ในทุกๆ ปี มีธุรกิจใหม่หลายล้านราย เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา แต่มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ระดมเงินร่วมลงทุน (VC) นอกจากนี้ตลาดยังมีมาตรฐานการดำเนินงานสูงและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2024 มีข้อตกลง VC เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกามากกว่า 14,000 ครั้ง โดยมีมูลค่ารวม 215.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การระดมทุน VC อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการประชุมและติดตามผลกว่าจะได้ข้อตกลงเป็นรูปเป็นร่าง แม้ว่าเส้นทางของ VC อาจซับซ้อน แต่การทำความเข้าใจลักษณะของกระบวนการก็สามารถช่วยให้คุณวางแผนที่ประสบความสำเร็จได้ ด้านล่างนี้คือคำแนะนำในการระดมทุน VC ซึ่งอธิบายทั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้น แง่มุมในสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เหมาะกับ VC และวิธีดำเนินการจากการนำเสนอครั้งแรกไปสู่การลงนามในเอกสารเงื่อนไข

เนื้อหาหลักในบทความ

• เงินร่วมลงทุนคืออะไร
  
• การร่วมลงทุนแตกต่างจากการลงทุนรูปแบบอื่นอย่างไร
  
• วิธีรับเงินร่วมลงทุนภายในหกขั้นตอน
  
• คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเงินร่วมลงทุน
  
• Stripe Atlas ช่วยอะไรได้บ้าง
  

เงินร่วมลงทุนคืออะไร

การร่วมลงทุนคือการจัดหาเงินทุนสำหรับบริษัทระยะเริ่มต้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงแต่ไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนแบบดั้งเดิมได้มากนัก เหมาะสำหรับสตาร์ทอัพที่ต้องการเข้าสู่ตลาดใหญ่ การร่วมลงทุนช่วยให้ผู้ก่อตั้งมีเงินทุนสำหรับนำไปต่อยอดไอเดียธุรกิจอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่สำคัญจากเครือข่ายผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา และพาร์ทเนอร์รายใหญ่

บริษัท VC จะรวบรวมเงินจากนักลงทุนของสถาบันการเงินและบุคคลที่มีความมั่งคั่งเพื่อลงทุนกับสตาร์ทอัพในพอร์ตโฟลิโอ การระดมทุน VC แตกต่างจากเงินกู้ตรงที่การระดมทุน VC นั้นจะเป็นการซื้อความเป็นเจ้าของธุรกิจ นักลงทุนจะได้ถือครองหุ้นบุริมสิทธิ (และมักจะได้เป็นตำแหน่งคณะกรรมการ) และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของบริษัท โดยสิ่งที่คาดหวังไม่ใช่เงินคืน หากแต่เป็นรายได้ที่เติบโต

การระดมทุนเกิดขึ้นได้ในระยะต่างๆ เช่น ระยะ Seed, Series A และ Series B โดยแต่ละระยะจะมีขอบเขตกว้างขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์หมุดหมายที่ชัดเจน เช่น การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ การทำให้รายได้เติบโต และการขยายตลาด เป้าหมายคือการช่วยให้บริษัทขยับขยายได้เร็วพอที่จะบรรลุเหตุการณ์สภาพคล่อง เช่น การเข้าซื้อกิจการหรือการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)

การร่วมลงทุนแตกต่างจากการลงทุนรูปแบบอื่นอย่างไร

VC แตกต่างจากนักลงทุนแบบดั้งเดิมที่ต้องการรับเงินที่ลงทุนไปกลับคืนมาพร้อมดอกเบี้ย เพราะ VC จะซื้อความเป็นเจ้าของธุรกิจ โดย VC เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพเติบโตได้เร็วกว่าการพึ่งพารายได้เพียงอย่างเดียว และแบกรับความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลว ในทางกลับกัน บริษัทจะมอบหุ้นของผู้ก่อตั้งส่วนหนึ่งให้แก่ VC

VC เป็นโมเดลที่มีความเสี่ยงสูงแต่ก็ให้ผลตอบแทนสูง บทวิเคราะห์ปี 2023 ประมาณการว่า 75% ของสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนจะล้มเหลว แต่แม้ว่าจะคำนวณได้เช่นนี้ นักลงทุนก็ยังไม่เป็นไร เนื่องจากผลลัพธ์ที่ดีเป็นพิเศษสองสามครั้งก็สามารถชดเชยผลการลงทุนส่วนใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยหรือไม่ให้เลยได้แล้ว

