จำนวนคนที่คาดว่าจะซื้อสินค้าออนไลน์ในปี 2025 นั้นมีประมาณ 2,770 ล้านคน จึงทำให้การสิ้นสุดประสบการณ์ด้วยหน้าที่แจ้งว่าการชำระเงินสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ลูกค้าจะมองหาหน้านี้เพื่อหาหลักฐานยืนยัน ความชัดเจน และสัญญาณบ่งบอกว่าคุณประกอบธุรกิจด้วยแนวทางใด คุณจะปล่อยให้ลูกค้ารอ หรือแจ้งขั้นตอนถัดไปอย่างชัดเจน คุณใช้ช่วงเวลานี้ในการสานสัมพันธ์กับลูกค้าหรือไม่ คำตอบเหล่านี้จะสะท้อนออกมาในการออกแบบ น้ำเสียง และโครงสร้างของหน้าการยืนยันของคุณ
ด้านล่างนี้คือคู่มือการสร้างหน้า "ชำระเงินสำเร็จ" ที่ทำหน้าที่ได้อย่างเรียบง่ายและเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมต่อไป
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- หน้า "ชำระเงินสำเร็จ" คืออะไร
- ทำไมหน้า "ชำระเงินสำเร็จ" จึงสำคัญต่อประสบการณ์ของลูกค้า
- ควรแสดงข้อมูลอะไรบ้างบนหน้าการชำระเงินสำเร็จ
- จะออกแบบหน้าการยืนยันอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาใช้งานอีกในอนาคต
- วิธีสร้างหน้าชำระเงินสำเร็จด้วย HTML
หน้า "ชำระเงินสำเร็จ" คืออะไร
หน้า "ชำระเงินสำเร็จ" คือหน้าที่ลูกค้าเห็นทันทีหลังจากทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ หน้านี้ช่วยยืนยันว่าการชำระเงินลุล่วงแล้ว ให้หมายเลขอ้างอิงหรือหมายเลขคำสั่งซื้อสำหรับสิ่งที่เพิ่งซื้อไป และมักจะแจ้งให้ทราบว่าขั้นตอนถัดไปคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่ง การดาวน์โหลด หรือการรับใบเสร็จทางอีเมล หน้านี้ช่วยยืนยันว่าธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว และแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าควรคาดหวังอะไรต่อไป
หน้านี้มักจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในขั้นตอนการชำระเงิน หน้าดังกล่าวมักจะมี URL ของตัวเอง ซึ่งจะเปิดขึ้นได้ผ่านการเปลี่ยนเส้นทางจากผู้ให้บริการชำระเงินของคุณ ตัวอย่างเช่น Stripe Checkout ให้คุณระบุ URL การดำเนินการที่สำเร็จ และเมื่อ Stripe เสร็จสิ้นธุรกรรม ระบบก็จะเปลี่ยนเส้นทางลูกค้าไปยังหน้าของคุณ จากหน้านั้น คุณสามารถแสดงรายละเอียดคำสั่งซื้อหรือเสนอขั้นตอนถัดไปได้
ทำไมหน้า "ชำระเงินสำเร็จ" จึงสำคัญต่อประสบการณ์ของลูกค้า
แม้ว่าหน้ายืนยันการชำระเงินจะเป็นสิ่งที่มองข้ามได้ง่าย แต่ก็มีอิทธิพลต่อความรู้สึกที่ลูกค้ามีต่อประสบการณ์การซื้อสินค้าทั้งหมด ลองมาดูปัจจัยสำคัญบางประการที่ควรคำนึงถึงสำหรับหน้านี้กัน
ช่วยขจัดความไม่แน่ใจ
เมื่อลูกค้าชำระเงินเสร็จ การได้รับคำยืนยันว่าเรียบร้อยแล้วจะช่วยให้ลูกค้าสบายใจได้ หน้าความสำเร็จที่ชัดเจนช่วยขจัดความไม่แน่นอนออกไป หากไม่มีหน้านี้ ลูกค้าอาจสงสัยว่าบัตรของตนถูกเรียกเก็บเงินแล้วจริงหรือไม่ หรือคำสั่งซื้อถูกดำเนินการไปแล้วหรือยัง
แม้แต่ความล่าช้าสั้นๆ หรือข้อความที่คลุมเครือในช่วงนี้ก็สามารถสร้างความลังเลใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การติดตามผลโดยไม่จำเป็น การเรียกเก็บเงินซ้ำ หรือการสูญเสียลูกค้าได้ หน้าชำระเงินสำเร็จที่มีประสิทธิภาพจะช่วยขจัดความไม่แน่ใจนั้นได้ทันทีที่ปรากฏขึ้น
