สําหรับธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรปที่จําหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการในฝรั่งเศส จะมีการเรียกเก็บ VAT One Stop Shop (VAT OSS) ซึ่งเป็นวิธีที่เรียบง่ายในการยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ครบกําหนดชําระ ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา VAT Stop Shop หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Import One Stop Shop (IOSS) ได้ช่วยให้การทําธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) และธุรกรรมอีคอมเมิร์ซมีความซับซ้อนน้อยลง อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงตลาดยุโรปได้ง่ายขึ้น บทความนี้แสดงภาพรวมของ VAT One Stop Shop และข้อกําหนดด้านภาษี

_บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง _

• IOSS คืออะไร (หรือที่รู้จักกันในชื่อ VAT One Stop Shop)
  
• IOSS มีผลกับใคร
  
• ทําความเข้าใจหลักเกณฑ์ภาษีแบบต่างๆ
  
• ข้อดีสําหรับธุรกิจคืออะไร
  
• ฉันจะจดทะเบียนได้อย่างไร
  
• ฉันจะยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร
  
• ฉันจะชําระภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร
  

IOSS คืออะไร (หรือที่รู้จักกันในชื่อ VAT One Stop Shop)

VAT One Stop Shop คือพอร์ทัลออนไลน์ ที่ช่วยให้ธุรกิจซึ่งจําหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ แก่ลูกค้าจากทางไกลสามารถยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มของตนได้

Vat One Stop Shop เป็นที่รู้จักในยุโรปว่า OSS หรือ IOSS ซึ่งย่อมาจาก One Stop Shop และ Import One Stop Shop ตามลำดับ ระบบนี้รวมลักษณะพิเศษเฉพาะต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดของการจดทะเบียนบริษัทที่จะใช้ระบบดังกล่าว

บริษัทต่างๆ สามารถยื่นและชําระภาษีในฝรั่งเศสและทั่วทั้งสหภาพยุโรปได้อย่างง่ายดายด้วยการยื่นเพียงครั้งเดียวผ่านพอร์ทัลที่ปลอดภัย

ธุรกิจที่เลือกใช้ IOSS ไม่จําเป็นต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานภาษีของรัฐสมาชิกในสหภาพยุโรปแต่ละแห่งซึ่งธุรกิจมีลูกค้าอยู่เพื่อทําการยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มอีกต่อไป แต่จะมีการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มและชําระเงินไปยังรัฐสมาชิกแห่งเดียวผ่าน One Stop Shop พอร์ทัลนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ขายสินค้าหรือบริการของตนในหลายประเทศในยุโรปได้ง่ายๆ

แม้ว่าระบบ IOSS จะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น แต่ก็เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับบริษัทที่ต้องการขยายการดําเนินงานในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป เนื่องจากช่วยลดภาระหน้าที่ด้านภาษีมูลค่าเพิ่มให้ง่ายขึ้น

IOSS มีผลกับใคร

IOSS เป็นบริการที่ออกแบบมาสําหรับซัพพลายเออร์หรือผู้ขายสินค้าทางไกลที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าในสหภาพยุโรป ธุรกิจสามารถใช้บริการนี้จำหน่ายสินค้าเป็นมูลค่าสูงสุด €150 ไม่ว่าจะทำการขายจากในหรือนอกสหภาพยุโรป แก่ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในสหภาพยุโรป ขั้นตอนนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดในแวดวงอีคอมเมิร์ซ เช่น ผู้ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ บริการไปรษณีย์ และลูกค้า IOSS ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มได้

ตัวกลาง

IOSS ยังมีผลกับตัวกลางด้วย ธุรกิจใดๆ ที่ไม่มีตัวตนหรือสถานประกอบการถาวรในสหภาพยุโรปต้องแต่งตั้งตัวกลางที่จัดตั้งขึ้นในสหภาพยุโรปเพื่อจดทะเบียนเข้าร่วมหลักเกณฑ์ภาษี

ตัวกลางจะทําหน้าที่เป็นตัวแทนสําหรับธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรป เพื่อจัดการการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีและการส่งแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจ การมีตัวแทนเหล่านี้จะช่วยทําให้กระบวนการของธุรกิจนอกสหภาพยุโรปมีความง่ายดายขึ้น ทําให้ธุรกิจเหล่านี้ปฏิบัติตามข้อกําหนดการรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรปได้โดยไม่ต้องจัดตั้งตัวแทนในรัฐสมาชิก

