วิธีเริ่มดำเนินธุรกิจในโอไฮโอ: คำแนะนำแบบทีละขั้นตอน

Atlas
Atlas

จัดตั้งบริษัทได้ด้วยการคลิกไม่กี่ครั้งและพร้อมที่จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้า จัดจ้างทีมงาน และระดมทุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. อะไรทำให้โอไฮโอแตกต่างจากรัฐอื่นสำหรับผู้ประกอบการ
  3. วิธีการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ
    1. เลือกชื่อธุรกิจ
    2. เลือกโครงสร้างธุรกิจ
    3. จดทะเบียนธุรกิจของคุณ
    4. ขอหมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN)
    5. เปิดบัญชีธนาคารของธุรกิจ
    6. ขอใบอนุญาตและใบอนุญาตประกอบกิจการ
    7. ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยและหน้าที่ทางกฎหมาย
  4. ข้อดีและข้อเสียของการเริ่มทำธุรกิจในโอไฮโอ
    1. ข้อดี
    2. ข้อเสีย
  5. แหล่งข้อมูลสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ
    1. แหล่งข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่น
    2. ทรัพยากรในท้องถิ่น
    3. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
    4. แหล่งข้อมูลออนไลน์
  6. Stripe Atlas จะช่วยคุณได้อย่างไร
    1. การสมัครใช้งาน Atlas
    2. การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN ของคุณ
    3. การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด
    4. การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ
    5. เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก
    6. Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

โอไฮโอเป็นรัฐที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ เนื่องจากทำเลที่ตั้งสำคัญในภูมิภาคมิดเวสต์ โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว และสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ ในปี 2023 มีธุรกิจขนาดเล็กเกือบ 1 ล้านแห่งจัดตั้งอยู่ในโอไฮโอ เครือข่ายการขนส่งของรัฐถือเป็นทรัพยากรสำคัญ โดยมีทางหลวงหลัก ระบบรถไฟ สนามบินที่รองรับการขนส่งสินค้า และการเชื่อมต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติกผ่านท่าเรือคลีฟแลนด์ โอไฮโอยังมีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่อยู่ในระดับปานกลาง และไม่มีภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยเลือกใช้ภาษีกิจกรรมทางการค้า (CAT) ที่คำนวณจากรายรับรวมแทน

แม้ว่าระบบภาษีและทำเลที่ตั้งของโอไฮโอจะเป็นจุดดึงดูดสำหรับธุรกิจ แต่รัฐนี้มีการเข้าถึงเงินทุนร่วมลงทุนที่จำกัดมากกว่ารัฐอื่น ผู้ที่กำลังจะเป็นประกอบการควรพิจารณาความต้องการและสถานการณ์ของตนอย่างรอบคอบเมื่อชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ เน้นข้อดีและข้อเสีย และแนะนำแหล่งข้อมูลที่จะช่วยคุณในกระบวนการนี้

เนื้อหาหลักในบทความ

  • อะไรทำให้โอไฮโอแตกต่างจากรัฐอื่นสำหรับผู้ประกอบการ
  • วิธีการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ
  • ข้อดีและข้อเสียของการเริ่มทำธุรกิจในโอไฮโอ
  • แหล่งข้อมูลสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ

อะไรทำให้โอไฮโอแตกต่างจากรัฐอื่นสำหรับผู้ประกอบการ

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ทำให้โอไฮโอแตกต่างจากรัฐอื่น ในการเริ่มต้นธุรกิจ:

  • ทำเลสำคัญ: ด้วยทำเลใจที่ตั้งกลางในสหรัฐอเมริกา ทำให้โอไฮโอเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้า รัฐมีโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งที่พัฒนาแล้ว รวมถึงทางหลวง รถไฟ และสนามบิน ทำให้เข้าถึงตลาดหลักในมิดเวสต์และพื้นที่อื่นๆ ได้ง่าย

  • ฐานอุตสาหกรรมที่หลากหลาย: เศรษฐกิจของโอไฮโอประกอบด้วยอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น การผลิต การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี การเงิน และเกษตรกรรม ซึ่งความหลากหลายนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการมีโอกาสมากมาย และลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจกระทบเพียงบางอุตสาหกรรม

