การบรรยายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
Keynotes
ระยะเวลา
กรอกแบบฟอร์มเพื่อดูวิดีโอเวอร์ชันเต็ม

ร่วมค้นหาสิ่งที่เราจะเปิดตัวเป็นรายต่อไปในระบบ Stripe Payments, Revenue และ Connect เรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของเครือข่าย Stripe และรับชมการเปิดตัวความสามารถใหม่อย่าง Money Management ในระดับสากล
วิทยากร
Kevin Weil ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์, OpenAI
John Affaki หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ, Payments, Stripe
Neetika Bansal หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ, Money as a Service, Stripe
Will Gaybrick ประธานฝ่ายบริหารด้านผลิตภัณฑ์และธุรกิจ, Stripe
Tanya Khakbaz หัวหน้าฝ่ายการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์, Stripe
Emily Sands หัวหน้าฝ่ายระบบข้อมูลของ Stripe
Vivek Sharma, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจการทำงานอัตโนมัติด้านการเงินและรายรับ, Stripe
Bharath Srivatsan สถาปนิกด้านงานผลิตภัณฑ์, Stripe
ผู้ประกาศ: โปรดต้อนรับ Will Gaybrick ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และธุรกิจของ Stripe
WILL GAYBRICK: สวัสดีครับและขอต้อนรับสู่วันที่สองของ Stripe Sessions การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันที่ใหญ่ที่สุดระหว่างผู้สร้างบริษัท ที่ทะเยอทะยานทั่วทุกมุมโลก เราตื่นเต้นมากที่ได้มาพบคุณทุกคนสัปดาห์นี้ เมื่อวาน Patrick พูดไปแล้วว่า Stripe กำลังสร้างบริการทางการเงินที่ตั้งโปรแกรมได้ และในแต่ละปีที่ Sessions เราตั้งใจแสดงให้คุณเห็นว่าเรากำลังจัดส่งให้คุณมากแค่ไหน และกำลังเคลื่อนย้ายให้คุณเร็วแค่ไหน
และคุณจะเห็นว่าเราได้ส่งผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมามากมายตั้งแต่เราทุกคนมาที่นี่เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงปีนี้ การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ Stripe และสิ่งที่ทำได้สำหรับคุณทุกคน เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ที่นี่ที่ Moscone โลกได้รู้จักกับ iPhone และสิ่งนี้กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มพื้นฐานบนอินเทอร์เน็ต วันนี้เรากำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนไม่ใช่ 1 แต่เป็น 2 แพลตฟอร์ม ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนั้นยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ นี่คือการปฏิวัติด้านความฉลาดและการเงินที่มากันเป็นคู่แฝด
แน่นอนว่า AI กำลังเปลี่ยนวิธีทำงานและใช้ชีวิตอยู่แล้ว และสเตเบิลคอยน์ก็เป็นเงินกลุ่มแรกที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกอย่างแท้จริง และสามารถตั้งโปรแกรมได้อย่างเต็มที่ที่เราเคยมีมา ดังนั้นสถานการณ์นี้ทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลงการทำงานของเราในวงกว้าง และทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนแรงหนุนครั้งใหญ่ที่สุดต่อการเติบโตของธุรกิจในยุคหนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราทุกคนถึงอยู่ที่นี่ เรามีหน้าที่นำเทคโนโลยีพรมแดนเหล่านี้มาให้คุณทุกคนได้ใช้ และไม่ได้หมายถึงในอนาคตอันไกลแสนไกล แต่หมายถึงตอนนี้เลย เราจะแสดงให้คุณเห็นในเช้าวันนี้ว่าเราจะทำสิ่งนั้นกันอย่างไร
ในระหว่างนั้นเอง เราจะพูดถึงธีมที่กว้างขวางอีก 2 เรื่อง คือ การขยายธุรกิจของเครือข่าย Stripe ซึ่งตอนนี้พุ่งไปไกลเกิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี สามารถสร้างประโยชน์แก่คุณโดยตรงในหลายวิธีด้วยกัน และวิธีที่ Stripe เองนั้นสามารถขยายขนาดได้และตั้งโปรแกรมได้ โดยมีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของคุณ แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงทุกสิ่งที่เราทำกันมาตลอดปีก่อน ผมคิดว่าเราควรให้คุณดูตัวอย่างสิ่งที่เราทำกันอยู่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการช่วยให้คุณทุกคนเข้าถึงผู้ซื้อประเภทใหม่บนอินเทอร์เน็ต นั่นคือ AI เอเจนต์
LLM เป็นเครื่องมือชั้นยอดในการพาคุณไปสู่จุดซื้อ แต่ก็ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อหาเส้นทางในแบบฟอร์มการชำระเงินที่ซับซ้อน จัดเก็บข้อมูลรับรองการชำระเงินอย่างปลอดภัย จัดการการตรวจสอบการชำระเงิน และอื่นๆ วันนี้เรากำลังเริ่มแก้ปัญหานั้นด้วย API ใหม่เอี่ยมที่ช่วยให้ทุกคนสร้างตัวแทนการค้าในเพียงไม่กี่วินาที เราเรียกมันว่า Order Intents มาดูกัน
เราจะเริ่มต้นด้วยกรณีการใช้งานแบบง่ายๆ ดังนั้น Dwarkesh อยู่ที่นี่เมื่อคืน มาสั่งซื้อหนังสือของเขาล่วงหน้ากัน และผมอยากให้คุณเห็นวิธีการทำงานของ Order Intents และทำได้ง่ายที่สุดจากบรรทัดคำสั่ง เอาล่ะ สิ่งแรกที่ผมจะทำคือแค่สร้าง Order Intents และชี้ไปที่ URL ของสิ่งที่ผมอยากซื้อ ในกรณีนี้คือ press.stripe.com/scaling มาลองทำกัน
และสิ่งแรกที่เอเจนต์ Order Intents ทำก็คือ เอเจนต์จะไปที่เว็บไซต์และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มีตัวเลือกสินค้าไหม มีส่วนลดไหม อัตราค่าจัดส่งเท่าไร มีภาษีใหม่บ้างไหมตั้งแต่ 7 โมงเช้า และตอนนี้เอเจนต์ก็กลับมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจนัก และจริงๆ แล้วเอเจนต์ก็พร้อมสั่งซื้อแล้ว ผมก็แค่คัดลอก ID คำสั่งซื้อนี้ออกจากสตริงยาวๆ นี้และผมก็จะยืนยันการทำธุรกรรม แค่นั้น แค่วางไว้ตรงนี้ เอาล่ะ มาลองดูกัน
ทีนี้ เพื่อการสาธิตครั้งนี้ เราจะแสดงภาพเอเจนต์ที่ทำงานจริงๆ ให้ดู คุณจะได้เห็นเอเจนต์ตรงนี้ แล้วเปิด Stripe Press นั่นไง เอเจนต์จะรีบเพิ่มหนังสือไปยังรถเข็น และตอนนี้มันก็ใช้เวลาแปปเดียวเพื่อไปยังการชำระเงิน นั่นไง เอเจนต์จะเริ่มกรอกแบบฟอร์ม ไม่ต้องใช้มือเลย แค่เอเจนต์ทำงานให้ แปปเดียวเอง นั่นไงออฟฟิศ Stripe กำลังพิมพ์หมายเลขบัตรเครดิต จริงๆ แล้วนั่นไม่ใช่บัตรเครดิตของผม ถ่ายรูปไปก็เท่านั้นครับ นั่นไงครับ เราเพิ่งซื้อหนังสือโดยใช้บรรทัดคำสั่ง [เสียงปรบมือ]
ผมได้สาธิตเรื่องนี้บ่อยจน Dwarkesh ดีใจที่มีคนพรีออเดอร์หนังสือของเขา เอาล่ะ แต่นั่นอาจดูเหมือนไม่ใช่วิธีที่คนทั่วไปทำกัน เว้นแต่คุณจะเหมือนผม และจริงๆ แล้วคุณก็ตื่นเต้นกับแนวคิดของการช้อปปิ้งช่วงคริสต์มาสผ่าน API มาเพิ่มความน่าสนใจกันหน่อยและทำให้มันสมจริงขึ้นอีกนิด นี่คือเว็บไซต์สาธิตของเรา GlowGuide และรีวิวผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผมเพิ่งอายุ 40 ปี ผมจึงจริงจังกับการดูแลผิวมากขึ้นเล็กน้อยและกำลังอ่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พวกนี้ คุณจะเห็นได้ตรงนี้ ทั้งหมดนี้เป็นผลิตภัณฑ์จริง
ชิ้นนี้วางขายโดย MoodySisters.com ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบมีแร่ธาตุ อันนี้เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดด SPF 50ทีนี้ ปกติแล้วถ้าผมอยากซื้อของพวกนี้ ผมต้องคลิกทีละลิงก์ ไปที่เว็บของบริษัทอื่น กรอกแบบฟอร์มเต็มไปหมด หากผมซื้อจริงๆ GlowGuide ก็อาจจะได้ค่านายหน้าบางส่วนจากอีกฝ่ายเพราะเป็นเว็บที่พาผมมาที่นี่
แต่เมื่อใช้ Order Intents เราสามารถทำได้ดีขึ้นทั้งสองฝั่งของการทำธุรกรรม มาลองดูกัน ผมเลื่อนลงมา คุณจะเห็นว่า GlowGuide เปิดโอกาสให้ผมซื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำโดยตรงบนหน้าเว็บ ดูเหมือนว่า GlowGuide ใช้ลิงก์ตรงนี้ ดังนั้นจึงมีข้อมูลรับรองการชำระเงินของผม แต่ทีนี้ ก่อนที่จะสั่งซื้อ ผมแค่อยากจะเน้นว่าเรากำลังจะได้เห็นเอเจนต์อัตโนมัติซื้อของจริงๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ
หากให้พูดสั้นๆ นี่คือการสาธิตที่คุณไม่ควรทำในตอนต้นของการบรรยาย มาลุ้นกันและดูว่าจะได้ผลไหม ผมจะคลิก "Order Here" โอเค ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ข้อความไม่ขึ้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังคือเอเจนต์ได้ไปที่เว็บไซต์ 3 แห่ง และทำสิ่งที่ทำกับ Stripe Press เป๊ะๆ ซึ่งก็คือทำความเข้าใจเว็บเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง
โอเค นั่นไง คุณจะเห็นจริงๆ ว่าเอเจนต์กำลังทำงานอยู่ ผมทำงานมัลติทาสก์เก่งพอตัว แต่เอเจนต์นี่คนละระดับเลย มันกำลังตั้งหน้าตั้งตากรอกทุกแบบฟอร์ม คำถามก็คือ ทำไมวิธีนี้ถึงดีกว่าแบบปัจจุบันล่ะ ก็เพราะว่าการค้าแบบ Affiliate นั้นไม่เหมาะกับผู้ค้าจริงๆ เพราะคุณรู้ว่ามันยากที่จะได้เครดิตสำหรับการซื้อที่คุณสร้างและสำหรับผู้บริโภค คุณก็ไปเว็บนั้นทีเว็บนี้ทีทั่วอินเทอร์เน็ตเพื่อทำทุกสิ่งที่ตอนนี้เอเจนต์ทำให้ผมแทน
จอกศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่ที่การค้า ณ สถานที่จริงเสมอมา คุณนำประสบการณ์การซื้อมาไว้ในหน้าที่คุณเปิดอยู่โดยตรงได้ไหม ตอนนี้เอเจนต์ซื้อเสร็จไป 2 เว็บแล้ว มันเริ่มจะเหนื่อยแล้ว เรียบร้อย เราเพิ่งซื้อของ 3 อย่างใน 3 เว็บที่แตกต่างกันโดยไม่ต้องขยับเลย [เสียงปรบมือ] และส่วนที่ง่ายที่สุดของการสาธิตก็คือส่วนที่ล้มเหลวไป ต้องขออภัยด้วยครับ
โอเค แต่นั่นเป็นเพียงการประยุกต์ใช้ Order Intents เพียงอย่างเดียวและ John ก็พูดไปแล้วเมื่อวานนี้ว่าแอปพลิเคชัน AI ที่สำคัญบางอย่าง เช่น Perplexity และ ChatGPT กำลังสำรวจการค้าแบบใช้เอเจนต์ เหตุผลที่เราสร้าง Order Intents คือเรารู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทุกคนสามารถสร้างได้โดยการฝังการค้าแบบใช้เอเจนต์ในแอปพลิเคชันของคุณโดยตรง เรามีวิธีเดิมๆ แต่ใหม่ เพียงแค่สร้างเอเจนต์เพื่อซื้อของ หากคุณใช้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คุณก็สามารถขายผลิตภัณฑ์ของบุคคลที่สามได้โดยตรงจากการชำระเงินของคุณ
หากคุณสร้างแอปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน คุณก็สามารถสร้างงานที่ต้องทำในรายการสิ่งที่ต้องทำให้ซื้อได้ในคลิกเดียว และจริงๆ แล้ว คุณก็ทำได้ทุกอย่างที่คุณนึกฝันไว้เมื่อคุณซื้ออะไรก็ได้บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมดด้วยเอเจนต์และลิงก์ ตอนนี้ การค้าแบบใช้เอเจนต์เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่เราจะไม่ทำเพียงลำพัง ดังนั้น ผมจึงตื่นเต้นที่จะแจ้งให้ทราบว่า Stripe และ Visa กำลังร่วมมือกันในเรื่องนี้ ทาง Visa เองได้ประกาศข้อกำหนดใหม่สำหรับบัตรเอเจนต์เมื่อไม่กี่วันก่อน และ Stripe ก็เป็นพันธมิตรเปิดตัวสำหรับการชำระเงินเพียงรายเดียว
