ความท้าทาย
ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1972 เป็นต้นมา Rohan ก็ได้พัฒนาเครื่องแต่งกายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่ล้ำยุคอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความสบายและปกป้องลูกค้าจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในสหราชอาณาจักร ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกแห่งนี้หันมาเน้นระบบแบบใหม่ ซึ่งก็คือโลกดิจิทัล เนื่องจากการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 30% เป็นมากกว่า 50% จากยอดขายโดยรวมของ Rohan ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทจึงทราบดีว่าจำเป็นต้องใช้หน้าร้านดิจิทัลอันทันสมัยเพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา
"การสร้างและจัดการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซภายในเริ่มกินเวลาของนักพัฒนา เราเสียเวลาสร้างฟีเจอร์ต่างๆ ที่บริษัทอื่นพร้อมให้บริการในรูปแบบที่ใช้งานได้ทันที" Michael Gray กรรมการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของ Rohan กล่าว
ข้อผิดพลาดในระบบเก่าของ Rohan เริ่มเกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะเมื่อยอดขายสูงขึ้น จากคำสั่งซื้อหลักร้อยกลายเป็นหลักพันตลอดช่วงลดราคาหน้าหนาวและหน้าร้อน "ผมเคยวิตกก่อนที่ถึงช่วงลดราคาครั้งใหญ่เพราะผู้ให้บริการชำระเงินของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเรานั้นมีระบบที่ไม่เสถียร" Gray กล่าว "ระบบของเรามักจะหยุดทำงานในบางครั้ง และแต่ละครั้งก็ยาวนานตั้งแต่ 10 นาทีถึง 2 วันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าคุณประมวลผลการชำระเงินไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถสร้างเงินได้
Rohan ต้องการโซลูชันการชำระเงินที่ปรับได้ตามความต้องการซื้อตลอดทั้งปี
ในขณะเดียวกัน Rohan ก็ประสบปัญหาในการใช้ฟังก์ชันการรายงานข้อมูลที่ล้าสมัยของระบบการชำระเงินก่อนหน้า การดึงข้อมูลจากรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และทุกครั้งที่รัฐบาลเปลี่ยนกฎข้อบังคับ Rohan ก็ต้องแบ่งทีมนักพัฒนามาอัปเดตเว็บไซต์เพื่อให้สอดคล้องกับกฎดังกล่าว
นอกจากนี้ Rohan ยังหาข้อมูลที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงได้อย่างยากลำบาก โดยเมื่อรายงานธุรกรรมว่าเป็นการฉ้อโกงผู้ให้บริการชำระเงินรายเก่าจะไม่สามารถให้ข้อมูลประกอบใดๆ ได้เลย ทำให้เมื่อลูกค้าที่ดำเนินการอย่างถูกต้องโทรมาสอบถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ธุรกรรมถูกปฏิเสธ ทีมบริการลูกค้าของ Rohan จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มาก "เราต้องค้นหาข้อมูลในหลายๆ ที่ และต้องเขียนฟังก์ชันเพิ่มเพื่อจัดการการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น และปรับให้กระบวนการต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับทีมบริการลูกค้า โดยทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมากในแต่ละวัน" Gray กล่าว
ท้ายที่สุดแล้ว Rohan ก็ไม่สามารถนำเสนอวิธีการชำระเงินใหม่ๆ โดยที่ไม่ต้องใช้ทีมภายใน ทำให้บริษัทต้องการความสามารถสำหรับเปิดตัววิธีการชำระเงินใหม่ๆ อย่างง่ายดายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและกระตุ้นอัตราการชำระเงินสำเร็จ
โซลูชัน
ในปี 2022 Rohan ตัดสินใจแทนที่ระบบการชำระเงินแบบเก่าโดยโซลูชันที่ทันสมัย โดยเลือกสร้างระบบด้วย BigCommerce ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ SaaS ที่เป็นโอเพนซอร์ส โดยมีฟังก์ชันแบบพร้อมใช้งานทันทีและฟังก์ชันการกำหนดค่าที่หลากหลายสำหรับให้ธุรกิจสร้างหน้าร้านออนไลน์
