Thinkific สร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาให้ความรู้สร้างธุรกิจของตัวเอง

Thinkific เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ครีเอเตอร์ผู้ผลิตเนื้อหาให้ความรู้ใช้ในการออกแบบ ทำการตลาด ขาย และส่งมอบความรู้ทางออนไลน์ ภารกิจของ Thinkific คือการปฏิวัติวิธีการที่ผู้คนเรียนรู้และสร้างรายได้ออนไลน์ โดยบริษัทจะมอบเครื่องมือให้ครีเอเตอร์เหล่านี้ใช้เพื่อเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญที่ไม่เหมือนใครของตนให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน

เราได้พูดคุยกับ Peter Fitzpatrick รองประธานฝ่ายการชำระเงินของ Thinkific เกี่ยวกับการสนับสนุนครีเอเตอร์ผู้ผลิตเนื้อหาให้ความรู้ ความสำคัญของการสร้างชุมชนดิจิทัล และวิธีที่ Stripe จะช่วยให้ Thinkific เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

    Billing
    Payments
    Radar
    Connect
อเมริกาเหนือ
เติบโต

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกทำงานกับ Thinkific

ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ผมตั้งใจเอาไว้ว่าสิ่งที่ผมจะทำไปตลอดชีวิตก็คือช่วยให้ชีวิตของผู้คนหลายล้านคนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นผ่านองค์กรที่แสวงผลกำไร ดังนั้น ผมจึงมองหาบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ ความปรารถนา และความตั้งใจที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้น พอได้เจอกับผู้ร่วมก่อตั้ง Thinkific ทั้ง 2 คน ทั้ง Greg กับ Miranda ผมก็คิดว่า “นี่แหละคือบริษัทที่ผมมองหา Thinkific มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโลก และผมก็คิดถูก

ผมเคยพูดคุยกับครีเอเตอร์คนหนึ่งเกี่ยวกับ Thinkific Payments แต่จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องและถามผมว่าทำอย่างไรถึงจะขายหลักสูตรได้มากขึ้น ก่อนจะตอบคำถามของเขา ผมถามเขาว่าทำไมถึงอยากพูดเรื่องนี้ คำตอบที่ได้คือเขาทำยอดขายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว ตอนนั้นเองที่ผมตระหนักได้ว่าเราต้องช่วยเหลือด้านการขายแก่ครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาให้ความรู้มากขึ้น

ผมสังเกตเห็นว่าครีเอเตอร์ที่ทำยอดขายได้มากที่สุดจะมีผู้ติดตามจำนวนมาก ส่วนครีเอเตอร์ที่ทำยอดขายได้น้อยที่สุดกลับไม่มีผู้ติดตามเลย ภารกิจเพิ่มผู้ติดตาม 50,000 คนของผมจึงมีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิธีสร้างกลุ่มผู้ติดตาม เพื่อจะได้สอนคนอื่นได้ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งสุดท้ายก็คือการสอนให้พวกเขาสร้างยอดขายให้เพียงพอต่อการหาเลี้ยงครอบครัวและเข้าถึงนักเรียนได้มากขึ้นครับ

Thinkific จัดการกับความแตกต่างระหว่างกระบวนการวางแผนการตลาดกับกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลง และผสานรวมไว้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้อย่างไร

ตอนเข้ามาทำงานกับ Thinkific เดือนแรกๆ ผมพูดคุยกับลูกค้าคนหนึ่งที่บอกว่า เขาเลือก Thinkific เพราะเป็น “แพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่มีชีวิตอยู่เพื่อการสอน” เขาพูดถูกครับ หัวใจหลักของธุรกิจเราก็คือสนับสนุนครีเอเตอร์ที่สร้างเนื้อหาให้ความรู้ และนั่นทำให้เรามองการวางแผนการตลาดต่างออกไปเล็กน้อย

