การทําความเข้าใจภาระหน้าที่ทางภาษีของมาร์เก็ตเพลสในสหภาพยุโรป

Tax
Tax

Stripe Tax ให้คุณคำนวณ เรียกเก็บ และรายงานภาษีในการชำระเงินทั่วโลกด้วยการเชื่อมต่อการทำงานที่เข้าใจง่าย รวมทั้งช่วยให้คุณทราบพื้นที่ที่ต้องจดทะเบียน เรียกเก็บภาษีในจำนวนที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนเข้าถึงรายงานที่ใช้สำหรับยื่นเงินคืนภาษีได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การนิยามคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
  3. การพิจารณาความรับผิดทางภาษีของผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส
  4. กฎหมายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับมาร์เก็ตเพลสที่เจาะจงเฉพาะอุตสาหกรรม
    1. บริการดิจิทัลและการขายสินค้าแบบ B2C
    2. ที่พักระยะสั้นและการขนส่งผู้โดยสาร
  5. ภาระหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีโดยสมัครใจ
  6. ภาระผูกพันในการรายงานภาษี
  7. ความรับผิดในกรณีที่คํานวณภาษีไม่ถูกต้อง
  8. ข้อควรพิจารณาในการออกใบแจ้งหนี้
  9. ผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส
    1. การจดทะเบียนภาษี
    2. ภาระหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษี
    3. ความรับผิดทางภาษี
    4. ภาระผูกพันในการรายงานภาษี
  10. Stripe จะช่วยได้อย่างไร
    1. Stripe Tax ช่วยสนับสนุนแพลตฟอร์ม

สหภาพยุโรป (EU) จัดการระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่รวมเป็นระบบเดียวในหมู่รัฐสมาชิก 27 รัฐ ภายในกรอบการทํางานที่ใช้ร่วมกันซึ่งระบุกฎและหลักเกณฑ์ทั่วไป แต่ละประเทศจะกําหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เกณฑ์การจดทะเบียน และข้อกําหนดการออกใบแจ้งหนี้ของตนเอง

เมื่อมาร์เก็ตเพลสเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายออนไลน์ที่จำหน่ายให้กับลูกค้าในสหภาพยุโรปในอุตสาหกรรมต่างๆ สหภาพยุโรปจึงได้พัฒนามาตรการใหม่ๆ เพื่อปรับระบบให้ทันสมัยและทําให้การปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีเป็นเรื่องง่าย ธุรกิจที่ดําเนินงานในนี้ภูมิภาคจําเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มในระดับสหภาพยุโรปและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของประเทศที่มีความแตกต่างกันไประหว่างการขายข้ามพรมแดน เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษและปฏิบัติตามข้อกําหนดอย่างต่อเนื่อง

คู่มือนี้เหมาะสําหรับทั้งมาร์เก็ตเพลสและธุรกิจที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านมาร์เก็ตเพลสในสหภาพยุโรป คุณจะได้ทราบว่าใครคือผู้รับผิดชอบในการเรียกเก็บและนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงวิธีแยกแยะภาระหน้าที่และความรับผิดของคุณ โดยอิงตามระเบียบข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงไปและความแตกต่างในแวดวงธุรกิจ

การนิยามคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

ภาษาที่ใช้ในกฎหมายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรปเพื่ออธิบายผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจะแตกต่างกันไป โดยบางครั้งจะเรียกว่า "แพลตฟอร์ม" หรือ "อินเทอร์เฟซอิเล็กทรอนิกส์หรือพอร์ทัล" ในสหภาพยุโรป มีเพียงผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสบางรายเท่านั้นที่ต้องรับผิดในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดขายที่ตนอำนวยความสะดวกจะได้รับการอธิบายว่า "ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย" เนื่องจาก "ถือว่า" เป็นผู้จําหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า

กฎหมายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มจะคิดว่าธุรกรรมเหล่านี้ที่ดำเนินการผ่านผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายนั้นเป็นการขาย 2 รายการที่เกิดขึ้นติดต่อกัน โดยผู้ขายจัดหาสินค้าหรือบริการให้กับผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส ซึ่งจะจําหน่ายสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้า แม้ว่าผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจะไม่เคยมีสินค้าอยู่ในครอบครองก็ตาม

ผู้ให้บริการการมาร์เก็ตเพลสที่ไม่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจะเรียกว่า "คนกลาง" โดยมีหน้านี้ให้บริการเป็นสื่อกลาง แต่ไม่ได้ดำเนินการทําธุรกรรม ในกรณีนี้ คนกลางจะไม่มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีในนามของผู้ขาย ดังนั้น การเรียกเก็บและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย

การพิจารณาความรับผิดทางภาษีของผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส

ในสหภาพยุโรป ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับภาษีประเภทอื่นๆ และค่าธรรมเนียม ความรับผิดในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจะขึ้นอยู่กับหน้าที่รับผิดชอบของผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสที่ดำเนินการเพื่ออํานวยความสะดวกในการขายและดําเนินการตามคำสั่งซื้อ แม้ว่าหน่วยงานภาษีในประเทศต่างๆ ของสหภาพยุโรปอาจมีการตีความแตกต่างกันไป แต่คุณลักษณะต่อไปนี้อาจบ่งชี้ว่าผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสคือผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายและจําเป็นต้องรับผิดชอบในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

  • รับผิดชอบการส่งมอบสินค้าหรือบริการ
  • รับผิดชอบการเรียกเก็บเงิน
  • ทำการควบคุมหรือมีอิทธิพลต่อการกําหนดราคา
  • ให้บริการสนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าที่ขายหรือบริการที่มอบให้
  • ให้ความสําคัญกับแบรนด์และอัตลักษณ์ของผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสอย่างเด่นชัดกว่าผู้ขาย

หากสัญญาระหว่างผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสกับผู้ขายขัดแย้งกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของวิธีการทําธุรกรรม จะมีการใช้ปัจจัยอย่างหลังเพื่อกําหนดความรับผิดชอบด้านภาษี รายการนี้ไม่ได้ระบุข้อมูลทั้งหมดและผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสไม่จำเป็นต้องทําตามเกณฑ์ทุกข้อเพื่อการรับผิดทางภาษี

กฎหมายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับมาร์เก็ตเพลสที่เจาะจงเฉพาะอุตสาหกรรม

บริการดิจิทัลและการขายสินค้าแบบ B2C

สหภาพยุโรปมีกฎเกี่ยวกับผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายสําหรับธุรกรรมบางประเภท โดยมาร์เก็ตเพลสที่อนุมัติการเรียกเก็บเงินหรือการนําส่ง หรือระบุข้อกําหนดและเงื่อนไขของการขาย จะมีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเสมอ หากจําหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการเหล่านี้

  • บริการดิจิทัล
  • สินค้าที่จำหน่ายโดยธุรกิจแก่ผู้บริโภค (B2C) ซึ่งนําเข้าจากนอกสหภาพยุโรปผ่านการจัดส่งสินค้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าน้อยกว่า €150
  • สินค้า B2C ภายในสหภาพยุโรปที่ดําเนินการโดยผู้ค้านอกสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ตาม กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่ากฎสำหรับผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายจะไม่มีผลบังคับใช้กับธุรกิจที่ดําเนินงานเฉพาะเจาะจง ซึ่งก็คือ การประมวลผลการชําระเงินที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสินค้า การแสดงสินค้าหรือการโฆษณาสินค้า หรือการเปลี่ยนเส้นทางหรือการโอนเงินลูกค้าไปยังอินเทอร์เฟซอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีการจําหน่ายสินค้าโดยไม่ต้องให้บริการเพิ่มเติม

ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการขายบริการนอกประเทศ รวมถึงบริการจัดส่งอาหารหรือบริการจัดส่งอื่นๆ หรือสินค้าประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ด้านบนอาจยังมีภาระหน้าที่ด้านภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขาย หากมีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนดทั่วไปของผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย

ที่พักระยะสั้นและการขนส่งผู้โดยสาร

หากได้รับอนุมัติจากทุกรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป กฎภาษีมูลค่าเพิ่มในยุคดิจิทัล (VAT in the Digital Age - ViDA) สำหรับมาร์เก็ตเพลสจะขยายกฎเกณฑ์สำหรับผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายให้รวมการเช่าที่พักระยะสั้นและการขนส่งรถยนต์ในปี 2027 ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสที่มีคุณสมบัติตรงกับคําจํากัดความของผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายและอํานวยความสะดวกให้การขายเหล่านี้จะต้องรับผิดต่อการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

มีข้อยกเว้นประการหนึ่งคือ ในอุตสาหกรรมที่พักและการคมนาคม ธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งให้ข้อมูลหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส จะมีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเอง ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสไม่มีความรับผิดด้านภาษีในกรณีเหล่านี้

ภาระหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีโดยสมัครใจ

ในสหภาพยุโรป ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจะไม่สามารถทําข้อตกลงโดยสมัครใจกับหน่วยงานด้านภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับยอดขายที่อํานวยความสะดวกให้มาร์เก็ตเพลส หากผู้ให้บริการรายดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ตรงกับคําจํากัดความของผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย หากผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสยังคงไม่แน่ใจว่าตนปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายหรือไม่ ก็สามารถตรวจสอบระเบียบข้อบังคับในแต่ละประเทศของสหภาพยุโรปได้ หรือติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาระผูกพันในการรายงานภาษี

ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสที่ต้องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในฐานะผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย จะต้องรายงานยอดขายทั้งหมดแก่หน่วยงานด้านภาษีของแต่ละประเทศที่ผู้ให้บริการรายนั้นๆ ดําเนินธุรกิจในสหภาพยุโรป แต่จะไม่จําเป็นต้องแยกยอดขายจากผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสออกจากยอดขายโดยตรง กฎหมายล่าสุดที่มีชื่อว่า DAC7 จากปี 2023 กําหนดให้ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส (ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายหรือตัวกลาง) เก็บรวบรวม ตรวจสอบความถูกต้อง จัดเก็บ และรายงานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขายที่จําหน่ายสินค้า ให้เช่าทรัพย์สินที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ให้เช่ารูปแบบการขนส่งใดๆ หรืออํานวยความสะดวกให้กับการจัดสรรบริการส่วนบุคคลแก่ลูกค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสของตน

ความรับผิดในกรณีที่คํานวณภาษีไม่ถูกต้อง

กฎหมายของสหภาพยุโรประบุว่าผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสไม่ต้องรับผิดในการเก็บรวบรวมและนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไม่ถูกต้อง หากข้อผิดพลาดนั้นเกิดจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสสามารถพิสูจน์ได้ว่าทีมของตนใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ผู้ขายหรือบริษัทอื่นจัดหาให้ และแสดงให้เห็นว่าอย่างสมเหตุสมผลว่าไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสนั้นก็จะไม่ต้องรับผิดต่อภาษีมูลค่าเพิ่มที่ไม่ได้เรียกเก็บ

ข้อควรพิจารณาในการออกใบแจ้งหนี้

เมื่อผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสดำเนินงานในฐานะผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย กฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรปจะถือว่ายอดขาย 1 รายการคือธุรกรรมที่แยกกัน 2 รายการ นั่นคือผู้ขายจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย และผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายจำหน่ายต่อให้ลูกค้า ในสหภาพยุโรป โดยทั่วไปแล้ว ยอดขายแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) จะต้องมีใบแจ้งหนี้ แต่ไม่จําเป็นต้องมีสำหรับการการขายแบบ B2C

ผู้ขายจําเป็นต้องออกใบแจ้งหนี้ให้กับผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสสําหรับธุรกรรมรายการแรก ขณะเดียวกัน การเรียกเก็บเงินด้วยตัวเอง หรือการที่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสออกใบแจ้งหนี้ในนามของผู้ขายแก่ตนเอง ก็ถือเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ธุรกรรมที่ 2 จะไม่จําเป็นต้องมีใบแจ้งหนี้หากเป็น B2C อย่างไรก็ตาม หากผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสขายสินค้าให้กับธุรกิจ ก็จะต้องส่งใบแจ้งหนี้สําหรับธุรกรรมนั้นด้วย

ผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

การจดทะเบียนภาษี

หากธุรกิจที่อยู่นอกสหภาพยุโรปขายสินค้าหรือบริการของตนผ่านมาร์เก็ตเพลสเท่านั้น และผู้ให้บริการทำหน้าที่เป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขาย ธุรกิจดังกล่าวจะไม่จําเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น ธุรกิจในสหรัฐอเมริกาที่ขายสินค้าในครัวเรือนที่มีมูลค่าต่ําให้กับลูกค้าในสหภาพยุโรปผ่านมาร์เก็ตเพลสเท่านั้น จะไม่จําเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ตีความการดำเนินการนี้เป็นธุรกรรม 2 รายการ นั่นคือ ธุรกิจในสหรัฐอเมริกาขายสินค้าให้แก่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสนอกสหภาพยุโรป ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จากนั้นผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจะขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในสหภาพยุโรปและต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาระหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษี

ธุรกิจไม่มีส่วนรับผิดชอบในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อทําการขายผ่านผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายแก่ลูกค้าในสหภาพยุโรป ทั้งนี้ ธุรกิจสามารถแยกแยะได้ว่าผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสเป็นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ขายหรือไม่ โดยอิงตามข้อกําหนดและเงื่อนไขของมาร์เก็ตเพลสนั้นๆ

