ความท้าทาย
ผู้ค้าใน WooCommerce ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่นเดียวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าแบบไม่ต้องมีสต็อกไปจนถึงการขนส่งเพื่อเติมสินค้าอันซับซ้อน ซึ่งต้องใช้โซลูชันแบบปลั๊กอินด้านการชำระเงินที่ปรับแต่งได้ในระดับสูง
Payment Plugins เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมุ่งมั่งสร้างการเชื่อมต่อระบบแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ค้าจากหลากหลายธุรกิจบน WooCommerce ปลั๊กอินของบริษัทช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งขั้นตอนการประมวลผลการชำระเงินและประสบการณ์ของลูกค้าได้เมื่อธุรกิจขยายตัว
"เราพยายามลดการติดขัดในขั้นตอนการชำระเงินในทุกครั้งที่เราทำได้" Clayton Rogers ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Payment Plugins กล่าว
โซลูชัน
Payment Plugins เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe ในปี 2019 เนื่องจากมองเห็นคุณค่าในระบบพื้นฐานด้านการชำระเงินของ Stripe ที่ขยายขอบเขตและปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงสามารถจัดการธุรกรรมปริมาณมาก และช่วยให้ธุรกิจขยายการดำเนินงานด้านการประมวลผลการชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเมื่อมีการขยายกิจการ
"เราเห็นได้ทันทีว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากไลบรารีโค้ดของ Stripe มีคุณภาพและช่วยเราได้อย่างมากในกระบวนการพัฒนา" Rogers กล่าว
Payment Plugins ได้ใช้ Connect ในการเชื่อมต่อระบบการชำระเงินเข้ากับแพลตฟอร์มของตนหลังจากใช้การคัดลอกและวางคีย์ API เองเพื่อลิงก์ร้านค้าใน WooCommerce เข้ากับ Stripe โดย Rogers ระบุว่าการนำ Connect มาใช้งานนั้นได้สร้างประโยชน์ให้แก่แพลตฟอร์มเป็นอย่างมาก "เราสามารถดูข้อมูลบันทึกของผู้ค้าได้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในแง่ของการประหยัดเวลาและการแก้ไขปัญหา" Rogers กล่าว "นอกจากนี้โซลูชันนี้ยังเหมาะสำหรับการรายงานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราสามารถดูจำนวนครั้งในการเรียกใช้ API จากร้านค้า WooCommerce ไปยัง Stripe ที่สำเร็จและไม่สำเร็จได้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้เราตรวจสอบประสิทธิภาพจากโค้ดที่เรากำลังเปิดตัวได้จริงในฐานะนักพัฒนา
Payment Plugins เลือกใช้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพซึ่งประกอบด้วย Payment Element, วิธีการชำระเงินที่หลากหลายซึ่งจะแสดงขึ้นแบบไดนามิก และ Link ที่เป็นประสบการณ์การชำระเงินแบบด่วนที่ให้ลูกค้าจัดการรายละเอียดการชำระเงินที่บันทึกไว้ได้
Rogers กล่าวว่า Payment Plugins ตัดสินใจถูกต้องที่นำเสนอชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพ เนื่องจากชุดเครื่องมือนี้ช่วยสดการติดขัดในกระบวนการชำระเงินได้อย่างมาก "เมื่อใช้ Payment Element ผู้ค้าสามารถแสดงวิธีการชำระเงินที่เกี่ยวข้องที่สุดโดยไม่ต้องทำงานเพิ่มเติม" Rogers กล่าว "ซึ่งเป็นการลดความสับสนของผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี"
