ความท้าทาย

ยานยนต์ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีขั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือเฉพาะทางเพื่อดูแลรักษา เครื่องมือบางอย่างอาจมีการใช้งานจำกัดหรือใช้ไม่บ่อย ทำให้อู่ซ่อมรถมีต้นทุนสูงขึ้นและมีโอกาสสูงที่อุปกรณ์เหล่านั้นจะวางอยู่เฉยๆ หรือถูกปล่อยปละละเลย Toyota จึงสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาชื่อว่า Mechacomi เพื่อช่วยให้อู่ซ่อมรถสามารถซื้อขายอุปกรณ์เหล่านี้จากกันและกัน ก่อให้เกิดเป็นโซลูชันที่ยั่งยืนมากขึ้น แต่ Toyota ต้องการโซลูชันการชำระเงินที่ช่วยให้ทำธุรกรรมได้อย่างน่าเชื่อถือทั่วมาร์เก็ตเพลสที่ประกอบด้วยหลายฝ่ายสำหรับอุปกรณ์ที่มีมูลค่าสูง และรองรับการขยายตัวของแพลตฟอร์มไปสู่ตลาดใหม่ๆ

โซลูชัน

Toyota ต้องการขจัดความยุ่งยากให้กับอู่ซ่อมรถต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่รู้จักกันมาก่อนและไม่มั่นใจที่จะทำธุรกรรมมูลค่าสูง จึงได้เลือกใช้ Stripe Connect เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินสำหรับการซื้อ การฝากเงิน และบริการเป็นคนกลาง ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยผ่านบัตรเครดิตหรือการโอนเงินผ่านธนาคาร ในขณะที่ Toyota ก็ได้ยืดอายุให้กับอุปกรณ์ราคาแพงเหล่านี้ นอกจากนี้ Stripe Connect ยังช่วยให้ Toyota สามารถขยายแพลตฟอร์มให้ใช้กว่า 135 สกุลเงินและวิธีการชำระเงินยอดนิยมหลายสิบวิธีโดยที่ Stripe ดูแลการชำระเงินให้เป็นไปตามข้อกำหนดรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC)

ผลลัพธ์

การใช้ Stripe Connect ช่วยให้ Toyota สามารถเปิดรับการชำระเงินสำหรับบริการคนกลางและฝากเงินให้กับผู้ขาย อีกทั้งยังรับตัวเลือกการชำระเงินแบบโอนเงินผ่านธนาคารและบัตรเครดิตได้ด้วย อู่ซ่อมรถรู้สึกอุ่นใจเมื่อต้องซื้ออุปกรณ์ต้นทุนสูง และ Toyota ก็ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายด้านการปรับโฉมธุรกิจและความยั่งยืนมากขึ้น

"ทีมของเราวางเป้าหมายว่าจะให้บริการพร้อมใช้ภายใน 6 เดือน และเพื่อนร่วมงานรอบตัวผมก็บอกว่าพวกเขาไม่เคยเห็นการพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้มาก่อนที่ Toyota" Tomoaki Nakatani ผู้สร้าง Toyota Mechacomi กล่าว "เราหวังว่าแพลตฟอร์ม Mechacomi จะกลายมาเป็นบริการครบวงจรที่ส่งเสริมให้ Toyota พลิกโฉมธุรกิจไปเป็นบริษัทแห่งความคล่องตัว และการใช้ Stripe ก็เป็นแนวทางที่ดีในการก้าวไปสู่หนทางนั้น"