เส้นทางการระดมทุนอื่นๆ จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

• นักลงทุนอิสระ:ทั้ง VC และนักลงทุนอิสระ เป็นผู้ให้ทุนในระยะเริ่มต้นเหมือนกัน แต่การมีส่วนร่วมของนักลงทุนอิสระเป็นการดำเนินการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน นักลงทุนอิสระจะลงทุนด้วยเงินของตนเอง (มักจะเป็นจำนวนเงินหกหลัก) และสนับสนุนผู้ก่อตั้งที่พวกเขาเชื่อมั่น นอกจากนี้พวกเขายังอาจตัดสินใจเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริษัท เป็นที่ปรึกษาให้ทีม หรือแนะนำลูกค้าในช่วงแรกให้ด้วย

• VC ขององค์กร: บริษัทขนาดใหญ่จะลงทุนในบริษัทขนาดเล็กผ่าน VC ขององค์กร ซึ่งมักจะทำเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับเทคโนโลยีใหม่หรือเพื่อเตรียมเข้าซื้อกิจการในอนาคต VC ขององค์กรมีข้อพิจารณาระยะยาวและผลตอบแทนทางการเงินเป็นแรงจูงใจ

• สินเชื่อธนาคาร: เป้าหมายของธนาคารคือรับการชำระเงินคืนตามกำหนดเวลามากกว่าที่จะต้องเสี่ยงรับผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน โมเดลนี้เหมาะกับธุรกิจที่มีรายได้คงที่และมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะกับสตาร์ทอัพ

• การใช้เงินทุนของตัวเอง: เมื่อใช้เงินทุนของตัวเอง ธุรกิจจะเติบโตจากรายได้มากกว่าเงินทุนภายนอก บริษัทที่ใช้เงินทุนของตัวเองจะขยายธุรกิจได้เร็วเท่าที่ผลกำไรจะเอื้อเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดความยืดหยุ่น แต่จำกัดความเร็วในการเติบโต

• การระดมทุน: การระดมทุนในระยะแรกช่วยกระจายความเสี่ยงไปยังผู้สนับสนุนรายย่อยหลายๆ ราย กลยุทธ์นี้สามารถรวบรวมเงินสำหรับสร้างต้นแบบหรือจะใช้สำรวจอุปสงค์ก็ได้ แต่ไม่ค่อยมอบความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้งและไม่ค่อยนำไปสู่ความสัมพันธ์ระยะยาว

วิธีรับเงินร่วมลงทุนภายในหกขั้นตอน

การขอรับเงินร่วมลงทุนสำหรับสตาร์ทอัพต้องอาศัยความพากเพียร จังหวะเวลา และความอดทน ผู้ก่อตั้งมักใช้เวลาหลายเดือนในการบรรจงสรรค์สร้างเรื่องราว ปรับกลยุทธ์ และประชุมก่อนหารือที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง การเสนอขาย VC VC จะคัดเลือกอย่างเข้มงวดเนื่องจากการลงทุนประเภทนี้ใช้ได้กับธุรกิจบางประเภทเท่านั้น

ต่อไปนี้คือหกขั้นตอนหลักในการคว้าเงินทุนจาก VC

ตัดสินใจว่า VC เหมาะสมกับธุรกิจของคุณหรือไม่

ชี้แจงว่าคุณกำลังสร้างบริษัทประเภทใด VC เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าตลาดใหญ่และเคลื่อนไหวเร็วพอที่จะโดดเด่นในตลาดเหล่านั้น โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนมักคาดหวังให้เกิดเหตุการณ์สภาพคล่อง (การเข้าซื้อกิจการหรือการเสนอขายหุ้น IPO) ภายในหนึ่งทศวรรษ ธุรกิจที่เป็นบริการในพื้นที่หรือธุรกิจที่มีการเติบโตแบบมั่นคงมากกว่าแบบทวีคูณไม่เหมาะกับเส้นทางการระดมทุนนี้