ดังนั้นเอเจนต์จะลดความยุ่งยากและเพิ่มความเร็วของเม็ดเงินบนอินเทอร์เน็ต นั่นทำให้เราค้าขายกันได้มากขึ้น และก็ทำให้ อย่างที่เราเพิ่งเห็น โมเดลการค้ารูปแบบใหม่ Stripe มีประวัติในการเร่งโมเดลการค้ารูปแบบใหม่ เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่เราเปิดตัว API แบบบริการตนเองแห่งแรกของโลกสำหรับการยอมรับการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งช่วยเร่งการเติบโตของอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วอยู่แล้ว
เพียงไม่กี่ปีต่อมา เราก็ได้เปิดตัว Stripe Connect ซึ่งจุดประกายให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วของรูปแบบธุรกิจแบบมาร์เก็ตเพลสและแบบแพลตฟอร์ม และเมื่อ 7 ปีก่อน เราได้เปิดตัว Stripe Billing ซึ่งเป็นรากฐานของชุด Revenue ของเรา ช่วยให้ธุรกิจที่มีรายได้ประจำและ โดยเฉพาะในปัจจุบัน ธุรกิจที่อิงตามการใช้งานสามารถวางแผนตรรกะรายได้หลักของตนได้
วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 ส่วนนี้: Payments, Revenue และ Connect และสุดท้ายนี้เรามีเรื่องสำคัญมากที่จะแนะนำในตอนท้าย ดังนั้นอย่าพลาดติดตามชม และมาเริ่มกันเลย โดยเริ่มจาก Payments และแน่นอนว่าเราจะเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้นของการชำระเงินทุกรูปแบบ ซึ่งก็คือหน้าชำระเงิน และตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แนวคิดแบบเดิมๆ มักจะบอกว่า หากคุณจริงจังกับหน้าชำระเงิน คุณก็ต้องเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง
สำหรับเราแล้ว วิธีนี้ดูเหมือนจะไม่มีประสิทธิภาพเลย และนั่นคือเหตุผลที่เราสร้างชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่การชำระเงินแบบฝังและใส่แบรนด์ได้ การเข้าถึงวิธีการชำระเงินทั่วโลกกว่า 100 วิธีทันที และการเพิ่มประสิทธิภาพหลายร้อยรายการ เช่น การนำเสนอสกุลเงินท้องถิ่น คำแนะนำ CVC การแปลภาษา และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อเพิ่มคอนเวอร์ชันของคุณ
ปัจจุบัน บริษัทต่างๆ เช่น Atlassian, Ford, Figma, River Island, URBN และบริษัทอื่นๆ อีกมากมายต่างก็ใช้ประโยชน์จากระบบชำระเงินในตัวของเรา เพื่อสร้างหน้าชำระเงินที่มีแบรนด์และปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ เราเพิ่งประกาศไปเมื่อไม่นานนี้ อันที่จริงแล้ว Patrick ได้พูดไปเมื่อวานนี้ ว่าตอนนี้บริษัทในรายชื่อ Fortune 100 มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้ Stripe กันหมดแล้ว สถิติที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น หรืออย่างน้อยก็สำหรับผมก็คือ 73% ขององค์กรระดับโลกทั้งหมดที่เริ่มใช้งาน Stripe นั้นใช้ระบบดังกล่าวร่วมกับชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของเรา
และบริษัทที่ดำเนินการได้เร็วที่สุดก็คือบริษัทที่จ้างงานภายนอกให้ Stripe Checkout ซึ่งเป็นหน้าชำระเงินที่โฮสต์โดยสมบูรณ์ของเรา ซึ่งรวมถึงบริษัท AI ชั้นนำทั้งหมด ดังนั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แนวคิดแบบเดิมได้เปลี่ยนไปแล้ว คำถามก็คือ ทำไมบริษัทเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระดับโลกหรือบริษัทสตาร์ตอัปด้าน AI ถึงหันมาใช้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของเรา นั่นก็เพราะว่าบริษัทเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากวิศวกรของ Stripe หลายร้อยคนที่ทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อเพิ่มคอนเวอร์ชัน
และแน่นอนว่า OCS ยังคงพัฒนาและทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปีที่แล้ว เราได้เพิ่มการรองรับวิธีการชำระเงินเพิ่มเติมอีก 25 วิธี นอกเหนือจาก 100 วิธีที่เราสนับสนุนใน Sessions เมื่อปีที่แล้ว คุณสามารถเปิดใช้งานวิธีใดก็ได้ในคลิกเดียวผ่านแดชบอร์ด วิธีหนึ่งที่เราเห็นการเติบโตที่น่าสนใจและโดดเด่นจริงๆ ก็คือการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ ซึ่งอาจฟังดูน่าแปลกใจ เพราะในอดีต การชำระเงินด้วยคริปโตนั้นไม่ได้ผลดีนัก แต่นั่นกำลังเปลี่ยนไปเมื่อมีสเตเบิลคอยน์ เมื่อลองนึกดูดีๆ แล้ว สเตเบิลคอยน์นั้นถือเป็น RTP ขั้นสูงสุด คอยน์ประเภทนี้รวดเร็วและราคาถูก แต่ต่างจาก RTP อื่นๆ ตรงที่สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ใช้กันทั่วโลก และธุรกิจบน Stripe ที่ยอมรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์สามารถขายให้กับประเทศต่างๆ ได้เป็น 2 เท่า และพบว่ามูลค่าคำสั่งซื้อเฉลี่ยในการทำธุรกรรมด้วยสเตเบิลคอยน์นั้นสูงกว่าถึง 3 เท่า
ดังนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณดำเนินธุรกิจระดับโลก การชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์อาจเป็นโอกาสเติบโตอันทรงพลังของคุณ นอกเหนือจากการมอบวิธีการชำระเงินมากมายให้คุณเลือกแล้ว OCS ยังใช้ AI เพื่อแสดงวิธีการชำระเงินที่ถูกต้องอย่างแม่นยำสำหรับแต่ละธุรกรรมโดยอิงจากสัญญาณแบบเรียลไทม์มากกว่า 100 สัญญาณ และเรากำลังเพิ่มสัญญาณใหม่ทุกสัปดาห์ ดังนั้น นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว คุณสามารถใช้ OCS เพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยใช้ AI นอกเหนือไปจากชุดวิธีการชำระเงินที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
และทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเติบโตทางรายได้ของคุณ ในความเป็นจริงแล้ว ในการยับยั้งอย่างต่อเนื่องของเรา ธุรกิจต่างๆ โดยเฉลี่ยมีรายได้เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อย้ายไปใช้ OCS [เสียงปรบมือ] 11.9% จากแค่ย้ายไปใช้ OCS ตอนนี้ เมื่อปีที่แล้ว ผมยืนอยู่ตรงนี้โดยหวังว่าจะทำให้พวกคุณสัก 2-3 คนขำมุกของผม และนั่นเป็นก็เรื่องตลก ผมยังทำให้คนขำไม่ได้ และผมก็ได้ประกาศว่า Stripe กำลังดำเนินการตามพันธกรณีทางสถาปัตยกรรมพื้นฐานเพื่อระบบนิเวศแบบเปิด
Stripe จะกลายเป็นแพลตฟอร์มโมดูลาร์เต็มรูปแบบ โดยช่วยให้คุณสามารถใช้บริการทั้งหมดของ Stripe ได้ ไม่ว่าจะเป็น Billing, Tax, Radar, ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพ และอีกมากมาย โดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นผู้ประมวลผลการชำระเงิน แต่การใช้ Stripe ร่วมกับ PSP อื่นเป็นเรื่องไม่ควรเกิดขึ้น แต่ควรเป็นประสบการณ์ชั้นยอดในตัวมันเอง เป็นตัวช่วยที่ทรงพลังสำหรับคุณทุกคน ดังนั้น วันนี้ เราจึงก้าวไปอีกขั้น เราขอประกาศเปิดตัว Stripe Orchestration ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในการจัดการผู้ให้บริการชำระเงินหลายราย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ให้บริการเหล่านี้โดยตรงภายใน Stripe [เสียงปรบมือ]
และคุณทุกคนต่างก็ขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้กันมาหลายปีแล้ว เช่น การเรียกเก็บเงิน บริษัทหลายแห่งเริ่มโดยสร้างการเรียกเก็บเงินของตัวเองขึ้นมา แต่โดเมนนี้เป็นปัญหาใหญ่มาก และใช้ทรัพยากรสูงและทำให้คุณทำงานช้าลง ดังนั้นงานหนักที่ไม่มีความแตกต่างกันนี้จึงอยู่ในขอบเขตงานของเรา เราต้องการแบ่งเบาภาระเช่นนี้ให้คุณ เพื่อที่คุณจะได้ทำงานได้เร็วขึ้น และด้วยการตรวจสอบเครือข่ายของเรา เราก็สามารถช่วยให้คุณค้นพบการเพิ่มประสิทธิภาพที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งอาจระบุได้ยาก ดังนั้นมาดูที่ Orchestration กัน และเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าเครื่องมือนี้ทำงานอย่างไร ขอเชิญ Bharath ครับ
BHARATH SRIVATSAN: ตอนนี้ผมอยู่ในหน้าธุรกรรมในแดชบอร์ด Stripe ครับ และอย่างที่เห็น ผมเห็นการชำระเงินผ่าน Stripe จำนวนมากที่เข้ามา ตอนนี้ผมสามารถเปิดการประสานงานการชำระเงินได้จากภายในแท็บการชำระเงิน ด้วย Stripe Orchestration ผมจะสามารถเพิ่มผู้ประมวลผลการชำระเงินใหม่ได้ง่ายๆ ตัวสร้างภาพนี้จะทริกเกอร์ทุกครั้งที่มีการชำระเงินด้วยบัตรใหม่เข้ามา และผมจะเพิ่มเงื่อนไขบางอย่างเข้าไป
ผมสามารถกำหนดเส้นทางตามปัจจัยต่างๆ ได้ อาจเป็นบริษัทผู้ออกบัตรหรือจำนวนเงิน แต่ตอนนี้ เรามากำหนดเส้นทางธุรกรรมบัตรเครดิตของสหราชอาณาจักรทั้งหมด ประเภทบัตร และให้ทั้งหมดนั้นไปที่ Worldpay จากนั้นสำหรับส่วนที่เหลือ เราจะดำเนินการกำหนดเส้นทางการชำระเงินด้วยบัตรที่เหลือผ่าน Stripe ต่อไป เยี่ยม ผมจะกดเสร็จสิ้น ตั้งชื่อกฎ และกดเปิดใช้งาน เอาล่ะ
ตอนนี้ถึงเวลาแห่งความจริงแล้ว มาดูธุรกรรมกันบ้างดีกว่า เมื่อเรากลับไปที่หน้าธุรกรรม เราจะกดรีเฟรช แน่นอน เรียบร้อย เรากำลังเห็นธุรกรรมบัตรเครดิตของอังกฤษเหล่านี้ถูกส่งไปยัง Worldpay เช่นเดียวกับที่เราตั้งค่าไว้ [เสียงปรบมือ] ทีนี้ผมอยากจะหยุดตรงนี้สักครู่ เพราะเพียงคลิกไม่กี่ครั้งในแดชบอร์ดและไม่ต้องใช้รหัสใหม่ ตอนนี้ Stripe ก็จะดำเนินการชำระเงินให้กับคุณผ่านผู้ประมวลผลต่างๆ และสิ่งที่ดีที่สุดคือ ลูกค้าของคุณยังคงได้รับประโยชน์ทั้งหมดของชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าผู้ประมวลผลการชำระเงินจะเป็นใครก็ตาม
คุณสามารถใช้ Stripe Orchestration เพื่อดูการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรมาก เช่น ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า คุณจะเห็นได้ว่าการชำระเงินถูกแบ่งอย่างไรและทำงานอย่างไรในแต่ละผู้ประมวลผลได้โดยตรงจากแดชบอร์ด คุณสามารถเจาะลึกลงไปตามสกุลเงินหรือแบรนด์ของบัตรและอื่นๆ จากนั้นจึงป้อนข้อมูลเชิงลึกกลับไปยังการตั้งค่าผู้ประมวลผลหลายรายของคุณ [เสียงปรบมือ]
WILL GAYBRICK: เรากำลังใช้ Orchestration เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นของเราในการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด เป้าหมายของเราคือการทำให้ทุกคนสามารถจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพสภาพแวดล้อมแบบผู้ประมวลผลหลายรายได้ง่ายขึ้น เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพื่อให้ชัดเจน คุณสามารถใช้ Orchestration ได้แม้ว่าคุณจะไม่ได้ประมวลผลการชำระเงินกับ Stripe เลยก็ตาม ตอนนี้ เพื่อแชร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำในระบบชำระเงิน ผมจะส่งต่อเรื่องนี้ไปที่ John Affaki หัวหน้าฝ่ายชำระเงินของ Stripe
JOHN AFFAKI: ขอบคุณครับ Will และสวัสดีทุกคนครับ มาพูดถึง Terminal ผลิตภัณฑ์การชำระเงินที่จุดขายกัน เมื่อ 6 ปีก่อน ผมได้เข้าร่วม Stripe เพื่อดูแล Terminal โดยเฉพาะ และในตอนนั้นเอง เราสนับสนุนการชำระเงินที่จุดขายในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว และมีเครื่องอ่านบัตร Terminal ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 10,000 เครื่อง ปัจจุบัน Terminal มีใน 24 ประเทศ มีอุปกรณ์มากกว่า 1 ล้านเครื่องในโลกกว้าง และมากกว่านั้นในที่ที่เราไม่รู้ และระหว่างนั้น เราได้เข้าซื้อบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์เพื่อผลิตเครื่องอ่านบัตรของเราเอง
