ความท้าทาย

ตอนที่คุณ Stanislas Polu ซึ่งเคยเป็นวิศวกรให้กับ Stripe ได้ร่วมก่อตั้ง Dust ขึ้นในปี 2023 เขาก็รู้เลยว่าอยากจะให้การชำระเงิน การเรียกเก็บเงิน และการออกใบแจ้งหนี้ของบริษัทเกิดขึ้นผ่านระบบของ Stripe เพราะเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีของ Stripe จะขยายการรองรับไปพร้อมๆ กับการเติบโตทั่วโลกของ Dust โดยทั้งสองบริษัทนี้ได้มาร่วมงานกันอีกครั้งตอนที่ Dust ตั้งเป้าที่จะเปิดให้ลูกค้ายกระดับงานปฏิบัติการทางการเงินต่างๆ ตั้งแต่การจัดทำใบแจ้งหนี้ การคืนเงินให้กับลูกค้า ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนการชำระเงินตามรอบบิลโดยใช้เอเจนต์ AI แบบเฉพาะทาง

เพื่อการนี้ Dust จึงพยายามหาวิธีที่จะช่วยให้เอเจนต์ที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มดังกล่าวโต้ตอบกับข้อมูลของ Stripe ได้โดยตรงอย่างปลอดภัยเป็นวงกว้าง และไม่ต้องทำการผสานการทำงานแบบกำหนดเองซึ่งใช้ทรัพยากรจำนวนมากในด้านวิศวกรรมและทำให้เกิดภาระทางเทคนิค (Technical Debt) มากขึ้นเรื่อยๆ

"จริงๆ แล้ว Dust มีไว้ใช้เป็นระบบปฏิบัติการเอเจนต์ให้กับบริษัทครับ" คุณ Polu กล่าว "ภารกิจของเรา คือ การปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานให้กับผู้คน และเพื่อการนั้น เราก็ต้องเป็นองค์กรระดับแนวหน้าในการจัดทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้คนใช้เอเจนต์ได้อย่างสบายใจ เพื่อให้การทำงานดีขึ้น เร็วขึ้น และน่าสนใจมากขึ้น เมื่อบริษัทมีการดำเนินงานทางการเงินเป็นส่วนสำคัญ การผสานการทำงานกับ MCP ของ Stripe ก็น่าจะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมซึ่งจะช่วยให้ทีมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วขยายขีดความสามารถของตนได้ ส่วนเอเจนต์ของ Dust ก็เข้าใช้ข้อมูลการชำระเงินได้ครับ"

โซลูชัน

เอเจนต์ของ Dust ที่มีองค์ความรู้ภายในองค์กรและ MCP ของ Stripe

เอเจนต์ของ Dust สามารถเข้าถึงข้อมูลแวดล้อมภายในองค์กร (เช่น CRM สำหรับข้อมูลลูกค้า ฐานความรู้สำหรับขั้นตอนต่างๆ) เพื่อดำเนินการและทำงานให้แล้วเสร็จ เมื่อผสานการทำงานกับเซิร์ฟเวอร์ Model Context Protocol ของ Stripe (ชุดเครื่องมือที่เอเจนต์ AI ใช้โต้ตอบกับ Stripe API ได้) ลูกค้าของ Dust ก็สามารถสร้างเอเจนต์ที่ใช้องค์ความรู้ภายในองค์กรและข้อมูล Stripe ได้อย่างปลอดภัยในทันทีเพื่อปฏิบัติงานทางการเงินที่มีมูลค่าสูงให้เสร็จสิ้นได้

นักพัฒนาเพียงแค่ระบุเซิร์ฟเวอร์ MCP และคีย์ API แล้วกำหนดค่าสิทธิ์อนุญาตก็จะเชื่อมต่อกับ Stripe และทำให้ Stripe เป็นเครื่องมือที่พร้อมใช้งานภายใน Dust ได้เลย โดย Stripe จะส่งข้อมูลให้เอเจนต์เท่าที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในการทำงานของตนเท่านั้น ซึ่งช่วยให้ Dust ปรับขั้นตอนการทำงานที่ละเอียดอ่อนซึ่งเกี่ยวข้องกับการชำระเงินให้เป็นไปโดยอัตโนมัติได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อบริษัทหรือลูกค้า เนื่องจากความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด (โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องข้อมูลทางการเงิน) แพลตฟอร์มของ Dust จึงช่วยให้ผู้ใช้ติดตามความคืบหน้าได้อยู่เสมอผ่านการทบทวนและตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ที่เอเจนต์แนะนำ

การทดสอบผ่านการใช้งานภายในองค์กรก่อนการเปิดตัวสู่สาธารณะ

เนื่องจากทีมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วคอยมองหาวิธีขยายขีดความสามารถอยู่ตลอด Dust ได้คอยทดสอบเป็นการภายในล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวสู่สาธารณะอยู่เสมอ โดย Dust เรียกแนวทางปฏิบัตินี้ว่า "Dust for Dust" ด้วยเหตุนี้ ทีมงานจะเริ่มแก้ปัญหาคอขวดของการดำเนินงานทางการเงินต่างๆ ในองค์กรก่อนที่จะให้บริการเซิร์ฟเวอร์ MCP ของ Stripe แก่ฐานลูกค้า

