บทนำเกี่ยวกับการทำการตลาดและการเสนอขายโซลูชันการชำระเงินสำหรับแพลตฟอร์ม SaaS

คู่มือนี้จะแนะนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการตลาด การขาย และการขยายโซลูชันการชำระเงิน

Connect
Connect

แพลตฟอร์มและมาร์เก็ตเพลสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก รวมทั้ง Shopify และ DoorDash ต่างก็ใช้ Stripe Connect ในการผสานรวมการชำระเงินเข้ากับผลิตภัณฑ์

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การทำการตลาดให้กับโซลูชันการชำระเงิน
    1. 1. กำหนดข้อความที่จะสื่อสาร
    2. 2. สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์
    3. 3. ลองเปิดตัวทีละขั้นเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึก
    4. 4. ผสานการชำระเงินกับประสบการณ์ของลูกค้า
    5. 5. ทดลองกับช่องทางของตัวเองและช่องทางที่เสียค่าใช้จ่าย
  3. การขายโซลูชันการชำระเงิน
    1. 1. ขายโซลูชันให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอย่างถูกกลุ่ม
    2. 2. จัดเซสชันการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ
    3. 3. สร้างสื่อประกอบการขายที่เหมาะสม
    4. 4. เพิ่มเป้าหมายและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน
  4. การพัฒนาโซลูชันการชำระเงินให้เติบโต
    1. 1. ประสบการณ์และผลประโยชน์ของผู้ใช้
    2. 2. บริการและการสนับสนุน
    3. 3. เมตริกความสำเร็จ
  5. ความช่วยเหลือที่ Stripe มีให้
    1. สร้างข้อเสนอด้านการชำระเงินของคุณเองด้วย Stripe Connect
    2. เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ Stripe เพื่อให้มั่นใจว่าบริการการชำระเงินของคุณจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์ม SaaS มักจะมองหาวิธีการต่างๆ มานำเสนอบริการเสริมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริการชำระเงินก็เป็นส่วนขยายที่เหมาะสมของหลายแพลตฟอร์ม เพราะไม่เพียงจะช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น แต่ยังเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มมีช่องทางสร้างรายรับเพิ่มขึ้นด้วยการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าที่ใช้ฟีเจอร์การชำระเงิน

เมื่อคุณเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แนวทางการขายและการตลาดถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนต่อความสำเร็จของฟีเจอร์ แม้ฟีเจอร์การชำระเงินและประสบการณ์การผสานการทำงานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่ลูกค้าจะนำไปใช้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการรับรู้ การค้นหาที่ง่ายดาย และการได้รับความรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์นั้นๆ ด้วย การที่ลูกค้าเลือกนำไปใช้ด้วยตัวเองถือเป็นเรื่องดีสำหรับคุณ แต่การมีกลยุทธ์เข้าสู่ตลาดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มอัตราการใช้งานและรายรับที่คุณได้จากฟีเจอร์การชำระเงินให้มากขึ้นไปอีก

คู่มือนี้มีเนื้อหาครอบคลุมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการตลาด การขาย และการขยายการเติบโตของฟีเจอร์การชำระเงินออนไลน์และที่จุดขาย เราได้คัดกรองแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากพาร์ทเนอร์หลายพันรายเพื่อช่วยให้คุณเปิดตัวธุรกิจได้เร็วขึ้นและเข้าสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณจะได้เรียนรู้วิธีที่ธุรกิจ SaaS อย่าง Woo, Xero และ Intercom โปรโมตบริการการชำระเงินออนไลน์ รวมถึงวิธีที่ Lightspeed, Squire และ Shopmonkey นำเสนอการชำระเงินที่จุดขาย นอกจากนี้ เราจะอธิบายด้วยว่า Stripe จะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง

ก่อนจะเริ่มลงทุนทำการตลาดและการขาย อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าโซลูชันการชำระเงินของคุณมีประสิทธิภาพดีจริง กล่าวคือเป็นบริการที่คุณภูมิใจนำเสนอและมอบคุณค่าให้กับลูกค้า เพราะถ้าคุณมีพื้นฐานที่ดีและนำเสนอฟีเจอร์และคุณประโยชน์ที่เหมาะสม การทำการตลาดและการขายก็จะง่ายขึ้นมาก