ก่อนหน้านี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก SDK ของ Terminal และเครื่องมือจัดการยานพาหนะ และนำแอปพลิเคชันบนเครื่องอ่านบัตรบนอุปกรณ์ของบริษัท Stripe ไปใช้เท่านั้น แต่ในวันนี้ ผมตื่นเต้นมากที่จะประกาศว่าคุณสามารถใช้ Terminal กับฮาร์ดแวร์ของบริษัทอื่นได้แล้ว ซึ่งจะปลดล็อกรูปแบบใหม่ และเราจะเริ่มต้นด้วย Verifone โดยจะมีอุปกรณ์และพันธมิตรอีกมากมายตามมา
ตอนนี้ การเสริมสร้างความมุ่งมั่นของเราต่อระบบนิเวศแบบเปิดผ่านความร่วมมือของเรากับ FreedomPay ทำให้คุณสามารถเข้าใช้ระบบบันทึกการขายกว่า 1,000 แห่ง ผู้ให้บริการฮาร์ดแวร์ และใช้งานการชำระเงินที่จุดขายจาก Stripe ร่วมกับ PSP อื่นๆ ได้ เอาล่ะ มาพูดถึง Link ผลิตภัณฑ์การชำระเงินสำหรับผู้บริโภคของ Stripe กันดีกว่า ผลิตภัณฑ์นี้สร้างขึ้นบนสมมติฐานที่ว่า หาก Stripe ไม่ได้สนิทกับผู้บริโภคนัก เราก็สามารถสร้างประสบการณ์การชำระเงินแบบใหม่ที่เพิ่มรายได้และลดต้นทุนของคุณได้ และการเติบโตก็รวดเร็วมาก
Link ช่วยเพิ่มอัตราการแปลงบัตรได้อย่างมาก เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปค้นหากระเป๋าเงินและป้อนหมายเลข 16 หลัก นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนของคุณด้วย เมื่อมีการชำระเงินผ่านธนาคารทันทีที่สร้างโดยตรงไว้ใน Link คุณจะสามารถรับการหักบัญชีธนาคารที่แปลงได้เหมือนบัตรทุกประการ และตอนนี้ทุกคนกำลังเพิ่มบัญชีธนาคารของตนลงใน Link ในปีที่ผ่านมา จำนวนบัญชีธนาคารเครือข่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าด้วยกัน
เราได้ยินจากพวกคุณด้วยว่าวิธีการชำระเงินแบบซื้อก่อนจ่ายทีหลังนั้นสำคัญแค่ไหน วิธีการชำระเงินแบบนี้สามารถเพิ่มคะแนนคอนเวอร์ชันเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ และที่น่าขันก็คือ วิธีการชำระเงินแบบนี้ยังคงยุ่งยากมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก เราก็เลยถามตัวเองว่า "เราจะใช้ Link เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อก่อนจ่ายทีหลังที่ราบรื่นที่สุดได้อย่างไร" เราจึงร่วมมือกับ Klarna เพื่อการนั้น
วันนี้ เราขอประกาศว่าในปีนี้ Klarna จะพร้อมใช้งานได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวบน Link โดย Link สามารถกรอกรายละเอียดของลูกค้าของคุณล่วงหน้าได้ ดังนั้นแม้ว่าลูกค้าจะไม่เคยใช้ Klarna มาก่อน ตอนนี้ลูกค้าก็สามารถใช้เป็นในเวลาสั้นๆ และหากคุณยอมรับ Link คุณก็ยอมรับ Klarna ได้โดยไม่ต้องผสานการทำงานอะไรเลย เราจะเริ่มต้นด้วย Klarna แต่เราจะเพิ่มพาร์ทเนอร์ประเภทอื่นๆ เข้ามาอีก เพราะนั่นคือพลังของ Link โดยทุกคนจะได้รับประโยชน์จากบัญชี Link ที่สร้างขึ้นจากทุกที่บนอินเทอร์เน็ต
เอาล่ะ ผมมีเรื่องใหม่มาแชร์อีกเรื่อง เป็นเวลาหลายปีแล้วที่คำขอที่พบบ่อยสุดๆ คือการเพิ่มการสนับสนุนสำหรับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณได้ขอโซลูชันสำหรับผู้ค้าที่ลงทะเบียนไว้ ดังนั้น ตอนนี้เราก็มีแล้ว ผมตื่นเต้นมากที่จะประกาศเปิดตัว Stripe Managed Payments ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ค้าที่ลงทะเบียนไว้รายใหม่ของเรา โดยจะเปิดตัวในปีนี้ และเราจะเริ่มต้นด้วยสินค้าดิจิทัล
เมื่อเปิดใช้งาน ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพหน้าใหม่หรือบริษัทเก่าแก่นาน 50 ปีที่ต้องการขยายธุรกิจ Stripe ก็สามารถดูแลการชำระเงิน ภาษีทั่วโลก การป้องกันการฉ้อโกง การดำเนินการตามคำสั่งซื้อ การจัดการการโต้แย้งการชำระเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย โดยพื้นฐานแล้วคือทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเปิดตัวและเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ แม้ว่าคุณจะไม่มีนิติบุคคลในตลาดนั้น คุณก็แค่คลิกแล้วลุยได้เลย และตอนนี้ก็มาถึงเรื่องวิธีพื้นฐานใหม่ๆ ที่เราใช้ AI เพื่อทำงานให้คุณ เชิญพบกับ Emily ครับ[เสียงปรบมือ]
EMILY GLASSBERG SANDS: ก่อนหน้านี้ Will พูดถึง ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของเราไปแล้วค่ะ ซึ่งจะดูแลทุกอย่างจนถึงช่วงเวลาที่ลูกค้าของคุณกดซื้อ เมื่อถึงเวลานั้น Payments Intelligence Suite ของเราก็จะเริ่มทำงานเพื่อให้การชำระเงินแต่ละครั้งมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุด เรามีการอัปเดตมากมาย แต่ในวันนี้ เราจะเน้นที่ 3 เรื่องใหญ่ๆ ที่ AI ทำให้คุณทุกคนเอาชนะคู่แข่งได้ เรื่องแรกก็คือการอนุมัติ
วันนี้ เราได้ประกาศเปิดตัว Authorization Boost ซึ่งใช้ AI ในการอัปเดตบัตรและโทเค็น กำหนดเส้นทางธุรกรรมข้ามเครือข่าย และกำหนดว่าจะชำระเงินที่ไม่สำเร็จใหม่อีกครั้งเมื่อใดและด้วยวิธีใด อย่างที่ชื่อบอก ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเพิ่มอัตราการอนุมัติของคุณโดยเฉลี่ย 2.2% เรื่องที่ 2 สำหรับการฉ้อโกง Stripe Radar คือผลิตภัณฑ์ป้องกันการฉ้อโกงของเรา ปัจจุบันเรากำลังขยาย Radar ให้ครอบคลุม ACH และ SEPA ด้วยโมเดล AI เฉพาะทางตัวใหม่
ผู้ใช้เช่น Zoom ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้กันแล้ว โดยที่การฉ้อโกง ACH ลดลง 20% และการฉ้อโกง SEPA ลดลง 42% เมื่อปีที่แล้ว เราเปิดตัว Radar เพื่อให้คุณสามารถปิดกั้นการฉ้อโกงได้ แม้แต่ในธุรกรรมที่ดำเนินการกับผู้ให้บริการรายอื่น เพียงแค่นั้น DoorDash ก็พบว่าค่าใช้จ่ายในเรื่องการขอคืนเงินลดลง 10% นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของ Radar ยังดีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การฉ้อโกงในโลกอีคอมเมิร์ซทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ผู้ใช้ Radar กลับพบว่าอัตราการโต้แย้งลดลงอย่างต่อเนื่อง
และสุดท้าย การโต้แย้งเหล่านี้ทำให้ธุรกิจต้องสูญเสียเงิน 55,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และตัวเลขนี้ยังไม่รวมเวลาที่ต้องใช้ในการตัดสินใจว่าควรโต้แย้งเรื่องใด แล้วต้องไปรวบรวมหลักฐาน 12 หน้าสำหรับแต่ละเรื่องที่จะแย้ง วันนี้เราจึงเปิดตัว Smart Disputes ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่เลือกข้อโต้แย้งที่จะถกเถียง แล้วโต้แย้งแทนคุณ โดยรวบรวมหลักฐานในนามของคุณ [เสียงปรบมือ]
และเราก็ทุ่มสุดตัวในเรื่องนี้ หากเราแย้งข้อโต้แย้งให้คุณแต่คุณแพ้ เราจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโต้แย้งครั้งนั้นค่ะ [เสียงปรบมือ] ด้วย Smart Disputes ผู้ใช้รุ่นแรกอย่าง Vimeo และ Squarespace สามารถดึงเงินคืนได้มากขึ้น 13% นั่นคือ 3 วิธีใหม่ที่เราใช้ AI เพื่อช่วยคุณ แต่ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่บทต่อไป AI ของ Stripe เรียนรู้จากธุรกรรมใหม่ 50,000 รายการทุกนาที จนถึงตอนนี้ เราป้อนข้อมูลนี้ลงในโมเดลเฉพาะทาง โมเดลหนึ่งสำหรับการอนุมัติ โมเดลหนึ่งสำหรับการฉ้อโกง และอีกโมเดลหนึ่งสำหรับการโต้แย้ง
แต่ความก้าวหน้าแบบพลิกเกมล่าสุดในด้าน AI ได้แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าโมเดลทั่วไปมีประสิทธิภาพเหนือกว่า โดยเฉพาะในโดเมนที่มีข้อมูลมหาศาล วันนี้เราจึงประกาศเปิดตัว Stripe Payments Foundation Model ซึ่งเป็นโมเดลพื้นฐานแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับการชำระเงิน เช่นเดียวกับที่ LLM เข้าใจภาษา โมเดลของเราก็เข้าใจการชำระเงินเช่นกัน โมเดลนี้ได้รับการฝึกฝนจากธุรกรรมหลายหมื่นล้านรายการ และใช้การเรียนรู้แบบควบคุมตนเองเพื่อสร้างการแสดงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินแต่ละรายการ การแสดงข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่จับข้อมูลที่เห็นได้ชัด เช่น ธนาคารหรือรหัสไปรษณีย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัญญาณที่ละเอียดอ่อนหลายร้อยสัญญาณที่ไม่มีมนุษย์หรือโมเดลก่อนหน้านี้สามารถติดตามได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ ฉันรู้ว่าทุกคนอาจไม่ได้ตื่นเต้นกับโมเดลพื้นฐานเหมือนฉัน แต่สิ่งที่ฉันบอกคุณได้คือผลลัพธ์ในช่วงแรกนั้นเกินกว่าที่เราคาดหวังไว้มาก การโจมตีการทดสอบบัตรซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ Stripe เราได้ลงทุนอย่างมากในการต่อสู้กับการทดสอบบัตร ออกแบบฟีเจอร์ใหม่ และติดป้ายกำกับรูปแบบที่เกิดขึ้น และฝึกโมเดลของเราใหม่อย่างรวดเร็ว และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้ลดการทดสอบบัตรสำหรับผู้ใช้ Stripe ลง 80%
แต่ก็มีการทดสอบบัตรที่ซับซ้อนและสำคัญเป็นพิเศษซึ่งไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยวิธีเดิมๆ นั่นก็คือการโจมตีประเภทใหม่ที่มิจฉาชีพใช้กันอย่างแพร่หลายในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลก เรานำ Payments Foundation Model มาใช้ เมื่อใช้การจัดระดับลำดับการฝังตัว อัตราการตรวจจับการโจมตีผู้ใช้รายใหญ่ของเราเพิ่มขึ้นจาก 59% เป็น 97% ในชั่วข้ามคืน [เสียงปรบมือ]
นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้ เราไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมากของเราได้อย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เราทำได้แล้ว และเราจะเปิดตัว Payments Foundation Model ให้กับชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินของเราเพื่อปลดล็อกข้อได้เปรียบใหม่ๆ ในด้านการอนุมัติ การฉ้อโกง การโต้แย้ง และอื่นๆ อีกมากมายให้คุณทุกคน OpenAI, NVIDIA, Shopify และบริษัทในกลุ่ม Fortune 100 กว่าครึ่งไว้วางใจให้ Stripe ช่วยเหลือด้านการชำระเงิน เนื่องจากเรานำอนาคตมาหาคุณ ตอนนี้เราจะพูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe สนับสนุนบริษัท AI ชั้นนำในปัจจุบัน ฉันตื่นเต้นที่จะต้อนรับ Kevin Weil จาก OpenAI และ Will กลับมาบนเวทีอีกครั้งค่ะ
WILL GAYBRICK: Kevin ครับ คุณเคยสาธิตบนเวทีบ่อยมากแล้ว อยากจะ...และคุณก็สนใจเรื่องเอเจนต์ด้วย อยากรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนั้น
KEVIN WEIL: ครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ
WILL GAYBRICK: ผู้ให้บริการ SMS ของเราประสบปัญหาขัดข้อง [เสียงหัวเราะ] แปลว่าเอเจนต์ใช้ได้สินะครับ
KEVIN WEIL: ในระหว่าง 30 วินาทีที่คุณสาธิตอยู่เหรอ
WILL GAYBRICK: ผมไม่อยากให้เอเจนต์มันเสียชื่อน่ะครับ
KEVIN WEIL: หลังจากสาธิตซอฟต์แวร์กันสดๆ มาบ่อยมากๆ ผมคิดว่าคุณทำได้ดีเลยนะ
WILL GAYBRICK: ขอบคุณครับ ลองทำดูนะครับ สำหรับใครก็ตามที่ไม่รู้จัก Kevin เขามีภูมิหลังที่น่าทึ่งมาก ทั้ง Twitter, Instagram, Libra คุณเล็งสเตเบิลคอยน์พวกนั้นมาแล้วสินะ แล้วก็ยิงจรวดขึ้นอวกาศที่ Planet Labs...