สร้างทีมที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับแรงผลักดันให้เติบโต

VC เดิมพันกับผู้คนเป็นอันดับแรก พวกเขามองหาทีมผู้ก่อตั้งที่น่าเชื่อถือและปรับตัวได้ เป็นที่สนใจของผู้มีความสามารถ อีกทั้งยังมีทักษะด้านเทคนิค ผลิตภัณฑ์ และธุรกิจอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ VC ยังต้องการหลักฐานที่แสดงว่าความคิดของคุณจะมีคนซื้อด้วย ซึ่งหลักฐานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นรายได้ แต่ควรเป็นสิ่งที่เป็นชิ้นเป็นอัน เช่น ต้นแบบที่ใช้งานได้ ผู้ใช้กลุ่มแรก ลูกค้าระยะนำร่อง หรือรายชื่อผู้รอที่เพิ่มขึ้น

เตรียมพื้นฐานด้านกฎหมายและการเงินให้เรียบร้อย

ไม่มีนักลงทุนคนไหนต้องการมอบเงินทุนสนับสนุนธุรกิจที่ไร้ระเบียบ ก่อนที่คุณจะเริ่มติดต่อ VC โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้อง สตาร์ทอัพหลายแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนก็เป็นบริษัทคอร์ปอเรชันประเภท C ภายใต้กฎหมายรัฐเดลาแวร์ เพราะโครงสร้างให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้คุณยังต้องชี้แจงความเป็นเจ้าของบริษัทด้วยเอกสารและสิทธิ์การซื้อหุ้นของพนักงานด้วย สุดท้าย ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของคุณโดยการยื่นเอกสารเครื่องหมายการค้าหรือสิทธิบัตรที่จำเป็น และรับรองว่าผู้ก่อตั้งได้มอบหมายสิทธิ์ทั้งหมดให้กับบริษัท

รังสรรค์การเสนอขายที่เฉียบคม

การเสนอขายที่ดีที่สุดคือการเล่าเรื่องที่ตอบคำถามห้าข้อดังต่อไปนี้

• คุณกำลังแก้ปัญหาอะไร

• เหตุใดโซลูชันของคุณจึงแตกต่างหรือขาดไม่ได้

• ตลาดจะใหญ่แค่ไหนถ้าคุณประสบความสำเร็จ

• คุณมีหลักฐานอะไรที่แสดงว่าโซลูชันของคุณใช้งานได้

• คุณกำลังขอเงินทุนอะไร และเงินทุนนี้จะนำไปสู่หมุดหมายใดบ้าง

VC จะได้เห็นการเสนอขายผ่านตานับพันๆ ครั้ง ทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ชัดเจน และข้อมูลที่แม่นยำ จับคู่การนำเสนอของคุณกับ "ส่วนข้อมูล" สั้นๆ ที่มีตารางขีดความสามารถ ตัวชี้วัดที่สำคัญ และการอ้างอิงถึงลูกค้า เพื่อให้คุณพร้อมเมื่อมีผู้สนใจเพิ่มขึ้น

เลือกนักลงทุนเป้าหมายที่เหมาะสม

นักลงทุนทุกคนไม่ได้เหมาะกับทุกบริษัทเสมอไป ค้นหาบริษัทที่ลงทุนในขอบเขตและภาคส่วนของคุณ ตลอดจนพาร์ทเนอร์รายบุคคลที่มีประวัติความสนใจในประเภทธุรกิจของคุณอย่างแท้จริงอย่างแท้จริง ดูพอร์ตโฟลิโอส่วนที่ทับซ้อนกันและตรวจสอบทั้งขนาดและภูมิศาสตร์ให้ดี ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพฟินเทค ในระยะ Seed ไม่ควรเสนอขายกองทุนผู้บริโภคในระยะเติบโต

เมื่อคุณคัดเลือกเป้าหมายแล้ว ให้ใช้ข้อมูลจากการวิจัยเพื่อปรับวิธีการเข้าถึงของคุณ เขียนข้อความแนะนำว่าคุณเป็นใคร คุณเห็นว่าเป้าหมายเป็นใคร และทำไมพวกคุณถึงเหมาะสมกันที่สุด

