ไปป์ไลน์คลังข้อมูลคลาวด์: ทีมยุคใหม่ดูแลข้อมูลให้ใหม่และพร้อมใช้งานได้อย่างไร

Data Pipeline

Stripe Data Pipeline ส่งข้อมูลและรายงานของ Stripe ล่าสุดทั้งหมดไปยัง Snowflake หรือ Amazon Redshift ได้ในไม่กี่คลิก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. คลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร
  3. คลังข้อมูลคลาวด์ทำงานอย่างไร
    1. การนำเข้าข้อมูล
    2. การจัดระเบียบข้อมูล
    3. การคำนวณและการประมวลผล
  4. ไปป์ไลน์ข้อมูลขับเคลื่อนคลังข้อมูลคลาวด์อย่างไร
  5. ปัญหาทางธุรกิจใดที่คลังข้อมูลคลาวด์แก้ไขได้
    1. ข้อมูลที่กระจัดกระจายและไม่เชื่อมต่อกัน
    2. การวิเคราะห์ที่ช้าและไม่น่าเชื่อถือ
    3. ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและการบำรุงรักษาที่สูง
    4. การเข้าถึงและการทำงานร่วมกันที่จำกัด
  6. ฟีเจอร์หลักของคลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร
    1. ความสามารถในการขยาย
    2. การแยกพื้นที่จัดเก็บและการประมวลผล
    3. การประมวลผลแบบขนานขนาดใหญ่
    4. ค่าบริการแบบชําระเงินตามการใช้งาน
    5. ความพร้อมใช้งานสูงและการบำรุงรักษาต่ำ
    6. ระบบความปลอดภัยในตัว
    7. การผสานการทำงานที่ง่ายขึ้น

คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลให้กับธุรกิจยุคใหม่ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและมองเห็นข้อมูลเชิงลึกได้ชัดเจนขึ้น คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยรวบรวมข้อมูลภายในองค์กร เรียกใช้การวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และให้ทีมได้คำตอบที่แม่นยำโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัย การให้บริการคลังข้อมูล (DWaaS) เป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังเติบโต โดยขนาดของตลาด DWaaS ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.85 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น 8.13 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายว่าคลังข้อมูลคลาวด์ทำงานอย่างไร ปัญหาที่ช่วยแก้ได้คืออะไร และควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อเลือกผู้ให้บริการ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • คลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร
  • คลังข้อมูลคลาวด์ทำงานอย่างไร
  • ไปป์ไลน์ข้อมูลขับเคลื่อนคลังข้อมูลคลาวด์อย่างไร
  • ปัญหาทางธุรกิจใดที่คลังข้อมูลคลาวด์แก้ไขได้
  • ฟีเจอร์หลักของคลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร

คลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร

คลังข้อมูลคลาวด์คือพื้นที่กลางสำหรับจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล คลังดังกล่าวจะอยู่บนคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าทีมของคุณสามารถเข้าถึงและทำงานกับข้อมูลจากที่ใดก็ได้ และคุณไม่จำเป็นต้องดูแลโครงสร้างพื้นฐานใดๆ เอง

หลักการคือการดึงข้อมูลจากทั่วทั้งธุรกิจของคุณ (เช่น การขาย การตลาด การสนับสนุนลูกค้า การเงิน) และเก็บไว้ในพื้นที่เดียวที่สร้างขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ ข้อมูลนั้นอาจมาจากระบบการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) แพลตฟอร์มการวิเคราะห์เว็บ บันทึกการใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือฐานข้อมูลภายใน คลังจะนำเข้าข้อมูลทั้งหมดและจัดระเบียบเพื่อให้พร้อมสำหรับการส่งคำขอข้อมูลและการรายงาน

คลังข้อมูลคลาวด์ขยายการทำงานไปพร้อมๆ กับคุณได้ ซึ่งแตกต่างจากคลังข้อมูลแบบเดิมที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์จริงในสำนักงานของคุณ หากคุณเริ่มใช้งานกับข้อมูลหลักล้านแถวแต่ขยายขอบเขตไปเป็นหลักพันล้าน แพลตฟอร์มก็จะขยายการทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อรองรับข้อมูลทั้งหมด เท่ากับว่าคุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ใหม่หรือแก้ไขสถาปัตยกรรมของคุณ

