ความท้าทาย

Open Infra เชื่อว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตช่วยให้ผู้คนหันมาใส่ใจกับสิ่งที่สำคัญต่อตนเองมากที่สุด รวมถึงสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปี 2009 บริษัทนี้ก็ได้นำการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์ออปติกเข้ามาให้บริการในเมืองต่างๆ กว่า 50 เมืองในแถบสแกนดิเนเวีย เมื่อ Open Infra เติบโตขึ้น บริษัทก็เริ่มต้องการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและใช้ Zapier ที่ช่วยให้ขั้นตอนการทำงานต่างๆ เป็นไปแบบอัตโนมัติ โดยเชื่อมต่อแอปแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ในช่วงแรก Open Infra ใช้ Zapier เพื่อปรับงานเฉพาะส่วนให้เป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงกรณีที่อาจหยุดให้บริการในช่วงที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เมื่อ Webhook ที่เกี่ยวข้องได้รับสัญญาณข้อผิดพลาดว่าการเชื่อมต่อหยุดทำงาน Open Infra ก็จะได้รับการแจ้งเตือนที่ระบุพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ การแจ้งเตือนดังกล่าวจะสร้างตั๋วขึ้นมาเพื่อให้แผนกเครือข่ายของบริษัทนี้เข้ามาตรวจสอบปัญหาและส่ง SMS ให้กับลูกค้าทุกรายที่ได้รับผลกระทบ โดยทุกขั้นตอนเกิดขึ้นผ่านทาง Zapier

ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นนี้ช่วยให้ Open Infra ขยายธุรกิจได้มากขึ้น ในช่วงปี 2021 บริษัทสัญชาติสวีเดนนี้มองเห็นโอกาสที่จะเติบโตสู่ระดับสากล ซึ่งต้องมีผู้ให้บริการเรียกเก็บเงินและการชำระเงินรายใหม่เข้ามาช่วยออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าและเรียกเก็บเงินออนไลน์หลังจากติดตั้งไฟเบอร์ที่บ้านของลูกค้าเสร็จแล้ว "เราต้องการทำให้แน่ใจว่า มีการออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าอย่างถูกต้อง ตรงเวลา และมีประสิทธิภาพ ส่วนขั้นตอนการชำระเงินก็เป็นไปอย่างราบรื่นครับ" คุณ Nevio Vapnar ซึ่งดำรงตำแหน่ง Product Manager for Billing and Automation ของ Open Infra กล่าว "เราต้องการทำให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เหนือระดับที่สุดครับ"

พาร์ทเนอร์รายใหม่นี้ต้องช่วยให้เปิดและปิดให้บริการวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นได้ง่ายๆ เมื่อ Open Infra เริ่มดำเนินงานในพื้นที่ต่างๆ ของโลก ประเด็นสำคัญก็คือ เทคโนโลยีของพาร์ทเนอร์การชำระเงินนี้จะต้องผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ของ Open Infra ได้อย่างลงตัว และส่งเสริมการเดินหน้าพัฒนาขั้นตอนต่างๆ ทั่วทั้งธุรกิจให้เป็นแบบอัตโนมัติ

โซลูชัน

หลังจากศึกษาผู้ให้บริการชำระเงินไปหลายราย Open Infra ก็ตัดสินใจเลือกใช้ Stripe เพื่อนำร่องในสหราชอาณาจักร "เรากำลังมองหาแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้ทั่วโลก เพราะเราคำนึงถึงความสามารถในการขยายการรองรับ และอยากจะแน่ใจด้วยว่า เราจะผสานการทำงานเข้ากับ Zapier ได้ เพราะเราใช้ Zapier ภายในองค์กรกันมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ" คุณ Vapnar กล่าว

การนำร่องในสหราชอาณาจักรประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจน Open Infra ย้ายลูกค้าปัจจุบันที่ยังไม่ได้รับใบแจ้งหนี้จากผู้ให้บริการรายเดิมมาใช้ Stripe ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา บริษัทนี้ได้นำ Stripe Billing และ Stripe Payments เข้ามาใช้ในการออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าและประมวลผลการชำระเงินทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เมื่อลูกค้าใหม่มีการลงนามและพร้อมใช้งานแล้ว ขั้นตอนการทำงานใน Zapier ก็จะอัปเดตบันทึกลูกค้าในบัญชี Stripe ที่เกี่ยวข้องตามภูมิภาค แล้วสั่งให้ Zapier จัดทำใบแจ้งหนี้ใน Stripe และส่งให้ลูกค้า