นอกจากนี้ ความสามารถในการรวมฟังก์ชันการรับการชำระเงินและการเคลื่อนย้านเงินไปทั่วโลกผ่าน API วิธีการชำระเงินอันทรงประสิทธิภาพของ Stripe รวมถึงชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพนั้นก็ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมักจะติดตั้งโซลูชันแยกกันเพื่อให้สามารถนำเสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย
"ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ คุณอาจร่วมงานกับบริษัทด้านการเชื่อมต่อระบบหลายๆ แห่งเหมือนบริษัทเราเพื่อมอบวิธีการชำระเงินที่แตกต่างกัน" Rogers กล่าว "วิธีนี้จัดการได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ชุดโค้ดที่แตกต่างกัน Stripe นำเสนอวิธีการชำระเงินเกือบทุกแบบที่คุณจะจินตนาหารได้ คุณจึงสามารถใช้โซลูชันเดียวสำหรับทั้งเว็บไซต์ได้
ผลลัพธ์
การสนับสนุนด้านวิธีการชำระเงินที่ดียิ่งขึ้น
ในฐานะนักพัฒนาปลั๊กอินการชำระเงินของ WooCommerce นั้น Payment Plugins เข้าใจดีเกี่ยวกับการปรับแต่งให้เข้ากับท้องถิ่นที่ทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
Stripe มีวิธีการชำระเงินที่แตกต่างกัน 27 แบบ ประกอบด้วย iDEAL, OXXO, GrabPay, Apple Pay และ Google Pay ผู้ค้าของ Payment Plugins ยังสามารถเพิ่มวิธีการชำระเงินส่วนใหญ่ได้โดยที่ไม่ต้องเขียนโค้ดผ่าน Payment Element
เมื่อล่าสุดนี้ Payment Plugins ได้เพิ่ม 3 วิธีการแบบ "ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง" (BNPL) อย่าง Affirm, Afterpay และ Klarna เพื่อให้ลูกค้าขยายวิธีการรับชำระเงินได้ในระยะยาว โดยผู้ค้าจะได้รับชำระเงินเป็นจำนวนเต็มล่วงหน้า (หักค่าธรรมเนียม)
ข้อมูลวิเคราะห์ของ Stripe ระบุว่าผู้ค้าของ Payment Plugin ที่ใช้วิธีการแบบ BNPL มียอดขายเพิ่มขึ้น 11% และมีจำนวนการซื้อเพิ่มขึ้น 10%
"วิธีการแบบ "ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง" ประสบความสำเร็จมาก" Rogers กล่าว "สมมติว่าคุณเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ 2 ล้านดอลลาร์ต่อวัน คุณก็จะทำรายได้มากขึ้นอีก 200,000 ดอลลาร์"
ปรับปรุงการชำระเงินผ่านธนาคาร
การชำระเงินผ่านธนาคารช่วยให้ลูกค้ามีตัวเลือกการชำระเงินที่มากขึ้นและลดการชำระเงินไม่สำเร็จซึ่งมักเกิดขึ้นกับบัตรที่หมดอายุ Financial Connections ที่มีการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ ACH ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการขยายกิจการของ Payment Plugins โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ Financial Connections ให้ลูกค้าเพิ่มบัญชีธนาคารและชำระเงินโดยไม่ต้องออกจากหน้าการชำระเงิน แทนที่จะต้องกรอกรายละเอียดบัญชีธนาคารเองและรอ 1-2 วันเพื่อยืนยันบัญชี
"หลังจากที่ใช้ Financial Connections แล้ว ลูกค้าก็สามารถเชื่อมโยงบัญชธนาคารได้อย่างราบรื่น ประสบการณ์การใช้งานก็เป็นไปอย่างปลอดภัยและง่ายดาย ช่วยให้เราลดอัตราการเลิกใช้งานกลางคันและเปลี่ยนผู้ใช้ที่ต้องการชำระเงินผ่านธนาคารมาเป็นลูกค้าได้มากขึ้น" Rogers กล่าว
การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe ช่วยให้ผู้ค้าของเราจัดการการชำระเงินผ่านระบบที่เชื่อมต่อเพียงระบบเดียวได้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและผลการปฏิบัติงานในฝั่งของผู้ค้าเอง