KEVIN WEIL: ดาวเทียมครับ
WILL GAYBRICK: ดาวเทียม ขอโทษที
KEVIN WEIL: แต่ก็ใช้จรวดด้วย
WILL GAYBRICK: ใช้จรวดขนดาวเทียม และปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ OpenAI คุณทำงานที่นั่นมา 11 เดือนแล้ว ซึ่งผมคิดว่าสำหรับคนทั่วไปแล้วน่าจะประมาณ 35 หรือ 40 ปี เป็นยังไงบ้างครับ
KEVIN WEIL: มันยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่าผมเคยเห็นการขยายธุรกิจมาก่อน คิดว่าเคยเห็นบริษัทที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก่อน คิดว่าเคยเห็นการเติบโตมาก่อน และ OpenAI นั้นเหลือเชื่อมากจากมุมมองนั้น แต่ก็สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างเหลือเชื่อเช่นกัน เพราะว่า มีคนใช้ ChatGPT กันกี่คนนะครับ นั่นมันสุดยอดเลย มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุ 2 ปีแล้ว ดังนั้นการได้เห็นวิธีที่ผู้คนใช้ผลิตภัณฑ์ การได้เห็นธุรกิจของคุณทั้งหมดนำผลิตภัณฑ์ไปใช้ ทำให้คุณตื่นเต้นที่จะมาทำงานทุกวัน
WILL GAYBRICK: เมื่อวานนี้ Patrick ได้แสดงให้เห็นถึงการนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลายโดยผู้บริโภค ผมอยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับการนำ AI มาใช้โดยทั่วไป เช่น ตอนนี้เราอยู่ในเส้นโค้งการนำ AI มาใช้ในระดับใดครับ
KEVIN WEIL: ครับ เราอยู่ซานฟรานซิสโกกันเนอะ ใครในที่นี้เคยนั่ง Waymo บ้างครับ โอเค ไม่เยอะเท่าไหร่ คุณต้องลองนั่งดูครับ ผมจะเล่าประสบการณ์กับ Waymo ในครั้งแรกให้ฟัง ใน 10 วินาทีแรกที่ผมนั่งนะครับ ผมพยายามจับทุกอย่างที่คิดว่าจะจับได้เลย คิดตลอดว่า "ตายล่ะ จะชนจักรยานคันนั้นแล้ว" แต่พอผ่านไปซักสองสามนาที เราก็จะเริ่มใจเย็นลงหน่อย เริ่มได้คิดว่า "โอ้โห นี่คือโลกอนาคตรึเปล่า เรามีหุ่นยนต์ขับรถพาเราเดินทางทั่วซานฟรานซิสโกเลยนะ"
แล้ว 10 นาทีต่อมา คุณก็นั่งเล่นมือถือแล้วครับ เปิดข้อความใน Slack ดู ไม่มีอะไรจะทำเลยล่ะครับ ความตื่นเต้นที่มีเมื่อ 10 นาทีที่แล้วกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตไปเลย ผมว่าเรื่องนี้ก็เป็นทำนองเดียวกับการทำงานของ AI ครับ มนุษย์อย่างเราๆ ปรับตัวได้เก่งอยู่แล้ว OpenAI เองก็… หมายถึง ChatGPT น่ะครับ เพิ่งออกมาแค่ 2 ปีเอง แต่ตอนนี้มีคนใช้กันในแต่ละสัปดาห์ราว 500 ล้านคน คิดเป็น 7% ของคนทั้งโลกเลยนะครับที่ใช้งานอยู่ตลอด 7 วันที่ผ่านมา
ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งครับ และผมก็ยังคิดว่าเรายังเดินหน้าตามมันไปไม่เร็วพอ เทคโนโลยีนี้พัฒนาไปเร็วมาก และถ้าผมจะแนะนำทุกคนได้อย่างหนึ่ง ผมจะแนะนำว่าให้ใช้มันซะ ใช้ไปทุกวัน ทำความรู้จักมันเข้าไว้เพราะมันพัฒนาไปเร็วมาก มันมีประโยชน์กับคุณได้หลายอย่าง แต่จะสร้างประโยชน์ได้ไม่มากหากคุณไม่เอามาใช้งานเลย ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราปรับใช้มันได้เร็วนะครับ แต่ก็ยังต้องพยายามต่อไปเพราะตัวมันเองก็พัฒนาไปเร็วมาก
WILL GAYBRICK: คุณมีประสบการณ์ในการทำงานกับภาครัฐมามาก เรื่องหนึ่งที่เราตั้งคำถามขึ้นมาคือ ทุกภาคส่วนในสังคม บริษัททุกบริษัท โลกของกฎหมาย และภาครัฐนั้นจะเปิดใจใช้งาน AI อย่างสบายใจได้อย่างไร คุณมีกรอบการทำงานในเรื่องนี้บ้างไหมครับ
KEVIN WEIL: จริงๆ แล้วก็คำแนะนำเดิมครับ คือใช้เครื่องมือนี้ไปเถอะ ไม่ว่าจะใช้เพื่อตัวคุณเองหรือใครก็ตาม ก็ให้ใช้มันซะ คุณคงสุขภาพดีขึ้นเพราะแค่อ่านคู่มือออกกำลังกายไม่ได้ คุณคงเข้าใจ AI เพียงเพราะอ่านหรือฟังเรื่องเกี่ยวกับ AI มาจากคนอื่นอีกทีไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเริ่มใช้เลยครับ แล้วในไม่ช้า AI ก็จะไม่ใช่แค่เครื่องมือที่คุณเคยอ่านถึงแล้วคาดเดาไปต่างๆ พอคุณเริ่มใช้ คุณก็จะรู้สึกเลยว่า "โห มีประโยชน์แฮะ รู้แล้วล่ะว่าจะใช้ทำอะไรต่อไป"
จากนั้นคุณก็จะเริ่มเข้าใจอะไรใหม่ๆ เข้าใจ เข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ค้นคว้าเชิงลึก เข้าใจถึงเอเจนต์ เข้าใจถึงตัวดำเนินการต่างๆ มีอะไรให้เรียนรู้มากมาย ซึ่งก็ยิ่งมีความสำคัญถ้าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาพิจารณาร่างกฎหมาย สำหรับผู้ใช้และธุรกิจต่างๆ แล้ว สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือการให้อำนาจควบคุมแก่ผู้คน ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่ง มันจึงควรช่วยเหลือคุณได้ มันควรช่วยให้คุณทำงานต่างๆ เสร็จลุล่วงมากขึ้น ควรช่วยให้คุณขบคิดอะไรได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรสั่งว่าคุณต้องคิดอะไร มันควรช่วยคุณทำอะไรก็ตามที่คุณอยากทำให้เสร็จ การควบคุมจึงเป็นสิ่งที่เราพิจารณาถึงอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอเจนต์
เมื่อเอเจนต์รับข้อมูลเรื่องต่างๆ ในชีวิตเราเข้าไปมากขึ้น เราก็อยากจะแน่ใจว่าทุกครั้งที่เอเจนต์จะทำอะไรบนโลกนี้ เราก็จะควบคุมการกระทำเหล่านั้นได้ ให้เอเจนต์กลับมาถามคุณว่า "ฉันจะทำแบบนี้นะ โอเคไหม" เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องการชำระเงินและเรื่องอื่นๆ ที่เรากำลังจะตัดสินใจ เราให้อำนาจควบคุมกับคุณแต่ก็เอื้อให้คุณกำหนดได้ว่าคุณจะให้อิสระกับเอเจนต์เหล่านี้เพียงใด ซึ่งก็อาจให้อำนาจได้มากขึ้นเมื่อเอเจนต์ทำงานได้ดีขึ้นและเมื่อเราสบายใจจะให้อิสระมากขึ้นด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็อยู่ที่คุณตัดสินใจครับ
WILL GAYBRICK: ทีนี้ในเรื่องการนำมาใช้กับการชำระเงินและการค้าขาย ผมว่าหลายๆ คนคงสนใจเรื่องนี้อยู่นะครับ ปัจจุบันนี้พวกคุณคิดเห็นกันอย่างไงบ้างครับที่ OpenAI
KEVIN WEIL: ผมเองตื่นเต้นมากเลยครับเรื่องนี้ ผมว่า AI จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตเราทุกคน เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะทำให้ความพยายามทั้งหมดที่เราทำกันมาเริ่มสัมฤทธิ์ผลเป็นรูปเป็นร่างครับ เรื่องการทำให้การชำระเงินเป็นอะไรที่ตั้งโปรแกรมไว้ได้ ผมคิดว่า AI ก็จะเริ่มมีคุณค่าจริงๆ เมื่อคุณเริ่มอยากปล่อยให้เอเจนต์เหล่านี้ไปซื้อข้าวของแทนคุณได้ วันหนึ่งคุณก็ต้องอยากครับ ไม่ช้าก็เร็ว แต่คุณก็จะต้องอยากควบคุมมันได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ เช่นตอนนี้ที่เทคโนโลยีนี้ยังเป็นเรื่องใหม่อยู่
คุณอาจอยากสั่งการได้เลยว่า "ใช่แล้ว ฉันอยากให้เอเจนต์ตัวนี้ไปซื้อสิ่งนี้มาให้ แต่ฉันอยากใช้เงินไม่เกิน 50 ดอลลาร์นะ ซึ่งก็จะคุมงบให้อยู่เท่านี้ได้ถ้าซื้อจากร้านของชำเท่านั้น" ทีนี้ผมจะไม่สนละว่าจะซื้อจากร้านไหน แต่แบบเอาร้านใกล้เคียงกันพอ เอาล่ะครับผมเป็นคนบ้าคริปโตคนนึง ผมก็เลยหวังว่านี่จะเป็นโอกาสให้เราได้เขียนโปรแกรมที่จะนำบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะมาใช้ร่วมด้วยได้
แต่ไม่ว่าเราจะปรับใช้แบบนั้นหรือใช้งานแบบเดิมๆ ความสามารถในการตั้งโปรแกรมก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และผมก็คิดว่าหลังจากที่ทุกท่านลงแรงทำงานมาเป็นปี เทคโนโลยีต่างๆ นี้ก็กำลังผสานการทำงานร่วมกันอย่างลงตัวแล้ว
WILL GAYBRICK: ครับ เรากำลังนำนวัตกรรมพลิกโฉมเหล่านี้มาใช้ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน
KEVIN WEIL: ใช่แล้วครับ
WILL GAYBRICK: เราก็ตื่นเต้นมากกับเรื่องนี้เช่นกัน คำถามสุดท้ายครับ ผมฟังคุณพูดในพอดแคสต์ของ Lenny เมื่อเร็วๆ นี้เรื่องการปรับใช้ AI กรณีหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งคุณตื่นเต้นมาก นั่นคือการสอนเฉพาะบุคคล เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
KEVIN WEIL: คือเรื่องหนึ่งที่เราตื่นเต้นกันมากที่ OpenAI คือความสามารถของ AI ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและปรับปรุงสภาวะของมนุษย์แบบกว้างๆ ซึ่งเราพูดถึงในภาพรวมทั่วๆ ไปอะนะครับ คือคุณคงคิดถึงเรื่องประสิทธิภาพและผลิตผลในการทำงานเป็นหลัก เพราะก็เป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ แต่แล้วเราก็มาคิดว่า แล้วถ้าเราสามารถพัฒนาวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ล่ะจะเป็นยังไง ถ้าฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์และชีววิทยาพัฒนาไปได้เร็วขึ้นจาก AI ล่ะครับ แล้วก็ไม่ใช่แค่ 10% อะไรแบบนั้นด้วย แต่เร็วขึ้น 2 เท่า, 5 เท่า, 10 เท่าล่ะ จะเป็นยังไง โลกคงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลย
เช่นเดียวกันกับการศึกษา ทุกการศึกษาวิจัยที่เราเคยอ่านมาล้วนกล่าวว่า เมื่อคุณนำการเรียนรู้แบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับเครื่องมือสอนที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลแล้ว ผลที่ได้ก็ไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ และผมต้องการเห็นแบบนั้น ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทุกวันนี้เด็กๆ ของเรายังไม่มีเครื่องมือสอนที่เหมาะกับตัวเองโดยเฉพาะกันสักที ผมก็เลยตื่นเต้นมากเลยที่เราจะได้เห็นเรื่องนี้กันจริงแล้ว ซึ่งผมเองก็คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าเราคงจะได้เห็นกันแน่ๆ และอาจจะเป็นใครก็ได้ในที่นี้ที่เป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงครับ
WILL GAYBRICK: ใช่เลยครับ ขอบคุณที่มาร่วมพูดคุยกันนะครับ และเราก็ดีใจมากที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับคุณ
KEVIN WEIL: เราก็เช่นกันครับ ขอบคุณมากครับ
WILL GAYBRICK: ขอบคุณครับ Kevin [เสียงปรบมือ] เราได้พูดคุยกันหลายเรื่องเลยนะครับเช้านี้ แต่นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นครับ ในชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินของเรา คุณจะสามารถดูแลจัดการ PSP พร้อมกันหลายรายการได้ง่ายขึ้นมากด้วย Stripe Orchestration เรากำลังนำ Klarna แบบคลิกเดียวมาสู่ Link โดยเรากำลังเปิดตัวโมเดลรากฐานตัวแรกของโลกสำหรับการชำระเงินและอื่นๆ อีกมากมาย ทีนี้เมื่อพูดถึงการเพิ่มความคล่องตัวในการค้าขายของคุณด้วยชุดเครื่องมือด้านรายรับของ Stripe แล้ว เราจึงขอเชิญคุณ Vivek ครับ
VIVEK SHARMA: ขอบคุณครับ Will รู้อะไรไหมครับ ผมขอบอกเลยว่า คุณผิวดีนะเนี่ย แต่ก็อย่างว่าแหละนะ คุณเป็นคนประเมินงานผม เพราะงั้นก็ฟังหูไว้หูนะครับ ทีนี้ครับ เจ้า AI จะไม่ได้เพียงเข้ามาเปลี่ยนแปลงการชำระเงิน แต่จะเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของคุณและวิธีสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์นั้นด้วย ทุกๆ สัปดาห์ เราจะเห็นพวกคุณต่างทยอยรับข้อเสนอใหม่ๆ จาก AI และทำงานกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น คุณจึงต้องการแหล่งรายรับที่ไม่เพียงประคับประคองคุณไปได้ แต่ยังต้องช่วยให้คุณเดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมธุรกิจกว่า 300,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัท AI ต่างๆ อย่าง Cursor, Windsurf, Lovable, Perplexity, OpenAI, Anthropic, Decagon, ElevenLabs, Midjourney และตอนนี้ก็รวม NVIDIA ด้วย ต่างก็หันมาใช้บริการ Stripe Billing ซึ่งบริษัทเหล่านี้ย้ายฐานสมาชิกของตนเองมายัง Stripe Billing ภายใน 6 สัปดาห์
นี่เป็นหนึ่งในการย้ายฐานที่รวดเร็วที่สุดที่เราเคยเห็นมาเลยครับจากขนาดฐานลูกค้าระดับนี้ และก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า Stripe Billing ช่วยให้อะไรเกิดขึ้นได้บ้าง Billing ได้รับการกล่าวถึงในฐานะผลิตภัณฑ์ผู้นำกลุ่มโดย Gartner และ Forrester ในปีที่ผ่านมา และเป็นหัวใจสำคัญของชุดเครื่องมือด้านรายรับของเราร่วมกับ Tax, Invoicing และอื่นๆ ในวันนี้ ผมจึงจะมาเผยอัปเดตที่สำคัญที่สุดที่เคยมีมาเกี่ยวกับชุดเครื่องมือด้านรายรับและรากฐานของความสามารถในการขยายการทำงานใหม่ 2 ตัวที่จะเปลี่ยน Stripe เป็นกลไกด้านรายได้ที่ตั้งโปรแกรมได้สำหรับทุกท่าน มาลงรายละเอียดกันเลยครับ