คุณยังสามารถรับข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลของคุณได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย คลังข้อมูลคลาวด์ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถกรอง จัดกลุ่ม รวม และคำนวณในชุดข้อมูลขนาดใหญ่ต่างๆ ได้โดยไม่ฉุดให้การทำงานช้าลง

คลังข้อมูลคลาวด์ทำงานอย่างไร

คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยเปลี่ยนข้อมูลดิบที่กระจัดกระจายให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่จัดโครงสร้างไว้อย่างดี พร้อมสำหรับการส่งคำขอข้อมูล ทีมส่วนใหญ่จะใช้งานคลังโดยการเขียนคำขอด้วยภาษาสืบค้นแบบมีโครงสร้าง (SQL) โดยตรง หรือเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มปลายทาง เช่น Looker, Tableau, Mode หรือแอปภายในผ่านไดรเวอร์และอินเทอร์เฟซตั้งโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) มาตรฐาน

นี่คือกระบวนการเบื้องหลังที่ทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำเข้าข้อมูล

คุณดึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ (เช่น แพลตฟอร์ม CRM, เว็บแอป หรือเครื่องมือด้านการเงิน) แล้วนำเข้าสู่คลังผ่านขั้นตอน ETL (ดึงข้อมูล, แปลงข้อมูล, โหลดข้อมูล) หรือ ELT (ดึงข้อมูล, โหลดข้อมูล, แปลงข้อมูล) รายละเอียดแต่ละขั้นตอนมีดังนี้

  • Extract: (ดึงข้อมูล) คุณจะดึงข้อมูลดิบจากแหล่งต้นทาง

  • Transform: (แปลงข้อมูล) คุณสะสาง ปรับรูปแบบ และทำให้ข้อมูลเป็นมาตรฐาน

  • Load: (โหลดข้อมูล) คุณจะย้ายข้อมูลไปยังคลัง

การจัดระเบียบข้อมูล

เมื่อโหลดข้อมูลแล้ว ข้อมูลจะถูกจัดเก็บในโครงสร้างที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อการวิเคราะห์ คลังข้อมูลคลาวด์ส่วนใหญ่ใช้การจัดเก็บข้อมูลแบบแบ่งคอลัมน์ ซึ่งหมายถึงการจัดเรียงข้อมูลตามคอลัมน์แทนที่จะเป็นแถว วิธีนี้ทำให้การสแกนและกรองข้อมูลจำนวนมากทำได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการดูเพียงครั้งละไม่กี่คอลัมน์

พื้นที่จัดเก็บจะถูกกระจายไปอยู่ในเครื่องหลายเครื่องในคลาวด์ สิ่งนี้ทำให้ระบบมีความสามารถในการขยายการทำงานในแง่จำนวนทรัพยากร โดยคุณสามารถจัดเก็บข้อมูลเป็นเทราไบต์ (TB) หรือเพตาไบต์ (PB) ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่า นอกจากนี้ ยังหมายความว่าระบบสามารถทำซ้ำและแบ่งข้อมูลเบื้องหลังเพื่อการเรียกดูที่เร็วขึ้นได้ด้วย คลังข้อมูลจะจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล ความซ้ำซ้อนของข้อมูล และการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เก็บข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ

การคำนวณและการประมวลผล

เมื่อคุณถามคลังด้วยคำถามผ่าน SQL หรือเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ (BI) ระบบจะแบ่งคำขอออกเป็นหลายโหนดการประมวลผลคู่ขนานกันไป สิ่งนี้เรียกว่าการประมวลผลแบบขนานขนาดใหญ่ (MPP) และเป็นสิ่งที่ทำให้คลังข้อมูลคลาวด์สามารถทำการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและขยายการทำงานได้