  • สภาพแวดล้อมด้านภาษีที่เอื้อธุรกิจ: โอไฮโอไม่มีภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่เก็บภาษีรายรับรวมในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ และรัฐยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเครดิตภาษีหลายประเภทเพื่อดึงดูดและสนับสนุนธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในภาคการผลิตและเทคโนโลยี

  • สภาพแวดล้อมด้านการวิจัยและพัฒนา: โอไฮโอเป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เช่น The Ohio State University และ Case Western Reserve University ซึ่งสภาพแวดล้อมที่แข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนานี้จะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมและเปิดโอกาสให้ธุรกิจร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ

  • ระบบนิเวศสตาร์ทอัพ: โอไฮโอมีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะในเมืองอย่างโคลัมบัสและซินซินแนติ ซึ่งเมืองเหล่านี้มีศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ ตัวเร่งการเติบโต และพื้นที่ทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันของผู้ประกอบการ

  • การผลิตขั้นสูงและอุตสาหกรรม 4.0: โอไฮโอส่งเสริมการผลิตขั้นสูงและโครงการอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งผู้ประกอบการในสาขานี้จะได้รับประโยชน์จากนโยบายสนับสนุน การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และเครือข่ายผู้ผลิตที่กำลังปรับตัวกับการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล

  • มรดกด้านการผลิตและเครือข่ายซัพพลายเชน: โอไฮโอมีประวัติยาวนานในด้านการผลิต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และการบินและอวกาศ โดยสิ่งนี้นำไปสู่การสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นแหล่งจัดหาวัสดุและชิ้นส่วนที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมเหล่านี้

  • ชุมชนธุรกิจ: โอไฮโอมีเครือข่ายองค์กรธุรกิจ หอการค้า และหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมทรัพยากร ที่ปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งชุมชนที่สนับสนุนนี้มีคุณค่ามากสำหรับธุรกิจใหม่ที่ต้องการคำแนะนำและการสร้างเครือข่าย

วิธีการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ

คู่มือนี้เป็นคู่มือสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในรัฐโอไฮโอแบบทีละขั้นตอน:

เลือกชื่อธุรกิจ

เลือกชื่อธุรกิจที่ไม่ซ้ำ และตรวจสอบว่าไม่มีธุรกิจอื่นในโอไฮโอใช้ชื่อนี้ โดยใช้เครื่องมือค้นหาธุรกิจของสำนักงานเลขาธิการรัฐโอไฮโอ หากคุณดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อที่แตกต่างจากชื่อทางกฎหมายของธุรกิจ คุณต้องจดทะเบียนชื่อนั้นกับสำนักงานบันทึกของเขต ควรพิจารณาค้นหาการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

เลือกโครงสร้างธุรกิจ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการเงินเพื่อเลือกโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายของคุณ โดยสามารถเลือกจากโครงสร้างดังต่อไปนี้

  • เจ้าของคนเดียว: โครงสร้างที่ง่ายที่สุด เจ้าของต้องรับผิดชอบหนี้สินและภาระผูกพันทั้งหมดด้วยตนเอง

  • ห้างหุ้นส่วน: หุ้นส่วนร่วมกันเป็นเจ้าของธุรกิจและต้องรับผิดชอบหนี้และภาระผูกพันร่วมกัน

  • บริษัทจำกัด (LLC): ให้การคุ้มครองความรับผิดส่วนบุคคลและมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ

  • บริษัท (Corporation: S corp หรือ C corp): บริษัทจะให้การคุ้มครองความรับผิดสูงสุด แต่มีขั้นตอนทางกฎหมายที่ซับซ้อนกว่า

จดทะเบียนธุรกิจของคุณ

โครงสร้างธุรกิจแต่ละแบบมีข้อกำหนดและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนต่างกัน คุณสามารถชำระค่าธรรมเนียมการยื่นได้ทางออนไลน์หรือทางไปรษณีย์

  • เจ้าของคนเดียวและห้างหุ้นส่วน: โครงสร้างธุรกิจเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนกับรัฐ แต่ต้องจดทะเบียนชื่อ "Doing Business As" (DBA)

