Three ways to use Stripe's no-code tools

Payment Links

ใช้ Payment Links เพื่อขายสินค้าออนไลน์โดยไม่ต้องมีเว็บไซต์ แค่สร้างหน้าการชำระเงินที่สมบูรณ์ด้วยการคลิกไม่กี่ครั้งและแชร์กับลูกค้าของคุณ โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนโค้ด

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. เปิดตัวธุรกิจ SaaS
    1. ความท้าทาย
    2. วิธีที่ Betafi ใช้เครื่องมือที่ไม่ต้องเขียนโค้ดเพื่อให้เริ่มดำเนินงานอย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้
    3. Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง
  3. การเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
    1. ความท้าทาย
    2. วิธีที่ Tiller เปิดตัวโปรแกรมนำร่องได้อย่างรวดเร็วด้วยลิงก์ชำระเงิน
    3. Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง
  4. การรับชำระเงินสำหรับธุรกิจงานอิสระ การให้คำปรึกษา หรือบริการเฉพาะทาง
    1. ความท้าทาย
    2. วิธีที่ RevSherpas ได้รับเงินเร็วขึ้นด้วยหน้าใบแจ้งหนี้ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบของเราแบบไม่ต้องเขียนโค้ด
    3. Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง
  5. เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดปรับขนาดได้ตามธุรกิจของคุณ

เมื่อผู้ก่อตั้งต้องการเปิดตัวธุรกิจใหม่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็จะต้องทำงานร่วมกับวิศวกรหรือเขียนโค้ดขึ้นสำหรับแทบทุกประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ ความสามารถในการรับชำระเงินออนไลน์ แดชบอร์ดลูกค้า และอื่นๆ

ต่อมา เครื่องมืออย่าง Wix และ Squarespace ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ทำให้ผู้ก่อตั้งสามารถใช้เทมเพลตเว็บไซต์สำเร็จรูปและองค์ประกอบแบบลากวางเพื่อสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกัน Shopify ก็ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพสามารถเปิดตัวระบบอีคอมเมิร์ซและการชำระเงินแบบครบวงจรได้อย่างรวดเร็ว โดยที่แทบไม่ต้องเขียนโค้ดเลย

ปัจจุบันมีเครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดให้เลือกใช้หลากหลาย ครอบคลุมแทบทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพข้อมูล การทำตามขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การชำระเงิน อีคอมเมิร์ซ และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ก่อตั้งและวิศวกรสามารถเชื่อมเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างกระบวนการทำงานแบบครบวงจรที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งและความยืดหยุ่น และสามารถมุ่งเน้นที่การพัฒนาโครงการริเริ่มทางธุรกิจที่มีความสำคัญสูงกว่าได้

คู่มือนี้มุ่งเน้นที่สามวิธีที่เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดสามารถช่วยให้ผู้ก่อตั้งเปิดตัวธุรกิจได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้าน SaaS, ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือในฐานะผู้ประกอบอาชีพอิสระ คุณจะได้อ่านเรื่องราวจากผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพสามรายและวิธีที่ผู้ก่อตั้งเหล่านี้ใช้เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดในธุรกิจของตนเองและบทเรียนที่ได้เรียนรู้

เปิดตัวธุรกิจ SaaS

ความท้าทาย

บริษัทด้าน SaaS สามารถเพิ่มการเติบโตและการมีส่วนร่วมของลูกค้า สร้างกระแสเงินสดที่น่าเชื่อถือ และลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ได้ด้วยการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า ในแต่ละปี มีบริษัทออนไลน์นำโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้ามาใช้กันมากขึ้น อันที่จริงแล้ว ในปีที่ผ่านมาธุรกิจ SaaS หลายหมื่นแห่งได้เข้าร่วมกับ Stripe เพื่อจัดการรายรับออนไลน์ตามแบบแผนล่วงหน้า จากการสำรวจของ Stripe พบว่า 43% ของธุรกิจซอฟต์แวร์กำลังวางแผนจะเริ่มใช้การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลภายใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างรายรับที่มั่นคงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในปัจจุบัน

สตาร์ทอัพด้าน SaaS เหล่านี้จะต้องมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมที่ส่งผลกระทบสูงสุดต่อธุรกิจของตนเพื่อให้เติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพมักทุ่มเทเวลาและทรัพยากรจำนวนมากไปกับการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเรียกเก็บเงิน จนละเลยการให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักของตนเอง

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจ SaaS จำนวนมากพยายามสร้างโซลูชันการเรียกเก็บเงินเองในตอนแรก แต่ประเมินความซับซ้อนและต้นทุนในระยะยาวต่ำเกินไป โซลูชันที่พัฒนาขึ้นเองจำเป็นต้องได้รับควบคุมการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โมเดลธุรกิจต่างๆ การทดลองกำหนดค่าสินค้า/ค่าบริการ การขยายตัวทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดตามระเบียบข้อบังคับ และความท้าทายอื่นๆ อีกมากมายเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริง 45% ของสตาร์ทอัพที่เราสำรวจเพื่อจัดทำรายงาน Stripe Insights ปี 2023 รู้สึกว่าตนเองคิดผิดที่พัฒนาโซลูชันขึ้นมาเอง

สตาร์ทอัพ SaaS รายอื่นอาจเลือกใช้โซลูชันเฉพาะด้านต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการพัฒนาโซลูชันการเรียกเก็บเงินขึ้นมาเอง เช่น ผลิตภัณฑ์แยกเฉพาะงานที่ใช้สำหรับจัดการการเรียกเก็บเงินหรือการจัดทำรายงานเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การค้นหา ประเมิน ผสานการทำงาน และฝึกอบรมทีมงานให้ใช้งานโซลูชันแต่ละอย่างนั้นใช้เวลามากและมีค่าใช้จ่ายสูง ยิ่งไปกว่านั้น โครงสร้างพื้นฐานอันประกอบด้วยโซลูชันเฉพาะด้านจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นี้มักกลายสภาพเป็นชุดระบบเก่าที่แยกส่วนกันและซับซ้อนต่อการจัดการในเวลาอันรวดเร็ว

วิธีที่ Betafi ใช้เครื่องมือที่ไม่ต้องเขียนโค้ดเพื่อให้เริ่มดำเนินงานอย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้

Ethan Sherbondy ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของแพลตฟอร์มการวิจัยผู้ใช้ Betafiเข้าใจว่าการตัดสินใจด้านเทคโนโลยีอย่างถูกต้องในช่วงแรกๆ ที่ก่อตั้งบริษัทมีความสำคัญเพียงใด การตัดสินใจที่ถูกต้องจะช่วยให้ทีมเริ่มดำเนินการได้อย่างง่ายดายและปรับขนาดได้ตามการเติบโตของธุรกิจ

"เราตัดสินใจใช้เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดของ Stripe เช่น ตารางค่าสินค้า/ค่าบริการ และพอร์ทัลลูกค้า ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับเราในการเริ่มใช้การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ เราสามารถเริ่มกระบวนการเริ่มต้นใช้งานให้ลูกค้าที่จ่ายเงินได้ในชั่วข้ามคืน เราเริ่มนำตารางค่าสินค้า/ค่าบริการมาใช้และเริ่มใช้ขั้นตอนการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลในแดชบอร์ด Stripe โดยตรง รวมทั้งขายแพ็กเกจการสมัครใช้บริการแรกของเราได้ภายในวันเดียว" Ethan กล่าว

"การใช้ Stripe ทำให้ Betafi สามารถให้ลูกค้าที่สมัครใช้บริการสองสามรายแรกเริ่มต้นใช้งานได้ จากนั้นก็ใช้ API ของ Stripe ในการปรับแต่งประสบการณ์การเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมไปพร้อมๆ กับการปรับบริการแบบสำเร็จรูปใหม่ และขณะเดียวกันก็ยังคงได้รับประโยชน์จากการกำหนดค่าพื้นฐานที่เราเริ่มต้นไว้ผ่านแดชบอร์ด Stripe"

"ในฐานะผู้ก่อตั้ง เราจำเป็นต้องสร้างรูปแบบเฉพาะตัวที่จะทำให้เราโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง และต้องกล้าตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไป แล้วเลือกใช้บริการคุณภาพดีที่สุดจากภายนอกแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมระดับมหภาคที่มีการแข่งขันสูงมากและมีข้อจำกัดด้านเงินทุนมากขึ้นเช่นนี้" Ethan กล่าว

Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง

ชุดเครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดของ Stripe มอบสิ่งที่คุณต้องการเพื่อให้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้โดยที่ไม่ต้องแบ่งทรัพยากรให้กับการพัฒนา

  • สร้างตารางค่าสินค้า/ค่าบริการแบบฝังได้ในแดชบอร์ด Stripe เพื่อกำหนดค่า ปรับแต่ง และอัปเดตข้อมูลผลิตภัณฑ์และค่าสินค้า/ค่าบริการได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย
  • นำลูกค้าไปยังขั้นตอนการชำระเงินที่สร้างไว้ล่วงหน้าเพื่อดำเนินการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ ประสบการณ์การชำระเงินได้รับการปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์ทุกรูปแบบ รองรับกว่า 30 ภาษาและกว่า 135 สกุลเงิน แสดงวิธีการชำระเงินที่เกี่ยวข้องมากที่สุดแบบไดนามิก และให้คุณปรับการตั้งค่าแบรนด์ให้เหมาะกับรูปลักษณ์ของไซต์ได้
  • ให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลการเรียกเก็บเงิน การชำระเงินตามรอบบิล และใบแจ้งหนี้ได้ด้วยพอร์ทัลลูกค้าของ Stripe
  • ใช้แอปจาก Stripe App Marketplace เพื่อวิเคราะห์รายรับจากการสมัครใช้บริการ ลดการเลิกใช้บริการ หรือจัดการการทำบัญชี

การเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ความท้าทาย

แม้ว่าประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นจะสำคัญสำหรับโมเดลธุรกิจทุกรูปแบบ แต่สำหรับอีคอมเมิร์ซนั้นยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก กล่าวคือ ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองทุกความต้องการได้ทุกเมื่อ อันที่จริงแล้ว งานศึกษาก่อนหน้านี้ของ Stripe ว่าด้วยขั้นตอนการชำระเงินอีคอมเมิร์ซพบว่า ถึงแม้การชำระเงินโดยเฉลี่ยใช้เวลา 3 นาทีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ 52% ของลูกค้าในอเมริกาเหนือจะละทิ้งรถเข็นหากขั้นตอนการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ใช้เวลานานกว่า 2 นาที ซึ่งหมายความว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังสูญเสียลูกค้าลูกค้าออนไลน์ที่ตั้งใจจะซื้อไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง

การชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมักเกิดจากการเพิ่มประสิทธิภาพยิบย่อยหลายสิบจุดซึ่งสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น อาทิ การแสดงข้อความแจ้งข้อผิดพลาดอย่างละเอียดเมื่อผู้ใช้กรอกข้อมูลการชำระเงินไม่ถูกต้อง ความสามารถในการกรอกที่อยู่อัตโนมัติ และการให้ลูกค้าสามารถบันทึกข้อมูลการชำระเงินไว้ใช้ในการซื้อครั้งต่อๆ ไป

อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพแทบไม่มีเวลาหรือทรัพยากรในการพัฒนาที่จะทุ่มให้กับการปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินอย่างเต็มที่ หรือควบคุมดูแลให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจเพื่อให้สามารถให้บริการฟีเจอร์ล่าสุดที่จะช่วยเพิ่มการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้ สตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซยังต้องลงทุนอย่างมากกับการพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ตลาดได้เป็นอย่างดี การสร้างแบรนด์ และกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของตนเองได้

วิธีที่ Tiller เปิดตัวโปรแกรมนำร่องได้อย่างรวดเร็วด้วยลิงก์ชำระเงิน

Heather Phillips หัวหน้าฝ่ายความสำเร็จของลูกค้าและผู้รับผิดชอบผลิตภัณฑ์ที่ Tillerกำลังมองหาวิธีทดลองโปรแกรมของกำนัลช่วงวันหยุดแบบรวดเร็ว บริษัทการเงินส่วนบุคคลแบบอัตโนมัติที่ทำงานด้วยสเปรดชีตเป็นหลักใช้ Stripe กับโครงสร้างพื้นฐานทางการชำระเงินและการเรียกเก็บเงินทั้งระบบอยู่แล้ว และตัดสินใจใช้ Stripe Payment Links เพื่อช่วยนำร่องโปรแกรม "Give the Gift of Tiller"