ตัวอย่างเช่น ตรวจสอบดูว่าฟีเจอร์การชำระเงินของคุณมีลักษณะดังต่อไป

  • นำเสนอขั้นตอนลงทะเบียนที่ง่ายดายและราบรื่น ทางที่ดี ผู้ให้บริการชำระเงินควรจะมีประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าประเภทเดียวกันกับลูกค้าของคุณมาก่อน และสามารถทำให้ขั้นตอนการยืนยันง่ายดายและรวดเร็ว
  • รองรับวิธีการชำระเงินหลายแบบ เช่น บัตรเดบิตและบัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล และวิธีการชำระเงินที่นิยมใช้กันในท้องถิ่น
  • ครอบคลุมวิธีการชำระเงินทั้งหมดของลูกค้า ทั้งการชำระเงินออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขาย การออกใบแจ้งหนี้ และการชำระเงินตามรอบ
  • สามารถขยายบริการไปยังตลาดหลักของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีฐานผู้ใช้งานทั่วโลก
  • เสนอเครื่องมือการป้องกันการฉ้อโกงและเครื่องมืออื่น ๆ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงิน

นี่เป็นเพียงภาพรวมอย่างคร่าวๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์บางส่วนที่สำคัญที่สุดซึ่งต้องมีอยู่ในโซลูชันการชำระเงิน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือการชำระเงินออนไลน์ของเรา

การทำการตลาดให้กับโซลูชันการชำระเงิน

การโปรโมตข้อเสนอการชำระเงินก็เหมือนกับการโปรโมตฟีเจอร์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม ขั้นแรกคือคุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายและข้อความที่จะสื่อสาร จากนั้นสร้างประสบการณ์ด้านแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกัน แล้วใช้ช่องทางการเผยแพร่ต่างๆ ในการสื่อสารข้อความต่อเป้าหมายที่ถูกกลุ่ม

ลองดูแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด 5 ข้อสำหรับการทำการตลาดให้กับโซลูชันการชำระเงิน

1. กำหนดข้อความที่จะสื่อสาร

กลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารของคุณควรปรับเปลี่ยนไปตามลูกค้าเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ทีม Intercom จะทำความเข้าใจวิธีที่ลูกค้าใช้งาน Stripe เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงพัฒนาแผนการสื่อสารและแผนการนำออกสู่ตลาดโดยอิงตามข้อดีหลักๆ ที่ผลิตภัณฑ์ให้บริการด้วยวิธีสื่อสารที่ชัดเจนและกระชับ เช่น Intercom รู้ว่าลูกค้าต้องการความสามารถในการดูและจัดการการชำระเงินตามรอบบิลไปพร้อมๆ กับการแชทในกล่องข้อความของ Intercom รวมถึงใช้ข้อมูลการสมัครใช้บริการและการเรียกเก็บเงินสำหรับทำการตลาดด้านเพื่อการต่ออายุการใช้งาน จากนั้น Intercom จึงสร้างสรรค์ข้อความเพื่อนำเสนอคุณค่าโดยคำนึงถึงความต้องการเหล่านี้ของลูกค้า เช่น ตอบคำถามของลูกค้าได้เร็วขึ้นหรือแม้กระทั่งคาดเดาคำถามโดยดูจากรายละเอียดการชำระเงินของลูกค้า เช่น แพ็กเกจการสมัครใช้บริการ การชำระเงินล่าสุด และยอดคงเหลือในบัญชี ทั้งหมดนี้ทำได้ในขณะที่คุณกำลังสนทนาในกล่องข้อความ และ ทำความเข้าใจฐานลูกค้าของคุณได้อย่างชัดเจนและส่งข้อความที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมด้วยการกรอง การแบ่งกลุ่ม และการส่งข้อความให้ลูกค้าโดยพิจารณาจากยอดคงเหลือในบัญชี แพ็กเกจการสมัครใช้บริการ และข้อมูลอื่นๆ

เมื่อนำขั้นตอนนี้ไปใช้กับธุรกิจของคุณเอง ให้พิจารณาถึงลูกค้าของคุณและสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกค้า เช่น

  • ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางให้ความสำคัญกับการลงทะเบียนและการเริ่มต้นใช้งานที่สะดวกรวดเร็ว ความเร็วในการเบิกจ่าย ความสามารถในการผสานการทำงานกับแบ็กเอนด์ด้านโลจิสติกส์ (เช่น การจัดส่ง การทำบัญชี และซอฟต์แวร์ภาษี) รวมไปถึงการคิดค่าบริการตามธุรกรรมที่โปร่งใสโดยไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือค่าธรรมเนียมตายตัว นอกจากนี้บริษัทขนาดเล็กอาจไม่คุ้นเคยกับแง่มุมต่างๆ ของการชำระเงิน หรือไม่เข้าใจว่าฟีเจอร์ใดจะสร้างผลลัพธ์ให้ธุรกิจมากที่สุด คุณควรอุดช่องโหว่นี้ด้วยการเน้นไปที่เนื้อหาให้ความรู้และสื่อสารเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่โซลูชันของคุณรับมือกับการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกำหนด และกฎระเบียบต่างๆ (และอธิบายว่าเหตุใดสิ่งเหล่านี้จึงสำคัญ)
  • ธุรกิจที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเบื้องหลังการประมวลผลการชำระเงิน เช่น อัตราการยอมรับของเครือข่าย อัตราการฉ้อโกง และเวลาที่ระบบใช้งานได้ ลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการชำระเงิน ดังนั้นข้อความสื่อสารหลักของคุณควรดึงดูดให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงและนำโซลูชันของคุณไปใช้ และคุณอาจนำเสนอข้อพิสูจน์ว่าลูกค้ากำลังเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยและใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อช่วยให้เปลี่ยนมาใช้โซลูชันของคุณได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ค้าหรือร้านค้าปลีกสนใจเกี่ยวกับการเข้าถึงวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย (ประกอบด้วยชำระเงินที่จุดขาย กระเป๋าเงินดิจิทัล และวิธีการชำระเงินในประเทศของลูกค้า) ตลอดจนเครื่องมือด้านการฉ้อโกงที่จะช่วยป้องกันการดึงเงินคืน
  • ผู้ให้บริการให้ความสำคัญกับความรวดเร็วของกระแสเงินสด วงจรซึ่งเริ่มตั้งแต่การเสนอราคาไปจนถึงการรับเงินสดที่ราบรื่น และการชำระเงินที่จุดขาย เจ้าของธุรกิจเหล่านี้มักจะรู้จักลูกค้าปลายทางของตนอยู่แล้ว ดังนั้นการฉ้อโกงจึงไม่เป็นปัญหานักเมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่นๆ

นอกจากนี้ข้อความที่จะสื่อยังต้องแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าของคุณอยู่ที่จุดไหนในเส้นทางการซื้อ ตัวอย่างเช่น ลูกค้ากำลังจะเปลี่ยนผู้ให้บริการที่ใช้อยู่หรือเพิ่งเริ่มใช้โซลูชันการชำระเงินออนไลน์เป็นครั้งแรก ลูกค้าใช้เช็ค บริการการชำระเงินของคู่แข่ง หรืออย่างอื่นอยู่หรือไม่ ซึ่งการทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยในการจัดทำข้อความที่คุณจะนำเสนอได้

เมื่อกำหนดข้อความที่จะสื่อแล้ว โปรดอย่าลืมเน้นข้อความดังกล่าวในแคมเปญการตลาดทั้งหมด เช่น คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ให้คุณค่าหลักของ Shopmonkey คือโซลูชันการชำระเงินแบบออนไลน์และที่จุดขายที่มีการผสานการทำงาน ซึ่งช่วยให้ลูกค้ากระทบยอดในบัญชีได้เร็วขึ้น โดยบริษัทได้แสดงข้อความนี้ในสื่อทางการตลาดทั้งหมด เช่น ในหน้าหลักหรือในแคมเปญสำหรับอีเมลโดยเฉพาะที่แสดงฟีเจอร์ซึ่งช่วยปรับปรุงกระบวนการของลูกค้าได้

2. สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์

คุณอาจพิจารณาสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ผลิตภัณฑ์การชำระเงินและผสานแบรนด์ของผู้ให้บริการการชำระเงินเข้าไปด้วยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจให้กับโซลูชัน แบรนด์ของผู้ให้บริการการชำระเงินจะช่วยสื่อว่าแพลตฟอร์มของคุณปลอดภัย ให้บริการทั่วโลก ปฏิบัติตามข้อกำหนด และสร้างด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ตัวอย่างเช่น Intercom แสดงโลโก้ของ Stripe ร่วมกับโลโก้ของตัวเองในเอกสารการตลาดที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน

ทั้งนี้คุณอาจรวมแบรนด์ของผู้ให้บริการการชำระเงินเข้าไปในกลยุทธ์การตั้งชื่อโดยตรงด้วยก็ได้ เช่น ถ้าแพลตฟอร์มชื่อว่า Rocket Ride สร้างผลิตภัณฑ์การชำระเงินด้วย Stripe แพลตฟอร์มอาจตั้งชื่อแบรนด์โซลูชันการชำระเงินของตนว่า "Stripe Payments from Rocket Ride" หรือ "Rocket Ride Payments powered by Stripe"

3. ลองเปิดตัวทีละขั้นเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึก

หากคุณไม่มั่นใจว่าลูกค้าจะคิดเห็นต่อการสื่อสาร เอกลักษณ์แบรนด์ หรือประสบการณ์การชำระเงินของคุณอย่างไร ให้ลองเริ่มด้วยการแนะนำโซลูชันการชำระเงินต่อลูกค้ากลุ่มเล็กๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะเปิดตัวต่อลูกค้าทุกคน