ส่วนกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเรื่องของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนนับจากการซื้อครั้งแรกจนถึงการซื้อครั้งที่ 10 หรือก็คือการช่วยให้นักเรียนพัฒนาตัวเองนั่นเองครับ ดังนั้น ตอนที่เราพัฒนาเครื่องมือสำหรับขายความรู้ เราคำนึงถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว กล่าวคือเรากำลังสร้างเครื่องมือให้กับครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาให้ความรู้ ไม่ใช่นักการตลาด สิ่งที่เราเน้นก็คือการลดความซับซ้อนให้กับขั้นตอนการตั้งค่า สร้างตัวเลือกที่เรียบง่าย และหาวิธีช่วยให้ครีเอเตอร์ถ่ายทอดความรู้ที่ไม่เหมือนใครของตัวเอง

การใช้เวลาร่วมกับครีเอเตอร์ที่สร้างเนื้อหาให้ความรู้มีผลต่อการทำงานในแต่ละวันของคุณและวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างไรบ้าง

ผมชอบคลุกคลีอยู่กับลูกค้านะครับ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยมมาก อย่างเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ใช้เวลาร่วมกับ Mina Irfan ครีเอเตอร์ของ The Universe Guru ในรัฐเท็กซัส เธอก่อตั้งธุรกิจน่าสนใจที่ช่วยให้ผู้หญิงดึงพลังงานของสตรีเพศมาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มรายได้ ความสุข ความยินดี และแรงบันดาลใจ

ครีเอเตอร์อีกคนหนึ่งที่เจอกันบ่อยๆ ก็คือ Brandon Doerksen เขาอาศัยอยู่ในไอดาโฮและสอนพ่อแม่ว่าควรทำอย่างไรเมื่อลูกๆ สำลักหรือหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งพ่อแม่หลายคนกลับมาบอกกับ Brandon ว่าสิ่งที่เขาสอนได้ช่วยชีวิตลูกๆ ของพวกเขาไว้ในช่วงเวลาฉุกเฉิน

ส่วนผลลัพธ์ต่อวิสัยทัศน์ของบริษัทนั้น ผมคิดว่ายิ่งได้ใช้เวลากับลูกค้า ผมก็ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราจะพัฒนาอะไรและเติบโตอย่างไรต่อไป ผมมองว่าวัตถุประสงค์ของเราก็คือทำทุกอย่างเท่าที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เอาชนะความไม่นอนเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำต่อไป รวมทั้งจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้ขั้นตอนต่อไปง่ายขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ Thinkific มอบหลักสูตรการสอนทางออนไลน์และให้ใช้งานเครื่องมือได้ฟรี การทำแบบนี้ส่งผลดีต่อแผนสร้างการเติบโตอย่างไร

ลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำแบบนี้ครับ ไม่มีคู่มือเล่มไหนสอนการสร้างธุรกิจขนาดเล็ก ยิ่งกับอุตสาหกรรมใหม่อย่างเศรษฐกิจครีเอเตอร์ด้วยแล้ว สิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนที่เป็นอุปสรรคในตอนเริ่มแรก ดังนั้น เราจึงพัฒนาตัวเร่งขึ้นมาเพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์ก้าวผ่านอุปสรรคดังกล่าว สร้างธุรกิจให้เติบโต และเข้าถึงนักเรียนได้มากขึ้น ตัวเร่งดังกล่าวเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตให้กับเราเช่นเดียวกับที่ลูกค้าสร้างธุรกิจจากการขายความรู้ ก็เหมือนกับลูกค้าเลยครับ Thinkific ทำให้การศึกษาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเจาะเข้าสู่ตลาด

นอกจากนี้ ธุรกิจของเรายังเติบโตได้ด้วยการปรับกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของครีเอเตอร์และผู้สอนรายใหม่ให้ง่ายขึ้นโดยใช้ Stripe กระบวนการเริ่มต้นใช้งานของ Stripe ทำให้เราไม่จำเป็นต้องสร้างแบบฟอร์มใหม่ให้กับผู้ใช้แต่ละราย และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราเก็บรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเสมอ

Thinkific ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างไรเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมให้กับทั้งผู้สอนและนักเรียน

เราเน้นลงทุนกับเครื่องมือ เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์ที่สร้างเนื้อหาให้ความรู้สามารถขายหลักสูตรและแบ่งปันเคล็ดลับเฉพาะของตัวเองได้ ไม่นานมานี้ เราได้เปิดตัว Communities ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของครีเอเตอร์ที่นักเรียนจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้แบบอินเทอร์แอกทีฟ Communities มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการให้ความรู้ ทั้งยังช่วยให้ครีเอเตอร์ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนได้ง่ายขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวที่เชื่อมต่อกับหลักสูตรของพวกเขาอยู่แล้ว

Stripe ช่วยให้เราสามารถเสนอวิธีการชำระเงินของท้องถิ่นโดยปรับให้เหมาะกับแต่ละประเทศ ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่คุ้นเคยและน่าเชื่อถือ และช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องสร้างการเชื่อมต่อใหม่ ในขณะเดียวกันผู้สอนและนักเรียนก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วย

คุณมองว่าการร่วมมือกันระหว่าง Thinkific กับ Stripe จะพัฒนาไปในทิศทางใดในอนาคต

เราตัดสินใจว่าจะทุ่มให้กับ Stripe หมดหน้าตักครับ เราเริ่มต้นความสัมพันธ์กับ Stripe จากการใช้ Stripe Connect พัฒนาระบบการชำระเงินของเราเองและประมวลผลธุรกรรมแต่ละรายการ ตามมาด้วย Stripe Billing เนื่องจากยอดขายสินค้ารวมส่วนใหญ่ของเรามาจากการสมัครใช้บริการ หลังจากนั้นจึงมีการเพิ่มฟีเจอร์ Smart Retries และ Adaptive Acceptance เข้ามา ส่วนแบบฟอร์มเริ่มต้นใช้งานที่จัดการอัตโนมัติ ตามมาทีหลัง และล่าสุดคือ Affirm, Klarna และ AfterPay

ปัจจุบัน เราวางแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ภาษีตัวแรกสำหรับครีเอเตอร์ผู้สร้างเนื้อหาให้ความรู้โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้พวกเขาสร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้ได้ในระดับที่ต้องการด้วยวิธีการที่ช่วยเพิ่ม GDP ของอินเทอร์เน็ต เราชื่นชมทุกสิ่งทุกอย่างที่ Stripe พัฒนาขึ้นมา ซึ่งความสัมพันธ์ของเราก็เกิดขึ้นจากสิ่งนี้ครับ

Thinkific เป็นแพลตฟอร์มสร้างธุรกิจสำหรับครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาให้ความรู้ ในขณะที่ Stripe ช่วยให้แพลตฟอร์มทำงานได้จริง ซึ่งในเรื่องนี้ พันธกิจของทั้ง Stripe และ Thinkific มีความสอดคล้องกัน

แม้ว่า Thinkific จะเป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างใหญ่ แต่เรายังคงเป็นบริษัทด้านการชำระเงินขนาดเล็ก และหากไม่มี Stripe เราคงไม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้เร็วขนาดนี้ Stripe ทำให้เราเดินหน้าได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ทั้งยังช่วยให้เราเปิดตลาดใหม่ได้ทันทีและก้าวทันความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากเทียบกับการใช้แพลตฟอร์มอื่นแล้ว Stripe ทำให้เราเติบโตเร็วกว่าถึง 2 เท่าเลยครับ

รู้เสมอว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร

ค่าบริการต่อธุรกรรมที่รวมไว้หมดแล้วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

เริ่มต้นผสานการทำงาน

เริ่มใช้งาน Stripe ได้ภายใน 10 นาที