Keap ใช้ Stripe เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเติบโตได้ด้วยโซลูชันการชำระเงินแบบรวมและการปฏิบัติตามข้อกำหนด

ซอฟต์แวร์ CRM ของ Keap ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กหลายพันรายขยายกิจการได้ง่ายขึ้นมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ปรึกษา เอเจนซี่การตลาด ผู้ฝึกสอน และธุรกิจสตาร์ทอัพ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

    Tax
    Connect
    Payments
    Financial Connections
อเมริกาเหนือ
แพลตฟอร์ม

Keap เป็นแพลตฟอร์มการทำงานอัตโนมัติด้านการขายและการตลาดแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กพัฒนาการจัดการความสำคัญกับลูกค้าได้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กระบวนการเติบโตของลูกค้าทำได้ง่ายขึ้น ลูกค้าของ Keap ประกอบไปด้วยธุรกิจหลายขนาดและมีประสบการณ์หลายระดับ จึงไม่มีโซลูชันใดโซลูชันหนึ่งที่จะจัดการกับความท้าทายของทุกเจ้าได้ทั้งหมด Keap มองหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าทุกรายปรับปรุงแนวทางการดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ รวมถึงการประมวลผลการชำระเงินและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีการขาย

ความท้าทาย

ก่อนหน้านี้ Keap อนุญาตให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการการชำระเงินรายใดก็ได้ที่ใช้อยู่แล้ว เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าร่วมแพลตฟอร์มได้ง่าย

แต่ทว่าในช่วงต้นปี 2019 ทาง Keap ต้องจัดการผู้ให้บริการการชำระเงินมากกว่า 20 ราย ทำให้เป็นการยากที่จะอัปเดตระบบการชำระเงินของตน ในบางกรณี Keap ยังเสียรายได้ไปด้วย เพราะลูกค้ามีการจัดการการชำระเงินนอกแพลตฟอร์ม Keap

ปัญหานี้ไม่เพียงส่งผลต่อรายรับของ Keap เท่านั้น แต่ยังทำให้ลูกค้าต้องเจียดงบประมาณที่มีอยู่จำกัดเพื่อไปใช้กับซอฟต์แวร์และการเชื่อมต่อการทำงานเพิ่มเติมอีกด้วย "เรามีลูกค้าที่ต้องการจะใช้ Stripe" Danny Diede ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์และหัวหน้าฝ่ายการชำระเงินของ Keap กล่าว "เราเห็นว่าลูกค้ายินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อใช้แพลตฟอร์มนี้ เราจึงไม่ลังเลเลยที่จะใช้สถาปัตยกรรมการเชื่อมต่อการทำงานของ Stripe แล้วเราก็เห็นได้ทันทีว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว"

โซลูชัน

Keap เลือกที่จะผสานระบบการเงินของตนเข้ากับ Stripe โดย Keap ต้องการที่จะทำงานกับผู้ให้บริการการชำระเงินที่จะช่วยให้ลูกค้าของตนเติบโตและช่วยให้ Keap ขยายแพลตฟอร์มของตัวเองไปพร้อมกัน แพลตฟอร์ม Keap ยินดีมากที่จะได้นำเสนอฟีเจอร์สำคัญ 2 อย่าง ได้แก่ วิธีการชำระเงินเพิ่มเติม เช่น ACH และการทำงานอัตโนมัติด้านภาษีการขายผ่าน Stripe Tax

ก่อนที่จะใช้ Stripe ลูกค้าของ Keap มีตัวเลือกการชำระเงินเพียงอย่างเดียวคือบัตรเครดิต ซึ่งค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตของการทำธุรกรรมทีละรายการก็ค่อนข้างสูง Keap จึงต้องการที่จะนำเสนอทางเลือกเพิ่มเติม ตอนนี้ลูกค้าของ Keap สามารถรับการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารได้แล้ว และ Stripe Connect ก็ช่วยให้ลูกค้าจัดการธุรกรรมทั้งหมดผ่าน Keap ได้โดยตรง "การที่เราสามารถเชื่อมต่อการทำงานของ Stripe และยังคงมีทุกอย่างนั้นทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณค่ามาก" Diede กล่าว

ขณะที่ Keap เติบโต แพลตฟอร์มก็สามารถเสนอตัวเลือกการชำระเงินใหม่ๆ สำหรับตลาดใหม่ได้ทันที "วิธีการชำระเงินบางวิธีก็ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในบางภูมิภาค การปรับใช้โครงการแบบครั้งเดียวเสร็จอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าคุณค่าจริงที่มอบให้ แต่เมื่อใช้ Stripe ผมสามารถเข้าไปที่ระบบหลังบ้านแล้วเปิดใช้วิธีการชำระเงินได้ภายในไม่กี่นาที" Diede กล่าว

เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีการขายระดับท้องถิ่นหรือระดับรัฐ หรือการจัดการรายละเอียดการยื่นและส่งภาษี ก่อนหน้านี้ลูกค้าของ Keap จะต้องสร้างตารางภาษีด้วยตัวเองที่มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดเยอะมากและต้องมีความรู้ด้านภาษีท้องถิ่นโดยเฉพาะ Keap หันมาใช้ Stripe Tax เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกรายทำงานด้านการจัดการภาษีอย่างเป็นอัตโนมัติและมีมาตรฐาน "ค่าใช้จ่ายนั้นต่ำมาก โดยเฉพาะถ้าเทียบกับการจ่ายเงินให้ CPA [ผู้สอบรับบัญชีรับอนุญาต] ช่วยแก้ไขปัญหาภาษีหลังจากเกิดขึ้นแล้ว Stripe มีความเข้าใจในข้อบังคับทั้งหมดและคอยอัปเดตให้เป็นไปตามกฎปัจจุบันอยู่เสมอ ซึ่งช่วยขจัดความกังวลของลูกค้าในการจัดการภาษีได้เป็นอย่างมาก" Diede กล่าว

การเชื่อมต่อกับ Tax ทำงานได้กับผู้ประมวลผลการชำระเงินทุกราย Keap จึงสามารถมอบการทำงานอัตโนมัติด้านภาษีให้กับลูกค้าทั้งหมด รวมถึงลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้ Stripe เป็นผู้ประมวลผลการชำระเงินด้วย

ผลลัพธ์

ขจัดค่าใช้จ่ายจากบุคคลที่สามและค่าธรรมเนียมธุรกรรม

เนื่องจาก Keap เป็นโซลูชันแบบครบวงจร แพลตฟอร์มการชำระเงินจึงต้องรองรับการชำระเงินของลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ให้บริการการชำระเงินบางรายเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อมีการโอนเงินที่ชำระ และลูกค้าก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ การผสานโซลูชันการชำระเงินผ่าน Stripe ทำให้ลูกค้าของ Keap ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเหล่านี้อีกต่อไปและเติบโตได้เร็วขึ้น

มีอัตราการรักษาลูกค้าได้ถึง 85% ด้วยกระบวนการการชำระเงินที่เป็นระเบียบมากขึ้น

การนำไปใช้งานที่ง่ายดายและการประหยัดเงินได้หลายพันดอลลาร์มีส่วนในการเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า Keap พบว่าอัตราการรักษาลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับลูกค้าที่ใช้ Stripe เป็นผู้ให้บริการการชำระเงิน ปัจจุบันอัตรานี้อยู่ที่ 85% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

การเปิดตัวระบบอัตโนมัติด้านภาษีเร็วกว่าคู่แข่งหลายเดือน

Tax มีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การรักษาลูกค้าของ Keap และระยะเวลาการปรับใช้งานที่รวดเร็วก็ช่วยให้ Keap มอบบริการที่ลูกค้าเรียกร้องกันมามากได้อย่างรวดเร็วเป็นประวัติกาล โซลูชันอื่นๆ ที่บริษัทประเมินไว้น่าจะใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึงเป็นปีกว่าจะใช้งานได้ แต่ Keap สามารถเริ่มใช้ Tax ได้ภายในเวลาไม่ถึง 8 สัปดาห์ "ลูกค้าของเราย้ายมาใช้ Stripe เพิ่มขึ้นเดือนต่อเดือน Stripe มอบอะไรใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงให้กับลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 3 ถึง 6 เดือน และผมก็รู้ว่าในการที่เชื่อมต่อการทำงานนี้ ทีมของผมเพียงต้องเขียนโค้ดไม่กี่บรรทัด" Diede กล่าว

รู้เสมอว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร

ค่าบริการต่อธุรกรรมที่รวมไว้หมดแล้วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

เริ่มต้นผสานการทำงาน

เริ่มใช้งาน Stripe ได้ภายใน 10 นาที