Open Infra ได้นำชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe เข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ได้คล่องตัวขึ้นไปอีก ชุดเครื่องมือนี้ประกอบด้วยชุดส่วนประกอบ UI แบบผสานรวมได้ผ่าน Stripe Elements การเข้าถึงวิธีการชำระเงิน 100 วิธี และ Link ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินอย่างรวดเร็วของ Stripe ที่จะกรอกรายละเอียดการชำระเงินของลูกค้าโดยอัตโนมัติเพื่อให้การชำระเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วง่ายดาย Payment Element ของ Stripe ช่วยให้บริษัทนี้เปิดให้บริการวิธีการชำระเงินเพิ่มเติมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนโค้ดหรือพัฒนา นอกจากนี้ ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพยังมาพร้อม Payment Links ที่ช่วยให้ Open Infra ทำยอดขายได้โดยการแชร์ลิงก์ไปยังหน้าชำระเงินโดยไม่ต้องเขียนโค้ดอีกด้วย

เมื่อมีการนำ Stripe เข้ามาใช้ Open Infra ก็เริ่มใช้ Zapier เพื่อช่วยให้การเรียกเก็บเงินเป็นแบบอัตโนมัติมากขึ้นอีก เช่น การจัดการกับใบแจ้งหนี้ที่ค้างชำระ คุณ Vapnar ใช้ Zapier เพื่อวางขั้นตอนการทำงานให้ตรวจสอบข้อมูลเก่าในใบแจ้งหนี้ และสร้างตั๋วในการผสานการทำงานกับ Salesforce ของ Open Infra จากนั้น การผสานการทำงานกับ Zapier ก็จะสั่งให้แพลตฟอร์มอีเมลของ Open Infra ส่งอีเมลแจ้งเตือนพร้อมลิงก์ชำระเงินให้กับลูกค้า รวมถึงลิงก์ไปยังพอร์ทัลการชำระเงินของบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stripe

ผลลัพธ์

การผสานการทำงานกับ Zapier ของ Stripe ช่วยให้ออกใบแจ้งหนี้ได้เร็วขึ้น จากที่เคยใช้เวลาเป็นวันเหลือเพียงไม่กี่วินาที

ก่อนที่ Open Infra จะยกระดับการทำงานด้วย Stripe และ Zapier เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทนี้เคยจัดทำใบแจ้งหนี้ได้เพียง 80 รายการต่อวัน ขั้นตอนนี้เคยใช้เวลานานมากจนบางครั้งบริษัทต้องยอมเลื่อนวันครบกำหนดชำระออกไปเนื่องจากออกใบแจ้งหนี้ล่าช้า แต่ตอนนี้ Open Infra จัดทำใบแจ้งหนี้ได้ 800 รายการต่อวินาที ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถเก็บเงินได้ตรงเวลาขึ้นเป็นอย่างมาก

"เจ้าหน้าที่เคยต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการจัดทำใบแจ้งหนี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติจากการผสานการทำงานที่ราบรื่นระหว่าง Stripe กับ Zapier ส่วนเจ้าหน้าที่ก็หันไปใส่ใจในการช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือแทนครับ" คุณ Vapnar กล่าว

วิธีการชำระเงินในท้องถิ่นช่วยส่งเสริมการขยายตัวธุรกิจสู่สากล

การเปิดและปิดให้บริการวิธีการชำระเงินได้ง่ายๆ ช่วยส่งเสริม Open Infra ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก เนื่องจากบริษัทสามารถปรับแต่งวิธีการชำระเงินไปตามตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้าได้ เช่น คุณ Vapnar เพิ่งปิด Google Pay ในประเทศเยอรมนีไปเพราะคนไม่ค่อยใช้กัน แต่เมื่อมีลูกค้าชาวเยอรมนีไม่กี่รายขอใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล คุณ Vapnar ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งได้ทันที "ความยืดหยุ่นนี้เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมชอบใช้ Stripe มากครับ" คุณ Vapnar กล่าว "หากลูกค้าบอกว่าอยากให้เรารองรับวิธีการชำระเงินแบบไหน เราก็เปิดให้บริการได้เลยทันทีครับ"

ทุกวันนี้ ลูกค้าของ Open Infra สามารถชำระเงินด้วยบัตร (ได้แก่เครดิต เดบิต และ Amex), Link, Apple Pay, Google Pay, การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ Bacs, การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA และการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ ACH

การผสานการทำงานร่วมกันช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน

การใช้ Stripe ร่วมกับ Zapier ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Open Infra และช่วยให้บริษัทนี้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากทั้ง 2 แพลตฟอร์ม "ในช่วงนำร่องในสหราชอาณาจักรแค่ 3-4 เดือน ผมก็รู้เลยว่า ผมสามารถใช้ Stripe ทำอะไรได้อีกมากเพราะมี Zapier และเมื่อมี Stripe ผมก็ใช้ Zapier ได้เต็มที่มากขึ้นไปด้วย" คุณ Vapnar กล่าว

เกี่ยวกับ Zapier

Zapier เป็นแพลตฟอร์มระบบ AI อัตโนมัติแบบครบวงจรสำหรับทีมปฏิบัติการ Zapier ช่วยให้ทีมต่างๆ สร้างโซลูชันในแบบของตัวเองได้ โดยรวมเครื่องมือแบบที่ไม่ต้องเขียนโค้ดและเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยเข้ากับการผสานการทำงานกว่า 7,000 รายการ เช่น Stripe