ระบบจะจัดสรรความสามารถในการประมวลผลเพื่อเรียกใช้คำขอของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นก็ปิดระบบเมื่อดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว หากหลายทีมกำลังส่งคำขอข้อมูลในเวลาเดียวกัน แพลตฟอร์มสามารถแยกภาระงานหรือเปิดคลัสเตอร์เพิ่มเติมเพื่อรักษาประสิทธิภาพให้คงที่ไว้ได้ การจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลแยกขาดจากกัน ทำให้สามารถขยายการทำงานแต่ละส่วนได้อย่างอิสระ คำขอที่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำงานบนระบบเก่า สามารถตอบกลับได้ในไม่กี่วินาที แม้ว่าจะต้องดูข้อมูลหลายพันล้านแถวหรือรวมตารางขนาดใหญ่หลายๆ ตารางก็ตาม

ไปป์ไลน์ข้อมูลขับเคลื่อนคลังข้อมูลคลาวด์อย่างไร

คลังข้อมูลคลาวด์จะมีประโยชน์เมื่อข้อมูลที่ไหลเข้าสู่คลังนั้นเป็นประโยชน์เท่านั้น นั่นคือจุดที่ไปป์ไลน์ข้อมูลจะเข้ามามีบทบาท ไปป์ไลน์ข้อมูลจะย้ายข้อมูลจากจุดที่สร้างข้อมูลขึ้น (ได้แก่ แอปของคุณ ฐานข้อมูล และเครื่องมือภายนอก) ไปยังคลัง ซึ่งสามารถส่งคำขอข้อมูลและวิเคราะห์ได้ ไปป์ไลน์จะจัดการขั้นตอน ETL หรือ ELT โดยการดึงข้อมูลจากระบบต้นทาง แปลงหรือสะสางข้อมูลนั้น และโหลดเข้าไปในคลัง บางไปป์ไลน์จะทำงานตามกำหนดเวลา โดยจะดึงข้อมูลทุกชั่วโมงหรือวันละครั้ง ส่วนไปป์ไลน์อื่นๆ ก็จะมีหน้าที่ย้ายข้อมูลอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ การทำงานทั้งสองรูปแบบนี้ล้วนมีเป้าหมายเพื่อรับรองว่าคลังจะสะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของธุรกิจอยู่เสมอ

ไปป์ไลน์ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีช่วยดูแลข้อมูลให้เคลื่อนย้ายได้อย่างเรียบร้อย สม่ำเสมอ และตรงเวลา โดยจะรับรองว่าธุรกรรม เหตุการณ์ และการอัปเดตใหม่ๆ จะปรากฏในคลังโดยมีความล่าช้าน้อยที่สุด และไปป์ไลน์จะจัดรูปแบบข้อมูลให้นักวิเคราะห์ด้วย ไปป์ไลน์ข้อมูลช่วยลดความเสี่ยงของความไม่สอดคล้องหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์ และยังขยายตัวโดยอัตโนมัติได้ตามปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

ในอดีต ทีมงานมักจะสร้างไปป์ไลน์ด้วยตนเอง เช่น เขียนสคริปต์ กำหนดตารางงาน และจัดการการลองใหม่และความล้มเหลว วิธีการนั้นมีประสิทธิภาพเพียงระยะหนึ่ง แต่ก็เปราะบางและการบำรุงรักษาต้องใช้เวลามาก ในปัจจุบัน คลังข้อมูลคลาวด์หลายแห่งผสานการทำงานโดยตรงกับแอปและบริการยอดนิยมผ่านตัวเชื่อมต่อที่สร้างไว้ล่วงหน้าหรือไปป์ไลน์ในตัว สิ่งนี้ทำให้ตั้งค่าคลังข้อมูลได้ง่ายขึ้นและทำงานอย่างเชื่อถือได้มากขึ้น Stripe Data Pipeline ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ เพราะจะซิงค์ข้อมูล Stripe โดยตรงไปยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลปลายทางของคุณ ข้อมูล Stripe จะเข้ามาสู่ระบบอย่างเป็นระเบียบ เป็นปัจจุบัน และพร้อมให้ส่งคำขอข้อมูล

