คุณก่อตั้ง Dreamship เมื่อปี 2018 อะไรเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณเปิดตัวแพลตฟอร์ม POD

ผมและผู้ร่วมก่อตั้ง Bo Nguyen และ Eli McNutt มองเห็นโอกาสสำคัญในตลาด POD ของเวียดนาม ผู้ประกอบการที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่ต้องการทิศทางที่ชัดเจนในการเดินไปข้างหน้า สมัยที่ยังไม่มีทิศทางนี้ เหล่าผู้ประกอบการต้องเริ่มธุรกิจด้วยเครื่องมืออีคอมเมิร์ซแค่เท่าที่มี และตลาดก็เต็มไปด้วยการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ความขัดแย้งเรื่องเครื่องหมายการค้า และการฉ้อโกง

เราเห็นว่าความต้องการแนวทางด้านอีคอมเมิร์ซที่ถูกจรรยาบรรณนั้นมีเพิ่มสูงขึ้น จึงตัดสินใจที่จะนำเสนอโซลูชันทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเหล่านี้มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม สินค้าคุณภาพสูง และการออกแบบที่ไม่ได้ลอกเลียนใครให้กับลูกค้า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย และได้กลั่นกรองความรู้เหล่านั้นออกมาเป็นคู่มือการเติบโตผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์ของเรา ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการในเวียดนามได้เข้าถึงประโยชน์ต่างๆ ในระดับองค์กรและบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Stripe เราเชื่อว่าเราสามารถช่วยให้ธุรกิจที่ดีที่สุดก้าวไปสู่จุดสูงสุดและสร้างแบรนด์ที่ดีได้

คุณสนับสนุนธุรกิจประเภทใด และลูกค้าของธุรกิจเหล่านั้นคือใคร

เราสนับสนุน 2 ตลาดหลักๆ ด้วยการช่วยธุรกิจสร้างกระแสรายรับใหม่โดยไม่มีความเสี่ยงด้านสินค้าคงคลัง เราให้บริการแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเวียดนามที่มีทีมขนาดใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะมีพนักงานประมาณ 50-100 คน คำสั่งซื้อขั้นต่ำอาจมีรายการเดียวก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนสูงสุด บทบาทของเราคือการเป็นตัวกลางที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขายสิ่งพิมพ์ดิจิทัลในช่องทางต่างๆ และทำให้มั่นใจว่าจะส่งถึงลูกค้าปลายทางด้วยเครือข่ายซัพพลายจากสหรัฐฯ

ตลาดที่สองคือ เราให้บริการการจัดหาของที่ระลึกบริษัท ซึ่งอาจเป็นบริษัทที่ต้องการสั่งของที่ระลึกไว้แจกในกิจกรรมนอกสถานที่หรือให้ของขวัญลูกค้าก็ได้ ในอนาคต เรามองเห็นโอกาสที่จะสนับสนุนครีเอเตอร์ดิจิทัลหรือศิลปินที่อยากเปลี่ยนงานศิลปะดิจิทัลให้จับต้องได้ แบรนด์ใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือธุรกิจที่เกิดจากผู้ประกอบการรายเดียวก็สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานหลักของเราขยายการเข้าถึงชุมชนของตัวเองได้

เหตุใดตลาดเวียดนามจึงมีความสำคัญกับ Dreamship มากนัก และคุณช่วยสนับสนุนการเติบโตของแบรนด์อีคอมเมิร์ซในเวียดนามอย่างไร

สิ่งที่ต้องพิจารณา เช่น ต้นทุนที่สูงขึ้นและความอิ่มตัวของตลาดอาจทำให้อีคอมเมิร์ซเป็นงานที่มีการแข่งขันสูงและมีค่าใช้จ่ายมาก โดยเฉพาะในด้านการจัดส่งไปต่างประเทศและการโฆษณา ค่าเสียโอกาสที่เกิดจากการที่เราไม่มีเครื่องมืออีคอมเมิร์ซที่จำเป็นอาจจะสูงในภาคที่กำลังเติบโตนี้ และความเสี่ยงต่างๆ เช่น การดึงเงินคืน และการรักษาสถานภาพที่ดีกับสถาบันทางการเงินก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นไปอีก

ตลาดเวียดนามมีศักยภาพและพลังของผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้อยู่มาก แต่ก็ต้องได้รับความช่วยเหลือใน 2 ด้าน ได้แก่ ความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์และราคา ผลิตภัณฑ์ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวสินค้าที่จับต้องได้ แต่เป็นเทคโนโลยี กระบวน และทรัพยากรมนุษย์ที่มารวมกันทำให้บรรลุเป้าหมาย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มอย่าง Stripe ทำให้ตลาดนี้พร้อมให้เข้าถึงมากขึ้น แต่เครื่องมือเหล่านี้อาจเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา และนี่คือจุดที่เราสามารถก้าวเข้ามาพร้อมแผนกลยุทธ์ที่จะช่วยเร่งกระบวนการนำไปใช้

