Outseta เลือกใช้ Stripe Tax แทนผู้รับผิดชอบทางการเงินสำหรับการจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีทั่วโลก

Outseta คือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่รวมเอาเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเปิดตัวและขยายธุรกิจ SaaS หรือธุรกิจแบบสมัครสมาชิกไว้ในที่เดียว ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียกเก็บเงิน, การตรวจสอบสิทธิ์, CRM, ฝ่ายสนับสนุนไอที, การรับส่งอีเมลอัตโนมัติ และอีกมากมาย ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้ผู้ก่อตั้งธุรกิจสามารถปรับปรุงความเร็วในการเข้าสู่ตลาดและประสิทธิผลการทำงาน ทำให้มีเวลามากขึ้นที่จะไปมุ่งเน้นกับการสร้างผลิตภัณฑ์แทนที่จะต้องมารวบรวมกองเครื่องมือที่กระจัดกระจาย

หลังจากประเมินโซลูชันต่างๆ ของผู้รับผิดชอบทางการเงินแล้ว Outseta ตัดสินใจที่จะใช้ Stripe Tax เป็นทั้งบริการสำหรับลูกค้าและใช้จัดการความต้องการด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีทั่วโลกของตัวเอง

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

    Tax
    Payments
    Connect
    Elements
อเมริกาเหนือ
ธุรกิจสตาร์ทอัพ

ความท้าทาย

Outseta ก่อตั้งในปี 2016 ด้วยแนวคิดที่ว่าธุรกิจสตาร์ทอัพประเภทสมัครสมาชิกมักจะประสบปัญหาความไม่มีประสิทธิผลในกระบวนการค้นพบ ประเมิน และเชื่อมต่อเครื่องมือปฏิบัติงานขั้นพื้นฐาน บริษัทเหล่านี้มักจะต้องเอาหลายๆ โซลูชันมาปะติดปะต่อกันเพื่อให้ได้ฟังก์ชันการทำงานแบบที่ต้องการ Outseta ก่อตั้งขึ้นเพื่อขจัดปัญหานี้ โดยสร้างจุดยืนเป็นเทคสแต็กครบวงจรสำหรับธุรกิจ SaaS และธุรกิจแบบสมัครสมาชิก

Outseta ให้บริการฟังก์ชันหลักสำหรับการเรียกเก็บเงิน, CRM, การรับส่งอีเมลอัตโนมัติ, ฝ่ายสนับสนุนไอที และการตรวจสอบสิทธิ์ แต่ไม่ได้รองรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี และก็ได้รับความคิดเห็นจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องว่านี่เป็นจุดใหญ่ที่ควรต้องปรับปรุง "ลูกค้าบอกว่าพวกเขากลัวว่าถ้าไม่รายงานภาษีอย่างถูกต้อง หน่วยงานควบคุมจะมาไล่ตามและอาจทำให้ต้องปิดตัวธุรกิจลง" Geoff Roberts ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Outseta กล่าว นอกจากนี้ Outseta ยังเสียลูกค้าให้กับผลิตภัณฑ์ MoR และระบบการเรียกเก็บเงินอื่นๆ ที่มีโซลูชันภาษีในตัวอีกด้วย

ในขณะที่ธุรกิจของ Outseta ขยายตัว บริษัทเองก็ต้องการโซลูชันสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีของตัวเองด้วย "เรามาถึงจุดที่มีการประมวลผลรายรับถึงจำนวนหนึ่งและจำเป็นต้องเริ่มนำส่งภาษีด้วยตัวเอง" Roberts กล่าว

Outseta มีการพิจารณาหลายทางเลือกเมื่อประเมินโซลูชันภาษีต่างๆ รวมถึงการเป็นผู้รับผิดชอบทางการเงิน (MoR) โดย MoR ได้รับอนุญาตทางกฎหมายและมีหน้าที่รับผิดชอบการประมวลผลการชำระเงินของลูกค้าในนามของธุรกิจ ซึ่งหมายความว่า MoR มีความรับผิดสำหรับธุรกรรมในส่วนของการเงิน กฎหมาย และการปฏิบัติตามข้อกำหนด Outseta พิจารณาตัวเลือกระหว่างการเป็น MoR ให้ลูกค้า หรือใช้ MoR ภายนอกสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดภาษีทั้งของตัวเองและของลูกค้า

"ผมคิดว่าโซลูชัน MoR จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าอยู่นานมาก" Roberts กล่าว "ลูกค้าของเราเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทในช่วงแรกเริ่ม และส่วนใหญ่ก็ใช้เงินทุนของตัวเอง พวกเขาไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องนี้ เราไปค่อนข้างไกลแล้วกับทางเลือกที่จะเสนอโซลูชัน MoR ให้ลูกค้า"

แต่หลังจากประเมินอย่างถี่ถ้วนแล้ว Outseta ก็เริ่มเห็นข้อเสียของการเป็น MoR สำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดภาษี รวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมากและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์ม

"ถ้าใช้ MoR ลูกค้าจะต้องจ่ายภาษีในอัตราสูงที่สุดในทุกๆ ตำแหน่งที่ตั้ง เพราะ MoR เกินเกณฑ์ภาษีในตำแหน่งที่ตั้งเหล่านั้นแม้ว่าตัวธุรกิจเองจะไม่เกินก็ตาม นี่เป็นโซลูชันที่ไม่คุ้มค่าและปรับขยายไม่ได้สำหรับลูกค้าของเรา" Roberts กล่าว

โซลูชัน

หลังจาก Outseta ตัดสินใจไม่ใช้ตัวเลือก MoR แล้ว Stripe Tax ก็กลายมาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง "เห็นได้ชัดว่า Stripe Tax เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถเชื่อมต่อการทำงานได้ง่าย ทำให้เราเสนอโซลูชันที่ครบวงจรมากกว่า และค่าบริการก็คุ้มค่ากว่าผู้รับผิดชอบทางการเงินอีกด้วย" Roberts กล่าว

Tax ช่วยให้ลูกค้าของ Outseta ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีการขาย, ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ GST ได้โดยอัตโนมัติด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง Tax เชื่อมต่อกับ Connect และ Payments อย่างราบรื่นเพื่อมอบประสบการณ์ด้านภาษีที่สะดวกสบายให้แก่ลูกค้า

ผลลัพธ์

ลูกค้าของ Outseta ชื่นชอบความสามารถในการคอยติดตามภาระหน้าที่ทางภาษีของตนด้วย Tax และรู้สึกอุ่นใจที่มีโซลูชันนี้อยู่ หลังจากที่ Outseta เชื่อมต่อการทำงานของ Tax แล้ว ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าปัจจุบันต่างก็วางใจว่าตนกำลังใช้โซลูชันภาษีที่มีประสิทธิภาพโดยไม่มีความเสี่ยงและค่าธรรมเนียมที่มาพร้อมกับโมเดล MoR

ตอนนี้ Outseta ยังสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตโดยไม่ต้องคอยดูเกณฑ์ภาษีด้วยตัวเองอีกต่อไป ทีม Outseta ใช้แดชบอร์ดการติดตามของ Tax เพื่อให้ทราบว่าจะต้องนำส่งภาษีในตำแหน่งที่ตั้งใดบ้าง และรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ใกล้จะถึงเกณฑ์ในตำแหน่งที่ตั้งใหม่ๆ ตอนนี้ Outseta มีภาระหน้าที่ทางภาษีใน 32 ประเทศ และสามารถคอยติดตามอีกกว่า 50 ที่ตั้งเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด

เนื่องจาก Outseta ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Stripe อยู่แล้ว จึงสามารถเชื่อมต่อการทำงานกับ Tax ได้ง่ายๆ เพราะทีมคุ้นเคยกับ Stripe API อยู่แล้ว การที่บริษัทมีเครื่องมือทางการเงินทั้งหมดอยู่ใน Stripe จึงส่งผลดีเป็นอย่างยิ่งและช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเนื่องจากทีม Outseta ไม่ต้องมาเรียนรู้หลายๆ API ในฐานะบริษัทที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับความมีประสิทธิผลของซอฟต์แวร์ Outseta พบว่าการใช้ Stripe เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางการเงินของตนนั้นมีข้อดีหลายอย่าง

รู้เสมอว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร

ค่าบริการต่อธุรกรรมที่รวมไว้หมดแล้วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

เริ่มต้นผสานการทำงาน

เริ่มใช้งาน Stripe ได้ภายใน 10 นาที