Rohan จ้างทีมบริหารจาก BigCommerce เพื่อดูแลหน้าร้านออนไลน์ในเดือนพฤศจิกายน 2022 และเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ได้ในเวลาเพียง 3 เดือน หลังจากนั้นไม่นาน ธุรกิจค้าปลีกแห่งนี้ก็เชื่อมต่อระบบกับ Stripe ในฐานะผู้ประมวลผลการชำระเงินผ่าน BigCommerce ซึ่งรวมถึงการใช้ Stripe Payments เพื่อจัดการปัญหาด้านความเสถียร การรายงานข้อมูล และวิธีการชำระเงินที่จำกัดจากผู้ให้บริการรายก่อน
การใช้แดชบอร์ด Stripe ช่วยให้ Rohan ได้ใช้ฟังก์ชันการรายงานข้อมูลที่ระบบเก่าไม่มี ตอนนี้ Rohan สามารถใช้งานทรัพยากรที่สำคัญ ติดตามการเชื่อมต่อระบบ และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจได้อย่างง่ายดาย การได้รับประโยชน์เหล่านี้ร่วมกับการใช้งาน BigCommerce ทำให้ Rohan รายงานและปรับตามมาตรฐานด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องหาข้อมูลใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเองหรือแบ่งทีมวิศวกรรมมาทำการอัปเดตระบบเหมือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Rohan ยังได้เพิ่ม Stripe Radar เข้ามาในระบบเพื่อตรวจจับและบล็อกการฉ้อโกง ทำให้สามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการฉ้อโกงแก่ทีมบริการลูกค้าเมื่อมีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามเรื่องการชำระเงินที่เฉพาะเจาะจง
Rohan ยังได้ติดตั้งใช้งานชุดเครื่องมือการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพของ Stripe ซึ่งประกอบไปด้วย Payment Element(องค์ประกอบ UI แบบผสานรวม), วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย และ Link (ประสบการณ์การชำระเงินแบบรวดเร็ว) โดย Rohan ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อสร้างหน้าชำระเงินที่ออกแบบเองซึ่งเสถียรและเพื่อให้เพิ่มตัวเลือกการชำระเงินใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมถึง Apple Pay และ Google Pay เครื่องมือที่ใช้งานง่ายนี้ช่วยให้นักพัฒนาของ Rohan จัดการหน้าร้านออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มอัตราการชำระเงินสำเร็จ
"Stripe มอบประสบการณ์การชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องง่ายอย่างที่ควรจะเป็น โดยลูกค้าแค่กรอกรายละเอียด ซื้อสินค้า แล้วเราก็ได้รับเงิน" Gray กล่าว "ตอนนี้ระบบของเราไม่เคยล่ม ไม่เคยเกิดปัญหาระหว่างขั้นตอนต่างๆ และวิศวกรไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขข้อผิดพลาดอีกต่อไป"
ผลลัพธ์
Rohan ติดตั้งใช้งาน Stripe ในแพลตฟอร์มได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 วัน ทำให้ลดช่วงเวลาที่ระบบหยุดทำงาน ปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต และปรับขั้นตอนการป้องกันการฉ้อโกงให้ง่ายขึ้น "เอกสารประกอบนั้นตรงไปตรงมา เรียบเรียงดี และเข้าใจง่าย ทำให้การเชื่อมต่อระบบกับ Stripe เป็นไปอย่างราบรื่น" Gray กล่าว
มีช่วงเวลาที่ระบบหยุดทำงานเป็นศูนย์ แม้ในช่วงที่ลูกค้าซื้อสินค้าเยอะ
Stripe เป็นผู้ประมวลผลการชำระเงินรายใหญ่เพียงรายเดียวที่ประกาศ ช่วงเวลาทำงานของระบบต่อสาธารณะ โดยมีคำขอใช้ API กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน และมีการทดสอบความสามารถในการรองรับทุกๆ วัน เซิร์ฟเวอร์ API ของ Stripe สามารถขยายขอบเขตได้อย่างง่ายดาย และมีความหน่วงต่ำมาก ทำให้ Rohan เร่งกระบวนการต่างๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าได้ ปัจจุบันนี้ Rohan ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ความเสถียร และความสามารถในการขยายระบบในช่วงที่มีลูกค้าสูงสุดอีกต่อไป
ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น 6.5% ด้วยอัตราการยอมรับการชำระเงินที่สูงขึ้น
หลังจากที่เริ่มใช้งาน BigCommerce และ Stripe เพียงสองเดือน Rohan ก็มีอัตราลูกค้าในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 6.5% โดย Gray ระบุว่าเกิดจากอัตราการยอมรับการชำระเงินที่สูงขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจาก Stripe Radar ช่วยให้บริษัทตรวจจับการฉ้อโกงได้โดยที่ไม่บล็อกลูกค้าที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง
การเชื่อมต่อระบบกับ Radar ยังช่วยให้ลูกค้าเข้าใจคำถามของ Rohan ที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงได้มากขึ้นอีกด้วย "ข้อมูลการฉ้อโกงที่เราได้รับจาก Stripe นั้นชัดเจนกว่าผู้ให้บริการรายเก่าเป็นอย่างมาก" Gray กล่าว "เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าไม่ต้องแปลความหมายของคำถามอีกทีเหมือนที่ผ่านมา"
การสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ปรับแต่งได้เพื่อนำเสนอวิธีการชำระเงินใหม่ๆ
หลังจากที่ใช้ Payment Element แล้ว Rohan ก็มีหน้าการชำระเงินที่ปรับตามลูกค้าและอัปเดตได้ง่ายดายเพื่อแสดงช่องกรอกข้อมูลและวิธีการชำระเงินใหม่ๆ โดยที่บริษัทยังคงมอบประสบการณ์การชำระเงินในแบบที่ต้องการได้ เมื่อไม่นานมากนี้ Rohan ได้เปิดใช้งาน Apple Pay เป็นวิธีการชำระเงินเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์ โดยตอนที่ยังแพลตฟอร์มเก่าอยู่นั้น บริษัทต้องเริ่มเขียนโค้ดเองเพื่อเปิดใช้การเชื่อมต่อระบบ แต่ Payment Element ช่วยให้ Rohan สามารถเปิดใช้งาน Apple Pay ได้เพียงแค่ทำเครื่องหมายในช่องตัวเลือกเท่านั้น
"การนำเสนอ Apple Pay ให้ลูกค้านั้นมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากลูกค้าของเรา 40% ใช้อุปกรณ์ Apple" Gray ระบุ "เราใช้ BigCommerce และ Stripe ในการติดตั้งส่วนปรับปรุงระบบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการโต้ตอบ ฟังก์ชันการทำงาน และปรับปรุงรูปแบบการแสดงผลแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ"
หลังจากนี้ Rohan มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และบริษัททราบดีว่าจะวางใจให้ Stripe จัดการการชำระเงินในหลากหลายสกุลเงินได้เพียงคลิกแค่ไม่กี่ครั้ง
ระบบใหม่ของเราแตกต่างจากระบบเก่าโดยสิ้นเชิง และเว็บไซต์ของเราก็ทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังใช้พนักงานน้อยลงถึง 50% ข้อมูลต่างๆ ชัดเจนขึ้นและจัดการง่ายขึ้น ตอนนี้เราสามารถมอบและพัฒนาบริการให้ดีขึ้นสำหรับลูกค้าได้เต็มที่ โดยไม่ต้องเสียเวลาแก้ปัญหา
เกี่ยวกับพาร์ทเนอร์
โซลูชัน SaaS แบบโอเพนซอร์สของ BigCommerce ช่วยสนับสนุนให้ผู้ค้าก่อตั้ง คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และพัฒนาธุรกิจได้พร้อมๆ กับการเพิ่มยอดขายในทุกขั้นของการเติบโต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันของเราและ BigCommerce
พวกเราที่ BigCommerce ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทีมของ Rohan เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โซลูชัน SaaS แบบโอเพนซอร์สของ BigCommerce ช่วยให้ Rohan เลือกโซลูชันของพาร์ทเนอร์ที่ตรงตามความต้องการทางธุรกิจได้มากที่สุด BigCommerce นำเสนอการเชื่อมต่อระบบกับ Stripe ที่ราบรื่น เพื่อช่วยให้ลูกค้าทำงานร่วมกับผู้ให้บริการชำระเงินที่จะช่วยสนับสนุนเกี่ยวกับอุปสรรคด้านธุรกิจต่างๆ เช่น อัตราการใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นในบางช่วงเวลาที่ Rohan เคยประสบมาก่อน