Woo ใช้แนวทางนี้ในการเปิดตัว WooPayments ครั้งแรกด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ต่อลูกค้าที่ได้รับคำเชิญให้ทดลองใช้เวอร์ชันเบต้า การเข้าร่วมที่อยู่ภายใต้การควบคุมนี้ช่วยให้ทีมสามารถติดตามดูพฤติกรรมของลูกค้าและร้านค้า หาทางรับมือกับสถานการณ์ใหม่ๆ และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุดเมื่อมีโอกาสเหมาะสม ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการทดลองใช้รุ่นเบต้าตามคำเชิญนี้ช่วยให้ทีมมีความมั่นใจที่จะเปิดตัวต่อกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นในอีก 3 เดือนต่อมา และลูกค้ารายสำคัญบางรายก็พิสูจน์ให้เห็นถึงผลในเชิงบวกที่ผลิตภัณฑ์มีต่อธุรกิจของผู้ค้าที่ใช้ Woo

ในตอนที่ทำการเปิดตัว ทางทีมได้พัฒนากลยุทธ์การตลาดเพื่อนำเสนอ WooPayments ทั่วทั้งเว็บไซต์ ทีมงานได้ผสานแลนดิ้งเพจของ WooPayments เข้าไปในส่วนนำทางของเว็บไซต์หลัก อีกทั้งยังลงทุนกับโฆษณาในการค้นหาซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าชมหน้าการชำระเงินได้ถึง 10 เท่าภายในชั่วข้ามคืน และในเดือนแรกหลังจากเปิดตัว แบนเนอร์การตลาดและตำแหน่งแสดงโฆษณาหลักใน Woo Marketplace ก็เพิ่มการเข้าชมหน้าการชำระเงินได้เกือบ 1 ใน 3

4. ผสานการชำระเงินกับประสบการณ์ของลูกค้า

โซลูชันการชำระเงินของคุณควรเป็นตัวเลือกเริ่มต้นสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนสมัครใช้แพ็กเกจซอฟต์แวร์การชำระเงินหรืออีคอมเมิร์ซเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น โดยลูกค้าไม่ควรที่จะต้องทำขั้นตอนเพิ่มเติมหรือค้นหาตัวเลือกนี้ด้วยตัวเอง คุณควรให้ลูกค้าเรียนรู้เกี่ยวกับโซลูชันและนำไปใช้อย่างง่ายดายที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงใช้หลักการนี้ตลอดทั้งเส้นทางของลูกค้าด้วยการโปรโมตโซลูชันในทุกจุดที่ลูกค้าใช้งาน ตั้งแต่หน้าผลิตภัณฑ์ไปจนถึงแดชบอร์ดและหน้าฟีเจอร์

สำหรับ Xero ข้อความในแอปในแดชบอร์ดให้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นพิเศษ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ทีมงานได้เปิดตัวการสื่อสารในแอปเป็นครั้งแรกเพื่อช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้นและกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้กับบริการการชำระเงิน Stripe บริษัทพบว่าในเดือนนั้นยอดการเชื่อมต่อกับ Stripe เพิ่มขึ้น 1,000% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทยังคงเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในแอปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าข้อความที่ใช่จะส่งไปถึงลูกค้าที่ถูกกลุ่มในช่วงจังหวะที่พอดี

ตัวอย่างการแจ้งเตือนในแอปจาก Xero

5. ทดลองกับช่องทางของตัวเองและช่องทางที่เสียค่าใช้จ่าย

ใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดที่คุณมีอยู่แล้วเพื่อเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ช่องทางของคุณเองอย่างเช่น อีเมล บล็อก บัญชีโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และแดชบอร์ด เป็นวิธีช่องทางที่สามารถทดลองได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย ช่องทางอื่นๆ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เช่น การกำหนดเป้าหมายซ้ำแบบเสียค่าใช้จ่าย การค้นหาแบบมีค่าใช้จ่าย และโฆษณาดิสเพลย์ ซึ่งต้องตั้งงบประมาณไว้โดยเฉพาะ คุณควรลองทดสอบหลายๆ วิธีเพื่อหาว่าวิธีใดใช้ได้ผลกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

Intercom ใช้ช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อตอกย้ำถึงคุณค่าของโซลูชันการชำระเงิน Stripe ที่บริษัทนำเสนออยู่เรื่อยๆ โดยบริษัทได้จัดการสัมมนาผ่านเว็บโดยเฉพาะและไฮไลท์แอปการชำระเงินนี้ทั้งในบล็อกโพสต์และ Twitter เมื่อเผยแพร่แคมเปญดิจิทัลเหล่านี้ Intercom จะพยายามทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เสมอเพื่อพัฒนาการสื่อสารที่มีความเกี่ยวโยงกันอย่างชัดเจน การเน้นที่การนำเสนอคุณค่าโดยรวมต่อลูกค้าที่มีร่วมกันช่วยให้บริษัทบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ขึ้นได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม

การขายโซลูชันการชำระเงิน

ให้ทีมขายของคุณช่วยหาลูกค้าที่เป็นธุรกิจใหม่และปิดดีลที่รวมโซลูชันการชำระเงินไว้ด้วย หากต้องการบรรลุเป้าหมายนี้ คุณจะต้องรวมฟีเจอร์การชำระเงินไว้ในการนำเสนอของฝ่ายขาย รวมทั้งฝึกฝนทีมขายให้มีความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชันเป็นอย่างดี มีเอกสารในการขายที่เหมาะสม และเข้าใจถึงความสำคัญและผลประโยชน์ที่เป้าหมายด้านการชำระเงินมีต่อทีม แต่หากไม่มีทีมขายหรือใช้วิธีการหาลูกค้าที่บริการตัวเองเป็นหลัก คุณควรลงทุนในโปรแกรมการตลาดอัตโนมัติซึ่งจะส่งอีเมลให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโซลูชันและดึงดูดให้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ของคุณ

หลักปฏิบัติแนะนำ 4 ข้อ สำหรับการขายโซลูชันการชำระเงินมีดังนี้

1. ขายโซลูชันให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอย่างถูกกลุ่ม

การสื่อสารถึงประโยชน์ของการชำระเงินที่มีต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ดีที่สุด คือการพูดถึงข้อเสนอด้านการชำระเงินให้ถูกบริบท เช่น การอธิบายวิธีที่คุณช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจว่าการชำระเงินเป็นฟีเจอร์ในตัวผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
ซึ่ง Don Hartley ตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการชำระเงินที่ Squire แนะนำให้คุณลองปรับข้อความที่ใช้นำเสนอขายดู

"แพลตฟอร์มส่วนใหญ่ที่นำเสนอบริการธุรกรรมที่จุดขายจะขายบริการให้กับผู้ใช้ได้ทุกกลุ่ม แต่จริงๆ แล้วไม่ควรเป็นเช่นนั้น คุณควรเน้นบริการที่คุณจะนำเสนอคุณค่าได้มากที่สุด และเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งหมายความว่า คุณควรเน้นที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มต่างหาก" Don กล่าว

Squire ดำเนินการตามกลยุทธ์เดียวกันกับที่ใช้ในโมเดลธุรกิจ โดยนำเสนอแพลตฟอร์ม SaaS แบบครบวงจรให้แก่ร้านตัดผมผู้ชายเพื่อช่วยในการจัดการเวลานัดหมาย ผสานการชำระเงินที่จุดขายไว้ในซอฟต์แวร์สำหรับจองบริการ ระบบลงทะเบียน และเครื่องอ่านบัตร จากนั้นจะเบิกจ่ายเงินให้ช่างตัดผม

2. จัดเซสชันการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ

ทีมขายของคุณควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับโซลูชันการชำระเงิน ตรวจสอบว่าทีมคุ้นเคยกับฟีเจอร์ระดับพื้นฐาน รู้จักประโยชน์ของโซลูชันและรู้วิธีที่จะขายให้แก่ผู้ใช้ นอกจากนี้ทีมขายยังต้องเตรียมพร้อมที่จะตอบคำถามที่พบบ่อยและรับมือกับการปฏิเสธได้อีกด้วย

Intercom ช่วยให้ทีมขายของบริษัทเข้าใจประสบการณ์การชำระเงินของ Stripe ด้วยการจัดทำรูปภาพ, GIF และวิดีโอเพื่อแสดงวิธีการทำงานของ Stripe ในขั้นตอนที่ลูกค้าใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังจัดเซสชันการฝึกอบรมเพื่อให้ตัวแทนขายมีโอกาสถามคำถามและเข้าใจความสามารถและคุณค่าที่ Stripe มอบให้ลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นด้วย

รูปภาพแสดงวิธีการผสานการทำงานระหว่าง Stripe กับแอปส่งข้อความทางธุรกิจของ Intercom

3. สร้างสื่อประกอบการขายที่เหมาะสม

ทีมของคุณไม่เพียงต้องรู้วิธีอธิบายโซลูชันการชำระเงินเท่านั้น แต่ยังต้องใช้สื่อการขายเพื่อประกอบการนำเสนอหรือเพื่อติดตามผลกับลูกค้าด้วย

ตัวอย่างเช่น Xero เตรียมคู่มือกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ สไลด์สำนวนการขายระดับภูมิภาค ใบปลิวของพาร์ทเนอร์ วิดีโอสาธิต ตลอดจนคำถามที่พบบ่อยให้กับทีมขายและทีมดูแลประสบการณ์ลูกค้า เพื่อให้มีทรัพยากรที่เหมาะสมในการนำเสนอทิศทางของผลิตภัณฑ์ต่อลูกค้า

ตัวอย่างสื่อประกอบการขายที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินจาก Xero