ปีที่แล้ว เราได้เปิดตัวการเรียกเก็บเงินตามการใช้งานไป ซึ่งคุณสามารถนำเข้าเหตุการณ์ได้มากถึง 100,000 เหตุการณ์ต่อวินาที สร้างรายได้ตามการใช้งานแบบเรียลไทม์ และผสานทุกอย่างเข้ากับชุดเครื่องมือด้านรายรับได้ คุณบางคนอาจพัฒนาการใช้งานได้มากกว่านั้นโดยเรียกเก็บค่าบริการตามผลลัพธ์จริงที่เกิดกับธุรกิจ เช่น บริการ Intercom จะคิดค่าบริการจากจำนวนกรณีสนับสนุนที่ AI ของตนแก้ไขได้ หรือบางคนอาจนำไปใช้กับทั้งการสมัครใช้บริการและการใช้งานผสมผสานกันให้เกิดเป็นโมเดลแบบไฮบริด
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเริ่มเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ AI ความท้าทายอย่างหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยครั้งคือ คุณต้องการให้ลูกค้าเริ่มต้นใช้งานเร็วๆ คุณจึงเสนอให้ลูกค้าบางส่วนใช้งานได้ฟรีและไม่บังคับให้กรอกรายละเอียดการชำระเงิน ณ จุดที่สมัครใช้บริการ คุณไม่ทราบเลยว่าลูกค้าจะใช้งานถึงขีดจำกัดใน 10 วันหรือ 10 เดือน และเมื่อลูกค้าใช้ถึงขีดจำกัดแล้ว คุณก็มีหนทางให้เลือก 1 ทางซึ่งไม่ค่อยจะดีนัก คือเปิดให้ใช้บริการต่อไปโดยเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับเงิน หรือระงับการเข้าถึงไปเลยแล้วทำให้ลูกค้าต้องขุ่นเคืองใจ สิ่งที่คุณต้องมีคือการติดตามการใช้งานและการเรียกเก็บเงินแบบเรียลไทม์ครับ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณทำเรื่องนั้นได้แล้วด้วยผลิตภัณฑ์รากฐานใหม่ตัวแรกที่เรากำลังประกาศเปิดตัว ซึ่งมีชื่อว่า Workflows เจ้า Workflows เป็นเครื่องมือสร้างภาพประกอบที่ให้คุณได้ตั้งโปรแกรมให้กับ Stripe โดยไม่ต้องเขียนโค้ดสักบรรทัดเดียว คุณคงได้เห็นการทำงานกับ Stripe Orchestration ไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้นะครับ แต่กับ Workflows นี้ คุณสามารถสร้างกระบวนการหลายขั้นตอนที่จะดูแลจัดการผลิตภัณฑ์ Stripe ต่างๆ ได้โดยใช้ข้อมูลของคุณ ซึ่ง API ของ Stripe และตรรกะเชิงเงื่อนไขนั้นจะกระตุ้นการดำเนินการได้จากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนการใช้งานใน Stripe Billing และเริ่มต้นทุกอย่างเองได้โดยอัตโนมัติตั้งแต่การออกใบแจ้งหนี้ ไปจนถึงการให้เครดิต เรามาดูกันเลยครับ
BHARATH SRIVATSAN: เมื่อเราใช้ Stripe Billing คุณจะสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อทราบช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานถึงขีดจำกัดได้ โดยตอนนี้เราอยู่ในหน้าการแจ้งเตือนการเรียกเก็บเงินในแดชบอร์ดของ Stripe นะครับ ผมจะเริ่มสร้างการแจ้งเตือนใหม่เลย เราจะตั้งชื่อให้เข้าใจได้ชัดเจนไปเลย เช่น "เพดานการใช้งานฟรี" เลือกเกณฑ์วัดผล โดยผมก็จะใช้เป็น "หลังจากใช้โทเค็นฟรี 500 รายการ ให้ส่งการแจ้งเตือนนี้" เรียบร้อย เสร็จแล้วครับ
ทีนี้ผมมีลูกค้าคนหนึ่งชื่อ Hiroki เมื่อ Hiroki สมัครใช้งาน เขาก็จะกรอกรายละเอียดการชำระเงินให้เรา Hiroki จะใช้โทเค็นได้ฟรี 500 โทเค็น แต่เมื่อใช้จนครบแล้ว คุณจะยังต้องคอยดึงข้อมูลของเขา นำฝ่ายขายเข้ามาช่วยทำงาน แล้วสร้างใบแจ้งหนี้ให้ Hiroki พร้อมระบุข้อกำหนดการเรียกเก็บเงินที่เหมาะสม หรือคุณจะรอให้ลูกค้าติดต่อมาหลังจากถูกหยุดการให้บริการก็ได้
แต่ตอนนี้ คุณสามารถดำเนินการกระบวนการทั้งหมดนี้โดยอัตโนมัติด้วย Workflows ได้แล้ว ผมจะโชว์วิธีให้คุณดูครับ ตอนนี้ผมมีเวิร์กโฟลว์ที่ผมสร้างไว้แล้ว ระบบจะกระตุ้นการทำงานของเวิร์กโฟลว์เมื่อมีการกระตุ้นการทำงานของการแจ้งเตือนการเรียกเก็บเงิน จากนั้นระบบจะเรียกดูและโหลดลูกค้ารายนั้นขึ้นมา จากนั้นตรวจสอบว่าลูกค้ามีวิธี[การชำระเงิน]ที่มีการใช้งานอยู่แล้วหรือไม่ ถ้ามี ระบบก็จะสร้างใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินจากลูกค้า แล้วตั้งค่าการสมัครใช้บริการโดยอัตโนมัติ แค่นี้เลยครับ เรามาเริ่มเปิดใช้งานกันเลย เราจะจำลองการใช้งานบางส่วนจาก Hiroki เพื่อดูว่าเวลาใช้จริงจะเป็นยังไงนะครับ
VIVEK SHARMA: เอาล่ะครับ ขณะที่เวิร์กโฟลว์กำลังทำงานอยู่เบื้องหลังนะครับ ผมอยากจะเล่าด้วยว่าคุณสามารถสร้างเวิร์กโฟลว์ยังไงก็ได้ที่ต้องการ Stripe API มีเหตุการณ์หลายร้อยรายการ และเหตุการณ์เหล่านี้ก็สามารถกระตุ้นการทำงานของเวิร์กโฟลว์ได้ในกี่ขั้นตอนก็ได้ตามที่คุณต้องการ เครื่องมือนี้จึงถือว่าเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับการปรับแต่งตรรกะของ Stripe ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ
BHARATH SRIVATSAN: ใช่เลยครับ ทีนี้เราลองกลับมาที่ Hiroki กันครับ Hiroki ชอบผลิตภัณฑ์ของเรามาก เขาใช้งานถึงขีดจำกัดแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าเราจะกลับไปที่หน้าของเขา เหมือนว่าเราจะส่งการแจ้งเตือนการใช้งานไปแล้ว กระตุ้นการทำงานของเวิร์กโฟลว์แล้ว และเราก็สร้างการสมัครใช้บริการโดยคิดค่าใช้จ่ายจากการใช้งานทั้งหมดแล้วโดยอัตโนมัติ [เสียงปรบมือ] กรณีของ Hiroki ไม่มีอะไรติดขัดเลย และคุณก็สามารถเรียกเก็บเงินต่อได้เลยโดยไม่มีความล่าช้า
VIVEK SHARMA: เมื่อกี้ที่คุณเห็นไปเป็นการใช้ Workflows ในบริบทของ Stripe Billing แต่คุณก็สามารถใช้ Workflows ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ของ Stripe เลยครับ คุณสามารถใช้จัดการสิ่งต่างๆ เช่น การรายงานปัญหาข้อโต้แย้งรายการใหญ่ๆ หรือปรับแต่งวิธีการจัดการบัญชีลูกค้าโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งก็จะช่วยให้คุณกำหนดวิธีการทำงานร่วมกันของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Stripe ได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Workflows ยังช่วยแบ่งเบาภาระในการสร้างตรรกะที่คุณเคยต้องทำด้วยตนเองไปด้วย เท่ากับว่า Stripe จัดการงานส่วนใหญ่ให้กับคุณได้
แต่นั่นทำให้เกิดคำถามที่สำคัญกว่านั้นว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณต้องการเปลี่ยนวิธีการทำงานของ Stripe เสียเองล่ะ เพราะไม่ว่าเราจะทำงานได้เร็วแค่ไหน แต่คุณก็ต้องใช้ตรรกะที่เฉพาะตัวสำหรับธุรกิจของคุณอยู่ดี ทุกครั้งที่คุณจะต้องการอะไรใหม่ๆ คุณต้องสร้างตรรกะที่กำหนดเองขึ้นมาตั้งแต่ต้น หรือรอให้เราเพิ่มฟีเจอร์ที่ตรงตามที่คุณต้องการเป๊ะๆ ให้ ซึ่งเราไม่คิดว่าคุณต้องเลือกครับ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์รากฐานตัวใหม่คือ Stripe Scripts ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการปรับแต่งและขยายตรรกะของคุณจากใน Stripe โดยตรง มาดูกันครับว่าคุณจะใช้ Scripts เปลี่ยนลักษณะการทำงานของการเรียกเก็บเงินในเชิงลึกถึงกลไกหลักของมันเลยได้ยังไงบ้าง
BHARATH SRIVATSAN: ทีนี้เรามาลองใช้กับการให้ส่วนลดดูเป็นตัวอย่างนะครับ ในตอนนี้ คุณสามารถให้ส่วนลดได้มากมายหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีรายละเอียดแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิธีการวางรูปแบบ วิธีการนำเสนอ วิธีรับส่วนลด และวิธีการดูว่าเมื่อไรควรจะเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด แต่เมื่อมี Stripe Scripts แล้ว การกำหนดตรรกะที่แน่นอนที่คุณต้องการนั้นก็เป็นเรื่องง่าย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการเสนอส่วนลดตามปริมาณสั่งซื้อ คุณก็ไม่ต้องเริ่มตั้งแต่ต้นเอง เพราะ Stripe มีคลังเทมเพลตให้คุณได้เลือกใช้แล้ว เราจะให้ดูสักหนึ่งเทมเพลตครับ
ดูนะครับว่าใช้งานได้ง่ายแค่ไหน ผมจะเพิ่มโค้ดเพื่อคำนวณจำนวนเงินส่วนลด ดังนั้น สมมติว่าผมจะบอกว่าคุณจะได้ส่วนลด 10% เมื่อใช้งานเกิน 100 โทเค็น และ 20% เมื่อใช้งานเกิน 200 โทเค็น ทีนี้ดูดีๆ นะครับ ผมจะกดบันทึกเลย จากนั้นจะติดตั้งโค้ดลง Stripe ไปเลย เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ Stripe กำลังโฮสต์และรันโค้ดที่ผมเขียนไปอยู่ แต่เรามาดูการใช้งานจริงกันนะครับ มาดูขั้นตอนการชำระเงินใหม่เพื่อดูว่าถ้ากับลูกค้าใหม่แล้ว จะเห็นเป็นยังไงกัน
คราวนี้ หากพวกเขาเปลี่ยนจำนวนเงินและซื้อ 150 โทเค็นแทน แน่นอนว่าพวกเขาจะได้รับส่วนลด 10% [เสียงปรบมือ] แน่นอนว่าคุณอาจสร้างส่วนลดนี้ได้หลายวิธี และในไม่ช้าคุณจะสามารถปรับแต่งทุกส่วนของ Stripe Billing ด้วย Scripts ตั้งแต่วิธีการทำงาน ไปจนถึงวิธีการออกใบแจ้งหนี้ ไปจนถึงการกำหนดราคา และอื่นๆ อีกมากมาย
VIVEK SHARMA: นี่เป็นครั้งแรกที่คุณสามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของ Stripe ได้ภายใน Stripe ไม่ใช่ด้วย Webhook และมิดเดิลแวร์ ซึ่งการทำงานของ Scripts ก็จะเป็นเช่นเดียวกับ Workflow คือทำงานในทุกส่วนของ Stripe ได้เช่นกัน หาก Workflows กำหนดวิธีการทำงานร่วมกันของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Stripe เอาไว้ Scripts ก็จะให้คุณเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของ Stripe ในระบบเบื้องหลังได้ Scripts และ Workflows เป็นรากฐานของความสามารถในการขยายการทำงานที่ทรงพลังที่สุดที่เราเคยจัดส่ง เมื่อใช้งานร่วมกัน ผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้จะทำให้ Stripe กลายมาเป็นกลไกด้านรายรับที่ตั้งโปรแกรมและขยายการทำงานได้ คุณจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็วในแบบของคุณเอง
แต่การเป็นกลไกด้านรายรับไม่ได้หมายถึงการหารายรับเข้ามาเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการช่วยคุณจัดการรายรับนั้นด้วย เมื่อคุณขยายธุรกิจต่อไป ความซับซ้อนก็จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องภาษี นั่นเป็นจุดที่ Stripe Tax จะมีบทบาท Stripe Tax ให้บริการใน 102 ประเทศในขณะนี้ ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้วที่เพียง 57 ประเทศ เท่ากับว่าคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ จำนวนมากได้เร็วขึ้นด้วย Stripe Tax และในวันนี้ เราก็ขอแนะนำฟีเจอร์ที่มีเสียงเรียกร้องมากที่สุดฟีเจอร์หนึ่งซึ่งคือการจดทะเบียนภาษีและการยื่นภาษีทั่วโลก ใช่แล้วครับ จัดให้ตามเสียงเรียกร้อง [เสียงปรบมือ] ใช่แล้ว
และแน่นอนครับว่า ไม่มีอะไรจะทำให้ทุกท่านตื่นเต้นไปมากกว่าการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ เพราะตอนนี้ Stripe Tax รองรับวงจรการยื่นภาษีทั้งวงจรแล้ว ตั้งแต่การติดตามและจดทะเบียน ไปจนถึงการจัดเก็บและยื่นภาษี ดังนั้น [เสียงปรบมือ] ผมก็รักภาษีเช่นกันครับ คุณสามารถขยายธุรกิจได้เร็วขึ้นและยังปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับได้ด้วย และแน่นอนว่า นี่เป็นเพียงอัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ส่วนหนึ่ง เรายังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั่วทั้งชุดเครื่องมือด้านรายรับตลอดปีที่ผ่านมาด้วย
ดังนั้น สรุปแล้ว คุณสามารถรันโมเดลเกี่ยวกับการใช้งานที่ซับซ้อนกับ Stripe Billing ได้ครับ เมื่อใช้ Scripts และ Workflows ร่วมกัน ก็จะทำให้ Stripe กลายมาเป็นกลไกด้านรายรับที่ตั้งโปรแกรมได้ของคุณ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีก็จะเป็นเรื่องง่ายใน 102 ประเทศได้ด้วย Stripe Tax นี่คือความเคลื่อนไหวที่เรามีกับชุดเครื่องมือด้านรายรับของเรา ทีนี้เรามาพูดถึงวิธีการช่วยให้แพลตฟอร์มของเราเติบโตได้ด้วย Connect กันครับ ขอเชิญ Neetika
NEETIKA BANSAL: ในทศวรรษที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม SaaS ในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจได้หันมาใช้ Stripe Connect เพื่อเสนอบริการทางการเงินแก่ผู้ใช้ของตน ไม่ว่าจะเป็น Substack สำหรับนักเขียนและครีเอเตอร์, Brightwheel สำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลเด็ก หรือ Clio สำหรับทนายความ แม้แต่ธุรกิจที่คุณไม่คิดว่าเป็นแพลตฟอร์มก็ยังเข้าร่วม อย่างเช่น Spotify ซึ่งใช้ Stripe Connect เพื่อช่วยให้ผู้จัดพอดแคสต์ได้รับเงินจากการชำระเงินตามรอบบิลรายเดือน หรือ PGA ที่ใช้ Stripe Connect เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟหาผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่ได้รับการรับรอง