ช่วยสร้างความประทับใจสุดท้าย
หน้าสุดท้ายที่ลูกค้าเห็นในกระบวนการทำธุรกรรมสำคัญพอๆ กับความประทับใจแรก หากหน้าชำระเงินสำเร็จถูกออกแบบมาอย่างดี ให้ข้อมูลครบถ้วน และเป็นระเบียบ ก็จะช่วยปิดประสบการณ์การซื้อได้อย่างน่าประทับใจ แต่ถ้าหน้าดังกล่าวดูไม่เรียบร้อย ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่มีเลย ลูกค้าอาจรู้สึกไม่มั่นใจและเกิดความกังวล
เรื่องนี้ยิ่งสำคัญเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อครั้งแรก ประสบการณ์การชำระเงินที่ง่ายและเข้าใจได้ พร้อมกับหน้าชำระเงินสำเร็จที่ใส่ใจรายละเอียด จะช่วยสร้างความมั่นใจในแบรนด์และทำให้ลูกค้ารู้สึกลึกๆ ว่าเลือกไม่ผิด
ช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัย
หน้าการยืนยันยังช่วยยืนยันว่าระบบการชำระเงินของคุณทำงานได้ ธุรกิจของคุณถูกต้องตามกฎหมาย และเงินของลูกค้ากำลังถูกโอนย้ายไปตามที่คาดไว้
ภาพประกอบ เช่น ไอคอนเครื่องหมายถูกหรือแม้แต่ภาพเคลื่อนไหวเล็กๆ (เช่น ภาพเศษกระดาษสีโปรยปรายแบบดิจิทัล) ช่วยสื่อถึงการสิ้นสุดและความแน่นอน รายละเอียด UI เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสัญญาณทางจิตวิทยาที่ช่วยเสริมความถูกต้องของธุรกรรม
ช่วยบอกให้ลูกค้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ลูกค้าจำเป็นต้องรู้ว่าหลังจากสั่งซื้อเสร็จแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หน้าชำระเงินสำเร็จที่ดีจะตอบคำถามนั้นได้โดยที่ไม่ต้องให้ลูกค้าไปค้นหาในอีเมลหรืออ่านคำถามที่พบบ่อย หน้านั้นควรบอกลูกค้าดังนี้
- จะได้รับสินค้าเมื่อไรและด้วยวิธีใด
- จะมีอะไรส่งไปที่กล่องข้อความบ้าง
- ควรติดต่อที่ไหนหากพบปัญหาหรือมีอะไรผิดปกติ
ถ้าดูแลได้ดี หน้ายืนยันการชำระเงินจะช่วยลดคำถามที่ลูกค้าอาจมีในภายหลัง และแสดงให้เห็นว่าคุณยังใส่ใจแม้ว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้นแล้ว
ช่วยเปิดโอกาสไปสู่การสานสัมพันธ์ในครั้งถัดไป
สุดท้าย หน้าชำระเงินสำเร็จคือโอกาสในการสานต่อการสื่อสารกับลูกค้า หน้านี้สามารถแนะนำให้ลูกค้าทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น ติดตามคำสั่งซื้อ ตั้งค่าบัญชี หรือดูสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้โดยไม่ทำให้รู้สึกว่าโดนเร่งเร้า
ควรแสดงข้อมูลอะไรบ้างบนหน้าการชำระเงินสำเร็จ
หน้าการชำระเงินสำเร็จมีไว้เพื่อให้ลูกค้าได้รับความชัดเจน ความมั่นใจ และคำแนะนำขั้นตอนถัดไป นี่คือข้อมูลที่ควรแสดงบนหน้าดังกล่าว
การยืนยันการชำระเงิน
ขึ้นต้นด้วยหัวข้อชัดเจนไม่กำกวมดังตัวอย่างต่อไปนี้
- "ชำระเงินสำเร็จ"
- "ขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อ"
- "เรียบร้อยแล้ว"
นี่คือข้อความที่สำคัญที่สุดในหน้าการยืนยัน ข้อความควรมองเห็นได้ในทันทีและควรมีภาพประกอบ เช่น ไอคอนเครื่องหมายถูกหรือภาพเคลื่อนไหวที่สื่อถึงความสำเร็จ อย่าลืมใช้น้ำเสียงให้สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ
ข้อมูลสรุปคำสั่งซื้อ
ตามด้วยการแสดงภาพรวมธุรกรรมแบบกระชับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
- หมายเลขคำสั่งซื้อหรือธุรกรรม
- วันที่ซื้อ
- ชื่อสินค้าหรือบริการ
- จำนวน ขนาด หรือตัวเลือกที่เลือก
- ยอดรวมการซื้อ (รวมภาษีและส่วนลดใดๆ)
ไม่จำเป็นต้องแสดงใบเสร็จเต็มรูปแบบ แต่ควรให้ข้อมูลที่เพียงพอให้ลูกค้ายืนยันได้ว่ามีการประมวลผลการชำระเงินแล้ว และคำสั่งซื้อที่ส่งไปตรงกับที่คาดหวัง หากคุณขายสินค้าดิจิทัลและสินค้าทางกายภาพ สรุปควรสะท้อนความแตกต่าง ตัวอย่างเช่น "เปิดใช้งานแผน Pro รายปี" หรือ "กำลังจัดส่งสินค้า 2 ชิ้นไปยังนิวยอร์ก"
ข้อมูลการชำระเงิน
ยืนยันว่าลูกค้าชำระเงินอย่างไร บรรทัดข้อความง่ายๆ เช่น "ชำระเงินด้วยบัตร Visa ลงท้ายด้วย 4242 จำนวน $129.00" จะเป็นการปิดจบกระบวนการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้ที่จัดการบัตร บัญชี หรือสกุลเงินหลายรายการ หากมี ให้รวมข้อมูลต่อไปนี้ด้วย
- รหัสโปรโมชั่น บัตรของขวัญ หรือเครดิตร้านค้าที่ใช้
- แต้มสะสมที่ได้รับหรือใช้
ขั้นตอนต่อไป
เปลี่ยนข้อความจาก "ทำธุรกรรมเสร็จสิ้นแล้ว" เป็น "ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง" ส่วนนี้อาจรวมถึงข้อความต่อไปนี้
- "คุณจะได้รับการยืนยันการจัดส่งพร้อมข้อมูลการติดตามภายใน 24-48 ชั่วโมง"
- "ลิงก์ดาวน์โหลดได้ถูกส่งไปยังอีเมลของคุณแล้ว"
- "เปิดใช้งานการเป็นสมาชิกรายเดือนของคุณแล้วและจะต่ออายุในวันที่ 10 มีนาคม 2026"
คุณกำลังตอบคำถามที่ลูกค้ามักจะสงสัยล่วงหน้า ก่อนที่พวกเขาจะต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุน
การสนับสนุนลูกค้า
อย่าลืมเอื้ออำนวยให้การติดต่อฝ่ายสนับสนุนหรือการเข้าถึงแหล่งข้อมูลพื้นฐานเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือจะมีสัดส่วนไม่มาก แต่คุณก็ควรทำให้ลูกค้าหาช่องทางติดต่อได้อย่างรวดเร็ว ตัวเลือกอาจรวมถึงรายการต่อไปนี้
- อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์สนับสนุนโดยตรง
- ลิงก์ไปยังแชทกับเจ้าหน้าที่
- ลิงก์ไปยังศูนย์ช่วยเหลือหรือคำถามที่พบบ่อย
ประโยคสั้นๆ เช่น "ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ โปรดติดต่อเราที่นี่" ในเนื้อความของหน้าความสำเร็จก็เพียงพอแล้ว
การยืนยันความปลอดภัย
การย้ำเล็กน้อยว่าข้อมูลการชำระเงินได้รับการจัดการอย่างปลอดภัยถือเป็นข้อมูลที่ลูกค้ามักยินดีที่ได้ทราบ โดยอาจใช้เพียงแค่สัญลักษณ์รับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลโดยอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) หรือไอคอนรูปแม่กุญแจพร้อมข้อความว่า "การชำระเงินของคุณได้รับการประมวลผลอย่างปลอดภัยแล้ว"
การปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
ถ้าคุณรวบรวมชื่อลูกค้าระหว่างขั้นตอนการชำระเงิน หรือถ้าลูกค้าเข้าสู่ระบบอยู่ คุณสามารถปรับข้อความให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลได้ (เช่น "ขอบคุณค่ะ มายา) คำสั่งซื้อของคุณได้รับการยืนยันแล้ว") หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม รายละเอียดประเภทนี้จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้รับความเอาใจใส่ขณะใช้งาน