ธุรกิจเวียดนามต้องพบกับความท้าทายใดบ้างเมื่อจะเปิดตัวและขยายธุรกิจข้ามพรมแดน และความร่วมมือระหว่างคุณกับ Stripe จะช่วยธุรกิจเหล่านี้อย่างไร

วิวัฒนาการของเครื่องมืออีคอมเมิร์ซในช่วงสิบปีที่ผ่านมาทำให้โลกมีความเท่าเทียมมากขึ้น ใครๆ ก็สร้างธุรกิจได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ซึ่งนำไปสู่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไร้พรมแดน และเทรนด์นี้ก็มีแต่จะขยายไปอย่างรวดเร็วขึ้น ในอนาคต ทุกคนจะเป็นผู้สร้างได้แม้ว่าจะไม่ได้มีธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนายทุนสนับสนุนหรือเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซ

ภารกิจหลักของ Dreamship คือการขจัดอุปสรรคในการสร้างสรรค์สำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในเวียดนามโดยยึดตามวิสัยทัศน์นี้ ลูกค้าจะปรับเปลี่ยนไปพร้อมกับเราจนกระทั่งเติบโตอย่างสมบูรณ์ในเส้นทางผู้ประกอบการ เรามีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นมากกว่าแค่ผู้ให้บริการเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ เราต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการเหล่านี้ในหลายๆ วิธีตลอดการเดินทาง

Dreamship กับ Stripe ร่วมมือกันตั้งแต่ปี 2022 โดยนำธุรกิจ 25 อันดับแรกของ Dreamship เข้ามาอยู่ในโปรแกรมนำร่อง หลังจากนั้น สิ่งต่างๆ พัฒนาไปอย่างไรและคุณเห็นว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง

โปรแกรมนำร่องนี้ช่วยช่วยเร่งการปรับปรุงสแต็กการชำระเงินให้กับลูกค้า 25 รายของเราเพื่อให้ประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น เข้าถึงเงินทุนได้เร็วขึ้นเนื่องจากมีการกันเงินน้อยลง และมีเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการโฆษณามากขึ้น รวมทั้งลดจำนวนการถูกบล็อกบัญชีและการดึงเงินคืน และในอีกทางหนึ่งก็ช่วยลดเหตุการณ์ที่ลูกค้าเหล่านี้ถูกจัดว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ การตรวจสอบธุรกิจเป็นประจำหรือเซสชันการวางแผนประจำปีของ Stripe ก็มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำอะไรได้มากขึ้นหลังจากพวกเขามองเห็นภาพรวมที่ใหญ่ขึ้นแล้ว

การร่วมมือในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้หนึ่งในธุรกิจสำคัญของเราประหยัดต้นทุนได้กว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี สแต็กการชำระเงินที่ปรับปรุงใหม่ทำให้ Dreamship มอบบริการจัดเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อได้มากขึ้น และเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของเรา เนื่องจากผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่ายมากขึ้น ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับประโยชน์มากขึ้น

เป้าหมายและวิสัยทัศน์ของ Dreamship ในอนาคตคืออะไร และคุณมองว่า Stripe จะมีบทบาทอย่างไรบ้าง

Dreamship มองว่าเราเป็นเครื่องมือจัดเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อ และสร้างมาตรฐานการผลิตสินค้าให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่นเดียวกับที่ Stripe ช่วยทำให้การชำระเงินง่ายขึ้น เราตั้งเป้าว่าจะจัดหาสินค้าสั่งผลิตตามความต้องการและทำให้แบรนด์ดิจิทัลและแบรนด์จริงของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนจะสร้างแหล่งรายได้ใหม่จากการทำธุรกรรม ไม่ว่าลูกค้าจะเข้าถึงเราผ่านช่องทางไหน ทั้ง Twitter, Patreon หรือช่องทางอื่นๆ

เรากำลังนำระบบอัตโนมัติมาใช้มากขึ้นและเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากโมเดลธุรกิจของ Stripe แม้ว่าโปรแกรมนำร่องในปัจจุบันจะประสบความสำเร็จด้วยดี แต่เป้าหมายสุดท้ายของเราคือนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากโปรแกรมนำร่องไปใช้กับธุรกิจอื่นๆ ด้วย ในอนาคต เราจะสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับเงินกู้ระยะสั้น เช่น การวางแผนภาษีตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ หรือการชำระเงินล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลด เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับธุรกิจระดับองค์กรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ลงทะเบียนเข้าร่วม POD ของ Dreamship-Stripe

บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ต้องการสร้างธุรกิจพิมพ์ตามสั่งที่ยั่งยืน ใส่ใจในคุณภาพของสินค้า และต้องการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดการลูกค้าจาก Stripe เพื่อช่วยขยายธุรกิจไปสู่ระดับสากลด้วยกลยุทธ์การชำระเงินที่เหมาะสมสามารถติดต่อไปที่:
https://info.dreamship.com/en-us/stripe.ds