Dust สร้างเอเจนต์ในการคืนเงินอัจฉริยะขึ้นมาใช้เครื่องมือที่สนับสนุนโดย Stripe เอเจนต์นี้สามารถตรวจจับคำขอเงินคืน ตรวจสอบประวัติของลูกค้า ตรวจสอบการเรียกเก็บเงินใน Stripe และใช้นโยบายการคืนเงินของบริษัทเพื่อพิจารณาว่าควรอนุมัติคำขอนั้นๆ หรือไม่ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว เอเจนต์จะดำเนินการคืนเงินใน Stripe และสร้างอีเมลยืนยันสำหรับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะขึ้นมา

Dust ยังสร้างเอเจนต์จัดทำใบแจ้งหนี้ขึ้นมาด้วย เอเจนต์นี้จะจัดทำใบแจ้งหนี้แล้วส่งอีเมลแบบเฉพาะตัวเพื่อชี้แจงค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกจากนี้ยังสร้างเอเจนต์ Stripe มาช่วยจัดการคำขอต่างๆ หลากหลายแบบมากขึ้นด้วยการรวมข้อมูลจาก Stripe เข้ากับ CRM, อีเมล, คลังข้อมูล และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วยให้ทีมสนับสนุนลูกค้าของ Dust ตอบข้อสงสัยต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลลัพธ์

Dust เชื่อมต่อเอเจนต์กับ Stripe ได้ภายในไม่กี่นาที

เนื่องจากแพลตฟอร์มของ Dust ออกแบบมาให้สร้างและใช้งานเอเจนต์ AI ได้ง่ายๆ แพลตฟอร์มนี้จึงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีในการผสานการทำงาน Stripe ผ่านเซิร์ฟเวอร์ MCP และช่วยให้เอเจนต์ AI เข้าถึงข้อมูลการชำระเงินได้อย่างปลอดภัย

คุณ Frank Aloia ซึ่งเป็น AI Engineerของ Dust กล่าวว่า "Dust มาพร้อมฟังก์ชันในการผสานการทำงานเครื่องมือ MCP ต่างๆ เข้ากับเอเจนต์เฉพาะทางอยู่แล้ว เราแค่ระบุ Stripe เป็นเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลก็เพียงพอแล้ว จากนั้น คุณก็เริ่มสร้างเอเจนต์สำหรับกรณีการใช้งานที่คุณต้องการโดยเฉพาะได้เลย"

ทีมสนับสนุนของ Dust ประหยัดเวลาได้หลายชั่วโมงด้วยระบบคืนเงินอัตโนมัติ

เอเจนต์การคืนเงินที่สนับสนุนโดย Stripe ช่วยให้ Dust ปรับขั้นตอนการคืนเงินหลายๆ ขั้นตอนให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ เช่น การตรวจสอบประวัติลูกค้า การตรวจสอบใบแจ้งหนี้ การออกเงินคืน และการร่างอีเมล ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับคำขอเงินคืนแต่ละรายการ แต่เมื่อมีระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย การคืนเงินก็สามารถทำได้ภายในไม่กี่วินาที

คุณ Nicolas Chinot ซึ่งเป็น US General Manager ของ Dust กล่าวว่า "แทนที่จะเสียเวลานานไปกับงานมูลค่าต่ำ ทีมต่างๆ จะได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดไปกับงานสำคัญๆ และลูกค้าก็ย่อมรู้สึกได้"

Dust ช่วยให้ลูกค้าสร้างเอเจนต์ AI ที่สนับสนุนโดย MCP ของ Stripe

หลังจากประสบความสำเร็จกับกรณีการใช้งานภายในองค์กรแล้ว Dust ก็เตรียมเปิดโอกาสให้ลูกค้าหลายพันรายได้สร้างเอเจนต์ที่ขับเคลื่อนโดย MCP ของ Stripe ลูกค้าจะเชื่อมต่อบัญชี Stripe ของตนเองภายใน Dust, กำหนดค่าสิทธิ์อนุญาต และเริ่มทำให้ขั้นตอนการทำงานต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติได้ เช่น การคืนเงิน การออกใบแจ้งหนี้ การอัปเดตบัญชี และอื่นๆ

คุณ Chinot กล่าวว่า "บริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทของเราเอง ก็กำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้แน่ใจว่าปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นภายในองค์กรจะไม่เกิดขึ้นกับฐานลูกค้า เอเจนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลภายใน (รวมถึงข้อมูลทางการเงินผ่าน MCP ของ Stripe) จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยที่เปี่ยมประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการขยายการรองรับได้ถึงขีดสุด"