จะออกแบบหน้าการยืนยันอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาใช้งานอีกในอนาคต
เมื่อการชำระเงินเสร็จสิ้น คุณจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่ลูกค้ายังอยู่บนเว็บไซต์ของคุณ ด้านล่างนี้คือไอเดียที่จะช่วยให้คุณใช้ช่วงเวลานั้นได้อย่างคุ้มค่า
เสนอขั้นตอนถัดไปที่สร้างคุณค่าได้
ใช้หน้าความสำเร็จเพื่อบอกลูกค้าว่าลูกค้าสามารถทำอะไรต่อได้บ้าง สิ่งที่ทำได้อาจรวมถึงตัวเลือกต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธุรกิจของคุณ
- ติดตามคำสั่งซื้อของคุณ: ลิงก์ไปยังหน้าคำสั่งซื้อหรือข้อมูลการติดตาม
- เริ่มใช้สิทธิ์การเป็นสมาชิกของคุณ: ลิงก์ไปยังการเริ่มต้นใช้งาน แดชบอร์ด หรือบทแนะนำ
- ดาวน์โหลดสินค้าของคุณ: ลิงก์เข้าถึงสินค้าที่ลูกค้าซื้อในทันที่
แนะนำผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมหรือการอัปเกรด
นี่เป็นโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งที่จะไม่ดูเหมือนว่าคุณยัดเยียดคำแนะนำ เพราะธุรกรรมเสร็จสิ้นไปแล้ว ลูกค้าจึงอาจเปิดรับกับสิ่งอื่นที่คุณเสนอได้ แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้าเพิ่งซื้อ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- อุปกรณ์เสริมหรือสินค้าสำหรับเติมหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้
- ฟีเจอร์ระดับที่สูงขึ้นสำหรับการเป็นสมาชิก
- บริการหรือเนื้อหาเสริม
เชิญให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับธุรกิจ
หากลูกค้ายังไม่ได้สมัครสมาชิกหรือเข้าสู่ระบบ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการกระตุ้นให้ทำเช่นนั้น คุณสามารถกระตุ้นผู้ใช้ให้ทำเรื่องต่อไปนี้ได้
- ลงทะเบียนรับจดหมายข่าวทางอีเมลสำหรับข้อเสนอ อัปเดต หรือข่าวสารผลิตภัณฑ์
- สร้างบัญชีเพื่อติดตามคำสั่งซื้อและบันทึกข้อมูลของลูกค้าสำหรับใช้บริการในครั้งถัดไป
- ติดตั้งแอปของคุณเพื่อจัดการคำสั่งซื้อหรือเข้าดูคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
เพิ่มคุณค่าด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์
บางทีคุณอาจไม่ต้องการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ในกรณีนั้น คุณสามารถช่วยลูกค้าให้ได้รับประโยชน์มากขึ้นจากสิ่งที่พวกเขาเพิ่งซื้อแทนได้ดังนี้
- เสนอแหล่งข้อมูลแนะนำการเริ่มต้นใช้งานสำหรับผู้ใช้ใหม่
- ลิงก์ไปยังคู่มือการตั้งค่าหรือคำถามที่พบบ่อย
- แสดงเนื้อหาที่คัดสรรที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ
เนื้อหานี้จะยิ่งมีค่าหากสิ่งที่ลูกค้าซื้อต้องมีการเปิดใช้งาน การตั้งค่า หรือคำแนะนำในการใช้งาน
กระตุ้นให้ลูกค้าแนะนำบอกต่อ เขียนรีวิว หรือให้ข้อเสนอแนะ
ถ้าคุณจะขอให้ลูกค้าทำอะไรเพิ่มเติม ควรทำให้ง่ายและเหมาะสมกับช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น