  • LLC และบริษัท : โครงสร้างธุรกิจเหล่านี้จะต้องยื่นเอกสารจัดตั้งบริษัทกับสำนักงานเลขาธิการรัฐโอไฮโอ

ขอหมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN)

EIN ทำหน้าที่เหมือนหมายเลขประกันสังคมสำหรับธุรกิจ ซึ่งใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษีและการเปิดบัญชีธนาคารธุรกิจ โดยสามารถสมัครทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ IRS ได้

เปิดบัญชีธนาคารของธุรกิจ

บัญชีธนาคารธุรกิจจะช่วยแยกการเงินส่วนตัวออกจากธุรกิจเพื่อความถูกต้องทางบัญชีและการคุ้มครองความรับผิด และควรเปรียบเทียบบริการของแต่ละธนาคารเพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ขอใบอนุญาตและใบอนุญาตประกอบกิจการ

คุณอาจต้องขอใบอนุญาตและใบอนุญาตประกอบกิจการจากรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่น เช่น หากขายสินค้าหรือบริการที่ต้องเสียภาษี คุณต้องมีใบอนุญาตผู้ขาย และบางอาชีพ เช่น ผู้รับเหมา ช่างเสริมสวย และผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะต้องมีใบอนุญาตเฉพาะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและสถานที่ตั้ง

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยและหน้าที่ทางกฎหมาย

ก่อนเริ่มทำธุรกิจ ต้องแน่ใจว่าคุณมีประกันที่เหมาะสมและเข้าใจหน้าที่ทางกฎหมายทั้งหมด

  • ประกันภัย: ซื้อความคุ้มครองประกันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันธุรกิจจากความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความรับผิด ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และความเสี่ยงอื่นๆ

  • ภาษี: ลงทะเบียนกับกรมสรรพากรโอไฮโอ และทำความเข้าใจภาระภาษีของคุณ

  • กฎระเบียบท้องถิ่น: ตรวจสอบกับเมืองหรือเขตของคุณเพื่อศึกษาข้อบังคับหรือข้อกำหนดท้องถิ่นเพิ่มเติม

ข้อดีและข้อเสียของการเริ่มทำธุรกิจในโอไฮโอ

รัฐโอไฮโอมีสภาพแวดล้อมที่มั่นคง ราคาไม่แพง และสนับสนุนธุรกิจ ทำเลที่ตั้งใจกลางประเทศ เศรษฐกิจที่หลากหลาย และแรงงานที่มีทักษะ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายอุตสาหกรรม แม้ว่าการเข้าถึงเงินทุนร่วมลงทุนในโอไฮโออาจมีจำกัด แต่การที่รัฐมุ่งเน้นการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและโครงการพัฒนากำลังแรงงาน ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างและขยายธุรกิจ

ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียหลักของการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ:

ข้อดี

  • ค่าครองชีพ: ค่าครองชีพในโอไฮโอต่ำกว่ารัฐชายฝั่งอย่างมาก เช่น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งหมายถึงต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่า ทำให้ธุรกิจตั้งตัวและเติบโตได้ง่ายขึ้น

  • ทำเลที่ตั้งใจกลางประเทศ: ทำเลที่ตั้งของโอไฮโอในใจกลางมิดเวสต์ทำให้เข้าถึงตลาดหลักได้ง่าย และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่พัฒนาแล้ว รวมถึงทางหลวง รถไฟ และสนามบิน จึงเหมาะสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การกระจายสินค้า และโลจิสติกส์

  • สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ: โอไฮโอมีชื่อเสียงว่าเป็นรัฐที่เหมาะสำหรับทำธุรกิจ ด้วยกฎระเบียบที่ไม่ซับซ้อน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และโครงการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพ

  • เศรษฐกิจ: แม้โอไฮโอจะมีชื่อเสียงด้านการผลิต แต่เศรษฐกิจได้กระจายตัวมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตในภาคการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี และพลังงานหมุนเวียน ทำให้มีโอกาสหลากหลายสำหรับธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม

  • แรงงาน: โอไฮโอมีแรงงานที่มีทักษะและมีความเชี่ยวชาญในงานฝีมือ อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยและสถาบันเทคนิคจำนวนมาก ทำให้มีบุคลากรที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสีย

  • การเข้าถึงเงินทุนร่วมลงทุนจำกัด: เมื่อเทียบกับศูนย์กลางชายฝั่ง เช่น ซิลิคอนแวลลีย์ โอไฮโอมีแหล่งเงินทุนร่วมลงทุนน้อยกว่า ซึ่งอาจทำให้สตาร์ทอัพที่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วต้องเผชิญกับความท้าทาย

  • "ภาวะสมองไหล (Brain Drain)": โอไฮโอและรัฐมิดเวสต์อื่นๆ เผชิญปัญหา "ภาวะสมองไหล" โดยมีคนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาย้ายไปเมืองใหญ่เพื่อหางานที่ดีกว่า

  • ความหลากหลายจำกัด: เมื่อเทียบกับรัฐอย่างแคลิฟอร์เนีย โอไฮโอมีประชากรที่มีความหลากหลายน้อยกว่า แม้สัดส่วนประชากรกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ก็อาจเป็นปัจจัยสำหรับธุรกิจที่ต้องการแรงงานที่หลากหลายหรือกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

  • สภาพอากาศ: โอไฮโอมีครบทั้งสี่ฤดูกาล รวมถึงฤดูหนาวที่รุนแรง มีหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงักและเพิ่มต้นทุนการขนส่ง

แหล่งข้อมูลสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอ

แหล่งข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยคุณเริ่มต้นธุรกิจในโอไฮโอได้:

แหล่งข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่น

  • เว็บไซต์ธุรกิจของสำนักงานเลขาธิการรัฐโอไฮโอ:เว็บไซต์ของรัฐบาลนี้ มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับวิธีการเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจในโอไฮโอ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียน ใบอนุญาต และภาษี

  • ศูนย์พัฒนา ธุรกิจขนาดเล็กของโอไฮโอ (SBDC): ศูนย์เหล่านี้จะให้คำปรึกษาทางธุรกิจแบบเป็นความลับและไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมการฝึกอบรมและทรัพยากรสำหรับผู้ประกอบการในทุกช่วงการดำเนินธุรกิจ

  • ศูนย์ช่วยเหลือธุรกิจสำหรับชนกลุ่มน้อยในโอไฮโอ (MBAC): ศูนย์เหล่านี้จะช่วยเหลือธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นชนกลุ่มน้อย โดยมีบริการต่างๆ เช่น การรับรอง การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และโอกาสในการสร้างเครือข่าย

ทรัพยากรในท้องถิ่น

  • สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจประจำเขต: ทุกเขตในโอไฮโอมีสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ทรัพยากรท้องถิ่น สิ่งจูงใจ และความช่วยเหลือสำหรับธุรกิจ

  • หอการค้าท้องถิ่น: หอการค้าจะจัดกิจกรรมสร้างเครือข่าย การสนับสนุนเชิงนโยบาย และทรัพยากรสำหรับธุรกิจในชุมชน

  • ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจและโครงการเร่งการเติบโตระดับภูมิภาค: องค์กรเหล่านี้มีที่ปรึกษา ทรัพยากร และเงินทุนเพื่อช่วยบริษัทสตาร์ทอัพในการขยายธุรกิจ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

แหล่งข้อมูลออนไลน์

  • Ohio Business Resource Connection:ไดเรกทอรีนี้มีทรัพยากรสำหรับธุรกิจในโอไฮโอทั้งหมด รวมถึงบริการสำหรับธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย ทหารผ่านศึก และผู้พิการ

  • Ohio Business Magazine: นิตยสารนี้มีข่าวสาร ข้อมูล และบทวิเคราะห์สำหรับธุรกิจในโอไฮโอ

  • OhioX: องค์กรไม่แสวงหากำไรที่เน้นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงและสนับสนุนสตาร์ทอัพและธุรกิจเทคโนโลยีในโอไฮโอ

Stripe Atlas จะช่วยคุณได้อย่างไร

Stripe Atlas สร้างรากฐานด้านกฎหมายของบริษัทเพื่อให้คุณสามารถระดมทุน เปิดบัญชีธนาคาร และรับชำระเงินได้ภายใน 2 วันทำการจากทุกที่ทั่วโลก