เห็นได้ชัดว่าความลับถูกเปิดเผยแล้ว แพลตฟอร์มเป็นธุรกิจที่ดีจริงๆ เมื่อปีที่แล้ว Stripe ได้พัฒนาแพลตฟอร์มไปมากกว่า 15,000 แพลตฟอร์ม รองรับธุรกิจกว่า 10 ล้านแห่ง และ 84 แพลตฟอร์มเหล่านี้แต่ละแพลตฟอร์มล้วนประมวลผลการชำระเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ แล้วปัญหาคืออะไร ปรากฏว่า การบริหารแพลตฟอร์มในขนาดใหญ่เป็นเรื่องยากอย่างเหลือเชื่อ เมื่อแพลตฟอร์มพัฒนาจากบัญชีหลักสิบไปสู่หลักพัน ก็ย่อมต้องการชุดเครื่องมือที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Stripe มีประสบการณ์ยาวนานในการพัฒนาเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ
ในวันนี้ เราจะนำเสนอการพัฒนาครั้งสำคัญบางส่วน ก่อนอื่น เราจะสาธิตวิธีที่เราใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ Stripe เพื่อช่วยแพลตฟอร์มในการนำผู้ใช้ใหม่เข้าสู่ระบบ จากนั้น เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เอี่ยมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพลตฟอร์มในการดำเนินงานประจำวัน และท้ายที่สุด เราจะแบ่งปันส่วนเพิ่มเติมที่น่าตื่นเต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสานรวมในตัวของเรา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแพลตฟอร์มและธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย
มาเริ่มต้นด้วยการเริ่มต้นใช้งานกัน เราพบข้อเท็จจริงสำคัญบางอย่าง นั่นคือ หนึ่งในหกของผู้ใช้ที่ลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มมีบัญชี Stripe อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราจึงเปิดตัวกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างเงียบๆ ตอนนี้ ธุรกิจที่มีบัญชี Stripe อยู่แล้ว สามารถลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มได้ในไม่กี่คลิก และเริ่มรับชำระเงินได้ภายในวันเดียวกัน ตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมนี้แสดงให้เห็นว่าขนาดและศักยภาพของ Stripe สร้างเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณโดยตรงได้อย่างไร
แล้วเรื่องการดำเนินธุรกิจล่ะ เรารู้ว่าแพลตฟอร์มต่างๆ ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง คุณต้องการเกณฑ์ชี้วัดที่ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มของคุณทำงานได้ดีเพียงใด ผู้ใช้งานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง คุณต้องแก้ไขปัญหาของลูกค้า จัดการกับข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ป้องกันการฉ้อโกง และอีกมากมาย วันนี้ฉันจึงตื่นเต้นที่จะประกาศเปิดตัวแดชบอร์ด Stripe ใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นศูนย์คำสั่งอัจฉริยะที่ผสานรวมข้อมูลเชิงลึกอันหลากหลายเข้ากับเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพ [เสียงปรบมือ] ไปดูกันเลย เชิญคุณ Bharath ค่ะ
BHARATH SRIVATSAN: เอาล่ะครับ ผมสามารถดูเกณฑ์ชี้วัดหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของผมได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการชำระเงิน รายรับ อัตรากำไร หรือส่วนแบ่งรายได้ของผม แต่ที่ดียิ่งกว่านั้น ผมยังสามารถดูได้ว่าตัวเลขเหล่านั้นมีการแบ่งย่อยในกลุ่มผู้ใช้ของผมอย่างไร ตัวอย่างเช่น ในบรรดาบัญชีนับพันของผม ผมสามารถดูได้ทันทีว่า BB Wellness Group อาจกำลังประสบปัญหาบางอย่างอยู่
ตอนนี้ผมสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ได้อย่างละเอียดด้วยการคลิกที่กราฟ เช่น ผมสามารถเปิดกราฟอัตรากำไรเพื่อดูอย่างเจาะจงว่าผลิตภัณฑ์ใดที่ช่วยเพิ่มอัตรากำไรให้ผม หรือจะแยกดูตามวิธีการชำระเงินหรือประเทศแทนก็ได้ ตอนนี้ ผมเพิ่งเปิดใช้งาน Instant Payouts และดูเหมือนว่าผู้ใช้ของผมตื่นเต้นที่จะนำไปใช้มาก ผลิตภัณฑ์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และที่น่าสนใจคือ Stripe ก็สังเกตเห็นเช่นกัน Stripe บอกผมว่า 9% ของผู้ใช้ของผมใช้ Instant Payouts อยู่แล้ว แต่เกือบ 30% มีแนวโน้มสูงที่จะเห็นว่า Instant Payouts มีประโยชน์และนำไปใช้
Stripe ระบุโอกาสเช่นนี้ได้โดยใช้โมเดล AI ที่เปรียบเทียบธุรกิจบนแพลตฟอร์มของคุณกับธุรกิจอื่นๆ อีกหลายล้านแห่งที่ใช้ Stripe ซึ่งเจ๋งมาก เราสามารถทำแบบนี้กับผลิตภัณฑ์ Stripe อื่นๆ ได้ด้วย เช่น Capital แดชบอร์ดแพลตฟอร์มใหม่ยังแสดงข้อมูลที่ผมอาจต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจล่วงหน้าอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ผมสามารถดูได้อย่างรวดเร็วว่าบัญชีใดอาจถูกจำกัดในเร็วๆ นี้ หรือดูว่าแนวโน้มกรณีการสนับสนุนโดยรวมของผมเป็นอย่างไร และถ้าต้องการดูข้อมูลอย่างละเอียด ผมก็แค่คลิก ดูเหมือนว่า Core Yoga กำลังประสบปัญหากรณีจำนวนมากผิดปกติ ผมสามารถเปิดมุมมองที่ถูกกรองได้ หรือแม้แต่ส่งอีเมลถึงฝ่ายสนับสนุนของ Stripe โดยตรงเกี่ยวกับปัญหาแต่ละเรื่องในนามของพวกเขาได้อีกด้วย
NEETIKA BANSAL: ขอบคุณค่ะ Bharath [เสียงปรบมือ] นั่นคือวิธีที่เราช่วยให้แพลตฟอร์มขยายขนาดได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ตอนนี้เราจะมาพูดถึงวิธีที่เราช่วยให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ขยายขนาดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เราได้รับฟังมาโดยตลอดว่าการฉ้อโกงของผู้ค้าอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รายรับของคุณลดลงอย่างแท้จริง เราพร้อมให้ความช่วยเหลือด้วยการเปิดตัว Stripe Radar เวอร์ชันใหม่ทั้งหมดที่สร้างขึ้นสำหรับแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ เราได้นำความสามารถ AI แบบเดียวกันกับที่เราเคยใช้เพื่อบล็อกการทำธุรกรรมที่ฉ้อโกง และนำมาปรับใช้กับการบล็อกธุรกิจที่ฉ้อโกง
ตอนนี้ Radar จะตรวจจับบัญชีที่น่าสงสัยซึ่งพบบนเครือข่าย Stripe และทำให้แพลตฟอร์มสามารถบล็อกบัญชีเหล่านั้นได้ แพลตฟอร์มยังสามารถเขียนกฎที่กำหนดเองเพื่อตรวจจับความผิดปกติต่างๆ เช่น ยอดการชำระเงินหรือข้อโต้แย้งที่พุ่งสูงขึ้น และในปีนี้เพียงปีเดียว Radar for Platforms ได้ช่วยบล็อกผู้ไม่ประสงค์ดีกว่าห้าแสนรายไม่ให้ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopify, FreshBooks และ Mindbody
อีกหนึ่งด้านที่เราสามารถช่วยแพลตฟอร์มลดต้นทุนได้คือการสมัครสมาชิก หลายคนใช้ Stripe Billing ในการเรียกเก็บการชำระเงินตามรอบบิลสำหรับซอฟต์แวร์ของคุณ แต่ทุกครั้งที่คุณเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ลูกค้าจะชำระด้วยบัตร และคุณก็ต้องรับภาระค่าธรรมเนียมบัตร ซึ่งฟังดูไม่จำเป็นเลยเมื่อลูกค้าใช้ Stripe สำหรับการชำระเงินอยู่แล้ว และมีการกันวงเงินคงเหลือในบัญชี Stripe ไว้ ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกค้าของคุณจะสามารถชำระค่าธรรมเนียมการชำระเงินตามรอบบิลได้โดยตรงจากยอดคงเหลือในบัญชี Stripe ของตน [เสียงปรบมือ]
เมื่อเงินเคลื่อนย้ายภายใน Stripe ธุรกรรมจะเสร็จสิ้นทันทีและมีค่าใช้จ่ายน้อยลงมาก Kajabi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มทางการค้าชั้นนำสำหรับครีเอเตอร์ก็ใช้ฟีเจอร์นี้อยู่แล้ว และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมได้สูงสุดถึง 66% เราจึงได้เห็นวิธีสำคัญบางประการที่ Stripe สามารถสนับสนุนการดำเนินงานของแพลตฟอร์มได้ ส่วนการช่วยแพลตฟอร์มเพิ่มช่องทางรายรับใหม่ๆ เราก็ได้ลงทุนครั้งใหญ่ผ่าน Stripe Capital และ Stripe Issuing ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสานรวมในตัวของเรา และสิ่งที่เราเห็นคือการผสานรวมบริการทางการเงินในตัวเช่นนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์มบน Stripe เห็นได้ว่าปริมาณการชำระเงินของตนเติบโตเร็วขึ้น และมีลูกค้าที่เลิกใช้บริการในอัตราที่ต่ำลง
มาดูเรื่องการให้กู้ยืมกันบ้าง Squarespace, Jobber, Housecall Pro และ GlossGenius ทั้งหมดล้วนใช้ Stripe Capital เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่รวดเร็วและยืดหยุ่นได้ แต่ประเด็นคือธุรกิจจำนวนมากรับเฉพาะการชำระเงินและเช็คเท่านั้น หรือดำเนินธุรกิจบางส่วนอยู่นอก Stripe ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่ควรจะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับเงินทุนกลับไม่ได้รับข้อเสนอ ซึ่งเป็นส่วนที่เรากำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลง
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Capital อนุญาตให้แพลตฟอร์มสามารถผสานรวมข้อมูลของตนเข้ากับการประเมินและควบคุมความเสี่ยงของ Stripe ได้ เราได้ทำงานร่วมกับ Jobber เพื่อขยาย [โปรแกรมของบริการนี้] และส่งผลให้มีการเพิ่มจำนวนช่างประปา นักจัดสวน และผู้ให้บริการบ้านมืออาชีพรายอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับเงินทุนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า [เสียงปรบมือ]
แต่การเงินที่ผสานรวมในตัวไม่ได้ให้บริการแค่แพลตฟอร์มเท่านั้น หากแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจหลายประเภท เช่น ฟินเทคและมาร์เก็ตเพลส Stripe Issuing ได้ช่วยบริษัทต่างๆ อย่าง Navan, Instacart และ Affirm ในการออกและบริหารจัดการบัตรไปแล้วกว่า 275 ล้านใบทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังเห็นกรณีการใช้งานที่ค่อนข้างล้ำสมัยอีกด้วย Perplexity กำลังใช้ Stripe เพื่อสร้างบัตรดิจิทัลเพื่อให้เอเจนต์ AI สามารถซื้อสินค้าในนามของคุณได้
ทว่าหลายคนได้เรียกร้องให้เรารองรับบัตรสำหรับผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกต่างต้องการให้รางวัลแก่ลูกค้า แพลตฟอร์มสำหรับครีเอเตอร์ต้องการมอบสินเชื่อแก่ศิลปิน และฟินเทคก็อยากขยายข้อเสนอไปยังผู้บริโภค ดังนั้นในวันนี้ ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้คุณสามารถสร้างโปรแกรมสินเชื่อที่จัดการโดยผู้บริโภคเต็มรูปแบบบน Stripe [เสียงปรบมือ]
ใช่ค่ะ เราก็ตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากเช่นกัน เรากำลังดำเนินโครงการนี้โดยร่วมมือกับ Mastercard และ Visa ทาง Rocket จะใช้ Stripe Issuing เพื่อเปิดตัว Rocket Cards ซึ่งเป็นโปรแกรมบัตรสะสมคะแนนสำหรับเจ้าของบ้าน โดยจะใช้สัญญาณจากเครือข่ายผู้ค้าของ Stripe และเครือข่ายผู้บริโภคของ Stripe อย่าง Link เพื่อตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และป้องกันการใช้จ่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต
เราได้พูดครอบคลุมถึงหลายประเด็นแล้ว โดยสรุปคือ เรากำลังปรับปรุงกระบวนการเริ่มต้นใช้งานให้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา เราจะเปิดตัวศูนย์คำสั่งแห่งใหม่สำหรับแพลตฟอร์มบนแดชบอร์ด Stripe เรากำลังเปิดตัว Radar for Platforms และฟีเจอร์ชำระเงินด้วยยอดคงเหลือ Stripe เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของคุณให้ลดลง สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสานรวมในตัวของเรา เรากำลังเปิดช่องทางให้เงินทุนสามารถใช้งานร่วมกับผู้ประมวลผลได้หลากหลาย เรากำลังเปิดตัวการออกบัตรสำหรับผู้บริโภคที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ และหวังว่าคุณจะเห็นว่าเราทุ่มเทอย่างยิ่งในการช่วยให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จ ขอเชิญ Tanya มาเล่าถึงวิธีใหม่ๆ บางส่วนที่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ Stripe ได้กันค่ะ