ทําความเข้าใจหลักเกณฑ์ภาษีแบบต่างๆ

หลักเกณฑ์ภาษีสำหรับบริษัทนั้นมีหลายรูปแบบ โดยจะขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ แต่ละกระบวนการจะมีรายละเอียดเฉพาะของแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบริษัท กิจกรรม และประเทศที่ดําเนินธุรกิจอยู่ บริษัทจะต้องเลือกหลักเกณฑ์ภาษีที่ตรงกับกิจกรรมของบริษัทเพื่อกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษีอย่างถูกต้องผ่านพอร์ทัลออนไลน์ของ OSS หากต้องการเลือกหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ธุรกิจจะต้องเข้าใจรายละเอียดของแต่ละรูปแบบ โดยเฉพาะ OSS ของสหภาพยุโรป, OSS นอกสหภาพยุโรป และ IOSS

OSS ของสหภาพยุโรป

แผน OSS ของสหภาพยุโรปจะใช้กับบริษัทที่อยู่ในสหภาพยุโรปที่ทำการขายจากระยะไกลไปยังรัฐสมาชิกอื่น นี่คือรูปแบบที่ตรงไปตรงมาที่สุดเนื่องจากบริษัทเพียงแค่เลือกประเทศที่พวกเขาจดทะเบียน รูปแบบนี้จะเปิดโอกาสให้บริษัทให้บริการในสหภาพยุโรปได้โดยการจดทะเบียนในประเทศสมาชิกเพียงประเทศเดียว

OSS นอกสหภาพยุโรป

รูปแบบ OSS นอกสหภาพยุโรปออกแบบมาสําหรับบริษัทที่อยู่นอกสหภาพยุโรปซึ่งขายจากระยะไกลให้แก่ลูกค้าในรัฐสมาชิก ภายใต้แผนนอกสหภาพยุโรป บริษัทที่ไม่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างถาวรในสหภาพยุโรปหรือไม่มีสํานักงานใหญ่ในสหภาพยุโรปสามารถเลือกรัฐสมาชิกใดก็ได้เพื่อใช้เป็นรัฐสมาชิกสำหรับระบุตัวตน

ตัวอย่างเช่น บริษัทในสหรัฐอเมริกาที่จัดเก็บสินค้าของตนไว้ในฝรั่งเศสเพื่อขายให้ลูกค้าในประเทศสมาชิกอื่นๆ อาจเลือกฝรั่งเศสเป็นรัฐสมาชิกสำหรับระบุตัวตนภายใต้ OSS นอกสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถเลือกรัฐสมาชิกอื่นๆ ได้

IOSS: หลักเกณฑ์การนําเข้า

IOSS ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับการขายสินค้านําเข้าจากประเทศนอกสหภาพยุโรปให้แก่ลูกค้าในสหภาพยุโรป โดยมูลค่าสินค้าไม่เกิน €150 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายประเภทนี้สามารถจดทะเบียนสําหรับแผนการนําเข้าได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ขายไม่มีตัวตนในสหภาพยุโรป ก็จะต้องแต่งตั้งคนกลางเพื่อใช้แผนดังกล่าว

ตัวอย่างเช่น ผู้ขายชาวบราซิลบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าจากจีนให้แก่ลูกค้าในฝรั่งเศส อิตาลี และโปรตุเกสจะต้องหาตัวกลางในประเทศเหล่านั้นเพื่อเข้าร่วมแผน IOSS

ข้อดีสําหรับธุรกิจคืออะไร

แผน OSS และ IOSS ช่วยให้ธุรกิจและผู้ให้บริการสามารถยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ครบกําหนดชําระในรัฐสมาชิกที่ตนเองไม่มีตำแหน่งที่ตั้งได้ โดยใช้พอร์ทัลเว็บในรัฐสมาชิกที่จดทะเบียน สําหรับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในฝรั่งเศสหรือดําเนินธุรกิจในตลาดฝรั่งเศส One Stop Shop จะช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม

การขายที่ง่ายดายในสหภาพยุโรป

VAT One Stop Shop ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วยุโรปจดทะเบียนในรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปได้ง่ายขึ้น

ก่อนที่จะมี OSS ซัพพลายเออร์จะต้องจดทะเบียนในแต่ละรัฐสมาชิกซึ่งตนจําหน่ายสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น บริษัทในฝรั่งเศสที่ขายสินค้าหรือบริการในเยอรมนีจะต้องจดทะเบียนในเยอรมนีและยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งในเยอรมนีและฝรั่งเศส เมื่อใช้ OSS บริษัทสามารถยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มตามยอดการขายทั้งหมดในสหภาพยุโรปผ่านพอร์ทัลเดียวในประเทศฝรั่งเศส

ความพึงพอใจของลูกค้า

นอกจากนี้ ระบบ OSS ยังให้ประโยชน์กับลูกค้าด้วย เนื่องจากมีการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศที่บริโภคสินค้านั้นๆ จึงช่วยให้มั่นใจถึงความโปร่งใสที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกค้าในฝรั่งเศสจะชําระภาษีมูลค่าเพิ่มของฝรั่งเศสเสมอ แม้ว่าจะซื้อสินค้าทางออนไลน์ การดําเนินการนี้จะลดค่าธรรมเนียมการนําเข้าและการเรียกเก็บเงินอื่นๆ ที่ไม่คาดคิดสําหรับลูกค้า

