ภาษีการขายคือภาษีทางอ้อมที่ใช้กับการขายค้าปลีกส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าคุณกําลังทําการซื้อหรือขายสินค้าให้กับลูกค้า คุณน่าจะต้องคำนึงถึงภาษีการขายในการทำธุรกรรมด้วย

รัฐทุกแห่งและเขตโคลัมเบียเรียกเก็บภาษีขายในระดับรัฐ ยกเว้นรัฐอะแลสกา เดลาแวร์ มอนทานา นิวแฮมป์เชียร์ และโอเรกอน นอกจากนี้ เขตอำนาจศาลในพื้นที่ รวมทั้งเทศมณฑล เมือง และเขต ยังจัดเก็บภาษีในรัฐเหล่านี้หลายแห่งด้วย อัตราภาษีและกฎการจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันมีอยู่มากมายในแต่ละรัฐ และแตกต่างกันแม้แต่ภายในรัฐ ซึ่งอาจทำให้การคำนวณภาษีขายเป็นงานที่ท้าทาย ต่อไปนี้คือคําแนะนําเกี่ยวกับการคํานวณภาษีการขาย รวมถึงเวลาที่ต้องเรียกเก็บภาษีการขายจากลูกค้า

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• วิธีคํานวณภาษีการขาย
  
• เมื่อใดควรเรียกเก็บภาษีการขายจากลูกค้า
  

วิธีคํานวณภาษีการขาย

ภาษีการขายคือเปอร์เซ็นต์ของการขาย ดังนั้นยอดภาษีการขายที่คุณค้างชําระจะอิงตามราคาขายของสินค้าที่คุณซื้อหรือขายเสมอ ต่อไปนี้คือขั้นตอนในการคํานวณภาษีการขาย

1. กำหนดอัตราภาษีขายที่ถูกต้อง ณ จุดขายโดยการค้นคว้าข้อมูลของแต่ละรัฐและเขตอำนาจศาลทีละแห่ง อัตราภาษีการขายของรัฐเฉลี่ยที่รวมกับอัตราภาษีท้องถิ่น มักจะอยู่ระหว่าง 6% ถึง 9% แต่อัตราเหล่านี้อาจสูงถึง 11.5%
   
2. เมื่อคุณกําหนดอัตราภาษีการขายที่ถูกต้องแล้ว ให้แปลงอัตราเป็นรูปแบบจุดทศนิยมโดยการหารอัตราภาษีขายด้วย 100 ตัวอย่างเช่น 5% จะกลายเป็น 0.05
   
3. คูณราคาสินค้าด้วยอัตราภาษีขายในรูปแบบทศนิยม:
   ราคาของสินค้า x อัตราภาษีขายในรูปแบบจุดทศนิยม = ยอดภาษีการขาย
   
4. สุดท้าย เพื่อให้ได้ยอดรวมของธุรกรรมทั้งหมด ให้เพิ่มยอดภาษีการขายเข้าในราคาของสินค้า ซึ่งยอดนี้จะเป็นยอดรวมธุรกรรม หากไม่มีค่าธรรมเนียมหรือภาษีอื่นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา
   

ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อสินค้ามูลค่า 10 ดอลลาร์และอัตราภาษีการขายคือ 5% ภาษีการขายที่ต้องชําระคือ 50 เซ็นต์ ทำให้ราคาซื้อของคุณคือ 10.50 ดอลลาร์ (หากไม่มีค่าธรรมเนียมหรือภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)

เมื่อใดควรเรียกเก็บภาษีการขายจากลูกค้า

ก่อนที่คุณจะเริ่มหาข้อมูลอัตราภาษีการขาย ขั้นตอนแรกในการเรียกเก็บภาษีก็คือการจดทะเบียนขอใบอนุญาตภาษีการขายในรัฐ (หรือหลายๆ รัฐ) ที่คุณมีความเชื่อมโยงด้านภาษีการขาย ความเชื่อมโยงด้านภาษีการขายมักจะเกิดขึ้นได้สองวิธี ได้แก่ ทางกายภาพหรือทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงทางกายภาพหมายถึง การมีสถานะทางกายภาพหรือกิจกรรมในรัฐเพียงพอที่จะต้องชำระภาษีการขายในรัฐนั้น ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจหมายถึง การมีรายได้รวมหรือจำนวนธุรกรรมที่ผ่านเกณฑ์ทางเศรษฐกิจของรัฐในรัฐนั้นๆ เกณฑ์เหล่านี้แตกต่างกันไปตามรัฐ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ทําให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ

คุณจะต้องประเมินด้วยว่าคุณได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเชื่อมโยงด้านภาษีการขายแล้วหรือยัง และจดทะเบียนขอใบอนุญาตในรัฐเหล่านั้นหรือไม่ หากต้องการจดทะเบียนขอใบอนุญาตภาษีการขาย คุณต้องใช้ข้อมูลธุรกิจทั่วไป และโปรดทราบว่าบางรัฐเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสําหรับการจดทะเบียน คุณจะจดทะเบียนได้ทางออนไลน์ และสามารถตรวจสอบรายการที่ครอบคลุมนี้เพื่อค้นหาลิงก์การจดทะเบียนที่เกี่ยวข้อง