คุณควรสร้างสื่อในเวอร์ชันต่างๆ ตามลักษณะเฉพาะของลูกค้า (เช่น กลุ่มเป้าหมายในแวดวงเทคนิค กลุ่มเป้าหมายในแวดวงการเงิน ฯลฯ) เพื่อให้สามารถข้อความทางการตลาดได้อย่างตรงจุดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

นอกจากนี้คุณยังสามารถสอบถามผู้ให้บริการชำระเงินเกี่ยวกับข้อเสนอด้านสื่อประกอบการขายสำเร็จรูป เพื่อให้นำไปใช้ร่วมกับแบรนด์และเผยแพร่ได้

4. เพิ่มเป้าหมายและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน

หากสามารถระบุมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากผู้ใช้บริการชำระเงินได้ คุณควรรวมข้อเสนอด้านการชำระเงินไว้ในเป้าหมายและโครงสร้างผลประโยชน์ของทีม รวมทั้งลองเพิ่มโบนัสผลการปฏิบัติงานอื่นๆ เมื่อขายโซลูชันการชำระเงิน หรือพูดอย่างหนึ่งก็คือ ให้พิจารณาว่าผู้ใช้บริการชำระเงินสร้างรายรับเพิ่มให้กับธุรกิจของคุณมากเท่าใด และรายรับที่เพิ่มขึ้นนี้ครอบคลุมงบประมาณที่เพิ่มขึ้นสำหรับนำไปจ่ายเป็นโบนัสหรือไม่ เมื่อคำนวณมูลค่าของผู้ใช้การชำระเงิน โปรดอย่าลืมพิจารณาประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการคงผู้ใช้ไว้ด้วย เนื่องจากการชำระเงินมักจะเป็นฟีเจอร์ที่ "ดึงดูด" ผู้ใช้ให้ใช้บริการแพลตฟอร์มของคุณต่อไป

การพัฒนาโซลูชันการชำระเงินให้เติบโต

เมื่อมีลูกค้าเลือกใช้ข้อเสนอด้านการชำระเงินของคุณเพิ่มขึ้น อย่าลืมตรวจสอบว่าคุณมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลของเกี่ยวกับบริการ การติดตามเมตริกต่างๆ ตลอดจนการนิยามความสำเร็จ

1. ประสบการณ์และผลประโยชน์ของผู้ใช้

แพลตฟอร์ม SaaS ที่มอบบริการชำระเงินที่จุดขายต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาในกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน เนื่องจากต้องส่งฮาร์ดแวร์ที่ถูกต้องให้ถึงมือลูกค้า อีกทั้งยังต้องสาธิตวิธีใช้งานอีกด้วย แม้ขั้นตอนนี้อาจก่อให้เกิดความท้าทายด้านการขนส่ง แต่ก็ถือเป็นโอกาสสำหรับสร้างประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งานที่ยอดเยี่ยม

Lightspeed Commerce Inc. เป็นแพลตฟอร์มการค้าแบบครบวงจรที่มีระบบบันทึกการขาย (POS) และโซลูชันการประมวลผลการชำระเงินที่ชื่อว่า Lightspeed Payments เป้าหมายของบริษัทคือการช่วยให้ผู้ค้าปลีกและเจ้าของร้านอาหารเริ่มใช้งานได้อย่างสะดวกที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Lightspeed สามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเริ่มต้นใช้งานได้สำเร็จ โดยดำเนินการดังนี้

  • เสนอโปรโมชันพิเศษ เช่น ลดค่าธรรมเนียมซอฟต์แวร์หรือให้ฮาร์ดแวร์ฟรีเพื่อจูงใจลูกค้าให้มาใช้บริการ Lightspeed Payments
  • เตรียมฮาร์ดแวร์ทุกประเภทที่ลูกค้าอาจต้องใช้งานไว้และจัดส่งให้ลูกค้าโดยตรง
  • ลงทุนว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้มาทำงานภายในองค์กร (เช่น ทีมสนับสนุนเฉพาะทางสำหรับ Lightspeed Payments) เพื่อเพิ่มลูกค้าเข้ามาในระบบโดยเร็วที่สุด
  • สร้างกลยุทธ์เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ความรู้ลูกค้าปัจจุบันและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเกี่ยวกับการประมวลผลการชำระเงินที่จุดขาย ตัวเลือกต่างๆ และความช่วยเหลือที่ Lightspeed Payments มีให้

การลงทุนของ Lightspeed Payments เพื่อให้ความรู้ผู้ใช้เกี่ยวกับการชำระเงินที่จุดขายนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน การดำเนินการเช่นนี้อย่างต่อเนื่องรวมถึงการโปรโมตผลิตภัณฑ์ในหมู่ลูกค้าถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน โดยในปีภาษี 2021 รายรับที่มาจากธุรกรรมของ Lightspeed ได้เพิ่มขึ้นถึง 195% เลยทีเดียว