TANYA KHAKBAZ: ขอบคุณค่ะ คุณ Neetika, Stripe เป็นเครือข่ายของธุรกิจนับล้านที่มีการทำธุรกรรมมากกว่า 50,000 รายการทุกนาที เพียงแค่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย Stripe คุณก็จะเห็นประโยชน์แล้วค่ะ เครือข่ายของเราสามารถตรวจจับการฉ้อโกงได้ก่อนที่จะมาถึงคุณ ช่วยเพิ่มพฤติกรรมการชำระเงินด้วย Link และสำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ เราเพิ่งได้ยินมาว่าการเริ่มต้นใช้งานเครือข่ายนั้นรวดเร็วเพียงใด ธุรกิจทุกแห่ง ผู้ใช้งานทุกคน ธุรกรรมทุกรายการ ล้วนทำให้เครือข่ายแข็งแกร่งขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น
มาจนถึงตอนนี้ เครือข่ายได้ทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด แต่ยังคงไม่ปรากฏให้คุณเห็น แต่ไม่อีกแล้วค่ะ วันนี้เราจะทำให้ Stripe เป็นเครือข่ายแบบ B2B ที่ชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา วันนี้ เราขอประกาศเปิดตัว Stripe Profiles ซึ่งเป็นข้อมูลระบุตัวตนสาธารณะของคุณบนเครือข่าย Stripe นี่คือวิธีที่ธุรกิจของคุณจะแสดงตัวตนต่อธุรกิจอื่นๆ ทุกแห่งบน Stripe และสิ่งแรกที่ปลดล็อกคือวิธีที่ง่ายขึ้นในการทำธุรกรรมระหว่างกัน
เฉพาะในปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Stripe ได้จ่ายเงินให้กับธุรกิจอื่นๆ บน Stripe นับร้อยล้านครั้ง และแต่ละครั้ง คุณต้องติดตามข้อมูลการชำระเงินและสร้างใบแจ้งหนี้ด้วยตนเอง ทั้งยังต้องรออีกหลายวันกว่าจะมีการชำระเงินทุน ซึ่งไม่ใช่กระบวนการที่ไร้รอยต่อเลย วันนี้เราจึงทำให้คุณสามารถชำระเงินและรับเงินจากกันและกันได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดผ่านโปรไฟล์ Stripe ของคุณ ซึ่งคุณ Bharath จะสาธิตวิธีการให้เราดู
BHARATH SRIVATSAN: ในการสาธิตนี้ ผมจะสวมบทบาทเป็น Cursor ซึ่งเป็นผู้ใช้ Stripe ที่กำลังส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าคนหนึ่งที่ชื่อ Vercel ซึ่งใช้งาน Stripe ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าใบแจ้งหนี้ และเมื่อผมเริ่มค้นหาลูกค้า ผมก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจ Vercel มีโปรไฟล์ Stripe เมื่อผมเลือกเขา มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น ที่อยู่ในการเรียกเก็บเงิน อีเมล เบอร์โทรศัพท์ของ Vercel ข้อมูลทั้งหมดรวมอยู่ที่นี่แล้ว คุณไม่ต้องไปค้นหาเพิ่ม ไม่เกิดข้อผิดพลาดที่ทำให้การชำระเงินล่าช้า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขามีโปรไฟล์ Stripe
เอาล่ะ ตอนนี้เรามาเพิ่มรายการลงในใบแจ้งหนี้กัน เราจะเลือกรายการนี้ แล้วกด Enter จากนั้นให้ดูดีๆ นะครับ เพราะนี่คือการสาธิตที่เร็วที่สุดที่คุณจะได้เห็นวันนี้ สิ่งที่ผมต้องทำก็แค่ส่งใบแจ้งหนี้ ง่ายมาก แค่นั้นเอง Cursor เพิ่งออกใบแจ้งหนี้ให้ Vercel ในเวลาไม่กี่วินาที [เสียงปรบมือ] แต่ยังมีอะไรใหม่ๆ อีกนะ Cursor ยังให้ Vercel ชำระเงินด้วยยอดคงเหลือใน Stripe ได้อีกด้วย ทำให้การชำระเงินรวดเร็วและถูกลงสำหรับ Cursor เพราะเงินยังคงอยู่ในเครือข่าย Stripe และเนื่องจากถูกกว่า Cursor จึงสามารถเสนอรางวัลจูงใจให้ Vercel ชำระด้วยยอดคงเหลือใน Stripe ได้ด้วย
TANYA KHAKBAZ: ฉันขออนุญาตแทรกตรงนี้นะคะ คุณ Bharath เอาล่ะ มาดูกันว่า Vercel จะเห็นข้อมูลอย่างไรเมื่อได้รับใบแจ้งหนี้จาก Cursor เขาจะได้รับอีเมลพร้อมลิงก์ จากนั้นก็คลิกที่ลิงก์เพื่อไปยังหน้าใบแจ้งหนี้ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบของเรา และเนื่องจากวิธีการชำระเงินถูกบันทึกไว้ในโปรไฟล์ Stripe อยู่แล้ว ประสบการณ์ของเขาจึงราบรื่นมาก เขาสามารถเลือกชำระด้วยยอดคงเหลือใน Stripe กดชำระเงิน แค่นั้นก็เรียบร้อยค่ะ
BHARATH SRIVATSAN: นี่แหละครับ [เสียงปรบมือ] Cursor ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีในการส่งใบแจ้งหนี้ ส่วน Vercel ก็ชำระเงินได้ไม่กี่วินาที
TANYA KHAKBAZ: สิ่งที่เราเพิ่งแสดงให้คุณเห็นไม่ใช่แค่ประสบการณ์การออกใบแจ้งหนี้ที่ดีขึ้นเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม นี่เป็นเพียงแอปพลิเคชันแรกของ Stripe Profiles และจะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้ แต่สำหรับทุกท่านที่เข้าร่วม Sessions ในวันนี้ คุณจะสามารถจองโปรไฟล์ Stripe ของคุณได้เลย โปรดรอการแจ้งเตือนแบบพุชหลังจากการบรรยายนี้
ตอนนี้คุณอาจสังเกตเห็นความลับเล็กๆ น้อยๆ ในการสาธิต Vercel ได้รับการยืนยันจาก Stripe Verified ซึ่งเป็นข้อมูลประจำตัวใหม่สำหรับธุรกิจที่ได้รับการรับรองภายในเครือข่าย Stripe ในแต่ละสัปดาห์มีธุรกิจใหม่หลายพันแห่งเข้าร่วมเครือข่าย Stripe ดังนั้น Stripe Verified จะมอบความมั่นใจให้คุณในการทำธุรกรรมระหว่างกัน แต่ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความเชื่อมั่นเท่านั้น สตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วระบุว่าการจัดการความเสี่ยงและข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดถือเป็นภาระอันใหญ่หลวง โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
สำหรับธุรกิจที่ได้รับการยืนยันจาก Stripe Verified เราจะคอยตรวจสอบข้อกำหนดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แจ้งเตือนหรือแม้กระทั่งแก้ไขให้คุณล่วงหน้า และให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้คุณปฏิบัติตามข้อกำหนด คุณจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ โดยมั่นใจว่าธุรกิจอื่นก็สามารถไว้วางใจคุณได้เช่นกัน Stripe คือเครือข่ายของธุรกิจบางแห่งที่มีความทะเยอะทะยานมากที่สุดในโลก ซึ่งก็คือพวกคุณทุกคน ภารกิจของเราเรียบง่าย นั่งคือการช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครือข่ายที่คุณมีส่วนร่วมสร้างขึ้นมา ขอเชิญคุณ Will ที่จะมาพูดในหัวข้อถัดไป
WILL GAYBRICK: เอาล่ะครับ เราคุยกันถึงความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นใน Payments, Revenue และ Connect ไปแล้ว และตอนนี้เรากำลังนำเอาการขยายเครือข่าย Stripe มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกส่วนนี้ อย่างที่ผมพูดไว้ตอนต้นของการบรรยายนี้ เรามีบางอย่างที่เป็นรากฐานสำคัญซึ่งเราตื่นเต้นมากที่จะได้แสดงให้คุณเห็น ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะมีทวีตแบบนี้เยอะมาก
คุณอยากที่จะสามารถกำกับดูแลเงินของคุณ จัดการสภาพคล่อง ปรับอัตราการแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม เบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ให้บริการของคุณ ออกบัตร โดยทำทั้งหมดนี้ได้จากแดชบอร์ด Stripe คำถามคือแล้วการจัดการเงินสำหรับธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นอินเทอร์เน็ตเป็นหลักควรเป็นอย่างไรกันล่ะ แน่นอน คำตอบนั้นไม่ควรเกี่ยวข้องกับการโทรศัพท์หลายๆ สาย การใช้ไฟล์ PDF จำนวนมาก และการเดินทางไปธนาคารบ่อยๆ อย่างในปัจจุบัน ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าการจัดการเงินควรมีคุณสมบัติหลายอย่างที่เหมือนกับที่ซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดมี
รู้อะไรไหม มันควรจะเร็วครับ เงินควรจะเคลื่อนไหวได้เร็วพอๆ กับข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และมันควรจะมีราคาที่เอื้อมถึง หรือถ้าให้พูดตรงๆ เลยก็คือควรถูกมากๆ โดยเฉพาะเวลาแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ มันควรจะไร้พรมแดน ไม่แตกต่างกันมากนักไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศใด บัญชีธนาคารส่วนใหญ่จะถูกกำหนดให้ใช้แค่สกุลเงินเดียวเท่านั้น แต่ทำไมมันถึงจะไม่สามารถเก็บเงินหลายสกุลพร้อมกันได้ล่ะ มันควรจะไม่ต้องขออนุญาต โดยเปิดให้ธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกแห่งใช้ได้เลย และแน่นอน สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือ เงินควรจะตั้งโปรแกรมได้
คุณควรจะสามารถจัดการมันด้วยโค้ดได้ ดังนั้น เมื่อพิจารณาโดยสรุปแล้ว เงินก็คือข้อมูลดีๆ นี่เอง นี่คือวิธีการทำงานของข้อมูลโดยทั่วไป และในความเป็นจริง มันก็คือวิธีการทำงานของสเตเบิลคอยน์ แต่ดังที่คุณทุกคนทราบกันดี น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่วิธีการทำงานของระบบการเงินที่เหลือ เตรียมตัวให้พร้อมทุกท่าน เพราะกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเงินกำลังพัดมาอย่างรุนแรง เรามีการประกาศครั้งใหญ่ชุดสุดท้ายสำหรับทุกท่าน! วันนี้ เรากำลังจะมีก้าวแรกซึ่งเป็นการก้าวครั้งใหญ่ ในการทำให้เงินทำงานในแบบที่เราทุกคนรู้ว่าควรจะเป็น เรากำลังเปิดตัวมิติใหม่ของชุดผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งคือการจัดการเงิน มาดูกันเลยครับ
BHARATH SRIVATSAN: เอาล่ะครับ นี่คือการสาธิตที่ผมตั้งตารอมาโดยตลอด ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ต้อนรับทุกคนสู่บ้านทางการเงินหลังใหม่ของคุณครับ ตอนนี้เรามาดูตรงนี้กันสกครู่นะครับ เพราะมันดูแตกต่างจากหน้ายอดคงเหลือ Stripe ที่คุณคุ้นเคย และในอดีตที่ผ่านมา คุณเคยต้องรวบรวมมุมมองของธุรกิจของคุณเองจากแอปต่างๆ มากมาย และคุณต้องแยกจัดการฟังก์ชันต่างๆ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงิน การเบิกจ่าย การออกบัตร และอื่นๆ อีกมากมาย
ตอนนี้ด้วย Stripe ในที่สุดคุณก็จะมีทุกสิ่งรวมอยู่ในที่เดียว ตัวอย่างเช่น คุณจะเห็นเงินที่คุณกำลังเก็บรวบรวมจากการชำระเงินที่ได้รับการยืนยันแล้ว เงินเหล่านั้นจะไปอยู่ในยอดคงเหลือที่จัดเก็บไว้ของคุณ คุณจะเห็นข้อมูลกิจกรรม บัตรที่คุณบันทึกไว้ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เอาล่ะครับ มาดูกันเลยดีกว่าว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดที่เรากำลังทำอยู่คืออะไร เราได้ยินมานานแล้วว่าการจัดการสกุลเงินหลายสกุลเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในการดำเนินธุรกิจระดับโลก ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นที่จะประกาศว่ายอดคงเหลือของ Stripe ทั้งหมดจะรองรับหลายสกุลเงินโดยอัตโนมัติ [เสียงปรบมือ]
ตัวอย่างเช่น คุณจะเห็นได้ว่าผมกำลังถือเงินดอลลาร์, ปอนด์, ยูโร และใช่ครับ แม้แต่สเตเบิลคอยน์ด้วย เราเริ่มต้นด้วย 4 สกุลเงินนี้ และคุณจะสามารถเข้าถึงได้อีก 14 สกุลเงินภายในปีหน้า การที่เงินของคุณถูกเก็บไว้ในสกุลเงินเดียวกับที่ได้รับมานั้นเป็นเรื่องที่ดีมากด้วยครับ เพราะนั่นหมายความว่าคุณจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินก็ต่อเมื่อคุณโอนเงินข้ามสกุลเงินเท่านั้น นอกจากนี้เรายังจะให้คุณเข้าถึงช่องทางการชำระเงินในท้องถิ่นได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ธุรกิจในสหราชอาณาจักรจะสามารถส่งเงินให้คุณได้ง่ายๆ แบบนี้เลย และส่งเงินให้ธุรกิจอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรได้เช่นกัน เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อย่างแท้จริงในการจัดการการชำระเงินและการเงินของคุณควบคู่กันไป ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่คุณต้องการ สภาพคล่องเพิ่มเติม ตอนนี้คุณอาจขอการเบิกเงินสดล่วงหน้าจากธนาคารของคุณได้ แต่เงินกว่าจะเข้าบัญชีก็ต้องใช้เวลาหลายวัน แถมคุณยังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกด้วย แต่เนื่องจาก Stripe เป็นผู้ดำเนินการชำระเงินของคุณ คุณจึงสามารถเข้าถึงเงินของคุณได้ทันทีเพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น คุณเพียงแค่ป้อนจำนวนเงินที่คุณต้องการแล้วกดปุ่ม เงินก็จะถูกโอนทันที นั่นแหละ ใช่เลย [เสียงปรบมือ]