ความรับผิดทางภาษี

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ขายจะไม่รับผิดต่อภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ ที่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสไม่สามารถคํานวณหรือนําส่งได้ แต่ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบในการส่งรายละเอียดที่ถูกต้องเกี่ยวกับยอดขายให้แก่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลส อย่างไรก็ตาม บางประเทศได้ปรับใช้กฎหมายเกี่ยวกับหลักความรับผิดของผู้กระทำการละเมิดร่วมกัน ภายใต้กฎหมายเหล่านี้ ผู้ขายมาร์เก็ตเพลสอาจต้องรับผิดต่อภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ ที่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสไม่สามารถนําส่งได้ ทั้งนี้ กฎหมายความรับผิดของบุคคลที่สามจะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป และธุรกิจต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากการพิจารณาระเบียบข้อบังคับในท้องถิ่นต่างๆ

ภาระผูกพันในการรายงานภาษี

หากผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสจําเป็นต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากยอดขายที่จำหน่ายแก่ลูกค้า ผู้ขายก็จะไม่ต้องระบุยอดขายเหล่านั้นในแบบแสดงรายการภาษีของตน อย่างไรก็ตาม ผู้ขายบนมาร์เก็ตเพลสอาจต้องรายงานยอดขายที่ได้รับการยกเว้นหรือมีอัตราภาษีเป็นศูนย์ให้แก่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลสในเอกสารแบบแสดงรายการภาษี

Stripe จะช่วยได้อย่างไร

Stripe อำนวยความสะดวกให้มาร์เก็ตเพลสสร้างและขยายธุรกิจการชําระเงินและบริการทางการเงินระดับโลกที่ทรงประสิทธิภาพได้ โดยใช้เวลาการทํางานน้อยลงและมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น Stripe Tax ลดความซับซ้อนในการปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีทั่วโลก เพื่อให้คุณมีเวลาทุ่มเทกับการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต โดยระบบจะคํานวณและเก็บภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสินค้าและบริการโดยอัตโนมัติจากทั้งสินค้าที่จับต้องได้และสินค้าดิจิทัล รวมไปถึงบริการในทุกรัฐของสหรัฐอเมริกาและอีกกว่า 40 ประเทศ Stripe Tax สร้างขึ้นภายใน Stripe โดยเฉพาะ และช่วยให้คุณเริ่มใช้งานได้รวดเร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องมีการผสานการทํางานหรือใช้ปลั๊กอินของบริษัทอื่น

Stripe Tax ช่วยสนับสนุนแพลตฟอร์ม

  • ทําความเข้าใจว่าจะจดทะเบียนและเรียกเก็บภาษีที่ไหน ดูตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องเรียกเก็บภาษีโดยอิงตามธุรกรรมใน Stripe หลังจากจดทะเบียนแล้ว ก็จะเปิดใช้การเรียกเก็บภาษีในรัฐหรือประเทศใหม่ได้ภายในไม่กี่วินาที คุณจะเริ่มเรียกเก็บภาษีได้โดยเพิ่มโค้ดเพียงบรรทัดเดียวลงในการเชื่อมต่อการทํางาน Stripe ที่ใช้อยู่ หรือเพิ่มการเรียกเก็บภาษีลงในผลิตภัณฑ์ Stripe ที่ไม่ต้องใช้การเขียนโค้ด เช่น Invoicing ด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียว
  • จดทะเบียนชําระภาษี: Stripe Tax จะระบุลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่คุณจดทะเบียนได้เมื่อมีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนดการจดทะเบียนภาษีของรัฐสมาชิก
  • เรียกเก็บภาษีการขายโดยอัตโนมัติ: Stripe Tax จะคํานวณและเรียกเก็บภาษีที่ค้างชําระ โดยรองรับผลิตภัณฑ์และบริการหลายร้อยรายการ รวมทั้งมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับกฎและการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษี
  • ทําให้การยื่นและนําส่งเป็นเรื่องง่าย: Stripe สร้างรายงานที่แยกเป็นรายการและสรุปข้อมูลภาษีสําหรับแต่ละตําแหน่งที่ตั้งที่ยื่นภาษี ซึ่งจะช่วยให้คุณยื่นและชําระภาษีได้อย่างง่ายดายด้วยตัวเอง หรือจะดําเนินการกับนักบัญชีหรือพาร์ทเนอร์ด้านการยื่นของ Stripe ก็ได้เช่นกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Tax

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับรองหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความเพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Tax

Tax

ช่วยให้คุณทราบพื้นที่ที่ต้องจดทะเบียน เรียกเก็บภาษีในจำนวนที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนเข้าถึงรายงานที่ใช้สำหรับยื่นเงินคืนภาษี

Stripe Docs เกี่ยวกับ Tax

เรียกเก็บภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ GST รวมทั้งสร้างรายงานธุรกรรมทั้งหมดของคุณแบบอัตโนมัติ พร้อมเชื่อมต่อระบบโดยเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องเขียนโค้ดเลย