- "แชร์กับเพื่อนและรับส่วนลด 10 ดอลลาร์สำหรับการซื้อครั้งถัดไปของคุณ"
- "ฝากรีวิวสั้นๆ"
- "บอกเราหน่อยว่าประสบการณ์เป็นอย่างไร" (ใช้แบบสำรวจง่ายๆ โดยถามคำถามเดียว)
คำกระตุ้นนี้ต้องมองเห็นได้ง่ายแต่ไม่ใช่เชิงบังคับ
แนะนำโปรแกรมสะสมแต้มหรือรางวัล
หากคุณมีสิทธิพิเศษสำหรับการกลับมาซื้อซ้ำ ควรแสดงให้เห็นในหน้านี้ ลองใช้ข้อความเชิญชวน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- "คุณได้รับ 150 แต้มจากการสั่งซื้อครั้งนี้"
- "รับส่วนลด 10% สำหรับการสั่งซื้อครั้งถัดไป เมื่อเข้าร่วมโปรแกรมสะสมแต้มของเรา"
สิ่งนี้ช่วยตอกย้ำคุณค่าของการซื้อครั้งนี้และแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับการกลับมาใช้บริการซ้ำของลูกค้า
วิธีสร้างหน้าชำระเงินสำเร็จด้วย HTML
หากคุณใช้หน้าชำระเงินที่โฮสต์ไว้ เช่น Stripe Checkout หน้ายืนยันการชำระเงินของคุณก็จะยังอยู่บนเว็บไซต์ของคุณ Stripe จะประมวลผลธุรกรรมแล้วเปลี่ยนเส้นทางลูกค้าไปยัง URL ที่คุณกำหนด สิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้านั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ลูกค้าเห็น ข้อความที่คุณสื่อ หรือสิ่งที่คุณเชื่อมโยงไป คุณกำหนดได้เองทั้งหมด
ทีมงานมักจะสร้างหน้านี้ด้วยภาษา HyperText Markup Language (HTML) และ Cascading Style Sheets (CSS) และบางครั้งอาจเพิ่ม JavaScript เข้าไปเล็กน้อยเพื่อเสริมการทำงาน ในฐานะผู้ใช้ Stripe Checkout คุณตั้งค่าหน้านี้ให้เป็นแบบตายตัวได้ หรือจะใช้ ID เซสชันการชำระเงิน เพื่อดึงรายละเอียดจากแบ็กเอนด์ของคุณและเติมข้อมูลในหน้านั้นตามความเหมาะสมก็ได้เช่นกัน
หากคุณใช้ Stripe Elements หรือการผสานการทำงานแบบกำหนดเองทั้งหมด คุณอาจไม่เปลี่ยนเส้นทางลูกค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำหนดค่าหน้าชำระเงินของคุณอย่างไร ในกรณีเหล่านี้ คุณยังคงใช้ HTML ในการสร้างหน้าที่ผู้ใช้จะเห็น เพียงแค่คุณจะไม่เปลี่ยนไปยังหน้าใหม่เท่านั้น
ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน Stripe จะเป็นผู้ดูแลกระบวนการชำระเงิน ส่วนคุณจะเป็นผู้ดูแลประสบการณ์ในการยืนยันการทำรายการ HTML ของคุณคือพื้นฐานของหน้าที่ลูกค้าจะใช้ในการดูข้อมูลให้มั่นใจ ตรวจสอบรายละเอียด และตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือออกจากหน้าไป แม้แต่ข้อความง่ายๆ อย่าง "
ชำระเงินสำเร็จ
" ก็จะได้ผลดีเมื่อแสดงผลได้รวดเร็ว ดูน่าเชื่อถือ และพาลูกค้าไปยังจุดที่มีประโยชน์ต่อพวกเขาหากคุณต้องการปรับแต่งหน้าชำระเงินสำเร็จให้เป็นแบบเฉพาะบุคคล ให้ใช้ข้อมูลเซสชันจาก Stripe เพื่อดึงชื่อของลูกค้า รายละเอียดสินค้า และวิธีการชำระเงินมาใช้ หากต้องการเริ่มแบบง่ายๆ ให้เริ่มจากหน้าที่กำหนดตายตัว แล้วค่อยเพิ่มตรรกะภายหลัง ไม่ว่าคุณจะจัดการอย่างไร นี่คือโอกาสของคุณที่จะจบกระบวนการให้ดี เปรียบเหมือนว่า Stripe พาลูกค้าไปถึงเส้นชัย แล้วคุณจึงใช้การออกแบบ HTML ของคุณเพื่อยืนยันกับลูกค้าว่าลูกค้ามาถึงที่หมายแล้ว
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