นำเสนอ เจรจาต่อรอง และปิดการขาย

เมื่อได้รับความสนใจอย่างจริงจัง ก็ถึงเวลาของการตรวจสอบ นักลงทุนจะตรวจสอบข้อมูลด้านการเงิน สัญญา ตัวชี้วัด และการกำกับดูแลของคุณแบบเจาะลึก หากทุกอย่างผ่านเกณฑ์ คุณจะได้รับเอกสารเงื่อนไข ซึ่งจะสรุปการประเมินมูลค่า จำนวนเงินลงทุน เปอร์เซ็นต์ความเป็นเจ้าของ และสิทธิในการกำกับดูแล เอกสารเหล่านี้ไม่มีผลผูกพัน แต่เป็นเครื่องบ่งบอกเจตนารมณ์ โดยควรให้ทนายความที่มีประสบการณ์ในข้อตกลงร่วมทุนช่วยตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ และอย่าลืมใส่ใจกับการประเมินมูลค่า ลักษณะการชำระบัญชีที่ต้องการ, สิทธิ์ต่อต้านการลดสัดส่วนการถือหุ้นและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท

การมีข้อเสนอไว้หลายๆ รายการ (แม้กระทั่งข้อเสนอที่ไม่เป็นทางการ) จะช่วยเสริมจุดยืนในการเจรจาต่อรองของคุณให้แข็งแกร่งขึ้น นักลงทุนมักจะรวมกลุ่มกัน โดยจะมีนักลงทุนหลักเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขและคนอื่นๆ มาเข้าร่วม หากกระบวนการดำเนินไปก็จะมีการทำข้อตกลง จัดทำเอกสารทางกฎหมายให้เสร็จสมบูรณ์ และโอนเงินทุน

การปิดการขายเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือที่ยาวนาน ผู้ก่อตั้งที่ชาญฉลาดจะดูแลนักลงทุนในฐานะพาร์ทเนอร์หลักและคอยติดต่อสื่อสารกับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณอยู่ในเส้นทางของ VC แล้ว การปิดการขายจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นต่างหากที่มักจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเงินร่วมลงทุน

การคว้าเงินทุนจาก VC ยากมากแค่ไหน

การระดมทุน VC มีการแข่งขันสูงมาก แม้ว่า VC จะเป็นตัวขับเคลื่อนบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกหลายแห่ง แต่ธุรกิจที่เลือกคว้าเงินทุนจาก VC ก็มีให้เห็นไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะโมเดลนี้เหมาะกับบริษัทที่ต้องการเติบโตในลักษณะที่แตกต่างจากปกติเท่านั้น บรรดาผู้ก่อตั้งมักจะเข้าพบบริษัทหลายสิบแห่งกว่าจะได้มาเป็นเอกสารเงื่อนไขสักฉบับ

ฉันควรเข้าหา VC เพื่อขอเงินทุนอย่างไร

VC นั้นขับเคลื่อนด้วยความสัมพันธ์ และการแนะนำตัวที่ดูอบอุ่นจะช่วยเพิ่มโอกาสของคุณให้มากขึ้น คุณสามารถพบกับ VC ผ่านที่ปรึกษา เพื่อนในวงการ และแม้แต่ทนายความของคุณ ซึ่งอาจรู้ว่านักลงทุนรายใดกำลังต้องการลงทุน การสนทนากันบ่อยๆ จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาคส่วนของตนเอง ปรับแต่งการเสนอขาย และเข้าหาเป้าหมายอีกครั้งเมื่อสร้างการเติบโตได้มากขึ้น

วิธีรับเงินร่วมลงทุนในสหราชอาณาจักร

สหราชอาณาจักรมีสภาพแวดล้อม VC ที่แข็งแกร่งซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองลอนดอน เคมบริดจ์ และเอดินบะระ สภาพแวดล้อมนี้ได้รับการสนับสนุนโดยโปรแกรมต่างๆ เช่น ทุน Enterprise Investment Scheme และ Innovate UK โดยกระบวนการนำเสนอจะเหมือนกันกับของสหรัฐอเมริกา ก็คือจัดการจดทะเบียนจัดตั้งให้เรียบร้อย แสดงให้เห็นการเติบโต และเฟ้นหาบริษัทที่เหมาะสม

