ความท้าทาย

ธุรกิจที่ขายประสบการณ์อย่างเช่น ที่เล่นสกี รีสอร์ท และสวนสนุก มีโอกาสสูงที่จะเจอกับการเรียกเก็บเงินที่เป็นการฉ้อโกงด้วยการใช้หมายเลขบัตรเครดิตที่ขโมยมา ทำให้สูญเสียกำไรปีละหลายพันล้านดอลลาร์

"เราจะถูกโต้แย้งการชำระเงิน แต่ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในตอนนั้นของเราไม่สามารถสืบย้อนกลับไปหาแขกที่เป็นตัวการได้อย่างรวดเร็ว" Brett Bagley รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ SnowCloud กล่าว "รีสอร์ทส่วนใหญ่ยอมรับการโต้แย้งการชำระเงินเหล่านี้ไปและถือว่าเป็นต้นทุนการทำธุรกิจ แต่นี่เป็นเงินจำนวนมากและเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับทั้งอุตสาหกรรมรีสอร์ทและสวนสนุก"

ขณะที่ SnowCloud เริ่มสร้าง SnowPay เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การชำระเงินของตัวเอง บริษัทต้องการผู้ให้บริการด้านการชำระเงินที่จะมอบความสามารถในการปรับขนาด การติดตั้งเพื่อใช้งานจริงที่ง่ายดาย และตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงเครื่องมือทรงประสิทธิภาพเพื่อรับมือกับการฉ้อโกง

โซลูชัน

ชุดผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อการทำงานอย่างสมบูรณ์ของ Stripe มอบแนวทางที่เน้นเทคโนโลยีเป็นหลักสำหรับการชำระเงินและการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ SnowCloud ต้องการพอดี การเชื่อมต่อการทำงานของ Radar for Fraud Teams เข้าสู่ SnowPay ทำให้ SnowCloud สามารถสร้างกฎที่ออกแบบเองเพื่อลดการแชร์บัตรผ่านเล่นสกีซึ่งไม่อนุญาต และบล็อกหรือรายงานการเรียกเก็บเงินโดยพิจารณาจากคะแนนความเสี่ยง Radar, ที่อยู่ IP หรือตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเจ้าของบัตร

"หลังจากที่ได้ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับหลายๆ ทางเลือก เราก็พบว่าไม่มีเจ้าไหนคิดการณ์ไกลหรือคำนึงถึงอนาคตเท่ากับ Stripe" Jeff Boliba เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการปฏิบัติงานของ SnowCloud กล่าว "เรามั่นใจว่าเราได้พบพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้เราได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกอันครอบคลุมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แพลตฟอร์มของเรา และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่การควบคุมการเข้าถึงและการประมวลการชำระเงินมีการเชื่อมโยงถึงกัน เราจึงสามารถรายงานการเรียกเก็บเงินที่เป็นการฉ้อโกงและแจ้งทีมได้แบบเรียลไทม์เพื่อปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้บริการ

ในความพยายามที่จะลดการฉ้อโกงที่รีสอร์ท SnowCloud ใช้ข้อมูล Radar เพื่อบล็อกหรือรายงานธุรกรรมตามระดับความเสี่ยงของ Radar โดยอัตโนมัติ การใช้ฟังก์ชันนี้ที่ Mountain Creek Resort ในนิวเจอร์ซีย์ช่วยให้ SnowCloud สามารถระบุโปรไฟล์ที่น่าสงสัยได้ รีสอร์ทระบุตัวโปรไฟล์เหล่านี้ในระบบแล้วจากนั้นจึงติดต่อตัวบุคคล ทำให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่ขายบัตรลดราคาซึ่งซื้อมาด้วยหมายเลขบัตรเครดิตที่ขโมยมา ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการฉ้อโกงกว่า 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นบริษัทจึงประสานงานกับหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดในท้องถิ่น

"หากไม่ได้ทำงานร่วมกับ Stripe เราคงไม่สามารถตรวจพบการฉ้อโกงได้ตั้งแต่แรก" Boliba กล่าว "การใช้ Stripe Radar for Fraud Teams กับซอฟต์แวร์ปฏิบัติการรีสอร์ทของ SnowCloud ช่วยให้เราตรวจหาและต่อสู้กับการฉ้อโกงในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ทำให้เรามีข้อได้เปรียบเหนืออาชญากรอย่างชัดเจน"

นอกจากฟังก์ชันที่ใช้ต่อสู้กับการฉ้อโกงของ Radar แล้ว SnowCloud ยังใช้ Stripe Terminal เพื่อมอบตัวเลือกการชำระเงินด้วยตัวเองที่เชื่อถือได้ที่รีสอร์ท และหักยอดการชำระเงินสำหรับการค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ได้ในสถานที่ด้วย

