คุณอาจเคยได้ยินคำว่า "การชำระเงินผ่านบริการกันเงิน" มาบ้าง ในยุคนี้ที่อินเทอร์เน็ตแพร่หลายและธุรกรรมประเภทต่างๆ เช่น การซื้อสินค้าและบริการ ได้กลายเป็นระบบดิจิทัล
การชำระเงินผ่านบริการกันเงิน หมายถึง ระบบการรับและเบิกจ่ายเงินที่ช่วยให้คู่สัญญาในข้อตกลง ได้แก่ ผู้ขายและผู้ซื้อ สามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนด้วยความมั่นใจกันทั้งสองฝ่าย ตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อสินค้าผ่านธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) บนอินเทอร์เน็ต ลูกค้ามักกังวลว่าสินค้าจะมาถึงจริงหรือไม่หลังจากที่ชำระเงินแล้ว หรือกังวลว่าจะปลอดภัยหรือไม่ที่จะจ่ายเงินให้ผู้ขายตั้งแต่แรก ระบบที่มุ่งขจัดข้อกังวลเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินดังกล่าวนี้เรียกว่า "การชำระเงินผ่านบริการกันเงิน"
บทความนี้จะอธิบายหลักพื้นฐานของวิธีการนี้ ได้แก่ กลไกการทำงาน ประโยชน์หลัก และกรณีการใช้งานบางอย่าง
เนื้อหาหลักในบทความ
- การชำระเงินผ่านบริการกันเงินคืออะไร
- เหตุใดการชำระเงินผ่านบริการกันเงินจึงได้รับความสนใจ
- ข้อดีของการชำระเงินผ่านบริการกันเงิน
- กรณีศึกษาจากบริการที่ใช้การชำระเงินผ่านบริการกันเงิน
- สร้างความมั่นใจว่าทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ยุติธรรม และโปร่งใส
- Stripe Connect ช่วยอะไรได้บ้าง
การชำระเงินผ่านบริการกันเงินคืออะไร
ตามที่อธิบายไปข้างต้น โมเดลนี้หมายถึงระบบสำหรับการโอนเงินระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของการแลกเปลี่ยน
ในการทำธุรกิจ หน่วยงานภายนอกที่เป็นกลางซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้รับฝากจะเรียกว่า "คนกลาง" หรือ "ผู้ให้บริการกันเงิน" คำนี้มักใช้ในธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ผู้ซื้อมอบความไว้วางใจในการฝากเงินซื้อไว้กับสถาบันบุคคลที่สามที่เป็นกลาง ส่วนผู้ขายฝากเอกสาร เช่น โฉนดที่ดิน ไว้กับสถาบันเดียวกัน กล่าวอีกอย่างก็คือ เนื่องจากไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย และการแลกเปลี่ยนดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่คนกลางอิสระซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างสองฝ่าย แต่ละฝ่ายจึงสามารถดำเนินการขายได้อย่างสะดวกสบายแม้ว่าจะยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อกันมากพอ อย่างเช่นในกรณีที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ที่คุณเพิ่งทำธุรกิจด้วยเป็นครั้งแรก
บทบาทของเจ้าหน้าที่คนกลางในการทำธุรกรรมออนไลน์นั้นคล้ายกับบทบาทในการขายอสังหาริมทรัพย์ ก็คือว่า ผู้ประสานงานจะรับเงินจากผู้ซื้อในตอนแรก เงินที่ผู้ประสานงานถือไว้นี้จะถูกปล่อยให้ผู้ขายทันทีหลังจากที่ผู้ซื้อยืนยันว่าได้รับสินค้าโดยไม่มีปัญหาใดๆ ด้วยวิธีนี้ การใช้บริการกันเงินในอีคอมเมิร์ซจะช่วยให้ธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ เช่น การชำระเงินที่ยังไม่ได้เรียกเก็บและสินค้าที่ยังไม่ได้จัดส่ง
วิธีการทำงาน
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การชำระเงินผ่านบริการกันเงินพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการแลกเปลี่ยนเชิงพาณิชย์ โดยทั่วไปแล้ว ธุรกรรมจะดำเนินไปตามหกขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้
- การทำธุรกรรมให้สมบูรณ์: ผู้ขายและผู้ซื้อดำเนินการซื้อขาย
- การชำระเงินโดยผู้ซื้อ: ผู้ซื้อฝากเงินซื้อไว้กับผู้ให้บริการกันเงิน
- การแจ้งเตือนว่ามีเงินฝากเข้า: ผู้ให้บริการกันเงินแจ้งให้ผู้ขายทราบว่าผู้ซื้อได้ชำระเงินแล้ว
- การจัดส่งและรับสินค้า: ผู้ขายจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ และผู้ซื้อได้รับสินค้า
- การแจ้งเตือนว่าได้รับสินค้า: ผู้ซื้อแจ้งผู้ให้บริการกันเงินทราบว่าสินค้ามาถึงโดยไม่เกิดเหตุผิดพลาด
- การชำระเงินให้ผู้ขาย: ผู้ให้บริการกันเงินโอนเงินจากผู้ซื้อตนที่ถือไว้ให้ผู้ขาย
เหตุใดการชำระเงินผ่านบริการกันเงินจึงได้รับความสนใจ
บริการกันเงินได้รับความสนใจไม่เพียงแต่ในธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) แต่ยังได้รับความสนใจเป็นวงกว้างเนื่องจากซื้อขายออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแลกเปลี่ยนแบบ C2C ในการทำธุรกรรมแบบ C2C ระหว่างบุคคลทั่วไป เช่น ที่ตลาดนัดและการประมูล ผู้ขายมักเผชิญกับความเสี่ยง เช่น การไม่ชำระเงิน ขณะที่ผู้ซื้อมักประสบปัญหาอย่างเช่น สินค้าไม่ได้รับการจัดส่งหรือสินค้ามีข้อบกพร่อง ซึ่งบริการกันเงินของบุคคลที่สามจะช่วยแก้ไขข้อกังวลของแต่ละฝ่าย และช่วยให้ข้อตกลงดำเนินไปอย่างราบรื่นและเกิดความเชื่อมั่น
ข้อดีของการชำระเงินผ่านบริการกันเงิน
มั่นใจว่าทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย
คุณได้ทราบแล้วว่า ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุดของโมเดลนี้คือ การช่วยให้แต่ละฝ่ายสามารถทำธุรกรรมได้ปลอดภัยอย่างยิ่ง
ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ผู้ซื้อได้รับสินค้าและยืนยันว่าไม่มีปัญหา เจ้าหน้าที่คนกลางก็จะโอนเงินนำส่งให้ผู้ขาย แต่ถ้าสินค้าที่ได้รับแตกต่างจากสินค้าที่สั่งซื้อหรือมีข้อบกพร่อง ผู้ซื้อสามารถยื่นโต้แย้งต่อผู้ให้บริการกันเงินได้
เมื่อสินค้าได้รับการยืนยันว่าปราศจากข้อบกพร่องแล้ว ผู้ขายจะได้รับเงินเบิกจ่ายตามที่รับประกัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะไม่ชำระเงิน
ความโปร่งใสของรายละเอียดในสัญญา
เมื่อใช้ระบบบริการกันเงิน ผู้ที่สามารถดูรายละเอียดในสัญญาไม่ได้มีเฉพาะผู้ขายและผู้ซื้อเท่านั้น แต่บุคคลที่สามก็สามารถดูได้เช่นกัน เพื่อให้มั่นใจถึงความโปร่งใสของข้อกำหนด การรับประกันความเป็นธรรมของธุรกรรมทำให้ผู้ให้บริการกันเงินสามารถปกป้องผู้เข้าทำสัญญาแต่ละฝ่ายจากปัญหาที่ไม่คาดคิด
ตัวอย่างเช่น แม้ว่าบริการกันเงินเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่แพร่หลายในญี่ปุ่น แต่กลับมีความสำคัญในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับการทำธุรกรรมมูลค่าสูงๆ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยบริการดังกล่าวช่วยให้ขั้นตอนการทำสัญญามีความโปร่งใสและเป็นธรรมมาก
ป้องกันปัญหาได้
เป้าหมายคือเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนทุกรูปแบบ เช่น ความเข้าใจผิดที่เกิดจากจำนวนธุรกรรมหรือกำหนดเวลาการชำระเงินอันเนื่องมาจากการสื่อสารโดยขาดความระมัดระวังระหว่างผู้เข้าทำสัญญาแต่ละฝ่าย หรือสาเหตุอื่นๆ เมื่อคู่สัญญาใช้วิธีชำระเงินผ่านบริการกันเงิน ผู้ให้บริการกันเงินที่เป็นบุคคลที่สามจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อป้องกันการเกิดข้อพิพาทระหว่างกัน นอกจากนี้ในกรณีที่เกิดปัญหาที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น ผู้ให้บริการจะทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นกลางและเหมาะสมในการแก้ไขปัญหา
กรณีศึกษาจากบริการที่ใช้การชำระเงินผ่านบริการกันเงิน
ตอนนี้เรามองเห็นภาพรวมแล้วว่าโมเดลนี้ทำงานอย่างไรในทางปฏิบัติ ต่อไปเราจะมาดูกรณีศึกษาจากบริการต่างๆ ที่นำแนวทางนี้ไปใช้จริงในปัจจุบันกัน
Mercari
Mercari ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซมอลล์แบบเช่าพื้นที่และเป็นผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส C2C ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้นำระบบชำระเงินผ่านบริการกันเงินมาใช้ โดยนอกจากการลงประกาศขายแบบกำหนดราคาตายตัวในรูปแบบตลาดนัดแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ Mercari ยังได้เพิ่มรูปแบบการขายแบบประมูลเข้าไป เพื่อให้ผู้ขายสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะกับความต้องการของตนเองที่สุดได้
โดยทั่วไป ในสถานการณ์ที่บุคคลทั่วไปซื้อขายผลิตภัณฑ์กันโดยตรง เช่น ในตลาดนัดแลกเปลี่ยนสินค้าหรือการขายสินค้าแบบประมูล ก็มักมีความเสี่ยงอยู่ และยังมีโอกาสที่จะไม่ได้รับสินค้าหรือว่าสินค้าที่มาถึงได้รับเสียหายด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ซื้อซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มนี้ Mercari จะพักเงินที่ชำระไว้ชั่วคราว และผู้ขายจะได้รับเงินหลังจากยืนยันการจัดส่งแล้วเท่านั้น
เมื่อนำระบบบริการกันเงินมาใช้ Mercari ประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ เช่น ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่มีข้อบกพร่องหรือสินค้าลอกเลียนแบบ และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้
Buttask