ไปป์ไลน์ทำให้คลังข้อมูลของคุณมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เพราะจะรีเฟรชอย่างสม่ำเสมอและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ไม่ว่าข้อมูลต้นทางของคุณจะอยู่ในเครื่องมือการให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS) ฐานข้อมูลขั้นใช้งานจริง หรือสตรีมเหตุการณ์ก็ตาม ไปป์ไลน์ก็ช่วยให้เคลื่อนย้ายข้อมูลได้อย่างลื่นไหล

ปัญหาทางธุรกิจใดที่คลังข้อมูลคลาวด์แก้ไขได้

คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยแก้ปัญหาที่สะสมมานานและเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจได้โดยใช้ข้อมูล แพลตฟอร์มเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขความติดขัดที่ทำให้ทีมทำงานได้ช้าลง และมองไม่เห็นภาพรวมของข้อมูล นี่คือจุดที่คลังข้อมูลคลาวด์สร้างความแตกต่างได้มากที่สุด

ข้อมูลที่กระจัดกระจายและไม่เชื่อมต่อกัน

องค์กรส่วนใหญ่มักมีข้อมูลกระจายอยู่ในหลายระบบ เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงินอยู่ที่หนึ่ง ข้อมูลการโต้ตอบกับลูกค้าอยู่อีกที่หนึ่ง และข้อมูลการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ก็แยกอยู่อีกระบบ เมื่อข้อมูลถูกเก็บแบบแยกส่วน การมองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างครบถ้วนและเชื่อถือได้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากทุกส่วนของระบบมาไว้ในระบบที่ผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว การรวมศูนย์ข้อมูลเช่นนี้ช่วยให้ทีมสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ได้ (เช่น ประสิทธิภาพของแคมเปญและอัตราการปิดการขาย) จึงมองเห็นรูปแบบที่เกิดซ้ำๆ และตัดสินใจได้ดีขึ้น วิธีนี้ช่วยลดข้อจำกัดด้านเทคนิคและโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ข้อมูลเชิงลึกถูกจัดเก็บอย่างกระจัดกระจายกันได้

การวิเคราะห์ที่ช้าและไม่น่าเชื่อถือ

ฐานข้อมูลแบบเดิมและระบบในองค์กร (on-premise) ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์หรือภาระงานการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบเหล่านี้มักประสบปัญหาเมื่อต้องรวมข้อมูลขนาดใหญ่ เรียกใช้คำสั่งที่ซับซ้อนแล้วหมดเวลาประมวลผลกลางทาง หรือจำเป็นต้องประมวลผลแบบหลายรายการข้ามคืนเพียงเพื่อสร้างรายงานประจำสัปดาห์

คลังข้อมูลคลาวด์ช่วยพลิกโฉมวิธีการทำงานนั้น คลังข้อมูลคลาวด์ถูกออกแบบมาให้รองรับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและมีความเสถียร ด้วยการประมวลผลแบบกระจายและการจัดเก็บข้อมูลแบบคอลัมน์ ระบบจึงสามารถแสดงผลลัพธ์ได้ภายในไม่กี่วินาที แม้ต้องดูข้อมูลหลักพันล้านแถวก็ตาม นั่นหมายถึงการลดปัญหาคอขวดระหว่างคำถามกับข้อมูลเชิงลึก และช่วยให้ทีมไม่ต้องเสียเวลารอให้ทีมข้อมูลเรียกใช้รายงานอีกต่อไป

ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและการบำรุงรักษาที่สูง

ในการใช้คลังข้อมูลแบบดั้งเดิมภายในองค์กร คุณจะต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์ จัดหาพื้นที่จัดเก็บ ติดตั้งซอฟต์แวร์ กำหนดค่าความปลอดภัย จ้างผู้เชี่ยวชาญมาบำรุงรักษาคลัง และต้องทำกระบวนการทั้งหมดนี้ซ้ำๆ เมื่อธุรกิจขยายตัวขึ้น วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ขาดความยืดหยุ่น และใช้แรงงานมาก

คลังข้อมูลคลาวด์จัดการขั้นตอนทั้งหมดนั้นให้คุณ ไม่ต้องจัดการฮาร์ดแวร์ ไม่ต้องหยุดระบบเพื่อบำรุงรักษา และไม่มีข้อจำกัดในการจัดสรรทรัพยากร คุณจ่ายเฉพาะสำหรับพื้นที่จัดเก็บและการประมวลผลที่คุณใช้ และแพลตฟอร์มจะปรับขนาดโดยอัตโนมัติตามความต้องการข้อมูลที่เปลี่ยนไปของคุณ นี่เป็นวิธีที่ยั่งยืนกว่าในการสนับสนุนกลยุทธ์ด้านข้อมูล โดยเฉพาะสำหรับทีมที่ต้องการขยายการทำงานโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานซ้ำๆ

การเข้าถึงและการทำงานร่วมกันที่จำกัด

เมื่อการเข้าถึงข้อมูลทำได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะข้อมูลติดอยู่ในระบบเดิม ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค หรือเปิดให้ใช้งานได้เฉพาะผู้ใช้บางกลุ่ม ข้อมูลนั้นก็มักจะไม่ได้ถูกนำมาใช้จริง การทำงานร่วมกันก็สะดุดลง และการตัดสินใจมักอาศัยสัญชาตญาณมากกว่าหลักฐาน

คลังข้อมูลคลาวด์สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ โดยผู้ที่มีสิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ทีมข้ามสายงานสามารถสำรวจข้อมูลผ่านแดชบอร์ดร่วมกัน หรือวิเคราะห์ข้อมูลเองได้ง่ายขึ้น การเงิน, การตลาด, และการดำเนินงานทั้งหมดจะทำงานจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเดียวกันทั้งหมด การเข้าถึงข้อมูลในลักษณะนี้ช่วยลดอุปสรรคในการตัดสินใจ และส่งเสริมให้ทั้งองค์กรขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น

ฟีเจอร์หลักของคลังข้อมูลคลาวด์คืออะไร

ประโยชน์ของคลังข้อมูลคลาวด์ได้มาจากความสามารถหลักหลายประการที่ประสานการทำงานกันเพื่อสนับสนุนความเร็ว การขยายธุรกิจ และการใช้งาน นี่คือฟีเจอร์หลักที่ควรมองหา

ความสามารถในการขยาย

โครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลแบบดั้งเดิมมีขีดจำกัดที่ตายตัว คุณจะได้รับพื้นที่จัดเก็บและความสามารถในการประมวลผลตามที่กำหนดไว้ และเมื่อต้องการใช้งานมากขึ้น ระบบก็อาจช้าลงหรือขัดข้อง คลังข้อมูลคลาวด์ถูกออกแบบมาให้ขยายตัวได้อย่างยืดหยุ่น

  • หากคุณต้องความสามารถในการประมวลผลเพิ่มเพื่อเรียกใช้การส่งคำขอข้อมูลบางประการ คลังจะใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม

  • หากคุณกำลังโหลดชุดข้อมูลขนาดใหญ่ พื้นที่จัดเก็บจะขยายการทำงานโดยอัตโนมัติ

  • หากการใช้งานลดลง ความจุก็จะลดลงและคุณจะไม่ต้องชำระเงินให้กับทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้งาน

ความยืดหยุ่นนี้เอื้อให้คุณสามารถเริ่มต้นทำงานในขอบเขตเล็กๆ ได้ โดยสามารถขยายการทำงานได้รวดเร็ว และไม่ต้องออกแบบระบบใหม่ตามปริมาณที่ต้องใช้งาน

การแยกพื้นที่จัดเก็บและการประมวลผล

ระบบข้อมูลเก่าๆ มักจะเชื่อมโยงพื้นที่จัดเก็บและความสามารถในการประมวลผลเข้าด้วยกัน นั่นหมายความว่าหากคุณต้องการความสามารถในการประมวลผลมากขึ้น คุณก็ต้องซื้อพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องใช้ก็ตาม คลังข้อมูลคลาวด์จะแยกชั้นการทำงานเหล่านี้ออกจากกันเพื่อให้สามารถขยายการทำงานแต่ละส่วนแยกจากกันได้ คุณสามารถเพิ่มความสามารถในการสืบค้นได้โดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่ดิสก์ และก็เพิ่มพื้นที่ดิสก์ได้โดยไม่ต้องเพิ่มการสืบค้นเช่นกัน การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้ค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับการใช้งานจริง