2. บริการและการสนับสนุน

ลูกค้าทุกราย โดยเฉพาะลูกค้าใหม่มักจะมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งานส่วนต่างๆ ของแดชบอร์ดการชำระเงิน การดำเนินการกับการดึงเงินคืน และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ให้บริการชำระเงินของคุณควรให้ความช่วยเหลือลูกค้าโดยรวบรวมคำตอบเกี่ยวกับคำถามที่พบบ่อยไว้ล่วงหน้า รวมถึงแชร์บทแนะนำและบทสาธิตการใช้งาน ในบางกรณี ผู้ให้บริการชำระเงินอาจเสนอการสนับสนุนลูกค้าให้แก่ผู้ใช้ของคุณ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ให้ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการรายดังกล่าวสามารถให้การสนับสนุนทางโทรศัพท์ อีเมล และแชทได้ทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการบริการอย่างมีประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ

ทีมสนับสนุนของคุณควรมีสิทธิ์เข้าถึงการฝึกอบรมและแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับโซลูชันการชำระเงินเช่นเดียวกับทีมขาย เพื่อให้สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ได้

Woo ลงทุนกับโครงการริเริ่มหลัก 3 โครงการเพื่อช่วยให้ Happiness Engineers (ทีมสนับสนุนลูกค้า) ของบริษัทเรียนรู้เกี่ยวกับ WooPayments โดยดำเนินการดังนี้

  • จัดเซสชันวิดีโอถ่ายทอดสดหลายรายการกับทีมที่อยู่ในหลายๆ เขตเวลา วิธีนี้จะช่วยให้ทีมสนับสนุนได้รับชมวิดีโอสาธิตผลิตภัณฑ์ ถามคำถาม และรู้วิธีสื่อสารเกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์
  • จัดตั้ง "ร้านค้าร่วม" กับ WooPayments ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกทีมสนับสนุนสามารถจำลองปัญหาของลูกค้าและทดสอบโซลูชันควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับลูกค้าได้
  • สร้างไลบรารีและเอกสารประกอบที่มีประสิทธิภาพและมีระบบค้นหาล่วงหน้าก่อนการเปิดตัว เพื่อให้ทีมสนับสนุนสามารถใช้งานเองได้ ตลอดจนใช้เป็นแหล่งข้อมูลที่พร้อมใช้งานและสามารถแชร์ได้เพื่อช่วยในการโต้ตอบกับลูกค้า

3. เมตริกความสำเร็จ

ดูเมตริกหลักต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจว่าเมตริกใดให้ผลลัพธ์ที่ดี แล้วระบุจุดที่ต้องปรับปรุงเพื่อใช้ประกอบแผนการเติบโตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เมตริกบางรายการที่พาร์ทเนอร์ของเรามักจะติดตามมีดังนี้

  • ปริมาณการชำระเงิน
  • จำนวนผู้ใช้การชำระเงิน
  • จำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานรายเดือน
  • ปริมาณการชำระเงินต่อผู้ใช้ที่ใช้งาน
  • จำนวนการลงทะเบียนใช้การชำระเงินใหม่
  • การรักษาจำนวนผู้ใช้
  • รายรับจากการชำระเงิน
  • มูลค่าระยะยาวของลูกค้าที่ใช้การชำระเงิน เทียบกับลูกค้าที่ไม่ได้ใช้การชำระเงิน (เฉพาะซอฟต์แวร์)
  • เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าทั้งหมดที่เป็นลูกค้าที่ใช้การชำระเงิน

ความช่วยเหลือที่ Stripe มีให้

แพลตฟอร์มทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทมหาชนอย่าง Shopify ใช้ Stripe Connect เพื่อรับเงิน เบิกจ่ายให้กับบุคคลที่สาม และสร้างรายรับจากการชำระเงิน

Stripe Connect ช่วยให้คุณสามารถสร้างบริการชำระเงินของตัวเองตลอดจนเพิ่มรายรับของแพลตฟอร์ม และเรายังมีเครื่องมือที่จะช่วยให้บริการของคุณประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สร้างข้อเสนอด้านการชำระเงินของคุณเองด้วย Stripe Connect

Stripe นำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการชำระเงินออนไลน์ การชำระเงินที่จุดขาย การรับส่งเงินบนแพลตฟอร์ม และการเบิกจ่ายเงินที่รวดเร็ว คุณสามารถใช้ Stripe Connect เพื่อเปิดตัวบริการด้านการชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว เรียกเก็บเงินบางส่วนจากธุรกรรมแต่ละรายการ ตลอดจนปรับแต่งค่าบริการการชำระเงินให้ลูกค้าได้เอง

คุณสามารถสร้างรายรับจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น การออกใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินจากการสมัครใช้บริการ หรือการชำระเงินที่จุดขาย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้จากการผสานการทำงานที่รวมเป็นหนึ่งเดียว การนำเสนอบริการเหล่านี้ช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าและดำเนินการกับเงินจำนวนมากขึ้นบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายรับให้คุณ