ยังมีอะไรอีกมากมายเลยครับ เรายังทราบด้วยว่าการเปิดบัญชีธนาคารใหม่นั้นเป็นเรื่องยุ่งยากเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ เราสามารถกดปุ่มเครื่องหมายบวกและเพิ่มบัญชีใหม่สำหรับทีมการตลาดของคุณได้เลย ง่ายๆ แค่นั้นเอง ตอนนี้นี่ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ใหม่ธรรมดา แต่มันคือบัญชีการเงินรูปแบบใหม่ทั้งหมด และผมสามารถโอนเงินระหว่างบัญชีเหล่านั้น รวมถึงระหว่างสกุลเงินต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่มีวันหยุดเลยครับ เรามาลองทำกันตอนนี้เลยครับ โอนเงินเข้าบัญชีการตลาดของผมเป็นสกุลเงินปอนด์ ใส่จำนวนเงินลงไปเลยครับ และดูเหมือนว่าเงินจำนวน 37,000 ปอนด์จะเข้าทันทีเลย [เสียงปรบมือ]
ทีมการตลาดมักจะมีงบประมาณดีที่สุดอยู่แล้ว ทีนี้แน่นอนว่าทีมการตลาดต้องสามารถใช้จ่ายเงิน 37,000 ปอนด์ที่ได้มาใหม่นี้ได้ด้วย ผมสามารถออกบัตรที่ใช้ในท้องถิ่นให้พวกเขาได้จากหน้าเดียวกันนี้เลย โดยผมก็ดำเนินการเพิ่มบัตรใหม่ แล้วก็สามารถกำหนดเจ้าของบัตรได้ครับ และสังเกตว่าเนื่องจากผมกำลังออกบัตรนี้ให้กับพนักงานในสหราชอาณาจักร มันจะใช้จ่ายจากยอดเงินปอนด์ใหม่ของผมโดยอัตโนมัติ กดสร้างบัตร เรียบร้อย [เสียงปรบมือ]
WILL GAYBRICK: ทีนี้ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะเน้นย้ำตรงนี้คือสถาปัตยกรรมครับ สำหรับการโอนเงินเข้าออก Stripe คุณจะมีช่องทางการชำระเงินในท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับบัญชีการเงินแต่ละบัญชีเหล่านั้น และสำหรับการโอนเงินบน Stripe คุณก็มีแพลตฟอร์มด้านสภาพคล่องระดับโลกแบบใหม่ของเรา ซึ่งช่วยให้การสลับไปมาระหว่างยอดคงเหลือและสกุลเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจและราคาถูก โอเค แต่นั่นคือการจัดการเงินของคุณเอง แล้วการทำธุรกรรมกับบุคคลที่สามล่ะ สำหรับเรื่องนั้น เราได้สร้าง Global Payouts ขึ้นมา
BHARATH SRIVATSAN: โดยปกติแล้ว การจ่ายเงินให้ใครสักคนนั้นจะเกี่ยวข้องกับการรวบรวมและจัดเก็บรายละเอียดบัญชีธนาคารของพวกเขา ซึ่งเอาจริงๆ นะ ผมก็ไม่อยากทำ คุณก็ไม่อยากทำ มันเป็นงานที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง และมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาด แต่คุณจะสังเกตเห็นว่าผมมีการดำเนินการหลายอย่างที่สามารถทำได้ทันทีจากแถบด้านบนสุดตรงนี้ และหนึ่งในการดำเนินการนั้นก็คือการเบิกจ่าย ผมสามารถส่งการเบิกจ่ายให้กับธุรกิจอื่นบน Stripe ได้อย่างง่ายดาย เหมือนที่คุณเห็นไปแล้วในการบรรยายเมื่อสักครู่เลยครับ แต่นอกจากนี้ผมยังสามารถส่งการเบิกจ่ายแบบครั้งเดียวให้กับใครก็ได้ในโลกเพียงแค่ใช้อีเมล ตัวอย่างเช่น ถ้าผมต้องการส่งรางวัลให้ลูกค้า
งั้นเรามาลองใส่ที่อยู่อีเมลแบบสุ่มของพนักงาน Stripe สักคนหนึ่งกัน เพิ่มจำนวนเงินเข้าไป ผมสามารถเพิ่มบันทึกได้ด้วย เช่น "ทำการสาธิตได้เยี่ยมมาก" และผู้รับก็จะได้รับอีเมลที่หน้าตาประมาณนี้ และหากเขาเคยจัดเก็บรายละเอียดบัญชีธนาคารของตัวเองไว้กับ Link แล้ว เขาจะสามารถรับเงินได้ภายในไม่กี่คลิก ผมจะไปกดส่งไปเลย แล้วก็เรียบร้อย [เสียงปรบมือ]
ทีนี้ หากคุณต้องการส่งการเบิกจ่ายให้กับคนจำนวนมาก คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ CSV ที่มีรายละเอียดทั้งหมดได้ ผมสามารถเลือกไฟล์ได้เลย เดี๋ยวเราลองเพิ่มไฟล์ดูตอนนี้เลยครับ ดูเหมือนว่าในไฟล์จะมีครบทั้งยอดรวม ผู้รับ และอีเมลของแต่ละคนเลยครับ กดถัดไปได้เลยครับ แล้วผมยังสามารถกำหนดเวลาให้ส่งทีหลังได้ด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ Will ผมไม่ส่งเงิน 30,000 ดอลลาร์ให้คน 7,000 คนตอนนี้หรอก ผมจะคลิก [ออก]
เอาล่ะ เราคงสิ้นสุดการบรรยายนี้ไม่ได้หากไม่ได้ทำตามที่เราสัญญาไว้ นั่นคือการทำให้ทุกอย่างใน Stripe สามารถตั้งโปรแกรมได้ ใช่แล้วครับ คุณทายถูก มันคือ Workflows เรากำลังมอบเครื่องมือสร้างเวิร์กโฟลว์อีกตัวหนึ่งให้คุณ เหมือนกับที่คุณเห็นมาก่อนหน้านี้ในการจัดระเบียบการชำระเงินและ Billing ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถตั้งและกำหนดค่ายอดคงเหลือขั้นต่ำสำหรับบัญชีที่ต้องการได้ และนี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะในที่สุดทีมการเงินของคุณจะสามารถ จัดการกระแสเงินของคุณได้อย่างแม่นยำตามที่พวกเขาต้องการ
WILL GAYBRICK: ขอบคุณมาก Bharath [เสียงปรบมือ] เราเพิ่งแสดงความสามารถใหม่ๆ มากมายให้คุณเห็น และหลายอย่างในนี้อยู่ในมือผู้ใช้เรียบร้อยแล้วในวันนี้ และตลอดปี 2025 เราจะเปิดตัวความสามารถทั้งหมดเหล่านี้แก่ผู้ใช้ Stripe ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้ใช้งานกันในปีหน้าครับ คอยติดตามกันไว้ได้เลย และที่สำคัญ ผมคงพลาดไม่ได้ที่จะเน้นย้ำว่าทั้งหมดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง จะพร้อมใช้งานบน Connect ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเงินแบบฝังตัวสำหรับแพลตฟอร์ม มาร์เก็ตเพลส และบริษัทฟินเทคต่างๆ
เมื่อกี้ Bharath ก็เพิ่งแสดงให้เราเห็นว่าคุณสามารถถือยอดคงเหลือที่เป็นเป็นสเตเบิลคอยน์ได้แล้ว และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราเพิ่งเข้าซื้อบริษัทที่ชื่อว่า Bridge โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดทางให้การจัดการเงินทั่วโลกด้วยสเตเบิลคอยน์เป็นจริงได้ครับ วันนี้เรากำลังจะมีก้าวสำคัญในเรื่องนี้เลยครับ ก่อนหน้านี้ จนถึงเช้าวันนี้ ผู้ใช้สามารถสร้างบัญชี Stripe ได้แค่ใน 50 ประเทศเท่านั้น เพียง 50 ประเทศ ด้วยความช่วยเหลือของ Bridge เรากำลังทำให้ Stripe พร้อมให้บริการในอีก 101 ประเทศ [เสียงปรบมือ]
นี่เป็นเรื่องใหญ่มากครับ ผู้ประกอบการและธุรกิจใน 101 ประเทศเหล่านั้นจะสามารถดำเนินงานได้ทั้งหมดด้วยยอดคงเหลือที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ โลกส่วนใหญ่อยู่ภายใต้สกุลเงินที่ไม่เสถียรและโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้จำกัดศักยภาพทางเศรษฐกิจของอินเทอร์เน็ต แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานในอาร์เจนตินา เวียดนาม แซมเบีย และทุกที่ทั่วโลกสามารถถือยอดคงเหลือเป็นสเตเบิลคอยน์ รับและส่งเงินได้ทั้งบนระบบคริปโตและสกุลเงินทั่วไป และส่งสเตเบิลคอยน์ได้ทุกที่ทั่วโลก โดยเราจะเริ่มด้วยการรองรับ USDC และ USDB ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ของ Bridge เองก่อนเลยครับ และเราก็จะทยอยเพิ่มตัวอื่นๆ ตามมาในอนาคต
สเตเบิลคอยน์นั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อด้วยตัวของมันเอง แต่โอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่า หรือการเล่นแร่แปรธาตุที่แท้จริง นั้นมาจากการ รวมคริปโตและเงินทั่วไปเข้าด้วยกัน ให้ผสานกันอย่างลึกซึ้งจนแทบจะแยกความแตกต่างไม่ออกเลยทีเดียว แล้วเราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร หนึ่งในจุดที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมหาศาลก็คือบัตรครับ เพราะบัตรถือเป็นเครื่องมือการชำระเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับจากธุรกิจหลายร้อยล้านแห่งทั่วโลก
เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าเรากำลังร่วมมือกับ Visa และ Lead Bank เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตรระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างที่คุณเห็น มันต้องใช้ระบบนิเวศครับ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ด้วยการผสานการทำงานหนึ่งเดียว นักพัฒนาจะสามารถออกบัตร Visa ที่ใช้จ่ายจากยอดคงเหลือที่เป็นสเตเบิลคอยน์ได้แล้ว และพวกเขาสามารถออกบัตรให้กับเจ้าของบัตรในหลายสิบประเทศได้พร้อมกันเลยครับ [เสียงปรบมือ]
เรามีรายชื่อพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งครับ ซึ่งรวมถึงบริษัทคริปโตอย่าง Airtm และ Squads ด้วย และผมตื่นเต้นมากที่จะประกาศว่า Ramp ซึ่งเป็นผู้ใช้การออกบัตรของ Stripe อยู่แล้ว จะใช้บัตรสเตเบิลคอยน์เพื่อเร่งการขยายตัวทางภูมิศาสตร์ของพวกเขาครับ งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าบัตรใหม่เหล่านี้จะสามารถปลดล็อกอะไรให้กับเศรษฐกิจโลกได้บ้าง
[วิดีโอ]
มีนวัตกรรมน้อยมากที่จะมีศักยภาพมากมายเท่าสเตเบิลคอยน์ครับ
Gigbanc ให้บริการบัญชีดิจิทัลและบัตรดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถใช้จ่ายและรับรายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ในขณะที่อาศัยอยู่ในไนจีเรีย
API ของ Bridge นั้นช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถโอนเงินระหว่างสกุลเงินทั่วไปและสเตเบิลคอยน์ได้
สเตเบิลคอยน์เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญอย่างยิ่งครับ แต่จำเป็นต้องมีการผสานการทำงานกับระบบนิเวศทางการเงินในปัจจุบัน
ในไนจีเรีย บุคคลทั่วไปใหญ่ไม่สามารถใช้บัตรธนาคารท้องถิ่นของตนซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ทั่วโลกได้ ตอนนี้เรากำลังทำงานกับ Bridge เพื่อเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในแอฟริกาที่พวกเขาจะนำเสนอบัตรดิจิทัลที่รองรับสเตเบิลคอยน์ด้วย
ฟรีแลนซ์ในไนจีเรียสามารถพัฒนาทักษะตัวเองบน Upwork ได้ เจ้าของธุรกิจสามารถชำระค่าเครดิต Google Cloud ได้ และผู้นำเข้า-ส่งออกก็สามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Alibaba ได้เช่นกันครับ
บัตรที่รองรับสเตเบิลคอยน์จะช่วยให้ Ramp ขยายไปทั่วโลก
เราสามารถออกบัตรในตลาดท้องถิ่นที่เราไม่เคยให้บริการมาก่อนได้
คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่จะจัดเก็บและใช้ประโยชน์จากสเตเบิลคอยน์ได้ แต่การทำธุรกรรมจะชำระเงินเป็นเงินสกุลเปโซเม็กซิโกหรือเงินสกุลเรียลบราซิล หรือสกุลเงินอื่นใดก็ตามที่ผู้ขายของคุณต้องการ
ผมเชื่อจริงๆ เลยว่าปี 2025 จะเป็นปีที่สเตเบิลคอยน์ก้าวเข้าสู่กระแสหลัก [เสียงปรบมือ]
WILL GAYBRICK: เอาล่ะครับ เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะนำสเตเบิลคอยน์มาใช้งานเพื่อทุกคน และนั่นคือชุดเครื่องมือการบริหารเงินใหม่ล่าสุดของเรา โดยประกอบด้วยยอดคงเหลือแบบหลายสกุลเงินพร้อมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบทันที การเบิกจ่ายเงินทั่วโลกบัญชีการเงินสเตเบิลคอยน์ใน 101 ประเทศเพิ่มเติม และการออกบัตรทั่วโลกผ่านสเตเบิลคอยน์ เราได้พูดถึงหัวข้อต่างๆ มากมายในวันนี้ ทั้งเรื่อง Payments, Revenue, Connect และชุดเครื่องมือการบริหารเงินใหม่ของเรา แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่เราไม่มีเวลาพูดถึง โดยคุณสามารถดูรายการทั้งหมดของสิ่งใหม่ๆ ที่เราประกาศได้จากบล็อกของเราภายหลังจากวันนี้นะครับ
และในทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ เรากำลังช่วยให้คุณเติบโตด้วยการนำ AI และสเตเบิลคอยน์มาใช้ โดยใช้ประโยชน์จากการขยายของเครือข่าย Stripe และการเปลี่ยน Stripe ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถขยายและตั้งโปรแกรมได้ ขอขอบคุณทุกท่านมากที่มาร่วม Sessions ในวันนี้ครับ ผมหวังว่าทุกท่านจะกลับไปด้วยแนวคิดที่เป็นรูปธรรมมากมายว่าจะนำบริการทางการเงินที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ของ Stripe ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร ชุมชน Stripe ซึ่งก็คือทุกท่านที่อยู่ที่นี่ นั้นน่าทึ่งในหลายๆ ด้านจริงๆ ครับ
อย่างที่เราเขียนไว้ในจดหมายประจำปีฉบับล่าสุด รายรับของคุณบน Stripe กำลังเติบโตเร็วกว่า S&P 500 ถึง 7 เท่า… ใช่ครับ 7 เท่าและตอนนี้ เราทุกคนก็กำลังอยู่บนจุดเปลี่ยนของยุคใหม่ ทั้งในโลกธุรกิจและเทคโนโลยี คุณสามารถรู้สึกได้ และทศวรรษถัดไปของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะถูกขับเคลื่อนอย่างมหาศาลจากสิ่งที่แต่ละคนในห้องนี้ทำ และจากสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำร่วมกันได้ ขอบคุณมากครับ และขอให้สนุกกับ Sessions