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทกว่า 75,000 แห่งที่จัดตั้งขึ้นโดยใช้ Atlas ซึ่งรวมถึงสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Y Combinator, a16z และ General Catalyst

การสมัครใช้งาน Atlas

การสมัครเพื่อจัดตั้งบริษัทกับ Atlas ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที คุณจะเลือกโครงสร้างบริษัทของคุณ จากนั้นจะยืนยันได้ทันทีว่าชื่อบริษัทของคุณใช้งานได้หรือไม่ และเพิ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้ไม่เกิน 4 คน นอกจากนี้ คุณยังตัดสินใจได้ว่าจะแบ่งหุ้นอย่างไร สำรองหุ้นบางส่วนไว้สำหรับนักลงทุนและพนักงานในอนาคต แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และลงนามเอกสารทั้งหมดแบบอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นผู้ร่วมก่อตั้งจะได้รับอีเมลเชิญให้ลงนามในเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเช่นกัน

การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN ของคุณ

หลังจากจัดตั้งบริษัทแล้ว Atlas จะยื่นเอกสาร EIN ให้คุณ ผู้ก่อตั้งที่มีหมายเลขประกันสังคมของสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์มือถือจะมีสิทธิ์รับการประมวลผลแบบเร่งด่วนของ IRS ขณะที่ผู้ก่อตั้งรายอื่นๆ จะได้รับการประมวลผลแบบมาตรฐาน ซึ่งอาจใช้เวลานานขึ้นอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ Atlas ยังเปิดใช้การชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN เพื่อให้คุณสามารถเริ่มรับชำระเงินและทำธุรกรรมก่อนที่จะได้รับ EIN ได้

การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด

ผู้ก่อตั้งสามารถซื้อหุ้นเริ่มต้นโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (เช่น ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร) แทนเงินสดได้ โดยมีหลักฐานการซื้อที่จัดเก็บไว้ในแดชบอร์ด Atlas คุณต้องมีทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐจึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ หากคุณมีทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าสูงกว่านั้น โปรดปรึกษาทนายความก่อนที่จะดำเนินการต่อ

การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ

ผู้ก่อตั้งสามารถยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้ โดย Atlas จะยื่นเอกสารให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาหรือนอกสหรัฐอเมริกา โดยใช้จดหมายรับรองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากสหรัฐฯ (USPS Certified Mail) และติดตามข้อมูล คุณจะได้รับเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) ที่ลงนามและหลักฐานการ การยื่นเอกสารโดยตรงในแดชบอร์ด Stripe

เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก

Atlas ให้บริการเอกสารทางกฎหมายทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเริ่มดำเนินธุรกิจบริษัทของคุณ โดยเอกสารของบริษัทประเภท C ของ Atlas ได้รับการสร้างขึ้นโดยร่วมงานกับ Cooley ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานกฎหมายการร่วมลงทุนชั้นนำของโลก โดยเอกสารเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณระดมทุนได้ทันทีและช่วยให้มั่นใจว่าบริษัทของคุณจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย โดยครอบคลุมถึงแง่มุมต่างๆ เช่น โครงสร้างกรรมสิทธิ์ การแจกจ่ายหุ้น และการ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี

Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Atlas ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้าเพื่อมอบส่วนลดและเครดิตสุดพิเศษกับผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้แก่ส่วนลดสำหรับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้านวิศวกรรม ภาษี การเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการปฏิบัติงานจากผู้นำอุตสาหกรรมอย่าง AWS, Carta และ Perplexity เรายังมอบตัวแทนที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ให้คุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในปีแรกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ใช้ Atlas คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก Stripe เช่น การประมวลผลการชำระเงินแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Atlas ช่วยคุณจัดตั้งธุรกิจใหม่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเริ่มใช้งานได้เลยวันนี้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Atlas

Atlas

จัดตั้งบริษัทได้ด้วยการคลิกไม่กี่ครั้งและพร้อมที่จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้า จัดจ้างทีมงาน และระดมทุน

Stripe Docs เกี่ยวกับ Atlas

ก่อตั้งบริษัทในสหรัฐอเมริกาได้จากทุกที่ทั่วโลกโดยใช้ Stripe Atlas