Buttask เป็นแพลตฟอร์มหาคนที่ช่วยให้ผู้คนค้นหานักบวชที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพิธีการทางพุทธศาสนา เช่น พิธีรำลึกหรืองานศพ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อย่างเช่น การปัดเป่าความโชคร้ายและการสวดมนต์ Buttask ก็ใช้วิธีชำระเงินผ่านบริการกันเงินเช่นกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดความยุ่งยากในการหาพระสงฆ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน แพลตฟอร์มนี้จะค้นหาพระสงฆ์ที่เหมาะกับผู้ใช้โดยพิจารณาตามเกณฑ์ต่างๆ เช่น กิจกรรมทางกฎหมาย นิกาย สถานที่ แนวทางการบริจาค ทักษะ และบุคลิกภาพ
หลังจากยืนยันการจับคู่แล้ว ผู้ประสานงานจะประมวลผลการเรียกเก็บเงินผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงินผ่านธนาคาร หลังจากตรวจสอบยืนยันว่าพระสงฆ์ดำเนินกิจกรรมทางกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว แพลตฟอร์มจึงจะจ่ายเงินให้พระรูปนั้น
สร้างความมั่นใจว่าทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ยุติธรรม และโปร่งใส
เราได้อธิบายกระบวนการทำงานของบริการกันเงิน ข้อดี และกรณีศึกษาส่วนหนึ่งจากบริการที่ใช้ระบบนี้ไปแล้ว
กรอบการทำงานของบริการกันเงินทำหน้าที่ป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญา เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความยุติธรรมสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายเมื่อมีการซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ ตลอดจนเกิดความโปร่งใสด้านรายละเอียดการทำธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการแลกเปลี่ยนครั้งแรก ผู้ใช้ย่อมรู้สึกไม่สบายใจที่จะดำเนินการโดยไม่มีผู้ประสานงานจากภายนอก คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าแพลตฟอร์มบริการกันเงินที่มีบุคคลผู้เป็นกลางทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยนั้น อาจเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซขยายตัวและพฤติกรรมการซื้อมีความหลากหลาย ความต้องการด้านการชำระเงินผ่านบริการกันเงินสำหรับการชำระเงินออนไลน์ยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นธุรกิจที่ยังไม่ได้นำวิธีนี้มาใช้แต่ว่าต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและความไว้วางใจของผู้ใช้ผ่านแนวทางที่ใช้หลากหลายวิธีการรวมกัน ก็อาจลองพิจารณาเลือกใช้บริการนี้ได้
Stripe Connect จะช่วยได้อย่างไร
Stripe Connect จะจัดการในการรับส่งเงินระหว่างหลายฝ่ายสำหรับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์และมาร์เก็ตเพลส โดยมีกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่รวดเร็ว มีองค์ประกอบแบบผสานรวม มีการเบิกจ่ายทั่วโลก และอื่นๆ อีกมากมาย
Connect สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้
- เปิดตัวได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ใช้ฟังก์ชันที่จัดการอัตโนมัติโดย Stripe หรือแบบผสานรวมเพื่อให้เริ่มให้บริการได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าหรือเสียเวลาไปกับการพัฒนาระบบที่มักต้องใช้สำหรับการให้บริการสนับสนุนด้านการชำระเงิน
- จัดการการชำระเงินจำนวนมาก: ใช้เครื่องมือและบริการจาก Stripe แล้วไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรเพิ่มเติมไปกับการรายงานส่วนต่างกำไร แบบฟอร์มภาษี ความเสี่ยง วิธีการชำระเงินทั่วโลก หรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน
- ขยายธุรกิจไปทั่วโลก: ช่วยให้ผู้ใช้ของคุณเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้นด้วยวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นและความสามารถในการคำนวณภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ GST ได้อย่างง่ายดาย
- สร้างช่องทางรายรับใหม่ๆ: เพิ่มประสิทธิภาพให้รายรับจากการชำระเงินด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมแต่ละรายการ สร้างรายได้จากความสามารถของ Stripe ด้วยการเปิดใช้การชำระเงินที่จุดขาย การเบิกจ่ายทันที การเรียกเก็บภาษีการขาย การจัดหาเงินทุน บัตรชำระค่าใช้จ่าย และอื่นๆ อีกมากมายบนแพลตฟอร์มของคุณ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Connect หรือเริ่มใช้งานวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