"การสร้างลิงก์ชำระเงินสำหรับโปรแกรมของกำนัลของเราทำได้ง่ายมาก ฉันใช้เวลาสร้างไม่เกิน 10 นาทีและไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากวิศวกรของเราเลย" Heather กล่าว "เมื่อวันก่อน ฉันสร้างผลิตภัณฑ์ Tiller Coaching ขึ้นใน Stripe อย่างเป็นทางการ และสามารถเรียกเก็บเงินจากบัตรของลูกค้าที่อยู่ในระบบได้ทันทีโดยอัตโนมัติหลังจบเซสชัน"

แม้ว่าเครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดอย่าง Payment Links จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็น แต่ Heather กล่าวว่า "แบบนี้ไม่ได้หมายความว่าควรด่วนตัดสินใจ" โซลูชันแบบไม่ต้องเขียนโค้ดอาจจะส่งผลกระทบหรือเกี่ยวข้องกับแง่มุมด้านอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์ก็ได้ และสิ่งสำคัญสำหรับเธอคือต้องคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุด และปรึกษากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ

"ก่อนที่จะเปิดตัวโปรแกรมของกำนัล ฉันได้ศึกษาตัวเลือกทั้งหมด และคิดอย่างถี่ถ้วนว่าประสบการณ์ที่ลูกค้าและทีมเรียกเก็บเงินของเราได้รับจะเป็นอย่างไรก่อนที่จะสร้างลิงก์ชำระเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมรอบด้าน" Heather กล่าว

Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง

ใช้ Stripe Payment Links เพื่อสร้างหน้าชำระเงินที่มีครบทุกองค์ประกอบด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง และแชร์ลิงก์กับลูกค้าของคุณโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใดๆ เลย คุณสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางใดก็ได้ เช่น เว็บ, อีเมล, SMS, โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ และแชร์ลิงก์ในรูปแบบใดก็ได้ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ (เช่น ไฮเปอร์ลิงก์ ปุ่มซื้อ หรือรหัส QR) คุณยังสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้อีกด้วย

  • ปรับแต่งหน้าชำระเงินให้เหมาะกับการสร้างแบรนด์ของคุณ
  • เปิดโอกาสให้ใช้วิธีการชำระเงินในท้องถิ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกประสบการณ์การชำระเงินที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
  • เสนอโปรโมชั่น การขายต่อยอด และการขายที่เกี่ยวเนื่อง

การรับชำระเงินสำหรับธุรกิจงานอิสระ การให้คำปรึกษา หรือบริการเฉพาะทาง

ความท้าทาย

ในปี 2022 มีแรงงานในสหรัฐอเมริกามากกว่า 39% ที่ทำงานโดยประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่า 60 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว และเป็นอัตราที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ด้วยแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการทำงานโดยประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งมักเรียกอีกอย่างว่า "ที่ปรึกษาอิสระ" หรือ "ธุรกิจบริการเฉพาะทาง" แรงงานกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องมีวิธีการรับเงินที่ไม่ซับซ้อนและเป็นมืออาชีพ

ผู้ประกอบอาชีพอิสระหลายรายเริ่มต้นด้วยการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อรับเงิน แต่ตัวเลือกเหล่านี้มักขาดความเป็นมืออาชีพและฟังก์ชันการจัดการที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระส่วนใหญ่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระมักต้องสร้างใบแจ้งหนี้ขึ้นเอง เก็บเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล จากนั้นจึงบันทึกยอดชำระที่เรียกเก็บและข้อมูลธุรกิจด้วยตนเองในสเปรดชีตแยกต่างหาก ผู้ประกอบอาชีพอิสระบางรายอาจเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับการเรียกเก็บเงินโดยเฉพาะเพื่อให้การชำระเงินราบรื่นขึ้น แต่เครื่องมือเหล่านี้มักใช้งานยุ่งยากและซับซ้อน ต้องอาศัยทักษะทางเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระอาจไม่มี

วิธีที่ RevSherpas ได้รับเงินเร็วขึ้นด้วยหน้าใบแจ้งหนี้ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบของเราแบบไม่ต้องเขียนโค้ด