ผลลัพธ์

อัตราการชนะการโต้แย้งการชำระเงินที่เพิ่มขึ้น 15%

ฟังก์ชัน SnowPay ของ SnowCloud ใช้ข้อมูลจาก Stripe เพื่อช่วยในการรับมือการโต้แย้งการชำระเงินที่เป็นการฉ้อโกง โดยจะเห็นข้อมูลว่ามีการใช้บัตรเพื่อทำการชำระเงินเมื่อใด รวมถึงจุดเข้าถึงที่เฉพาะเจาะจง ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อด้วยบัตรใบนั้น และอีกมากมาย การออกแบบกฎด้วยตัวเองโดยใช้ Radar for Fraud Teams ช่วยให้ SnowCloud สามารถบล็อกธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงมูลค่ากว่า 3.2 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 6 เดือน

"Stripe ช่วยให้เราบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างครบถ้วนเมื่อมีการโต้แย้งการเรียกเก็บเงิน และเราก็ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับการโต้แย้งการชำระเงินมากขึ้น" Bagley กล่าว "การชนะในการโต้แย้งที่เพิ่มขึ้น 15% มีมูลค่ามหาศาล"

แพลตฟอร์มการชำระเงินเดียวสำหรับข้อมูลการชำระเงินและฟังก์ชันเต็มรูปแบบที่เข้าใจง่าย

การใช้ Stripe Connect และ Stripe Terminal ทำให้ผู้ใช้ของ SnowCloud สามารถหักยอดการชำระเงินทั้งทางออนไลน์และในสถานที่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Stripe Radar ยังทำให้ SnowCloud สามารถใช้ข้อมูลการชำระเงินเพื่อหยุดยั้งการฉ้อโกงได้แบบเรียลไทม์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้รีสอร์ทสามารถบริหารธุรกิจและให้บริการแขกได้ดีขึ้น

"ความสามารถในการเชื่อมต่อการทำงานทรัพยากรของ Stripe ที่จุดขายภายในสถานที่เป็นตัวพลิกเกม" Bagley กล่าว "เราสามารถใช้คะแนนจาก Stripe Radar แล้วเชื่อมต่อกับข้อมูลของ SnowCloud เพื่อรายงานผู้ให้บริการในสถานที่แล้วบอกให้ขอดูบัตรประจำตัวของแขกคนนี้ เครื่องมือของ Stripe ช่วยเปิดโลกของเราในการปกป้องบริษัทและพาร์ทเนอร์รีสอร์ทของเรา"

การร่วมมือกันที่มองถึงอนาคตสำหรับการขยายธุรกิจและการเติบโต

"เรายินดีมากที่ได้ร่วมงานกับหลายๆ ทีมของ Stripe ที่มอบทรัพยากรและเครื่องมืออันดีเยี่ยมซึ่งช่วยให้ธุรกิจของเรามีความคล่องตัวมากขึ้น" Boliba กล่าว

การร่วมมือกับ Stripe ช่วยให้ SnowCloud สามารถสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินที่เป็นหนึ่งเดียวเพื่อหักยอดการชำระเงินได้ทุกที่ ตั้งแต่การจองออนไลน์ไปจนถึงการค้าปลีกในสถานที่ อาหารและเครื่องดื่ม และอีกมากมาย ขณะที่แขกต้องการประสบการณ์ที่ราบรื่นและทันสมัยมากขึ้น SnowCloud ก็ทุ่มเทที่จะสร้างประสบการณ์การชำระเงินด้วยตนเองให้กับแขกของรีสอร์ทด้วยการใช้ Tap to Pay, การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด และการมีศูนย์กลางครบวงจรสำหรับการซื้อทั้งหมดภายในพื้นที่ของรีสอร์ท ขณะที่รีสอร์ทพิจารณาที่จะสมัครใช้บริการและต้องการหักยอดการชำระเงินในช่องทางต่างๆ มากขึ้น SnowCloud ก็สามารถที่จะพึ่งพา Stripe ได้ต่อไปและขยายบริการด้วยความมั่นใจ

ในอนาคต SnowCloud มีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์แบบไม่ใช้เงินสดให้กับแขก และเพื่อช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์นี้ บริษัทก็มีแผนที่จะนำ Tap to Pay มาใช้เพื่อให้แขกมีตัวเลือกในการชำระเงินด้วยตัวเองที่รีสอร์ทในสถานที่มากขึ้น "Stripe ช่วยให้เรากลับมาพิจารณาความเป็นไปได้ของสิ่งที่เราสามารถทำให้กับลูกค้าและแขกของลูกค้าอีกครั้ง" Bagley กล่าว "ขณะที่รีสอร์ทสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบไม่ใช้เงินสดที่ขับเคลื่อนด้วยแอปมากขึ้น Stripe และ Tap to Pay on iPhone จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก"