คู่มือเกี่ยวกับภาษีการขายและภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

Tax
Tax

Stripe Tax automates global tax compliance from start to finish, so you can focus on scaling your business. Identify your tax obligations, manage registrations, calculate and collect the right amount of tax worldwide, and enable filings—all in one place.

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. กฎหมายของมาร์เก็ตเพลสในสหรัฐอเมริกา
    1. วิธีจัดการภาษีการขายและการขายในมาร์เก็ตเพลส
  3. กฎหมายมาร์เก็ตเพลสในสหภาพยุโรป
  4. Stripe จะช่วยได้อย่างไร

หากคุณจําหน่ายสินค้าหรือบริการในมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ คุณควรทําความเข้าใจหน้าที่และความรับผิดชอบด้านภาษีของคุณ มาร์เก็ตเพลสอย่าง Amazon, eBay, Uber และ Etsy เติบโตอย่างต่อเนื่อง อันที่จริงแล้ว รายงานจาก Digital Commerce 360 ระบุว่ามาร์เก็ตเพลสชั้นนํามียอดขายทั่วโลกเป็นมูลค่าประมาณ 3.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากผู้ขายบุคคลที่สาม

รัฐบาลบางแห่งได้บังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้มาร์เก็ตเพลสต้องเรียกเก็บและนําส่งภาษีในนามของธุรกรรมจากผู้ขายบุคคลที่สาม กฎหมายเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาษี เนื่องจากทำให้เรียกเก็บภาษีจากนิติบุคคลน้อยรายลง ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการปฏิบัติตามข้อกําหนด ขณะเดียวกัน ผู้ขายก็ได้รับประโยชน์จากการที่มาร์เก็ตเพลสช่วยจัดการภาษีสําหรับธุรกรรมบางรายการ แต่ขั้นตอนเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมาเสมอไป

คู่มือนี้จะช่วยให้คุณซึ่งเป็นผู้ขายเข้าใจกฎหมายภาษีของมาร์เก็ตเพลสในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป รวมถึงวิธีจัดการภาษีเมื่อคุณมียอดขายบางส่วน (หรือทั้งหมด) ที่มาจากมาร์เก็ตเพลส นอกจากนี้เรายังจะอธิบายวิธีที่ Stripe ช่วยคุณจัดการการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีการขายและภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

อีกเรื่องสำคัญที่ต้องกล่าวถึงก็คือ แม้เราจะอธิบายหน้าที่ด้านภาษีบางประการ แต่ก็อาจมีความรับผิดชอบด้านภาษีในแง่มุมอื่นๆ ที่ผู้ขายในมาร์เก็ตเพลสควรคำนึงถึงด้วย เช่น ภาษีจากผลกำไรของของมาร์เก็ตเพลส สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ ให้ความช่วยเหลือมาร์เก็ตเพลสในแง่ของแบบฟอร์ม 1099 โปรดอ่านที่นี่

สุดท้ายนี้ โปรดทราบว่าข้อมูลที่ระบุในคู่มือนี้ไม่ใช่คําแนะนําด้านภาษีหรือกฎหมาย คู่มือนี้จัดทําขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่มีจุดประสงค์เพื่อให้หรือเป็นข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับคำแนะนําด้านภาษีหรือกฎหมาย คุณควรพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านภาษี กฎหมาย และที่ปรึกษารายอื่นๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณโดยเฉพาะ

กฎหมายของมาร์เก็ตเพลสในสหรัฐอเมริกา

ในสหรัฐฯ คำว่าผู้ให้บริการสนับสนุนด้านมาร์เก็ตเพลสหมายถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่แสดงสินค้าและบริการสําหรับการขายและประมวลผลการชําระเงินในนามของผู้ขายที่เป็นบุคคลอื่น

