ความท้าทาย

นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2019 เป็นต้นมา PopChill ก็เป็นผู้นำในภาคธุรกิจสินค้าหรูหรามือสองชั้นนำในเอเชีย โดยดำเนินงานอยู่ในฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจไปสิงคโปร์และตลาดในประเทศอื่นๆ ด้วย แพลตฟอร์มนี้นำเสนอสินค้าแบรนด์หรูกว่า 100,000 ชิ้น และบริการเพื่อ "การซื้อแบบไร้กังวล" ที่ตรวจสอบสินค้าว่าเป็นของแท้ก่อนจัดส่ง ช่วยเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อและทำให้กระบวนการขายง่ายยิ่งขึ้น โมเดลที่ทันสมัยนี้ช่วยให้ PopChill ถูกรวมอยู่ในธุรกิจที่น่าจับตามองของ Forbes Asia’s 100 ในปี 2024

เมื่อ PopChill ขยายกลยุทธ์สำหรับทั่วโลกอย่างรวดเร็ว บริษัทก็เผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ เนื่องจากการขายสินค้าแบรนด์หรูไปยังประเทศต่างๆ ต้องอาศัยการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและข้อกำหนด "รู้จักลูกค้าของคุณ (KYC)" ที่แตกต่างออกไปตามประเทศอย่างเคร่งครัด ทำให้กระบวนการชำระเงินมีความซับซ้อน นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มก็ต้องใช้การเชื่อมต่อกับวิธีการชำระเงินหลากแบบ ทำให้ทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก

ธุรกรรมมูลค่าสูงในตลาดสินค้าแบรนด์หรูมือสองมีความเสี่ยงที่จะเกิดการฉ้อโกงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ PopChill ต้องการวิธีป้องกันการฉ้อโกงที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ทั้งนี้ การสร้างกลไกป้องกันการฉ้อโกงที่เข้มงวดมักจะต้องใช้ทีมเทคนิคที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางและการลงทุนในทรัพยากรที่ค่อนข้างสูง ทำให้บริษัทที่เติบโตเร็วต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการด้านการดำเนินงานในมุมต่างๆ

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใน PopChill จึงมองหาระบบการเงินดิจิทัลแบบครบวงจรที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกรรมและรวมข้อมูลลูกค้าไว้ในที่เดียว โดยโซลูชันที่เชื่อมต่อการทำงานนี้จะต้องปรับกระบวนการทางการเงินให้ง่ายขึ้น และช่วยให้การดำเนินงานข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ ตลอดจนส่งเสริมให้บริษัทมีการเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดโลก

โซลูชัน

หลังจากศึกษาโซลูชันมาเป็นจำนวนมาก PopChill ก็เลือก Stripe เป็นพาร์ทเนอร์ด้านการชำระเงิน ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินชั้นนำระดับโลกที่รองรับสกุลเงินมากกว่า 135 สกุล และวิธีการชำระเงินอีกกว่า 100 แบบ โดยประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่เสถียร ค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าคู่แข่ง และฟังก์ชันการทำซ้ำที่รวดเร็ว รวมถึงเครื่องมือการชำระเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมของ Stripe คือคุณสมบัติที่ PopChill มองหา

หลังจากที่ใช้ Stripe Connect แล้ว PopChill ก็สามารถเชื่อมต่อระบบการชำระเงินเข้ากับหลายประเทศและวิธีการชำระเงินหลายรูปแบบได้อย่างง่าย ทำให้ได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์การแชร์รายรับผ่านกระแสเงินสดที่มีประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม ผู้ขายสามารถกำหนดค่าธรรมเนียม ใช้ส่วนลดหรือคูปอง แล้วแปลงสกุลเงินโดยใช้แดชบอร์ดสำหรับการชำระเงินหรือการถอนเงินได้ นอกจากนี้ PopChill ยังใช้ Payment Links เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียกเก็บเงินที่รวดเร็วอีกด้วย

PopChill ใช้ บริการป้องกันการฉ้อโกงของ Stripe Radar ที่รองรับการตรวจสอบสิทธิ์ 3D Secure ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมผ่านการยืนยันตัวตน การประเมินความเสี่ยง การตรวจสอบติดตามแบบเรียลไทม์ และการตรวจจับสิ่งผิดปกติแบบอัตโนมัติ โดยระบบนี้จะปรับตามแต่ละประเทศ โมเดลธุรกิจ และประเภทธุรกรรมได้ ทำให้ช่วยลดการดึงเงินคืนไปพร้อมๆ กับการจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการฉ้อโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระหว่างการติดตั้งใช้งานนั้น API ที่เปิดให้ใช้งานแบบสาธารณะของ Stripe ก็ได้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเชื่อมต่อการทำงาน โดยที่ไม่ต้องใช้การเขียนโค้ดที่ซับซ้อน นอกจากนี้ เอกสารประกอบที่ชัดเจนและการสนับสนุนที่รวดเร็วช่วยให้ทีมเทคนิคของ PopChill เพิ่มประสิทธิภาพของอินเทอร์เฟซการชำระเงินได้ ที่สำคัญคือสามารถติดตั้งใช้งานโซลูชันได้ในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน จากที่ต้องใช้ 2 เดือน ถือเป็นการวางรากฐานทางเทคนิคที่แข็งแกร่งสำหรับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วของบริษัท

ผลลัพธ์

หลังจากที่ติดตั้งใช้งาน Stripe เป็นโซลูชันการชำระเงินหลักแล้ว PopChill ก็ไม่เพียงเอาชนะความท้าทายด้านการเติบโตของธุรกิจได้หลายข้อ แต่ยังปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้นอย่างมาก

การชำระเงินในคลิกเดียวช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ซื้อให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่กระบวนการ KYC ที่เพิ่มประสิทธิภาพนั้นช่วยให้ผู้ขายลงทะเบียนได้ง่ายกว่าเดิม

PopChill ใช้ Stripe เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการชำระเงิน โดยลดระยะเวลาตอบกลับและสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ใช้ต่างชื่นชอบการชำระเงินในคลิกเดียวที่ช่วยให้กระบวนการรวดเร็วขึ้นและยังช่วยลดการป้อนข้อมูลเอง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถจัดการบัญชีหลายๆ บัญชีได้ด้วยการเข้าถึงข้อมูลบันทึกด้านการชำระเงินแบบเรียลไทม์ อีกทั้ง Stripe ยังช่วยให้ PopChill ดำเนินงานตามมาตรฐาน KYC ที่แตกต่างกันออกไปได้โดยการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการชำระเงินระหว่างประเทศได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้และการปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆ ง่ายขึ้น ตลอดจนช่วยเพิ่มอัตราการลงทะเบียนใช้งานสำเร็จด้วย

มูลค่าสินค้าขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้อัตราการรักษาลูกค้าและอัตราการซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น

การติดตั้งใช้งานโซลูชันการชำระเงินของ Stripe ช่วยกระตุ้นการเติบโตด้านธุรกรรมของ PopChill อย่างรวดเร็ว โดยภายใน 6 เดือนหลังเปิดตัว มูลค่าสินค้าขั้นต้น (GMV) ในฮ่องกงก็เพิ่มสูงถึง 800% ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายรับทั้งหมด การเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดนี้ชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและมูลค่าของคำสั่งซื้อเฉลี่ยที่มากขึ้น PopChill สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้โดยการปรับปรุงขั้นตอนการชำระเงินและการมอบตัวเลือกที่หลากหลาย ประสิทธิภาพด้านธุรกรรมและความพึงพอใจของลูกค้าจึงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามไปด้วย ส่งผลให้มีอัตราการดึงดูดลูกค้าและการซื้อซ้ำที่ดียิ่งขึ้นอย่างมาก

การป้องกันการฉ้อโกงที่ใช้งานง่ายซึ่งช่วยปกป้องธุรกิจจากการขโมยบัตรและส่งเสริมการทำธุรกรรมอย่างถูกต้องพร้อมทั้งเป็นไปตามข้อกำหนด

หลังจากติดตั้งใช้งานผลิตภัณฑ์การจัดการความเสี่ยงขั้นสูงของ Stripe แล้ว PopChill ก็เสริมประสิทธิภาพให้กับฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกงและการป้องกันความเสี่ยงได้สำเร็จ การใช้เครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงและแมชชีนเลิร์นนิงที่ใช้ Big Data ช่วยให้แพลตฟอร์มระบุและประเมินความเสี่ยงของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจถึงความถูกต้องของธุรกรรมและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ส่วนการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D ที่เข้มงวดก็ช่วยตรวจจับและบล็อกธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่มีประวัติกรณีการฉ้อโกงใดๆ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งโซลูชันนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ PopChill เท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อถือในมุมของลูกค้าด้วย

การดำเนินงานด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการสร้างระบบการจัดการแบบดิจิทัลที่ให้ผลลัพธ์ดี

การเชื่อมต่อการทำงานกับ Stripe เพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานของ PopChill อย่างเห็นได้ชัด โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการเงินทุนและช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนโดยที่ไม่ต้องกระทบยอดเอง อีกทั้งยังเร่งการประมวลผลธุรกรรมและปรับการดำเนินงานด้านการเงินให้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ทีมงานทุ่มเทกับการตัดสินใจแบบมีกลยุทธ์ แทนที่จะต้องมาทำงานซ้ำๆ ในแต่ละวัน ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จของ Stripe ด้านระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนระดับโลกยังมอบข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าต่อการนำไปสร้างกลยุทธ์ระดับโลกของ PopChill ด้วย โดยช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบการจัดการแบบดิจิทัลที่เจาะกลุ่มตลาดและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นับจากนี้ไป PopChill วางแผนที่จะพัฒนาโมเดลธุรกิจอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็จะขยายการเข้าถึงตลาด โดยบริษัทจะทำงานร่วมกับ Stripe อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการชำระเงิน ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และรักษาความปลอดภัยให้กับธุรกรรม นอกจากนี้ PopChill ยังยึดถือหลักการด้าน ESG ผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน และมีส่วนร่วมต่อการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมีปริมาณคาร์บอนต่ำ