การประมวลผลแบบขนานขนาดใหญ่

คลังข้อมูลคลาวด์ใช้สถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบกระจาย โดยแบ่งคำขอออกเป็นงานย่อย แล้วประมวลผลพร้อมกันผ่านหลายโหนด การประมวลผลคู่ขนานนี้ช่วยให้สามารถเรียกใช้คำขอที่ซับซ้อนบนชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว วิธีนี้ทำให้ทีมสามารถดูข้อมูลนับพันล้านแถว เชื่อมตารางหลายชุด และได้คำตอบภายในไม่กี่วินาที แทนที่จะต้องรอนานเป็นนาทีหรือชั่วโมง

ค่าบริการแบบชําระเงินตามการใช้งาน

คุณจ่ายเฉพาะส่วนที่ใช้งานจริงเท่านั้น นั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูลจะขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลที่คุณจัดเก็บไว้ในระบบ ส่วนค่าใช้จ่ายในการประมวลผลจะขึ้นอยู่กับจำนวนคำขอที่เรียกใช้ รวมถึงความซับซ้อนของคำสั่งเหล่านั้นด้วย โมเดลการชำระเงินตามการใช้งานนี้ให้การควบคุมทางการเงินและความสามารถในการคาดการณ์ที่ดีกว่าสำหรับทีมที่คุ้นเคยกับการจ่ายเงินซื้อฮาร์ดแวร์ล่วงหน้าก้อนใหญ่หรือซื้อสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ระยะยาวอยู่แล้ว

ความพร้อมใช้งานสูงและการบำรุงรักษาต่ำ

คลังข้อมูลคลาวด์จะดูแลการทำงานเบื้องหลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความซ้ำซ้อนของข้อมูล การรับมือต่อข้อผิดพลาด การอัปเดต รวมถึงระยะเวลาให้บริการ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บกระจายไว้ในหลายตำแหน่งที่ตั้งเพื่อความคงทนต่อความเสียหาย และระบบถูกออกแบบให้กู้คืนการทำงานได้เองเมื่อเกิดปัญหา ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลเรื่องการแพตช์ระบบ ความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ และการรีบูตระบบทั้งหมด คุณจะได้รับความเสถียรในระดับเดียวกับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร โดยไม่ต้องแบกรับภาระงานเพิ่มเติม

ระบบความปลอดภัยในตัว

การเข้ารหัสคุณภาพระดับองค์กร การควบคุมการเข้าถึงที่ละเอียด บันทึกการตรวจสอบ และเครื่องมือการปฏิบัติตามข้อกำหนดถือเป็นคุณสมบัติมาตรฐาน ทีมสามารถควบคุมได้ว่าใครจะเห็นข้อมูลอะไรบ้าง ติดตามการใช้งานข้อมูล และปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านระเบียบข้อบังคับได้ โดยไม่ต้องสร้างระบบความปลอดภัยชั้นต่างๆ ขึ้นมาเอง

การผสานการทำงานที่ง่ายขึ้น

คลังข้อมูลคลาวด์มีอินเทอร์เฟซมาตรฐานที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม BI, เครื่องมือวิเคราะห์, โน้ตบุ๊กสำหรับการเขียนโค้ด และแอปพลิเคชันภายในได้ คลังข้อมูลได้รับการออกแบบมาให้ทีมต่างๆ ใช้งานร่วมกันได้ พร้อมฟีเจอร์ เช่น การแยกภาระงานและการขยายทรัพยากร เพื่อรักษาประสิทธิภาพให้คงที่แม้ปริมาณการใช้งานจะเพิ่มขึ้น

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ

Data Pipeline

Stripe Data Pipeline ส่งข้อมูลและรายงานของ Stripe ล่าสุดทั้งหมดไปยังคลังข้อมูลของคุณด้วยการคลิกไม่กี่ครั้ง

Stripe Docs เกี่ยวกับ Data Pipeline

ทำความเข้าใจธุรกิจของคุณด้วยข้อมูลของ Stripe