ฉันจะจดทะเบียนได้อย่างไร

หากต้องการจดทะเบียนในระบบ IOSS หรือ OSS บริษัทจะต้องมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในชุมชนหรือหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของฝรั่งเศส (Référence d’Obligation Fiscale หรือ ROF) หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในชุมชนหรือ ROF ช่วยให้หน่วยงานภาษียืนยันได้ว่าบริษัทมีการระบุตัวตนอย่างถูกต้องและปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางภาษี

บริษัทจะต้องสมัครขอหมายเลข OSS หรือ IOSS ก่อนเริ่มไตรมาสที่บริษัทยื่นภาษีครั้งแรก หรือช่วงต้นไตรมาสก่อนเริ่มให้บริการครั้งแรก ขั้นตอนการขอหมายเลข OSS หรือ IOSS นั้นเหมือนกันสําหรับทั้งสองระบบ

การขอหมายเลข OSS

สําหรับ OSS ทั้งสองแบบ บริษัทในฝรั่งเศสสามารถจดทะเบียนและขอหมายเลข OSS จากหน่วยงานด้านภาษีในฝรั่งเศสได้ บริษัทที่มาจากสหภาพยุโรปหรือที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรปสามารถเข้าถึงพอร์ทัลได้ผ่าน One Stop Shopโดยใช้บัญชีธุรกิจของตน

การขอหมายเลข IOSS

หากต้องการขอหมายเลข IOSS บริษัทที่อยู่นอกสหภาพยุโรปและไม่ได้มีตำแหน่งที่ตั้งภายในสหภาพยุโรปจะต้องกรอกแบบฟอร์มหมายเลข 3563-SD แล้วส่งอีเมลถึง tva.e-commerce@dgfip.finances.gouv.fr เพื่อขอสิทธิ์เข้าถึง VAT One Stop Shop

ฉันจะยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร

เมื่อจดทะเบียนแล้ว บริษัทจะต้องยื่นภาษีรายไตรมาสหากใช้แผน OSS ของสหภาพยุโรปหรือนอกสหภาพยุโรป หรือรายเดือนสําหรับแผน IOSS

บริษัทสามารถยื่นและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการขายระยะไกลทั้งหมดในสหภาพยุโรปได้ผ่านพอร์ทัลเดียว ข้อมูลจากการระบุตัวตนในประเทศสมาชิกนั้นๆ จะถูกนำไปใช้เพื่อจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มไปยังประเทศสมาชิกต่างๆ ที่มีการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท

Stripe Tax ทําให้การชําระเงินของคุณในฝรั่งเศสและต่างประเทศง่ายขึ้น ด้วยการผสานการทํางานเพียงครั้งเดียว คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโซลูชันที่ปรับแต่งมาเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับด้านภาษีมูลค่าเพิ่มทั่วโลก

บทลงโทษจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนด

การรายงานการประชุมและวันครบกําหนดการชําระเงินถือเป็นกุญแจสําคัญ การไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านี้อาจก่อให้เกิดบทลงโทษทางการเงินและถูกเพิกถอนจากแผน OSS หรือ IOSS ในท้ายที่สุด การถูกเพิกถอนในลักษณะดังกล่าวจะทําให้กระบวนการด้านการบริหารมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทจะต้องจดทะเบียนและรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มในแต่ละรัฐสมาชิกที่บริษัทจําหน่าย

สําหรับตัวกลาง การดําเนินการนี้จะส่งผลให้บริษัทถูกนำออกจากทะเบียนระบุตัวตน ผู้ขายที่มีตัวกลางซึ่งถูกเพิกถอนเป็นตัวแทนจะเสียสิทธิ์เข้าถึงแผนการนําเข้า

ฉันจะชําระภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร

ซัพพลายเออร์ชําระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดค้างให้กับประเทศสมาชิกที่จดทะเบียนระบุตัวตนโดยตรงผ่านพอร์ทัลออนไลน์ โดยต้องชําระยอดรวมตามที่ระบุไว้ในใบกํากับภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศสมาชิกทุกประเทศที่จําหน่ายสินค้าหรือบริการ โดยทั่วไป วิธีการชําระเงินที่ยอมรับจะเหมือนกับวิธีการชําระเงินที่ใช้สําหรับภาษีอื่นๆ ซึ่งอาจประกอบด้วยตัวเลือกต่างๆ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารและการหักบัญชีอัตโนมัติ

ประเทศสมาชิกที่จดทะเบียนระบุตัวตนมีหน้าที่โอนเงินที่ติดค้างให้กับประเทศสมาชิกแต่ละแห่ง