ในสหรัฐฯ ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านมาร์เก็ตเพลสจําเป็นต้องเรียกเก็บภาษีการขายในนามของผู้ขายบุคคลที่สามเมื่อผู้ขายมีรายรับถึงเกณฑ์ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในรัฐ อย่างไรก็ตาม ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบภาษีหากผู้ให้บริการสนับสนุนมาร์เก็ตเพลสไม่ได้เป็นผู้เรียกเก็บภาษีดังกล่าว กรณีนี้อาจเกิดขึ้นหากมาร์เก็ตเพลสไม่สามารถนําส่งภาษีในจํานวนที่เหมาะสมได้เนื่องจากข้อมูลที่ผู้ขายมอบให้ไม่ถูกต้อง หรือหากมาร์เก็ตเพลสไม่จําเป็นต้องเรียกเก็บภาษีในนามของผู้ขาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ขายจะได้รับใบรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรจากมาร์เก็ตเพลสเพื่อยืนยันว่ามาร์เก็ตเพลสเรียกเก็บภาษีการขายในนามของผู้ขาย

รัฐส่วนใหญ่ยังคงกําหนดให้ผู้ขายในมาร์เก็ตเพลสต้องรายงานว่าผู้ให้บริการสนับสนุนด้านมาร์เก็ตเพลสเรียกเก็บภาษีการขายเป็นจํานวนเท่าใดในนามของตน แต่ก็อาจเป็นศูนย์ได้ รัฐใช้การคืนภาษีการขายเป็นวิธีตรวจสอบธุรกิจ และถึงแม้ว่าไม่มีภาษีการขายที่ต้องนําส่ง แต่บ่อยครั้งก็ยังจําเป็นยื่นขอคืน

หากผู้ขายทําการขายเฉพาะในมาร์เก็ตเพลสนี้แห่งเดียวเท่านั้น บางรัฐจะอนุญาตให้ผู้ขายยกเลิกการจดทะเบียนเพื่อเรียกเก็บภาษี ทั้งนี้ ผู้ขายควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนยกเลิกการจดทะเบียน เพื่อไม่ให้เกิดบทลงโทษ นอกจากนี้ผู้ขายควรพิจารณาว่าต้องการขยายการขายนอกเหนือไปจากมาร์เก็ตเพลสในอนาคตหรือไม่ เช่น ในหน้าร้านค้าจริง งานแสดงสินค้า หรือในร้านค้าออนไลน์ของตนเอง โดยหากเป็นเช่นนั้น ก็จะต้องจดทะเบียกับรัฐอีกครั้ง

วิธีจัดการภาษีการขายและการขายในมาร์เก็ตเพลส

สถานการณ์ 2 อย่างนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ขายต้องจัดการภาษีการขายและยอดขายในมาร์เก็ตเพลส

  • ยอดขายทั้งหมดของผู้ขายเกิดขึ้นในมาร์เก็ตเพลส
  • ยอดขายบางส่วนเกิดขึ้นในมาร์เก็ตเพลส

เราจะอธิบายวิธีจัดการสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ให้คุณทราบ

การขายในมาร์เก็ตเพลสเท่านั้น

หากผู้ขายทําการขายในมาร์เก็ตเพลสเพียงอย่างเดียว และยืนยันแล้วว่ามาร์เก็ตเพลสเรียกเก็บภาษีการขายในนามของผู้ขายแล้ว ผู้ขายก็ไม่จําเป็นต้องคํานวณ เรียกเก็บ หรือนําส่งภาษีการขายจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ขายอาจยังต้องจัดเตรียมและยื่นแบบแสดงภาษีภายในวันที่กําหนด เพื่อรายงานว่ามาร์เก็ตเพลสเก็บภาษีมากแค่ไหน ในสถานการณ์นี้ ผู้ขายมีแนวโน้มที่จะไม่ได้มียอดภาษีค้างกับรัฐ แต่จะต้องปฏิบัติตามข้อกําหนดในการยื่นเอกสาร

ยอดขายบางส่วนเกิดขึ้นในมาร์เก็ตเพลส

สมมติว่าผู้ขายทํายอดขาย 50% ในมาร์เก็ตเพลสและ 50% บนเว็บไซต์ของตัวเอง สําหรับยอดขายในมาร์เก็ตเพลส ผู้ขายต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาร์เก็ตเพลสเรียกเก็บและนําส่งภาษีในนามของผู้ค้า รวมทั้งบันทึกว่ามาร์เก็ตเพลสเก็บภาษีไปเท่าไร สําหรับ 50% ของยอดขายที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ ผู้ขายจะต้องเรียกเก็บและนําส่งภาษีสําหรับยอดขายดังกล่าว ในกรณีที่ยอดขายนั้นๆ มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในรัฐที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถึงเวลายื่นภาษี ผู้ขายต้องรายงานทั้งจํานวนเงินที่เรียกเก็บและนําส่งโดยมาร์เก็ตเพลส รวมถึงจํานวนที่ผู้ขายเรียกเก็บจากลูกค้าโดยตรงบนเว็บไซต์ ผู้ขายจะต้องชําระ (นําส่ง) ภาษีการขายที่ผู้ขายเรียกเก็บเท่านั้น และไม่ต้องดำเนินการในส่วนที่มาร์เก็ตเพลสที่เรียกเก็บ เว็บไซต์ภาษีของรัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาจะแบ่งยอดขายของมาร์เก็ตเพลสออกจากการขายเว็บไซต์ในบรรทัดต่างๆ เพื่อให้ผู้ขายป้อนจํานวนที่ถูกต้องได้อย่างง่ายดาย

กฎหมายมาร์เก็ตเพลสในสหภาพยุโรป

สหภาพยุโรปมีกฎพิเศษสําหรับมาร์เก็ตเพลส (หรือที่เรียกว่าอินเทอร์เฟซอิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์ม หรือพอร์ทัล) ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการขายสินค้าและบริการบางอย่าง เงื่อนไขต่อไปนี้จะนิยามมาร์เก็ตเพลสในฐานะผู้อํานวยความสะดวกในการขาย

  • การกําหนดข้อกำหนดของการจัดหาทั้งทางตรงและทางอ้อม
  • การมีส่วนร่วมในการอนุมัติการชําระเงิน
  • การมีส่วนร่วมในการจัดส่งผลิตภัณฑ์

การมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขสามข้อนี้ อาจหมายความว่ามาร์เก็ตเพลสกลายเป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย และเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายบางรายการที่ตนเองอำนวยความสะดวก แพลตฟอร์มจะถือว่าเป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายหากดําเนินการในนามของผู้ขายแต่ทำแทนผู้ขาย กฎผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายจะมีผลก็ต่อเมื่อมาร์เก็ตเพลสอำนวยความสะดวกการขายแบบ B2C สำหรับ:

  • บริการดิจิทัล
  • สินค้านําเข้าจากนอกสหภาพยุโรปผ่านการจัดส่งสินค้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าน้อยกว่า 150 ยูโร
  • สินค้าที่มีมูลค่าใดๆ ที่ไม่ได้เป็นของผู้ขายนอกสหภาพยุโรปและอยู่ในสหภาพยุโรป ณ เวลาที่ขาย
marketplace laws Image v4

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศปฏิรูประบบภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรปอย่างมีนัยสําคัญเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2022 ข้อเสนอที่รอมานานเกี่ยวกับ "ภาษีมูลค่าเพิ่มในยุคดิจิทัล ") (ViDA) ขยายขอบเขตของกฎสำหรับผู้ที่ถือว่าเป็นซัพพลายเออของแพลตฟอร์มในภาคธุรกิจให้เช่าที่พักระยะสั้นและการขนส่งผู้โดยสาร แพลตฟอร์มในภาคธุรกิจเหล่านี้จะต้องเรียกเก็บและนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกรรมที่แพลตฟอร์มเหล่านี้อํานวยความสะดวก หากผู้ขายที่เกี่ยวข้องไม่ถูกกำหนดให้ต้องเรียกเก็บภาษี ตัวอย่างเช่น หากผู้ขายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้บริโภคหรืออยู่ภายใต้แผนธุรกิจขนาดเล็ก แพลตฟอร์มจะต้องเรียกเก็บและนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม กฎของผู้ที่ถือว่าเป็นซัพพลายเออร์จะไม่มีผลกับยอดขายที่ดําเนินการโดยธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้ สําหรับแพลตฟอร์มในภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กฎผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายสำหรับการขายสินค้าแบบ B2C ในสหภาพยุโรปโดยผู้ขายที่อยู่นอกสหภาพยุโรปจะมีผลกับการจัดหาสินค้าทั้งหมดภายในสหภาพยุโรป ไม่ว่าผู้ซื้อจะมีสถานะเป็นอะไรก็ตามและผู้จัดหาอยู่ที่ไหนก็ตาม กฎที่ได้รับการเสนอซึ่งเกี่ยวกับเศรษฐกิจของแพลตฟอร์มนี้จะมีผลบังคับใช้ในปี 2025 หากได้รับอนุมัติอย่างครบถ้วนจากทุกรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป

Stripe จะช่วยได้อย่างไร

Stripe อำนวยความสะดวกให้มาร์เก็ตเพลสสร้างและขยายธุรกิจการชําระเงินและบริการทางการเงินระดับโลกที่ทรงประสิทธิภาพได้ โดยใช้เวลาการทํางานน้อยลงและมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น Stripe Tax ลดความซับซ้อนในการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีทั่วโลก เพื่อให้คุณมีเวลาทุ่มเทกับการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต โดยระบบจะคํานวณและเก็บภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสินค้าและบริการโดยอัตโนมัติจากทั้งสินค้าที่จับต้องได้และสินค้าดิจิทัล รวมไปถึงบริการในทุกรัฐของสหรัฐอเมริกาและอีกกว่า 100 ประเทศ Stripe Tax สร้างขึ้นภายใน Stripe โดยเฉพาะ และช่วยให้คุณเริ่มใช้งานได้รวดเร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องมีการผสานการทํางานหรือใช้ปลั๊กอินของบริษัทอื่น

Stripe Tax ช่วยให้คุณดําเนินการดังต่อไปนี้ได้

  • ทําความเข้าใจว่าจะจดทะเบียนและเรียกเก็บภาษีที่ไหน ดูประเทศที่คุณต้องเรียกเก็บภาษีตามธุรกรรมใน Stripe และหลังจากจดทะเบียนแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้การเรียกเก็บภาษีในรัฐหรือประเทศใหม่ได้ในไม่กี่วินาที คุณเริ่มเรียกเก็บภาษีได้โดยเพิ่มโค้ดเพียงบรรทัดเดียวลงในการเชื่อมต่อการทํางาน Stripe ที่ใช้อยู่ หรือเพิ่มการเรียกเก็บภาษีลงในผลิตภัณฑ์ Stripe ที่ไม่ต้องใช้การเขียนโค้ด เช่น Invoicing ด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียว
  • จดทะเบียนชําระภาษี: ให้ Stripe จัดการการจดทะเบียนภาษีในสหรัฐอเมริกาแทนคุณ และรับประโยชน์จากขั้นตอนการกรอกรายละเอียดการสมัครล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาและมั่นใจถึงการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในแต่ละประเทศ
  • เรียกเก็บภาษีการขายโดยอัตโนมัติ: Stripe Tax คํานวณและเรียกเก็บเงินภาษีที่ค้างชําระไม่ว่าคุณจะจําหน่ายผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม รองรับผลิตภัณฑ์และบริการหลายร้อยรายการและคอยอัปเดตเกี่ยวกับกฎและการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษี
  • ทําให้การยื่นและนําส่งเป็นเรื่องง่าย: พาร์ทเนอร์ทั่วโลกที่เชื่อถือได้ของเราช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลธุรกรรมใน Stripe ของคุณ วางใจให้พาร์ทเนอร์ของเราจัดการการยื่นเอกสารเพื่อให้คุณมีเวลาไปมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Tax

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Tax

Tax

ช่วยให้คุณทราบพื้นที่ที่ต้องจดทะเบียน เรียกเก็บภาษีในจำนวนที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนเข้าถึงรายงานที่ใช้สำหรับยื่นเงินคืนภาษี

Stripe Docs เกี่ยวกับ Tax

เรียกเก็บภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ GST รวมทั้งสร้างรายงานธุรกรรมทั้งหมดของคุณแบบอัตโนมัติ พร้อมเชื่อมต่อระบบโดยเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องเขียนโค้ดเลย