เมื่อ Kevin Wessels เริ่มทำงานที่ปรึกษาด้านการเติบโตของรายรับที่ RevSherpas เขากำลังมองหาเครื่องมือประมวลผลการชำระเงินที่ปลอดภัยและใช้งานง่ายซึ่งทั้งตัวเขาเองและลูกค้าสามารถนำไปใช้งานและไว้วางใจได้ และเขายังต้องการหลีกเลี่ยง "ปัญหาปวดหัวที่คนที่ไม่ได้ทำงานด้านไอทีมักพบเจอเมื่อต้องติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานใหม่" ด้วย

Kevin ตัดสินใจใช้หน้าการเรียกเก็บเงินตามใบแจ้งหนี้แบบไม่ใช้โค้ดในระบบ Stripe เขาจึงสามารถส่งใบแจ้งหนี้ได้อย่างรวดเร็ว เร่งการเรียกเก็บเงิน เริ่มการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ติดตามแนวโน้มการใช้จ่ายของลูกค้า และสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ

"การใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลของ Stripe ทำให้ผมได้รับเงินจากลูกค้าหลายรายที่ชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ เทมเพลตใบแจ้งหนี้และแค็ตตาล็อกสินค้าสำเร็จรูปยังช่วยให้ผมสามารถสร้างและส่งใบแจ้งหนี้ได้ในไม่กี่วินาทีแทนที่จะต้องใช้เวลาหลายนาที ไม่เพียงเท่านั้น การมองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ของลูกค้าระดับบนตามยอดการชำระเงินรวมยังเป็นเครื่องย้ำเตือนอย่างดีว่าผมควรใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูแล ให้บริการ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าระดับชั้นนำเหล่านั้นให้ดียิ่งขึ้น" Kevin กล่าว

Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง

หน้าใบแจ้งหนี้ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้าง ปรับ และส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ลูกค้าสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเขียนโค้ดใดๆ เลย

  • ดูรายละเอียด ยอดเงิน และสถานะของใบแจ้งหนี้
  • ชำระเงินตามใบแจ้งหนี้โดยใช้วิธีการชำระเงินที่เปิดใช้อยู่
  • ดาวน์โหลดสำเนาใบแจ้งหนี้และใบเสร็จในรูปแบบไฟล์ PDF

นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถติดตามใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินที่ค้างชำระ และวิเคราะห์ตัวชี้วัดทางธุรกิจของตนในแดชบอร์ด Stripe ได้อีกด้วย

เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดปรับขนาดได้ตามธุรกิจของคุณ

โซลูชันแบบไม่ต้องเขียนโค้ดเป็นประโยชน์ต่อผู้ก่อตั้งได้ทุกช่วงวงจรชีวิตของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้งไปจนถึงการขยายกิจการ โดยที่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงาน ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพหลายแห่งใช้โซลูชันแบบไม่ต้องเขียนโค้ดเพื่อทดสอบและยืนยันแนวคิดทางธุรกิจของตนในตลาดได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น เมื่อธุรกิจขยายเติบโตขึ้นก็มักจะพัฒนาไปใช้ขั้นตอนการทำงานแบบไม่ต้องเขียนโค้ดที่ครอบคลุมครบวงจรมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ดในช่วงเวลาใดก็ตาม ก็อาจส่งผลดีมหาศาลได้ทั้งนั้น

"ผมอยากแนะนำให้ผู้ก่อตั้งรายอื่นเปิดรับการใช้โซลูชันที่ใช้การเขียนโค้ดน้อยมากและแบบไม่ต้องเขียนโค้ด เพื่อให้สามารถนำทรัพยากรอันมีค่าของทีมไปลงทุนกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ และสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตนได้ โค้ดทุกบรรทัดที่เขียนขึ้นโดยไม่ได้ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์หลักถือว่าเป็นภาระด้านความรับผิดและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลาที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่" Ethan จาก Betafi กล่าว

ติดต่อทีมขายของเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสร้างบัญชีเพื่อเริ่มใช้งานโซลูชันแบบไม่ต้องเขียนโค้ดของ Stripe

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ

Payment Links

สร้างหน้าการชำระเงินที่สมบูรณ์ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งและแชร์กับลูกค้าของคุณ

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payment Links

รองรับการชำระเงินหลายฝ่ายและการเบิกจ่ายทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย