าจะช่วยลดความยุ่งยากของขั้นตอนการเข้าสู่ระบบได้อย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากกระเป๋าเงินใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงข้อมูลละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต
การค้าปลีก
การยืนยันอายุเป็นหนึ่งในประโยชน์ของกระเป๋าเงิน EUDI ในด้านการค้าปลีก เมื่อซื้อสินค้าที่มีการจำกัดอายุ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบ ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้กระเป๋าเงินเพื่อยืนยันอายุของลูกค้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันด้วยตนเองหรือหลักฐานยืนยันตัวตนเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินดิจิทัลยังใช้เป็นบัตรลูกค้าดิจิทัลได้ด้วย ผู้ใช้สามารถเก็บบัตรส่วนลด บัตรสมาชิก หรือบัตรสะสมแต้มไว้ในกระเป๋าเงิน EUDI และเปิดใช้ได้โดยอัตโนมัติเมื่อชำระเงิน ข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในแอปซึ่งช่วยให้การจัดการง่ายขึ้นและเร่งกระบวนการจัดซื้อให้เร็วขึ้น
การดูแลสุขภาพ
กระเป๋าเงิน EUDI เปิดโอกาสใหม่ๆ ในการจัดการข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยสามารถจัดเก็บใบสั่งยาทางอิเล็กทรอนิกส์ บันทึกทางการแพทย์ และใบรับรองไว้ในกระเป๋าเงินได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญพร้อมทั้งยังรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ด้วย เมื่อคนไข้ไปพบแพทย์หรือร้านขายยา พวกเขาสามารถแชร์ข้อมูลของตนเองโดยตรงผ่านแอปพลิเคชันได้
กระเป๋าเงินนี้ยังใช้ในการจัดการหนังสือเดินทางผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสำหรับผลิตภัณฑ์ยาได้ด้วย หนังสือเดินทางเหล่านี้มีข้อมูลสําคัญเกี่ยวกับยา เช่น ต้นกําเนิด ส่วนผสม และอายุการเก็บรักษา เมื่อทำการอัปโหลดไปยังกระเป๋าเงิน ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งส่งเสริมความปลอดภัยและความสะดวกในการจัดการยา
การบริหารจัดการภาครัฐ
การบริหารจัดการภาครัฐอาจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยกระเป๋าเงิน EUDI ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยเมื่อต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารประจำตัวฉบับจริง แอปพลิเคชันสามารถลงนามแบบดิจิทัลและส่งผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้ขั้นตอนการประมวลผลเอกสารและใบสมัครรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้งานกระเป๋าเงิน EUDI ได้อย่างไร
เนื่องจากกระเป๋าเงิน EUDI ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ธุรกิจต่างๆ จึงไม่สามารถรวมเข้ากับการดำเนินงานของตนได้ในขณะนี้ ธุรกิจควรพิจารณาโซลูชันทางเลือก เช่น Stripe Identity จนกว่ากระเป๋าเงิน EUDI จะเปิดตัว Identity ช่วยให้ธุรกิจสามารถยืนยันเอกสารประจําตัวที่เป็นทางการจากกว่า 100 ประเทศได้ คุณจะเปรียบเทียบรูปถ่ายและภาพเซลฟีได้ด้วยไบโอเมตริก ขณะที่ตรวจสอบชื่อ วันเกิด และหมายเลขประจําตัวโดยอัตโนมัติ
เราขอแนะนำให้วางแผนล่วงหน้าสำหรับการนำกระเป๋าเงิน EUDI ไปใช้ ธุรกิจควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้
การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานสําหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)
เพื่อให้แน่ใจว่าการผสานการทำงานกระเป๋าเงิน EUDI จะเป็นไปอย่างราบรื่น ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ควรตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอยู่อย่างละเอียดถี่ถ้วนและอัปเกรดตามความจำเป็น การอัปเกรดดังกล่าวรวมถึงการพัฒนาและการนำอินเทอร์เฟซที่เชื่อถือได้มาใช้ ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นระหว่างระบบที่มีอยู่และกระเป๋าเงิน
รูปแบบการเข้าสู่ระบบหรือที่เรียกว่ารูปแบบรหัสผ่าน และโปรโตคอลการตรวจสอบความถูกต้องควรได้รับการแก้ไขเพื่อให้รองรับเทคโนโลยีของกระเป๋าเงินและอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าการปรับเปลี่ยนเหล่านี้มีความจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการภายใน แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะสามารถใช้กระเป๋าเงิน EUDI ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ประสบปัญหาอุปสรรคทางเทคนิค
การฝึกอบรมพนักงาน
การใช้งานกระเป๋าเงิน EUDI ที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมพนักงานอย่างครอบคลุม พนักงานต้องมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่และเรียนรู้วิธีใช้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดําเนินงานทางธุรกิจต่างๆ สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับกระบวนการภายใน เช่น การยืนยันตัวตนหรือการจัดการธุรกรรม
พนักงานยังต้องเตรียมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในการใช้งานกระเป๋าเงิน EUDI โดยพวกเขาจะต้องสามารถตอบคำถาม แก้ไขปัญหา และตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินจะถูกใช้อย่างเหมาะสมที่สุดในการดำเนินธุรกิจประจำวัน
นโยบายและกลยุทธ์การคุ้มครองข้อมูล
การคุ้มครองข้อมูลยังเป็นกุญแจสําคัญในการติดตั้งใช้งานกระเป๋าเงิน EUDI ด้วย ธุรกิจต่างๆ ต้องแน่ใจว่านโยบายการปกป้องข้อมูลที่มีอยู่ของตนสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ใช้ในกระเป๋าเงินอย่างครบถ้วน สิ่งสำคัญคือข้อมูลลูกค้าต้องได้รับการเก็บรวบรวมและประมวลผลเฉพาะในขอบเขตที่จำเป็นสำหรับการใช้กระเป๋าเงินเท่านั้น ดูบทความ 5 และ 6 ของ GDPR เป็นต้น ธุรกิจต่างๆ ควรแก้ไขกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลที่มีอยู่ตามความจำเป็น
การมีส่วนร่วมของลูกค้า
ธุรกิจควรดึงดูดลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้กระเป๋าเงินให้เร็วที่สุด แบบสำรวจ เซสชันข้อเสนอแนะ และการทดสอบการใช้งานสามารถเพิ่มการยอมรับกระเป๋าเงิน EUDI และรับประกันว่าผู้ใช้จะมีความพึงพอใจ เป้าหมายคือการปรับปรุงความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ให้เหมาะสมที่สุดโดยการระบุและแก้ไขอุปสรรคหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับประสบการณ์ผู้ใช้ในระยะเริ่มต้น
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