Stripe Atlas ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Atlas สร้างรากฐานด้านกฎหมายของบริษัทเพื่อให้คุณสามารถระดมทุน เปิดบัญชีธนาคาร และรับชำระเงินได้ภายใน 2 วันทำการจากทุกที่ทั่วโลก

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทกว่า 75,000 แห่งที่จดทะเบียนจัดตั้งโดยใช้ Atlas ซึ่งรวมถึงสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Y Combinator, a16z และ General Catalyst

การสมัครใช้งาน Atlas

การสมัครเพื่อจัดตั้งบริษัทกับ Atlas ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที คุณจะต้องเลือกโครงสร้างบริษัทของคุณก่อน จากนั้นก็ยืนยันว่าชื่อบริษัทของคุณใช้งานได้หรือไม่ และเพิ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้สูงสุด 4 คน นอกจากนี้ คุณยังตัดสินใจได้ด้วยว่าจะแบ่งหุ้นอย่างไร รวมถึงสำรองหุ้นบางส่วนไว้สำหรับนักลงทุนและพนักงานในอนาคต แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และลงนามเอกสารทั้งหมดแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากนั้นผู้ร่วมก่อตั้งจะได้รับอีเมลเชิญให้ลงนามในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเช่นกัน

การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN

หลังจากจัดตั้งบริษัทแล้ว Atlas จะยื่นขอหมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN) ของคุณ ผู้ก่อตั้งที่มีหมายเลขประกันสังคม ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์มือถือของสหรัฐอเมริกาจะมีสิทธิ์ได้รับการดำเนินการแบบเร่งด่วนจาก IRS ในขณะที่ผู้ก่อตั้งรายอื่นๆ จะได้รับการดำเนินการแบบมาตรฐาน ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ Atlas ยังรองรับการชำระเงินล่วงหน้าและการทำธุรกรรมทางธนาคารก่อนได้รับ EIN คุณจึงสามารถเริ่มรับชำระเงินและทำธุรกรรมต่างๆ ได้ก่อนที่จะได้รับ EIN

การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด

ผู้ก่อตั้งสามารถซื้อหุ้นเริ่มต้นโดยใช้ IP (เช่น ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร) แทนเงินสดได้ โดยหลักฐานการซื้อจะได้รับการจัดเก็บไว้ในแดชบอร์ด Atlas โดยทรัพย์สินทางปัญญาของคุณจะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐจึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ หากคุณมีทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่าสูงกว่านั้น โปรดปรึกษาทนายความก่อนที่จะดำเนินการต่อ

การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ

ผู้ก่อตั้งสามารถยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดย Atlas จะยื่นเอกสารให้คุณ (ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาหรือนอกสหรัฐอเมริกา) โดยใช้ USPS Certified Mail และติดตามข้อมูล คุณจะได้รับเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) ที่ลงนามและหลักฐานการยื่นเอกสารโดยตรงในแดชบอร์ด Stripe

เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก

Atlas ให้บริการเอกสารทางกฎหมายทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเริ่มดำเนินธุรกิจบริษัทของคุณ โดยเอกสารสำหรับบริษัทคอร์ปอเรชันประเภท C ของ Atlas ได้รับการสร้างขึ้นโดยร่วมงานกับ Cooley ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานกฎหมายการร่วมลงทุนชั้นนำของโลก โดยเอกสารเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณระดมทุนได้ทันทีและช่วยให้มั่นใจว่าบริษัทของคุณจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย โดยครอบคลุมถึงแง่มุมต่างๆ เช่น โครงสร้างกรรมสิทธิ์ การแจกจ่ายหุ้น และการ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี

Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Atlas ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้าเพื่อมอบส่วนลดและเครดิตสุดพิเศษแก่ผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้แก่ ส่วนลดค่าเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้านวิศวกรรม ภาษี การเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการดำเนินงานจากผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง AWS, Carta และ Perplexity และเรายังมอบตัวแทนที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ให้คุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในปีแรกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ใช้ Atlas คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก Stripe ด้วย เช่น การประมวลผลการชำระเงินแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Atlas ช่วยคุณจัดตั้งธุรกิจใหม่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หรือเริ่มใช้งานได้เลยวันนี้