นอกจากนี้ Stripe ยังช่วยคุณจัดการข้อเสนอด้านการชำระเงิน โดยเราพร้อมให้บริการสนับสนุนแก่ลูกค้าของคุณทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางโทรศัพท์ อีเมล และแชท นอกจากนี้ Stripe ยังช่วยคุณจัดการความเสี่ยงด้านการเงินและเครดิตของลูกค้าโดยการรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดจากบัญชีของคุณอีกด้วย ฟีเจอร์ทั้ง 2 แบบนี้จะพร้อมใช้งานเมื่อคุณใช้ Stripe ด้วยบัญชี Standard

เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ Stripe เพื่อให้มั่นใจว่าบริการการชำระเงินของคุณจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

พาร์ทเนอร์ของเราสร้างเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ ขยายตัวสู่โลกออนไลน์ ทำให้เกิดธุรกิจประเภทใหม่ๆ และช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เรายังได้ออกแบบโปรแกรมพาร์ทเนอร์ขึ้นมาเพื่อช่วยเร่งและขยายผลลัพธ์ทางธุรกิจของคุณ

โปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ Stripe มีชุดเครื่องมือด้านการตลาดที่ประกอบด้วยแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการด้านการตลาดและการขาย ซึ่งทำให้คุณเข้าถึงส่วนต่างๆ ต่อไปนี้ได้

  • แหล่งข้อมูลสำหรับช่วงก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมให้ทีมการตลาด การขาย และการสนับสนุนด้วยคู่มือที่ให้ความรู้ด้านการชำระเงิน สไลด์สำนวนการขาย และวิดีโอฝึกอบรมจาก Stripe ตลอดจนเอกสารความยาว 1 หน้าแบบร่วมแบรนด์และเทมเพลตคำถามที่พบบ่อยจากลูกค้า
  • แหล่งข้อมูลสำหรับช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งจะประกาศเกี่ยวกับการผสานการทำงานกับ Stripe และเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโต แหล่งข้อมูลเหล่านี้ประกอบด้วยเอกสารการสื่อข้อความ ชุดสื่อพร้อมเทมเพลตบล็อก การ์ดข้อมูลบนโซเชีบล และข่าวประกาศเพื่อการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นหน้าเว็บ "เกี่ยวกับ Stripe" แบบร่วมแบรนด์ที่จะอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับ Stripe ต่อลูกค้าของคุณ นอกจากนี้ยังมีรายการในไดเรกทอรีพาร์ทเนอร์ของ Stripe เกี่ยวกับการเข้าชมจากการแนะนำ และป้ายพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการยืนยันของ Strip
  • สิทธิ์รับชมวิดีโอขนาดสั้น 28 รายการเกี่ยวกับฟีเจอร์ยอดนิยมของ Stripe และคำถามเกี่ยวกับการตั้งค่า ซึ่งประกอบด้วยการกำหนดค่าแดชบอร์ด Stripe, การจัดการการเบิกจ่าย, การไปยังส่วนต่างๆ ของรายงานการเงิน และข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการป้องกันการฉ้อโกงและการโต้แย้งการชำระเงิน ทั้งหมดนี้จะช่วยคุณในการสร้างแคมเปญการตลาดที่สื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงแบบฟอร์มการแนะนำแบบร่วมแบรนด์ซึ่งจะช่วยให้คุณส่งข้อมูลผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจำนวนมากมาให้ Stripe ตรวจสอบค่าบริการได้ ตลอดจนแบบฟอร์มสำหรับยื่นขอการสนับสนุนที่ให้คุณส่งคำถามเร่งด่วนให้ทีม Stripe ได้โดยตรง

Stripe ยังมีคู่มือสำหรับแบรนด์ พร้อมตัวอย่างวิธีใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้และวิธีหาเนื้อหาของแบรนด์และรูปภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากชุดเครื่องมือทางการตลาดนี้

เราหวังว่าคู่มือนี้จะให้ช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมแบบละเอียดเกี่ยวกับวิธีทำการตลาดและขายข้อเสนอด้านการชำระเงินของคุณ ตลอดจนความช่วยเหลือที่ Stripe มีให้

โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ Stripe และวิธีเข้าร่วม และโปรดลงทะเบียนบัญชีหากต้องการเปิดใช้การรับชำระเงินให้แก่ลูกค้า

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Connect

Connect

ใช้งานจริงภายในไม่กี่สัปดาห์แทนที่จะต้องเสียเวลาหลายไตรมาส สร้างธุรกิจการชำระเงินที่สร้างผลกำไร และขยายธุรกิจได้อย่างง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Connect

ดูวิธีกำหนดเส้นทางการชำระเงินระหว่างหลายฝ่าย